หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 73-2 ชาติกำเนิดกับความจริง (1)
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 73-2 ชาติกำเนิดกับความจริง (1)
ตอนที่ 73-2 ชาติกำเนิดกับความจริง (1)
กงซุนฉางหลีเข้าใจจึงถามต่อว่า “พวกนางไม่ใช่คนบนถนนเฝ่ยชุ่ยหรือ”
ผู้ดูแล “พวกนางย้ายมา!”
หลังจากย้ายมา ผู้ดูแลเห็นว่าสตรีหม้ายผู้นั้นหน้าตาสะสวย จึงทำให้กล้าเข้าไปขอแต่งงาน ผลสุดท้ายแน่นอนว่าย่อมถูกปฏิเสธ เวลานั้นเขาเป็นคนไม่ดีคนหนึ่ง ตามตอแยอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย ทำจนคนทั้งถนนเฝ่ยชุ่ยรู้กันทั่ว
ไม่เท่าไรบุตรสาวของหญิงหม้ายผู้นั้นก็แต่งงานกับเจ้าสำนักลัทธิศักดิ์สิทธิ์ เล่นเอาผู้ดูแลร้านตกใจมากทีเดียว เขาล้มป่วยอยู่ในห้องไปหนึ่งเดือนเต็มๆ ถึงจะลงจากเตียงได้
หญิงหม้ายกลายเป็นแม่ยายของเจ้าสำนัก เขาจึงไม่กล้าอาจเอื้อมอีก
เขายังเคยกลัวว่าหญิงหม้ายจะหันกลับมาสั่งสอนเขา ไหนเลยจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ หลังจากนั้นเขาเปิดร้านยาของเขา นางเปิดร้านเครื่องหอมของนาง ต่างฝ่ายต่างไม่เกี่ยวข้องกันอีก
แต่ผ่านไปไม่ทันกี่ปี หญิงหม้ายก็ล้มป่วยจนเสียชีวิต
พอหญิงหม้ายตาย ร้านเครื่องหอมร้านนั้นก็เปิดต่อไม่ได้
กงซุนฉางหลีเอ่ยขอบคุณผู้ดูแลร้าน ขึ้นนั่งรถม้าที่จอดอยู่ข้างๆ หันไปเอ่ยกับจีหมิงซิวว่า “เจ้าได้ยินหมดแล้วใช่หรือไม่”
จีหมิงซิวลูบคาง “อืม จัดการได้หมดจดทีเดียว ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย”
กงซุนฉางหลีเอ่ยด้วยความสงสัย “ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าการตายของอดีตฮูหยินเกี่ยวข้องกับผู้พิทักษ์เหลียน ก็ยากที่จะโน้มน้าวให้ลัทธิศักดิ์สิทธิ์เชื่อว่านางมีเหตุจูงใจ ไม่ว่านางจะเล่นงานอวิ๋นจูก็ดี หรือเล่นงานจักรพรรดิอสูรก็ดี ล้วนทำไปเพื่อปูทางให้ตนกับอวิ๋นชิงทั้งสิ้น แต่หากไม่อาจพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับอวิ๋นชิงได้ ใครจะเชื่อว่านางเคยทำอะไรไว้กับอวิ๋นจูและจักรพรรดิอสูร”
นิ้วชี้ของจีหมิงซิวเคาะเบาๆ ลงบนโต๊ะหลายที “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าอดีตฮูหยินตายเพราะนาง”
“เจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ” กงซุนฉางหลีย้อนถาม
จีหมิงซิวส่ายหน้า
กงซุนฉางหลีมองเขาด้วยความสงสัย
จีหมิงซิวเอ่ยอย่างใช้ความคิด “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าอดีตฮูหยินผู้นี้… ก็คือตัวผู้พิทักษ์เหลียนเองเล่า”
“เหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้” กงซุนฉางหลีถาม
จีหมิงซิวไม่ตอบคำถามเขา แต่บอกว่า “อดีตฮูหยินแต่งงานเข้ามา หลังจากจักรพรรดิอสูรกับมารโลหิตถูกสะกดไว้แล้วกระมัง”
กงซุนฉางหลีพยักหน้า “ถูกต้อง”
จีหมิงซิว “ในตอนนั้น อวิ๋นจูก็ถูกขับออกจากลัทธิศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว นางขจัดอุปสรรคทั้งหมดออกไปแล้ว เพื่ออวิ๋นชิงและเพื่อตัวนางเอง นางปูทางเส้นใหญ่เอาไว้ ในตอนนั้นนางจะยอมให้สตรีที่มีประวัติที่มาไม่ชัดเจนมาแย่งทุกอย่างที่ควรเป็นของนางไปได้อย่างไร” โ
กงซุนฉางหลีขมวดคิ้ว “หากกล่าวเช่นนี้ ข้าก็ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ ลัทธิศักดิ์สิทธิ์จะแต่งใครเป็นภรรยา ไม่สนใจเรื่องฐานะและชาติกำเนิด บุตรสาวจากตระกูลพ่อค้าคนหนึ่งสามารถแต่งงานกับอวิ๋นชิงได้ นางก็ควรจะแต่งได้เช่นกัน เหตุใดถึงต้องลงทุนลงแรงเปลี่ยนฐานะของตนแล้วค่อยแต่งงานด้วย”
จีหมิงซิวเอ่ยเสียงเรียบว่า “นางกับอวิ๋นชิงวางแผนลับกันมากมายเพียงนั้น หากนางแต่งงานกับอวิ๋นชิง จะไม่ยิ่งเท่ากับว่าพวกเขาสองคนเป็นพวกเดียวกันหรือ เอาเข้าจริงคนนอกอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่คนชั่วมักเป็นวัวสันหลังหวะ อย่างไรพวกเขาเองก็ต้องระแวงไว้ก่อน ยิ่งไปกว่านั้น…”
“ยิ่งไปกว่านั้นอะไร” กงซุนฉางหลีอันไปมองเขา
จีหมิงซิวหรี่ตาลง “ยิ่งไปกว่านั้นหากอวิ๋นชิงไม่เคยคิดจะแต่งงานกับผู้พิทักษ์เหลียนเลยเล่า”
“ความหมายของเจ้าคือ ผู้พิทักษ์เหลียนแปลงโฉมเป็นสตรีนางอื่น จากนั้นก็แต่งงานกับอวิ๋นชิงหรือ ช้าก่อน” จู่ๆ กงซุนฉางหลีก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “หากแท้จริงแล้วนางก็คืออดีตฮูหยิน เช่นนั้นมารดาผู้ให้กำเนิดอวิ๋นซู่… จะไม่ใช่นางหรอกหรือ”
จีหมิงซิวหัวเราะเสียงเรียบ “เช่นนี้แล้ว ก็อธิบายได้แล้วใช่หรือไม่ว่าเหตุใดนางถึงได้จงรักภักดีกับอวิ๋นซู่เพียงนี้”
กงซุนฉางหลีนึกย้อนถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหลายวันนี้ เอ่ยอย่างขวัญผวาว่า “จริงด้วย เดิมทีมารโลหิตเป็นอวิ๋นซู่ที่ปล่อยออกมา นางกลับแบกรับความผิดนั้นไว้เองทั้งหมด อวิ๋นซู่ป่วยหนัก กระทั่งยิ่นอ๋องกับองค์ชายสามก็ยังไม่เชื่อใจ แต่มอบตราประทับให้กับนางแต่เพียงผู้เดียว”
จีหมิงซิวเลิกคิ้ว “ดูท่าอวิ๋นซู่ก็คงจะรู้ถึงชาติกำเนิดของตนเอง”
กงซุนฉางหลีก็นับว่าเป็นคนที่ประสบพบเจออะไรมามาก เรื่องน้ำเน่าอะไรก็เคยเห็นมาแล้วทั้งสิ้น แต่เรื่องที่ผู้พิทักษ์เหลียนมีโอกาสจะเป็นมารดาแท้ๆ ของอวิ๋นซู่นั้น ยังเล่นเอาเขารู้สึกคล้ายโดนฟ้าผ่าอย่างรุนแรง
“ยากจะยอมรับหรือ” จีหมิงซิวถามกลัวหัวเราะ
กงซุนฉางหลีหันมองเขา “เจ้าคาดเดาได้แต่แรกแล้วหรือว่าอย่างไรหรือ”
จีหมิงซิวส่ายหน้า “ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก เพียงแต่รู้สึกแปลกใจมาตลอด ว่าที่นางคอยเฝ้าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อยู่เงียบๆ มาตลอดนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
กงซุนฉางหลีหัวเราะเยาะตนเอง “เจ้าไม่เคยเชื่อเลยว่าจะมีคนที่ดีต่อใครคนหนึ่งโดยไม่หวังผลตอบแทน”
จีหมิงซิวหรี่ตาเอ่ยว่า “คำพูดเจ้านี้เหตุใดถึงฟังดูตัดพ้ออยู่เล็กน้อย”
“เจ้าคิดมากไปแล้ว” กงซุนฉางหลีกระแอมเบาๆ วกกลับมาเอ่ยถึงเรื่องสำคัญต่อ “จะใช่ว่าอวิ๋นชิงเริ่มไม่พอใจผู้พิทักษ์เหลียนตั้งแต่ตอนที่นางยื่นมือเข้ามายุ่งกับเรื่องแต่งงานของเขาแล้ว ดังนั้นจึงไปหาสตรีจากข้างนอกมาเสียเลย ผู้พิทักษ์เหลียนรู้เรื่องนี้จึงจัดการสังหารสตรีนางนั้นทิ้ง แล้วแปลงโฉมเป็นนางแทน แต่อวิ๋นชิงใช่คนโง่หรือ ภรรยาที่ต้องพบหน้ากันทุกเช้าค่ำใส่หน้ากากหนังคนอยู่ เขาจะไม่สังเกตเห็นเลยจริงๆ หรือ”
จีหมิงซิวบอกว่า “จะไม่สังเกตเห็นได้อย่างไร หากข้าเดาไม่ผิด ระหว่างนางกับอวิ๋นชิงน่าจะเพียงแค่แลกเปลี่ยนข้อตกลงกัน ในมือนางมีความลับของอวิ๋นชิงอยู่ บีบบังคับให้เขาต้องแต่งนางเป็นภรรยา แต่ก็กลัวว่าลัทธิศักดิ์สิทธิ์จะล่วงรู้ความจริงที่ทั้งสองวางแผนร้ายร่วมกัน จึงจำต้องเปลี่ยนฐานะในการแต่งงาน แต่อวิ๋นชิงก็ไม่ใช่มะเชือเทศอ่อนที่จะให้บีบได้ง่ายๆ และก็ไม่กลัวว่านางจะทำอะไรตน สถานการณ์ข้าแข็งแกร่งเจ้าอ่อนแอ จึงเปลี่ยนไปนับตั้งแต่วินาทีที่อวิ๋นซู่ถือกำเนิดขึ้นมา”
กงซุนฉางหลีพึมพำว่า “นางรู้ความลับอะไรของอวิ๋นชิงอยู่กันแน่”
จีหมิงซิวบอกว่า “เรื่องนี้คงต้องไปหาคำตอบจากตัวของอวิ๋นชิงเองแล้ว ของที่อวิ๋นชิงทิ้งไว้อยู่ที่ใด”
…
“คุณชายกงซุน!”
ด้านนอกเรือนอวิ๋นซู่ ลูกศิษย์ที่เฝ้าอยู่สองคนทำความเคารพกงซุนฉางหลีอย่างนอบน้อม
กงซุนฉางหลีเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “ข้ามาเก็บอาภรณ์ให้เจ้าสำนัก”
ลูกศิษย์สองคนนั้นเปิดทางให้โดยไม่สงสัยอะไร “คุณชายกงซุน เชิญ”
กงซุนฉางหลีก้าวเข้าไปในเรือน
แม่ชีน้อยทั้งสามถือพลั่วไม้ขุดหิมะกันอยู่ เดิมทีพวกนางแค่ขุดเล่น ทำไปทำมาก็เอาเข้าปากไปทั้งหมด
กงซุนฉางหลีเอ่ยอ้อมทางเดินไป ไม่ได้เข้าไปในห้องอวิ๋นซู่ แต่เปลี่ยนฝีเท้าไปที่ลานด้านหลังแทน เขาเอ่ยกับลูกศิษย์ที่ปัดกวาดอยู่ว่า “ดูเหมือนคุณหนูจะทะเลาะกันเสียแล้ว เจ้ารีบไปดูที”
ลูกศิษย์ได้ยินว่าเป็นเด็กสามคนที่ขยันสร้างเรื่องก็รีบวางไม้กวาดลง รีบร้อนออกไปดูทันที
กงซุนฉางหลีดึงเปิดประตูเรือนหลัง จีหมิงซิวเอียงตัวเร้นกายเข้าไป