หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 88-1 ความตายของสวินหลัน (1)
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 88-1 ความตายของสวินหลัน (1)
ตอนที่ 88-1 ความตายของสวินหลัน (1)
ตกกลางคืนผู้คนทยอยกันหลับใหล องครักษ์เกราะทมิฬซุ่มซ่อนอยู่รอบโรงเตี๊ยมอย่างเงียบเชียบ ปกป้องโรงเตี๊ยมประหนึ่งปราการเหล็ก
เฉียวเวยนอนหลับในรถม้าตอนกลางวันมามากแล้ว ตอนนี้นางจึงไม่ง่วงสักนิด นางกินขนมรองท้องไปนิดหน่อย จากนั้นก็เปิดประตูห้องออกไปนั่งตากลมตรงระเบียง
ขณะที่กำลังจะกลับเข้าห้องก็เห็นฟู่เสวี่ยเยียนเปิดประตูเดินออกมาจากห้อง
ฟู่เสวี่ยนเยียนเห็นเฉียวเวยอยู่ตรงระเบียงก็เยื้องย่างเข้ามาหา “เหตุไฉนยังไม่นอนเล่า”
เฉียวเวยหมุนตัวกลับมา แผ่นหลังพิงราวระเบียงตอบว่า “นอนไม่หลับ เจ้าเล่า มู่เหยียนน้อยตื่นอีกแล้วหรือ”
ฟู่เสวี่ยเยียนส่ายหน้า “เปล่าหรอก นางนอนหลับสนิทมาก”
“ถ้าเช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงเดินออกมา” เฉียวเวยถาม
ฟู่เสวี่ยเยียนหยุดยืนข้างกายเฉียวเวย สองมือจับราวระเบียงตอบเสียงเบาว่า “ข้าก็ไม่ง่วงเหมือนกันจึงออกมาเดินเล่น”
เฉียวเวยส่งนมแผ่นชิ้นหนึ่งให้นาง นี่ไม่ใช่นมแผ่นธรรมดา แต่เป็นของที่เฉียวเวยทำเอง นางใส่เนื้อบ๊วยกับเนื้อผลซิ่งตากแห้งลงไปเล็กน้อย รสชาติเปรี้ยวนิดๆ อร่อยอย่างยิ่ง
ตั้งแต่ฟู่เสวี่ยเยียนคลอดมู่เหยียนน้อย นางก็ไม่ชอบกินของรสเปรี้ยวอมหวานพวกนี้อีกแล้ว มุมปากนางยกโค้งขึ้นเล็กน้อยบอกว่า “ข้าไม่หิว เจ้ากินเถิด”
เฉียวเวยยัดนมแผ่นน้อยเข้าปากของตนเอง ความหอมของนมอบอวลอยู่ทั่วปากและฟัน แทรกด้วยรสชาติเปรี้ยวหวาน ต่อมรับรสอิ่มเอมจนแทบจะระเบิดตัวเอง
แต่เดิมฟู่เสวี่ยเยียนไม่คิดจะกิน แต่เห็นนางกินอย่างเอร็ดอร่อยเช่นนี้ก็ข่มความตะกละที่ผุดพรายขึ้นมาไม่ได้ ยื่นมือไปหยิบนมแผ่นในจานที่นางยกมาให้ชิ้นหนึ่ง รอจนกระทั่งมันถูกส่งเข้าปากนางถึงเพิ่งรู้ตัวว่า ‘ติดกับ’ แล้ว
เปรี้ยวจนเข็ดฟัน สัมผัสรับรสของสตรีตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่คนปกติไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ
เฉียวเวยกินนมแผ่นหมดจานไม่เหลือสักนิด ขาดก็แต่ก้มลงไปเลียจานเท่านั้น “เจ้าไปนอนเถิด ข้าจะไปดูสวินหลันสักหน่อย”
ฟู่เสวี่ยเยียนถามอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้านอนไม่หลับเพราะเป็นกังวลเรื่องนางหรือ”
เฉียวเวยเดาะลิ้น ตอบอย่างคลุมเครือ “ก็นับว่าใช่กระมัง”
ไม่ว่าอย่างไรเม็ดยาพิษก็สุกงอมได้ตลอดเวลา สวินหลันยังไม่ดื่มยาที่ชวยปกป้องเม็ดยาพิษถ้วยนั้น หากรู้ตัวสายเกินไปขึ้นมา เม็ดยาพิษก็จะเสียหาย
หัวหน้าพรรคเฉียวเป็นคนที่แม้แต่เหรียญอีแปะเหรียญเดียวก็ยังตัดใจให้เสียเปล่าไม่ได้ เม็ดยาพิษที่ล้ำค่าเช่นนี้เม็ดหนึ่งหากปล่อยให้เสียเปล่าไปนางคงปวดใจจนตาย
ฟู่เสวี่ยเยียนชะโงกร่างออกไปนอกราวกั้น แล้วเมียงมองห้องของสวินหลัน “ในห้องยังจุดโคมสว่างอยู่ ข้าไปกับเจ้าด้วยแล้วกัน”
เฉียวเวยเทนมแผ่นชุดใหม่ออกมาจากในกระเป๋า “เป็นห่วงว่านางจะทำร้ายข้าหรือ”
“…” ข้าเป็นห่วงว่าเจ้าจะท้องแตกตายมากกว่า!
ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปที่ห้องของสวินหลัน แต่เมื่อตรองดูอีกหนสุดท้ายก็ไม่ได้เข้าไป เพียงแต่แง้มประตูเป็นช่องเล็กๆ คอยสำรวจสถานการณ์ด้านในเท่านั้น
สวินหลันสวมอาภรณ์ชั้นนอกนั่งอยู่ริมหน้าต่าง เหม่อมองดวงดาราบนท้องนภา ใบหน้าของนางหมองคล้ำดูซีดเหลืองใต้แสงตะเกียง เม็ดยาพิษไม่ได้พรากไปแต่อายุขัยของนางเท่านั้น แต่ยังพรากรูปโฉมไปจากนางด้วย นางแก่ชราลงทุกชั่วอึดใจ จนตอนนี้จอนผมกลายเป็นสีขาวโพลนแล้ว
ร่างพิษทั่วไปจะไม่เกิดสภาพเช่นนี้ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะโลหิตทุกหยด พลังชีวิตทุกส่วนของร่างหยินบริสุทธิ์ล้วนแต่กลายเป็นของบำรุงแก่เม็ดยาพิษได้
ฟู่เสวี่ยเยียนอุทานอย่างตกตะลึง “ศิษย์พี่รองยังไม่เป็นถึงขั้นนี้”
เฉียวเวยบอกเสียงเบา “คุณสมบัติของร่างกายนางยอดเยี่ยมยิ่งกว่าศิษย์พี่รอง”
สำหรับคนที่ต้องการเม็ดยาพิษคงต้องบอกว่าเป็นโชคดี แต่สำหรับนางกลับเป็นโชคร้าย หากไม่ใช่เพราะคุณสมบัติของร่างกายนี้ นางคงไม่ถูกลัทธิศักดิ์สิทธิ์จับตัวไป
ทั้งที่หลบพ้นโทษทัณฑ์จากตระกูลจีได้แล้วแท้ๆ แต่ยังต้องมาตกอยู่ในกำมือของลัทธิศักดิ์สิทธิ์อีก
นี่คือโชคชะตาหรือว่าคราวเคราะห์กันนะ
สวินหลันใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากไออย่างรุนแรง เมื่อนางยกผ้าเช็ดหน้าออก เฉียวเวยกับฟู่เสวี่ยเยียนก็เห็นคราบเลือดเปรอะอยู่เต็มใบหน้า
เฉียวเวยแววตาไหววูบ “แย่แล้ว นางใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว”
ฟู่เสวี่ยเยียนรีบผลักประตูห้องสาวเท้าเข้าไปหาสวินหลัน ร่างของสวินหลันล้มโครมลงไปที่พื้น ฟู่เสวี่ยเยียนประคองนางขึ้นมา ปลายนิ้วหยั่งลมหายใจใต้จมูก เมื่อพบว่ายังมีลมหายใจอยู่ก็อุ้มนางกลับมาไว้บนเตียง เขย่าหัวไหล่ของนางเบาๆ “สวินหลัน สวินหลัน!” โ
เฉียวเวยเปิดห่อผ้าของสวินหลันหยิบยาลูกกลอนข่มพิษออกมาหนึ่งเม็ด แล้วจับปากของสวินหลันเปิด ยัดลงคอนางรวดเดียวสามเท่าของปริมาณยาปกติ
แต่สวินหลันกลืนไม่ลงแม้แต่เม็ดเดียว นางอาเจียนออกมาจนหมด แม้แต่การกลืน นางก็ทำไม่ได้แล้ว
ฟู่เสวี่ยเยียนขมวดคิ้ว ยื่นมือออกมา “ส่งมาให้ข้า”
เฉียวเวยเทยาลูกกลอนเม็ดน้อยสิบห้าเม็ดใส่มือของนาง
ฟู่เสวี่ยเยียนบีบปลายคางของสวินหลันแล้วยัดยาเข้าไป มือหนึ่งบีบปากของนางไว้แน่น อีกมือหนึ่งโคจรกำลังภายในฟาดฝ่ามือหนึ่งลงกลางหลังของนาง
อึก! สวินหลันกลืนยาลูกกลอนมากกว่าครึ่งลงไปได้สำเร็จ
เฉียวเวยรินน้ำอุ่นมาอีกถ้วย บังคับให้นางกลืนยาลูกกลอนที่กลืนไม่ลงอีกครึ่งหนึ่งลงไป
หลังจากทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ฟู่เสวี่ยเยียนก็นั่งขัดสมาธิบนเตียง ถ่ายทอดกำลังภายในให้สวินหลันทีละน้อย เพื่อปกป้องชีพจรของสวินหลันเอาไว้ “ข้าคงทนได้ไม่นานนัก หลิวเกอร์จะมาถึงเมื่อใด”
เฉียวเวยก็ร้อนรนแล้วเหมือนกัน นางเอ่ยว่า “พวกเขาออกไปสักพักใหญ่แล้ว น่าจะใกล้มาถึงเต็มที ข้าจะออกไปดูสักหน่อย”
เม็ดยาพิษในร่างของสวินหลันต่อต้านกำลังภายในของฟู่เสวี่ยเยียน ฟู่เสวี่ยเยียนถ่ายทอดกำลังภายในให้อย่างยากลำบาก เหงื่อผุดพรายออกมาทั่วร่าง “พิษเริ่มแพร่กระจายแล้ว”
เฉียวเวยหันไปมองสวินหลันก็เห็นใบหน้าของนางเริ่มเป็นสีม่วง ดวงหน้างามแก่ชราลงอย่างรวดเร็วจนสังเกตุเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่เพียงแต่ใบหน้าของนาง แม้แต่มือก็เริ่มเหี่ยวย่นอย่างรวดเร็วด้วย รอยเหี่ยวย่นเส้นแล้วเส้นเล่าผุดขึ้นมา
เฉียวเวยหันไปมองยาที่เย็นแล้วบนโต๊ะ นางลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เลือกไม่บังคับจับนางกรอกยา
เฉียวเวยวิ่งลงไปชั้นล่างอย่างว่องไว อยากจะไปดูว่าพวกเขามาถึงกันหรือยัง ต่อให้โผล่มาที่มุมถนนแล้วก็ยังดี
“ยังไม่มาหรือ” ฟู่เสวี่ยเยียนถามอย่างยากลำบาก นางใกล้จะต้านไม่ไหวแล้ว
นางดูแคลนพลังของร่างหยินบริสุทธิ์มากเกินไปจริงๆ เม็ดยาพิษเม็ดนี้ไม่ใช่สิ่งที่นางข่มไหวสักนิด เม็ดยาพิษต้องการสูบกลืนสารบำรุงในร่างสวินหลันตราบจนหยาดหยดสุดท้าย กำลังภายในของฟู่เสวี่ยเยียนเริ่มปกป้องไม่ไหว นางสัมผัสได้ว่าเม็ดยาพิษกำลังจะฉีกทิ้งกำลังภายในของนาง “รีบมาเร็วๆ เข้าสิ…หากยังมาไม่ถึงอีกจะไม่ได้พบหน้ากันจริงๆ แล้วนะ…”
ฟึบ!
เงาดำร่างหนึ่งโฉบมาตรงหน้าของเฉียวเวย เฉียวเวยเพ่งสายตามอง ทันใดนั้นดวงตาก็เป็นประกายทันที “มาแล้วๆ!”
“ต้าน…ไม่ไหวแล้ว…” แทบจะในทันทีที่เสียงของเฉียวเวยเอ่ยจบ กำลังภายในของฟู่เสวี่ยเยียนก็ถูกเม็ดยาพิษโต้กลับจนพ่ายแพ้ ฟู่เสวี่ยเยียนถูกผลสะท้อนกลับ ร่างกายสะท้านเฮือกฟุบลงบนฟูกเตียง
สวินหลันกระอักเลือดสีดำคำโตออกมาหลายคำ ฟู่เสวี่ยเยียนหน้าถอดสี!
ขณะที่พลังชีวิตเสี้ยวสุดท้ายของสวินหลันกำลังจะถูกเม็ดยาพิษสูบกินนั่นเอง มือเรียวขาวผ่องข้างหนึ่งก็พลันยื่นนิ้วประหนึ่งหยกออกมาจี้ดรรชนีเบาๆ ยาพิษที่โหมซัดอยู่ในร่างคล้ายหวาดกลัวจึงยอมถอยทัพกลับไปอยู่ในเม็ดยาพิษ
ฟู่เสวี่ยเยียนตกใจจนนิ่งค้าง