หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 72-2 ความจริงเปิดเผย
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 72-2 ความจริงเปิดเผย
ตอนที่ 72-2 ความจริงเปิดเผย
บนรถม้า อวิ๋นจูมองพระจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้าพลางถามด้วยความฉงนว่า “พวกเราคาดเดาผิดหรือ นางไม่มีความลับอะไรซ่อนไว้อย่างนั้นหรือ”
จีหมิงซิวจึงบอกว่า “คนเช่นนาง ไม่มีทางไม่มีความลับซ่อนไว้ จะต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำใจทิ้งไม่ลงแน่นอน”
ทั้งสองอยู่บนรถม้าเป็นครึ่งคืน
ตอนฟ้าใกล้สว่าง ในที่สุดผู้พิทักษ์เหลียนก็มีความเคลื่อนไหวเสียที
นางไปยังตำหนักนอนที่เจาหมิงอยู่ เด็ดดอกเหมยช่อหนึ่งไปให้เจาหมิงตามปกติ
หลังจากเอาดอกเหมยปักลงในแจกันแล้ว นางก็ไปตรงหน้าโลงหยกของเจาหมิง คุกเข่าลง โค้งตัวลงมองใต้โลงศพ
จากนั้นนางยื่นมือไปข้างใต้ ลูบไปทางซ้ายทางขวารอบหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงดังคลิก กลไลที่ฝังอยู่ข้างใต้ก็เปิดออก
นางเอากล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ออกมา ตรวจดูของที่อยู่ภายใน แล้วเอากล่องนั้นกลับเข้าที่เดิม
แต่ไม่เท่าไร นางก็เอากล่องออกมา หยิบของในกล่องมาเก็บไว้ในอกเสื้อ
นางเอาของนั้นติดตัวออกจากห้องเจาหมิงไป
นางเดินไปจนถึงลานด้านหลังของตำหนักตน ขยับกระถางต้นไห่ถางออก เอาโหลใบเล็กออกมา เอาของใส่ลงในนั้นแล้วปิดฝา เอาดินกลบแล้วเอากระถางวางทับที่เดิม
ทั้งหมดทำได้อย่างไร้ร่องรอย
นางกวาดตามองไปรอบๆ เมื่อมั่นใจว่าไม่มีคนอยู่ถึงได้ออกไปอย่างระมัดระวัง
นางออกไปได้ไม่เท่าไร เหนือกำแพงก็มีมือสีดำเล็กๆ ข้างหนึ่งโผล่ขึ้นมา
เจ้าของมือเล็กๆ ดำๆ นั้นกระโดดลงพื้น ยกกระถางออก ขุดดินร่วนๆ ทิ้ง เปิดฝาโหลแล้วหยิบของในโหลออกมา
…
“สมุดเล๋มหนึ่ง?” อวิ๋นจูมองสมุดปกสีน้ำเงินเล่มเล็กที่จูเอ๋อร์ยื่นมาให้
จูเอ๋อร์หมุนตัวอย่างได้ใจ กระโดดขึ้นเก้าอี้อย่างสวยงาม
อวิ๋นจูพลิกเปิดอ่าน “เป็นแค่ข้อมูลของลูกศิษย์เท่านั้น”
อวิ๋นจูรู้สึกผิดหวัง รอมาตั้งนาน แต่ได้เพียงสมุดรายชื่อเล่มเล็กเท่านี้ สิ่งนี้ไม่สามารถบอกอะไรได้เลย ไม่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของจักรพรรดิอสูรได้สักนิด
จีหมิงซิวรับสมุดไปเปิดดู เป็นอย่างที่อวิ๋นจูว่า สมุดนี้เป็นเพียงสมุดรายชื่อธรรมดาๆ เท่านั้น “ท่านยายรู้จักชื่อคนที่อยู่ในสมุดหรือไม่”
อวิ๋นจูพลิกไปหลายหน้า นางส่ายหน้า “ไม่คุ้นเลย ข้าออกจากลัทธิศักดิ์สิทธิ์ไปนานเกินไป ผู้คนในตอนนั้นก็ลืมไปเกือบหมดแล้ว” โ
จีหมิงซิวคิดแล้วบอกว่า “หากเป็นเพียงสมุดรายชื่อธรรมดาทั่วไปจริง นางคงไม่จำเป็นต้องเอามาซ่อนไว้เช่นนี้ ภายในนี้จะต้องมีเรื่องลึกลับอะไรที่บอกใครไม่ได้เป็นแน่ ท่านยาย ท่านกลับจวนอ๋องไปก่อน ข้าจะออกไปสักหน่อย”
อวิ๋นจูกลับจวนอ๋องไปตามที่เขาบอก
ส่วนจีหมิงซิวไปยังโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมืองเหนือยอดเมฆ
น่าจะหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม กงซุนฉางหลีก็มาหา
กงซุนฉางหลีมองประเมินเขาขึ้นลงทีหนึ่ง สายตาสั่นไหวเล็กน้อย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หาข้ามีธุระอะไร”
จีหมิงซิวยื่นสมุดรายชื่อส่งไปให้เขา “เจ้ารู้จักชื่อคนที่อยู่ในนี้หรือไม่”
กงซุนฉางหลีพลิกอ่านรายชื่อ ดูไปก็เอ่ยไปว่า “ล้วนเป็นชื่อของสตรีทั้งสิ้น ข้าจะรู้จักได้อย่างไร”
จีหมิงซิวเอ่ยเย้าว่า “หากเป็นบุรุษเจ้าจะรู้จัก?”
กงซุนฉางหลีเหลือบมองเขาเรียบๆ ทีหนึ่ง
จีหมิงซิวหัวเราะเบาๆ
เดิมทีเขาเกิดมางดงามอยู่แล้ว แต่วันนี้พอถอดหน้ากากออก ได้สำแดงความสง่างามของตน พอระบายยิ้มเช่นนี้ จึงยิ่งเหมือนประหนึ่งลมเย็นในฤดูใบไม้ผลิ
ลูกกระเดือกของกงซุนฉางหลีขยับขึ้นลงทีหนึ่ง เขาหลุบตาลง ยกถ้วยชาขึ้นจิบ
“ไม่มีชื่อใดที่รู้จักเลย?” จีหมิงซิวถาม
สายตากงซุนฉางหลีหยุดมองที่ชื่อคนแซ่เจิงคนหนึ่ง “เจิงเฉียน?”
จีหมิงซิวถามว่า “รู้จักหรือ”
กงซุนฉางหลี “เคยได้ยินครั้งหนึ่ง นางเป็นหลานสาวของผู้พิทักษ์เจิง แต่นางไม่ใช่ลูกศิษย์ของลัทธิศักดิ์สิทธิ์”
นิ้วชี้ของจีหมิงซิวเคาะเบาๆ ลงบนโต๊ะหลายที “ดังนั้นรายชื่อที่บันทึกไว้ในสมุดเล่มนี้ก็ไม่ใช่ชื่อของคนในลัทธิศักดิ์สิทธิ์งั้นสิ”
“ช้าก่อน” กงซุนฉางหลีมองเห็นอีกชื่อหนึ่ง “หูหลิวฟาง เป็นหัวหน้าผู้ดูแลของลัทธิศักดิ์สิทธิ์”
จีหมิงซิวเอ่ยอย่างใช้ความคิดว่า “หากเป็นเช่นนี้ รายชื่อในสมุดเล่มนี้มันคืออะไรกันแน่”
กงซุนฉางหลีปิดสมุดลง “มีคนหนึ่งที่น่าจะรู้”
…
หลังจากนั้นหนึ่งเค่อ กงซุนฉางหลีกับจีหมิงซิวที่แปลงโฉมแล้วก็ไปปรากฏตัวอยู่ตรงทางเข้าคุกใต้ดินแห่งหนึ่ง
องครักษ์ของคุกใต้ดินทำความเคารพกงซุนฉางหลีอย่างนอบน้อม “คุณชายกงซุน”
จีหมิงซิวปรายตามองกงซุนฉางหลีทีหนึ่ง
กงซุนฉางหลี “ข้าจะเข้าไปหาผู้พิทัพษ์เจิงสักหน่อย”
องครักษ์ที่ท่าทีลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยังให้เขาเข้าไป
สองวันนี้ผู้พิทักษ์เหลียนวุ่นวายอยู่กับการรักษาอาการบาดเจ็บให้อวิ๋นซู่ จึงไม่ได้มาที่คุกใต้ดินแห่งนี้
ผู้พิทักษ์เจิงนั่งอยู่บนพื้นด้วยสภาพย่ำแย่ หลังพิงกำแพง หลับตาพักผ่อนอยู่
พอได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็ยังไม่ลืมตา
กงซุนฉางหลีใช้กุญแจไขลูกกรงแล้วค้อมกายเดินเข้าไป “ผู้พิทักษ์เจิง ข้ามาที่นี่เพื่อขอคำชี้แนะจากท่านเรื่องหนึ่ง”
“เหอะ” ผู้พิทักษ์เจิงคร้านจะสนใจเขา
กงซุนฉางหลีเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างแล้วชี้ไปยังจีหมิงซิวที่อยู่ข้างหลัง ก่อนจะเอ่ยด้วยความเกรงใจว่า “เขาเป็นหลานของอวิ๋นจู เรื่องเมื่อตอนนั้นบางทีอาจมีบางอย่างซ่อนอยู่ เขาจึงมาสืบหาความจริง หวังว่าผู้พิทักษ์เจิงจะเห็นแก่ไม่ตรีที่เคยมีให้ศิษย์น้องอวิ๋นจู ช่วยพวกเราในเรื่องนี้”
ผู้พิทักษ์เจิงลืมตาขึ้นช้าๆ
จีหมิงซิวยังคงอยู่ในสภาพแปลงโฉม รูปลักษณ์ธรรมดาทั่วไป แต่ราศีที่แผ่ออกมาทั่วตัวยังคงดูโดดเด่นกว่าผู้ใดแม้จะอยู่ในคุก
ผู้พิทักษ์เจิงนิ่งมองจีหมิงซิวทีหนึ่ง ใบหน้าไม่ได้ดูมีอัธยาศัยนัก หนำซ้ำยังดูจะเฉยเมยอีกด้วย
พี่ชายแท้ๆ ของเขาตายอยู่ในการล้างสังหารครั้งนั้น ไม่ว่าใครที่เกี่ยวข้องกับการล้างสังหารครั้งนั้น เขาไม่อยากพบหน้าทั้งสิ้น
จีหมิงซิวเจอตะปูอ่อนเข้า ก็ไม่นึกหัวเสีย เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นปกติว่า “ผู้พิทักษ์เจิงคงจะดูออกแล้วว่าเรื่องเมื่อครานั้นเป็นฝีมือของมารโลหิต จักรพรรดิอสูรเป็นผู้บริสุทธิ์”
ผู้พิทักษ์เจิงเอ่ยว่า “เจ้าบอกว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาก็เป็นผู้บริสุทธิ์แล้วอย่างนั้นหรือ”
จีหมิงซิวถอนหายใจเอ่ยว่า “ไม่เพียงแค่จักรพรรดิอสูรที่บริสุทธิ์ มารโลหิตก็ถูกคนบีบบังคับเช่นกัน เบื้องหลังเรื่องนี้ยังมีมืออีกคู่หนึ่งที่คอยควบคุมอยู่ น่าสงสารพี่ชายของผู้พิทักษ์เจิงที่ต้องเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม ฆาตกรผู้นั้นยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่มาได้ตั้งหลายปี ผู้พิทักษ์เจิงไม่นึกโกรธแค้นบ้างหรือ”
ผู้พิทักษ์เจิงกำหมัดแน่น
เขาคิดอะไรได้ ผู้พิทักษ์เจิงหันไปเอ่ยเสียงเย็นกับกงซุนฉางหลีว่า “ข้ารู้อยู่แล้วว่าที่เจ้าเข้ามาใกล้ชิดกับเจ้าสำนักเพราะมีจุดประสงค์อื่น น่าเสียดายที่เจ้าสำนักยึดมั่นกับความคิดของตน ยืนยันจะเก็บเจ้าตัวสร้างเรื่องอย่างเจ้าไว้ข้างกายให้ได้”
จีหมิงซิวหันมองกงซุนฉางหลีด้วยสายตาประหลาด
กงซุนฉางหลีหน้าตาไร้อารมณ์ เขาเอาสมุดรายชื่อยื่นไปตรงหน้าผู้พิทักษ์เจิง “ท่านรู้หรือไม่ว่ารายชื่อที่อยู่ในสมุดเล่มนี้เป็นใครบ้าง”
ผู้พิทักษ์เจิงรับมาเปิดดู
แสงไฟในคุกใต้ดินมืดสลัว
เขาเอาส่องกับไฟบนกำแพงอ่านอยู่พักใหญ่ แล้วพึมพำบอกว่า “นี่ไม่ใช่รายชื่อคนที่จะให้เจ้าสำนักเลือกเป็นฮูหยินหรอกหรือ”
จีหมิงซิวอึ้งไป “รายชื่อของฮูหยินเจ้าสำนัก?”
ผู้พิทักษ์เจิงบอกว่า “ใช่แล้ว เจ้าสำนักอวิ๋นชิงถึงวัยวิวาห์ อย่างไรก็ควรจัดการหมั้นหมายให้ตนเอง รายชื่อในนี้เป็นชื่อคุณหนูที่คัดสรรมาอย่างดี มีลูกศิษย์หญิงของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ และก็มีคุณหนูในเมืองเหนือยอดเมฆ”
ผู้พิทักษ์เจิงเห้นชื่อของเจิงเฉียน “ใช่แล้ว นี่แหละ ชื่อหลานสาวของข้าอยู่ในนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รับเลือก”
จีหมิงซิวถามอย่างมีนัยยะ “แม่นางเหล่านี้… เป็นผู้ใดที่คัดเลือกหรือ”
เรื่องเมื่อตั้งนานมาแล้ว ผู้พิทักษ์เจิงจึงจำเกือบไม่ได้แล้ว เขาจับศีรษะเอ่ยว่า “ประมุขเย่ว์หวา… ไม่ใช่ๆๆ ไม่ใช่เขา หัวหน้าผู้ดูแลหู? ก็ไม่ใช่เขา”
จีหมิงซิว “ผู้พิทักษ์เหลียน?”
ผู้พิทักษ์เจิงตาพลันเป็นประกาย “ถูกต้อง นางนั่นแหละ!”
“เช่นนั้นสุดท้ายแล้ว ใครเป็นคนได้รับเลือกหรือ” จีหมิงซิวถาม
ผู้พิทักษ์เจิงถอนหายใจบอกว่า “ไม่มีใครได้รับเลือกทั้งสิ้น เจ้าสำนักอวิ๋นชิงพาสตรีนางหนึ่งมาเองจากข้างนอก”