หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 63-2 พี่ซิวมาแล้ว (2)
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 63-2 พี่ซิวมาแล้ว (2)
ตอนที่ 63-2 พี่ซิวมาแล้ว (2)
ยิ่นอ๋องแทบอยากจะเป็นบ้า เจ้าเด็กสามคนนี้มาได้อย่างไร พวกนางไม่ได้ถูกขังอยู่ในตำหนักนอนของอวิ๋นซู่หรือ หนีออกมากจากตำหนักนอนได้อย่างไร แล้วตามมาถึงที่นี่ได้อย่างไร ประตูใหญ่ของลัทธิศักดิ์สิทธิ์เล่า ให้เด็กสามคนฝ่าออกมาได้เชียวหรือ!
จังหวะที่แม่เฒ่าได้เห็นแม่ชีน้อยทั้งสามนั้น นางก็ตะลึงงันไปเช่นกัน
ไม่แปลกที่นางจะไม่ทันสังเกตพวกนางทั้งสาม การห้ำหั่นบนแท่นประลองดุเดือดเกินไปจริงๆ นางต้องกดตัวยิ่นอ๋องไว้ด้วย แล้วยังต้องคอยกันไม่ให้เจ้าสัตว์ร้ายนั่นทำอะไรที่เกินการควบคุมอีก ไม่มีเวลาไปสังเกตสังกาสิ่งอื่นแล้วจริงๆ
จังหวะที่นางอึ้งไปนั้น ยิ่นอ๋องพลิกมือมาคว้าไม้เท้าแม่เฒ่าไว้ แล้วจัดการเหวี่ยงนางกลับลงบนเก้าอี้
จากนั้นยิ่นอ๋องก็ใช้วิชาตัวเบาทะยานลงไปที่แท่นประลอง
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ยอดหญิงงามก็วิ่งเข้าไปหาบุตรสาวของตนเช่นกัน
ยอดหญิงงามเคลื่อนตัวเร็วกว่ายิ่นอ๋อง กว่ายิ่นอ๋องจะไปถึงแท่นประลอง นางก็จัดการขวางหน้าบุตรทั้งสามเอาไว้แล้ว
ยิ่นอ๋องคิดจะยั้งตัวไว้ก็ไม่ทันเสียแล้ว จึงชนเข้ากับตัวนางอย่างจัง
ยอดหญิงงามรับตัวยิ่นอ๋องมาไว้กับอกได้อย่างมั่นคง นางระบายยิ้มอบอุ่น “รู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องเป็นห่วงข้า ต้องมาช่วยข้าแน่”
ยิ่นอ๋อง “…”
เวลานี้สถานการณ์บนแท่นประลองคล้ายเป็นโต๊ะจีนที่ตั้งอยู่ตรงหน้ามารโลหิต มารโลหิตกลับไม่อาจกลืนกินมันลงท้องไปได้เสียที
ในที่สุดเขาก็สูญสิ้นความอดทน ความเป็นมารเข้าครอบงำ เริ่มฆ่าสังหารอย่างไม่สนใจสิ่งใด
คนแรกที่ถูกเขาฉีกทึ้งคือลูกศิษย์ลัทธิศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นที่ยืนลั่นกลองอยู่ ร่างกายของศิษย์ผู้นั้นดูฉีกขาดเป็นสองส่วน จากนั้นก็เป็นนักรบมรณะดาบยาวที่เดินลาดตระเวนอยู่ห้านาย ซึ่งก็ถูกสังหารอย่างเลือดเย็นเช่นกัน
เขาดูเหมือนจะไม่สนใจในเลือดเนื้อของบุรุษนัก ที่ทำไปเพียงเพื่อดื่มด่ำกับความสุขจากการสังหารทั้งสิ้น
ทุกคนตกตะลึงไปกับภาพสังหารที่เกิดขึ้นตรงหน้า
เย่ว์หวาพลันนึกถึงภาพอันน่าเศร้าสลดที่เคยเกิดขึ้นกับลัทธิศักดิ์สิทธิ์เมื่อก่อนหน้านี้ เวลานั้นเขายังเด็ก ทนความตกใจไม่ไหว ไม่เท่าไรก็เป็นลมสลบไป ตื่นมาอีกทีก็ได้รับการบอกกล่าวว่าทุกคนถูกจักรพรรดิอสูรสังหารตายหมดแล้ว
เวลานั้นวิธีการที่คนร้ายใช้ เป็นเช่นเดียวกับมารโลหิตในเวลานี้
หากจักรพรรดิอสูรควบคุมตนเองไม่ได้จริงๆ วันนั้นที่ริมทะเลสาบ เหตุใดเขาถึงไม่ฉีกทึ้งร่างของอวิ๋นจูกับเฉียวเวยเป็นชิ้นๆ
คนที่สังหารพวกเขา….ไม่ใช่จักรพรรดิอสูร แต่เป็นมารโลหิต!
เย่ว์หวาหันไปมองแม่เฒ่าด้วยใจที่เย็นวาบ “เจ้ารู้แต่แรกแล้วใช่หรือไม่”
แม่เฒ่าหลับตาลง ลมหายใจเริ่มหอบหนัก นางตั้งสติเอ่ยว่า “อย่าเอ่ยอะไรที่ไร้ประโยชน์พวกนี้เลย คิดหาทางให้เจ้าสำนักน้อยไปจากที่นี่จะดีกว่า!”
เย่ว์หวาหันไปส่งสายตาให้ลูกศิษย์ที่อยู่ข้างๆ
ลูกศิษย์คว้าเชือกเส้นหนึ่งขึ้นมาแล้วโยนลงไปรัดหัวไหล่ของยิ่นอ๋องไว้
แต่ในขณะที่ลูกศิษย์จะดึงตัวยิ่นอ๋องขึ้นมานั้น มารโลหิตกลับคว้าเชือกเอาไว้เสียก่อน แล้วดึงตัวลูกศิษย์ให้ตกลงมาด้วย
“อ๊าก…”
ลูกศิษย์คนนั้นกรีดร้องโหยหวน หลังจากนั้นก็สิ้นใจตาย
ปีศาจอสูรติดใจกับการสังหารโหด ในที่สุดก็เริ่มพุ่งเป้าไปที่เหยื่ออันโอชะ สายตาเขาหยุดมองที่เฉียวเวย อวิ๋นจู รวมถึงแม่ชีน้อยทั้งสาม เขาหัวเราะหึหึพลางยื่นมือที่เป็นไปด้วยเลือดออกมาคว้าตัวหนึ่งในแม่ชีน้อยไป!
อวิ๋นจูสีหน้าพลันถอดสี พุ่งทะยานเข้าไปชนกับมารโลหิตอย่างรุนแรง
แม่ชีน้อยล้มกลุกกลักลงกับพื้น โ
ปีศาจอสูรได้ตัวอวิ๋นจูมาสมใจ เขาถ่ายทอดปราณเข้าไปปิดกั้นจุดชีพจรของอวิ๋นจูเอาไว้
อวิ๋นจูไม่อาจดันกำลังภายในออกมาใช้ได้อีก ตัวอ่อนปวกเปียกราวกับสตรีทั่วไป
มารโลหิตหัวเราะหึหึพลางอุ้มอวิ๋นจูขึ้นมา ใช้วิชาตัวเบาทะยานออกจากแท่นประลองด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์
ยอดหญิงงามรีบหยิบหอกยาวบนพื้นขึ้นมาแล้วขว้างออกไปทางคนผู้นั้น!
หอกยาวพุ่งทะลุลำคอของเขา
แต่เขาไม่สนใจสักนิด ตัวเขาไม่หยุดชะงักเลยแม้แต่น้อย
ยอดหญิงงามกัดฟันด้วยความโกรธเกรี้ยว
เฮ่อหลันชิงใช้ฝ่ามือส่งพลังสะท้อนให้เชือกยาวกระเด้งขึ้นมา ปลายข้างหนึ่งรัดข้อเท้าเขาไว้ อีกข้างหนึ่งจับแน่นอยู่ในมือตน
มารโลหิตเมื่อจู่ๆ ถูกรั้งตัวไว้ ตัวเขาจึงเกือบหน้าฟาดลงกับพื้น เขาเปลี่ยนไปใช้มืออีกข้างหนึ่งจับตัวอวิ๋นจูไว้ ส่วนมืออีกข้างส่งพลังลงสู่พื้นเพื่อช่วยพยุงตัวตนเองเอาไว้
เขาพยายามจะใช้วิชาตัวเบาทะยานหนีไป
เฮ่อหลันชิงจับเชือกไว้ไม่ยอมให้อีกฝ่ายหนีไปได้
ทั้งสองจึงผูกติดอยู่ด้วยกันอย่างไร แต่พอเฮ่อหลันชิงแบ่งกำลังภายในมาไว้ที่แขน อาการของเฉียวเวยก็ดูจะไม่สู้ดีขึ้นมาทันที
ปราณเพียงเล็กน้อยที่พยายามแทบตายกว่าจะรวบรวมมาได้ กลับไปอ่อนด้อยลงอีกครั้ง
ยอดหญิงงามรีบวิ่งเข้ามาคว้าปลายเชือกอีกด้านมาจากเฮ่อหลันชิง “เอาให้ข้า!”
ยิ่นอ๋องมีท่าทีลังเล ก่อนจะตามเข้ามาคว้าเชือกไว้อีกคน
ทั้งสองรั้งตัวมารโลหิตไว้เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย
มารโลหิตเดือดดาลถึงขีดสุด พลิกตัวกลางอากาศ ฟาดฝ่ามือเข้าใส่ยิ่นอ๋องอย่างไม่มียั้งมือ!
ยอดหญิงงามยืนอยู่ข้างกายยิ่นอ๋องนั้นเอง ฝ่ามือนี้นางสามารถต้านเอาไว้แทนยิ่นอ๋องได้
แต่นางกลับไม่ทำเช่นนั้น
ไม่ใช่ว่านางไม่อยากทำ แต่หากนางทำเช่นนั้นแล้วเหลือยิ่นอ๋องอยู่เพียงผู้เดียว น่ากลัวว่าคงจะรั้งเชือกเส้นนี้เอาไว้ไม่อยู่
เขาโดนฝ่ามือนี้เข้าไปอย่างไรก็คงไม่ถึงแก่ชีวิต แต่หากให้มารโลหิตพาตัวอวิ๋นจูหนีไปได้ โอกาสที่อวิ๋นจูจะรอดชีวิตคงเหลือไม่มาก
ยอดหญิงงามปวดใจที่ต้องเห็นบุรุษของตนถูกฝ่ามือนั้นเข้าไป
ยิ่นอ๋องตัวกระเด็นออกไปก่อนจะกระอักเลือดออกมาหลายคำ ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
ยอดหญิงงามย่อขาสองข้างลง ใช้ปราณประคองจุดตันเถียนให้นิ่ง เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยเชือกไป
แต่เชือกก็ยังค่อยๆ เลื่อนออกจากมือนางไปทีละนิด ถุงมือด้ายเงินถูกขูดจนเป็นรูแล้ว ฝ่ามือนางก็มีเลือดออกแล้วเช่นกัน
มารโลหิตได้กลิ่นเลือดสดๆ จึงยกมุมปากขึ้นอย่างมาดร้าย
ยอดหญิงงามสายตาพลันขรึมไป วินาทีต่อมาก็รู้สึกว่าแผลตรงฝ่ามือของตนพลันปริแตก!
ความรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกกรีดเนื้อเข้าโจมตี แต่นางกลับยังไม่ยอมปล่อยเชือก ยังคงกัดฟันรัดเชือกเข้ากับเอวของตน
พอเกิดเสียงดังเปรี๊ยะ เชือกก็พลันขาด!
ยอดหญิงงามตัวหงายไปด้านหลัง
มารโลหิตพลันตัวเบา อุ้มอวิ๋นจูทะยานตัวลอยหนีไปอย่างรวดเร็ว
แต่ทะยานออกไปได้ไม่เท่า ด้านหลังก็มีประกายคมกริบของกระบี่พุ่งเข้าโจมตีมารโลหิต!
มารโลหิตเบี่ยงตัวหลบ แต่กลับหลบไม่พ้น
หูขวาของเขาถูกความคมของกระบี่ตัดขาด
เห็นเพียงมารโลหิตที่ไม่เกรงกลัวบาดแผลโก่งคอส่งเสียงร้องโหยหวน
ทุกคนพากันตะลึงค้าง และเห็นว่าตรงจุดที่ถูกคมกระบี่ทำให้บาดเจ็บนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ
มารโลหิตเจ็บจนตัวตกลงกับพื้น
ยิ่นอ๋องตกใจ “นี่คือ…”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงเขา ก็มีลูกศิษย์ลัทธิศักดิ์สิทธิ์หันมองไปทางถนนสายเล็กแล้วร้องออกมาด้วยความตกใจ
ยิ่นอ๋องหันไปมองตาม
เห็นว่าใต้ขอบฟ้าสีฟ้าเข้ม ทิวเขาประหนึ่งภาพวาด
เหนือทางเดินที่คดเคี้ยวไปมา จีหมิงซิวในอาภรณ์ขาวตลอดร่าง มือถือกระบี่โหราจารย์ เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเยือกเย็น