หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 81-1 ความจริงกระจ่าง
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 81-1 ความจริงกระจ่าง
ตอนที่ 81-1 ความจริงกระจ่าง
ห้องจิบน้ำชาอยู่ด้านหน้าของเรือน ส่วนจุดที่อวิ๋นฮูหยินไปเก็บข้าวของอยู่ทางด้านหลังของเรือน แม้จะไม่นับว่าไกลกันนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเรือนด้านหลัง ในเมื่ออวิ๋นฮูหยินไม่ให้ทั้งสองคนตามไป ทั้งสองคนก็ไม่สะดวกจะบุกรุก ทว่ารอจนเวลาผ่านไปชั่วจิบชาครึ่งถ้วยแล้วก็ยังไม่เห็นอวิ๋นฮูหยินออกมา ทั้งสองคนสังหรณ์ใจเลือนรางว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ข้าจะไปดูสักหน่อย” กงซุนฉางหลีลุกขึ้นยืน แต่จีหมิงซิวกลับจับข้อมือของเขาไว้ “ข้าไปเอง เจ้ารออยู่ที่นี่”
กงซุนฉางหลีครุ่นคิดแล้วก็พยักหน้าน้อยๆ “ก็ได้”
เรือนหลังคือเกียรติยศของลูกผู้หญิง กงซุนฉางหลีไม่มีความเกี่ยวข้องกับอวิ๋นฮูหยินแม้แต่น้อย แต่จีหมิงซิวพอจะนับได้ว่ามีความเกี่ยวพันเป็นครอบครัวกับอวิ๋นฮูหยินเพราะอวิ๋นจูกับอวิ๋นชิงเป็นพี่น้องบุญธรรมกัน
จีหมิงซิวเดินไปที่เรือนหลัง แล้วก็พบว่าเรือนหลังว่างเปล่า ทั้งยังเงียบสงัดอย่างผิดปกติ
“อวิ๋นฮูหยิน อวิ๋นฮูหยินอยู่หรือไม่”
จีหมิงซิวเอ่ยเรียกเบาๆ สองสามหน แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากอวิ๋นฮูหยิน สัญชาตญาณของจีหมิงซิวร้องบอกว่าท่าไม่ดีแล้ว เขารีบสาวเท้าไปที่ทางเดินแล้วค้นหาทีละห้อง เมื่อเขาหามาถึงห้องนอนของอวิ๋นฮูหยิน เขาก็ยังไม่พบเงาของอวิ๋นฮูหยินแต่เห็นลูกปัดหยกร่วงกระจายอยู่เกลื่อนพื้น
นี่คือลูกปัดหยกจากกำไลที่สวมอยู่บนมือของอวิ๋นฮูหยิน หยกแต่ละเม็ดเป็นสีเขียวกลมเกลี้ยง นับเป็นสิ่งที่ดูหรูหราเพียงชิ้นเดียวบนตัวฮูหยินผู้ดูเหมือนจะอยู่อย่างสมถะคนนี้ ตอนนี้ของสิ่งนี้ร่วงกระจายอยู่บนพื้นอย่างไร้สาเหตุ หากจะบอกว่าไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นกับอวิ๋นฮูหยินคงเป็นไปไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้น” กงซุนฉางหลีได้ยินเสียงจีหมิงซิวตะโกนเรียกอวิ๋นฮูหยิน แต่ไม่มีเสียงตอบรับของอวิ๋นฮูหยิน ในใจพลันรู้แล้วว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เขาจึงเลิกสนใจข้อครหาใดๆ สาวเท้าเดินเข้ามาหา
จีหมิงซิวนั่งยองๆ ลงบนพื้นแล้วลูบรอยล้อรถของรถเข็นที่ยากจะมองเห็นด้วยตาเปล่าบนนั้น ปลายนิ้วลูบเบาๆ แล้วบอกว่า “เย่ว์หวามาที่นี่”
สายตาของกงซุนฉางหลีเย็นชาทันควัน
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ค้นหาเรือนหลังอย่างรวดเร็วที่สุด แล้วก็พบว่าหลักฐานที่อวิ๋นฮูหยินพูดถึงทั้งหมดถูกขนเอาไปด้วย หลักฐานไม่มีแล้ว พยานก็หายไปแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีต่อพวกเขาอย่างยิ่ง
แม้เย่ว์หวาจะถูกผูกอยู่บนเรือลำเดียวกับผู้พิทักษ์เหลียน แต่เขาไม่มีวันใจอ่อนกับอวิ๋นฮูหยิน ไม่ว่าอย่างไรเมื่อเทียบกับชีวิตของสตรีผู้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาคนหนึ่ง อนาคตกับตำแหน่งของตัวเขาเองย่อมสำคัญที่สุด
กงซุนฉางหลีขมวดคิ้วถามขึ้นมาว่า “เขาจะสังหารอวิ๋นฮูหยินหรือไม่”
จีหมิงซิวเอ่ยเรียบๆ “หากเขาจะสังหารก็คงสังหารตั้งแต่ที่อยู่ในห้องแล้ว แต่เขากลับพาตัวคนไปด้วย บ่งบอกว่าตอนนี้เขาไม่คิดจะเอาชีวิตของอวิ๋นฮูหยิน เขาต้องการให้อวิ๋นฮูหยินไปเป็นพยานบอกผู้พิทักษ์เหลียนว่าลูกชายของนางตายไปเอง ไม่ใช่ถูกเขาฆ่าคนปิดปาก”
กงซุนฉางหลีคล้อยตามคำพูดของเขาแล้วพึมพำขึ้นว่า “ถ้าเช่นนั้นหลังจากนั้น…อวิ๋นฮูหยินก็อันตรายแล้ว”
จีหมิงซิวกับกงซุนฉางหลีตัดสินใจแยกกันเคลื่อนไหว
ในเมื่อจุดหมายของเย่ว์หวาคือลัทธิศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเช่นนั้นหากค้นหาตามเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังจุดหมายย่อมพบร่องรอยของเย่ว์หวา จีหมิงซิวมุ่งไปที่ทางน้ำ ส่วนกงซุนฉางหลีไปทางบันไดสวรรค์
เดิมทีด้วยสภาพของเย่ว์หวา การเดินทางทางน้ำย่อมง่ายดายกว่า แต่คิดไม่ถึงว่าเย่ว์หวากลับเลือกทำตรงกันข้าม เขาเลือกเดินทางไปทางบันไดสวรรค์ที่อยู่ด้านหลังหน้าผา
กงซุนฉางหลีไล่ตามเย่ว์หวาทันตรงหน้าสะพานหินซึ่งเป็นทางที่ต้องผ่านหากจะไปบันไดสวรรค์ อวิ๋นฮูหยินถูกนักรบมรณะดาบยาวสองคนแบกเอาไว้ นางถูกมัดมือเท้า ปากก็ถูกบางสิ่งอุดเอาไว้
อวิ๋นฮูหยินเห็นกงซุนฉางหลีก็ร้องเสียงอู้อี้ นักรบมรณะกระชากร่างนางหนหนึ่งด้วยทีท่าสบายๆ ประหนึ่งหิ้วลูกเจี๊ยบน้อยตัว แต่ในมือคนกลุ่มนี้มีแต่อวิ๋นฮูหยิน ไม่มีห่อสัมภาระอื่นใดมาด้วย
สายตาของกงซุนฉางหลีจับจ้องใบหน้างดงามนุ่มนวลของเย่ว์หวาที่อยู่ด้านหลังสุด
เย่ว์หวาโบกมือให้คนเข็นรถเข็นหันกลับมา เขามองกงซุนฉางหลีที่กำลังทำสีหน้าเย็นชาอยู่ จากนั้นริมฝีปากก็ยกโค้งขึ้นนิดๆ “ฉางหลีเองหรือ เหตุใดเจ้าก็กำลังกลับลัทธิศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันเล่า”
กงซุนฉางหลีตอบเรียบๆ “ปล่อยนางเสีย”
เย่ว์หวาหัวเราะหยัน “ปล่อยนางหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่านางคือผู้ใด”
กงซุนฉางหลีตอบว่า “เป็นผู้ใดก็ช่าง ปล่อยนางไป”
เย่ว์หวาหัวเราะหยัน “เจ้าถูกคนแซ่จีซื้อตัวไปแล้วจริงๆ สินะ ผู้พิทักษ์เหลียนบอกว่าเจ้ากับคนตระกูลจีใกล้ชิดกัน แต่เดิมข้ายังไม่ค่อยเชื่อนัก…เจ้าคนทรยศ เสียทีที่เจ้าลัทธิทุ่มเทเพื่อเจ้า เจ้ากลับเห็นคนนอกดีกว่าคนใน ช่วยคนอื่นมาจัดการลัทธิศักดิ์สิทธิ์! ช่างเถิด วันนี้ข้าจะจัดการคนทรยศอย่างเจ้าแทนเจ้าลัทธิเอง!”
เย่ว์หวาพูดพลางก็ยกมือขึ้นปรบมือเบาๆ นักรบมรณะสองคนพลันเหินร่างเข้าโจมตีกงซุนฉางหลี นักรบมรณะเพียงสองคนย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกงซุนฉางหลี เย่ว์หวาก็ไม่คิดว่าจะสังหารเขาสำเร็จจริงๆ เขาเพียงตั้งใจจะขวางอีกฝ่ายไว้ให้ตนเองข้ามสะพานไปอย่างราบรื่นก็พอ
แต่คิดไม่ถึงว่าเย่ว์หวาจะประเมินพลังของกงซุนฉางหลีต่ำเกินไป ทั้งสองคนไม่ทันได้แตะชายเสื้อของกงซุนฉางหลีสักนิดก็ถูกกงซุนฉางหลีซัดตกหน้าผา
เย่ว์หวาหรี่ตาลงท่าทางอันตราย “กงซุนฉางหลี เจ้าจะเอาเช่นนี้จริงๆ ใช่หรือไม่”
กงซุนฉางหลีไม่พูดพร่ำไร้สาระกับเขาอีก เขาใช้วิชาตัวเบาเหินไปหาอวิ๋นฮูหยิน
ทว่าชั่วพริบตาที่เขากำลังจะคว้าตัวอวิ๋นฮูหยินได้นั่นเอง ตรงปากถ้ำของอุโมงค์พลันมีเงาดำเย็นยะเยือกร่างหนึ่งพุ่งออกมา ฟาดฝ่ามือใส่หัวไหล่ของกงซุนฉางหลีอย่างรุนแรง!
ชั่วพริบตาที่เงาดำนั้นเข้ามาใกล้ กงซุนฉางหลีสัมผัสไอพิษเย็นยะเยือกสายหนึ่งได้อย่างฉับไว หากไอพิษนี้แทรกเข้ามาในร่าง ผลลัพธ์ที่ตามมาคงไม่อาจจินตนาการ โ
กงซุนฉางหลีถีบต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง อาศัยแรงส่งหลบพ้นการโจมตีของอีกฝ่าย สายลมจากฝ่ามือของคนผู้นั้นตกต้องต้นไม้ใหญ่ที่กงซุนฉางหลีถีบ ต้นไม้ส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ แล้วหักกลางเป็นสองท่อนทันที กงซุนฉางหลีร่อนลงมาบนพื้น สองตาวาวโรจน์มองอีกฝ่าย
เป็นร่างพิษที่ร้ายกาจยิ่ง!
เย่ว์หวายกมุมปากโค้ง “ขวางเขาไว้ อย่าให้ข้ามสะพานมาได้”
วรยุทธ์ของร่างพิษร่างนี้เหนือกว่าศิษย์พี่รองเสียอีก ในร่างของเขาจะต้องมีเม็ดยาพิษเกิดขึ้นมาแล้วอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าเขาไม่ใช่ร่างหยินบริสุทธิ์ ประสิทธิภาพของเม็ดยาพิษของเขาจึงเทียบกับของสวินหลันและศิษย์พี่รองไม่ได้ ทว่าหากพูดถึงวรยุทธ์ เกรงว่าศิษย์พี่รองสองสามคนรวมกันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา
เขาต่อสู้โรมรันกับกงซุนฉางหลี ส่วนเย่ว์หวาข้ามสะพานไปอย่างอารมณ์ดี ข้ามสะพานเสร็จก็กระโดดลงถ้ำ พอเดินทางพ้นอุโมงค์ก็จะพบบันไดสวรรค์แล้ว
เย่ว์หวาส่งสายตาให้นักรบมรณะ นักรบมรณะอุ้มอวิ๋นฮูหยินขึ้นมา อวิ๋นฮูหยินดิ้นรน แต่นางจะเป็นคู่ต่อสู้ของนักรบมรณะได้อย่างไร นางดิ้นรนจนเชือกบาดร่างกายเป็นรอยเลือด แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังถูกนักรบมรณะอุ้มกระโดดลงไปในถ้ำอยู่ดี
ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าในตอนที่นักรบมรณะกับอวิ๋นฮูหยินกำลังจะลงไปเหยียบถึงพื้น เงาร่างหนึ่งก็เหินข้ามฟ้ามาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ มันแล่นฟิ้วโฉบผ่านหน้าทุกคนไปอย่างว่องไว ทุกคนไม่ทันตอบสนอง อวิ๋นฮูหยินในอ้อมแขนของนักรบมรณะก็ติดปีกบินจากไปเสียแล้ว
นักรบมรณะนิ่งอึ้ง ทุกคนที่เหลือต่างก็นิ่งอึ้ง เย่ว์หวาเบิกตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ เขามองปากถ้ำแล้วกวาดสายตามองรอบด้าน
เขาตาลายหรือไร
อวิ๋นฮูหยินเล่า
เงาเมื่อครู่นั่นเล่า
ด้านหลังร่างของเย่ว์หวามีเงาทะมึนสูงใหญ่ร่างหนึ่งเคลื่อนเข้ามาทาบทับ เงาดำก้มตัวลงมาอย่างเชื่องช้าจนมาถึงริมหูของเย่ว์หวา แล้วส่งเสียงออกมาเบาๆ “โฮ่ง”
เย่ว์หวาคิ้วกระเด้งขึ้นไปกลางหน้าผาก!
ชั่วพริบตาต่อมาราชันอสูรก็ยกรถเข็นของเย่ว์หวาขึ้น ‘ดวงหน้างาม’ ของเย่ว์หวาถอดสีตะโกนว่า “เจ้าจะทำอะไร” แต่ราชันอสูรเพียงแลบลิ้นปลิ้นตาทำหน้าผีใส่เขาแล้วดันเบาๆ จนรถเข็นล้มลงมา
“อ้ากกก”
เย่ว์หวาร้องราวกับหมูถูกเชือด ร่างกายถลาร่วงไปใต้หน้าผา
หลังจากนั้นราชันอสูรก็โยนนักรบมรณะทั้งหลายลงหน้าผาตามไปทีละคนๆ
ส่วนร่างพิษ…ร่างพิษก็อยากจะกระโดดลงหน้าผาไปด้วย แต่ถูกราชันอสูรจับไว้ก่อน ราชันอสูรควักเม็ดยาพิษของเขาออกมา หลังจากนั้นก็ถีบร่วงลงหน้าผาไป
ราชันอสูรเก็บเม็ดยาพิษเรียบร้อยก็ไปแก้มัดให้อวิ๋นฮูหยิน ระหว่างแก้มัด เขาไม่ทันระวังทำหน้ากากลื่นหลุดนิดหนึ่ง อวิ๋นฮูหยินเห็นใบหน้าของเขา ดวงตาก็เบิกถลน อึดใจต่อมาดวงตาสองข้างก็ปิดสนิท ศีรษะเอนไปด้านข้างเป็นลมหมดสติไปทันที
ไม่นานจีหมิงซิวก็ตามมาทัน เขาพบลูกน้องของเย่ว์หวาที่แม่น้ำและแย่งหลักฐานกลับมาจากมือพวกเขาได้สำเร็จ จีหมิงซิวหันไปมองกงซุนฉางหลี “ตัวตนของเจ้าถูกเปิดเผยแล้ว อย่ากลับไปที่เมืองอวิ๋นจงเลย ตามข้ากลับจวนอ๋องเถิด”
กงซุนฉางหลีหลุบตาลงตอบว่า “ไม่จำเป็น คนที่เห็นข้าตกหน้าผาไปหมดแล้ว ตอนนี้ตัวตนของข้ายังไม่ถูกเปิดโปง พวกเจ้ากลับไปเถิด”
จีหมิงซิวจ้องลึกลงไปในดวงตาของเขา “เจ้าแน่ใจหรือ”
กงซุนฉางหลีพยักนห้า “ข้ายังมีเรื่องบางอย่างที่ต้องจัดการในเมืองอวิ๋นจง”
“เจ้าอย่าเพิ่งกลับลัทธิศักดิ์สิทธิ์”
“ข้ารู้แล้ว”
“ระวังตัวด้วย”
“อืม”
หลังจากนั้นกงซุนฉางหลีก็กลับไปที่เมืองอวิ๋นจง ส่วนจีหมิงซิวพาอวิ๋นฮูหยินกับราชันอสูรกลับไปที่จวนอ๋อง อวิ๋นจูก็กลับมาแล้วเช่นกัน
ราชันอสูรอุ้มอวิ๋นฮูหยินก้าวเท้าเร็วไวดังดาวตกเข้าไปในเรือนฟางชุ่ยหยวน แต่เมื่อเห็นอวิ๋นจู เขาก็ไม่พูดพร่ำโยนอวิ๋นฮูหยินใส่มือของจีหมิงซิว
จีหมิงซิวยังไม่ทันตั้งสติว่าเกิดอะไรขึ้น ในอ้อมแขนก็มีสตรีนางหนึ่งอยู่
เฉียวเวยบังเอิญเดินออกมาจากในห้องพอดี…
เฉียวเวยหรี่ตาลง
จีหมิงซิว “…”
…