หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนพิเศษ 98-2 ตอนจบของเรื่องราว ความตายของจิตมาร
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนพิเศษ 98-2 ตอนจบของเรื่องราว ความตายของจิตมาร
ตอนพิเศษ 98-2 ตอนจบของเรื่องราว ความตายของจิตมาร
นางยัดรากปราณครึ่งนั้นกลับไปในจุดตันเถียนของตนเองใหม่อีกหน นางรีดแค้นพลังปราณเทพ อาการบาดเจ็บจึงฟื้นตัวด้วยความเร็วที่ตาเปล่ามองเห็น หญิงสาวฝ่าทะลุข่ายอาคมของอวิ๋นเยี่ย พลังปราณเทพอันน่าหวาดกลัวทะลวงโดมท้องฟ้าของแดนล่าง กฎสวรรค์ของแดนล่างทนรับพลังมหาศาลเช่นนี้มิไหว พสุธาแหวกออก ขุนเขาธารน้ำถล่มทลาย แดนล่างทั้งหมดสั่นไหวอย่างรุนแรง
“อ้ากกก!”
รอบด้านมีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังอื้ออึง
ไม่ว่าอย่างไรอวิ๋นเยี่ยก็มิใช่คนใจดำอำมหิต เขาเบิ่งตามองคนบริสุทธิ์มากมายถึงเพียงนั้นตายอนาถต่อหน้าต่อตาเขาโดยไม่ทำสิ่งใดมิได้ เขานำรากปราณกลับไปใส่คืนร่างหลิงจือเสร็จก็เหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า ใช้พลังของเทพธิดาหนี่ว์วาประคองแดนล่างที่กำลังจะถล่มเอาไว้
หญิงสาวหัวเราะเยาะ “ไร้เดียงสา!”
อวิ๋นเยี่ยเปลี่ยนพลังมากกว่าครึ่งกลายเป็นพลังของเทพธิดาหนี่ว์วาแล้ว เขาจึงไม่มีเวลารับมือกับหญิงสาวอีกต่อไป หญิงสาวเหาะเข้าไปหาหลิงจือ นางคิดจะแย่งรากปราณครึ่งหนึ่งกลับมา อวิ๋นเยี่ยเหลือพลังไม่มากแล้ว เขาเรียกกระบี่เทพธิดาหนี่ว์วาออกมา
พลังของกระบี่เทพธิดาหนี่ว์วาแข็งแกร่งอ่อนแอลงตามพลังของนายท่าน ขั้นพลังของอวิ๋นเยี่ยในตอนนี้ทำให้มันมิอาจสำแดงพลังสูงสุดออกมาได้
หญิงสาวเร่งเร้าพลังปราณสายฟ้าในร่างฉินหลิงเอ๋อร์ เรียกอสนีบาตสายหนึ่งมาผ่ากระบี่เทพธิดาหนี่ว์วากระเด็นออกไป
การปะทะกันอันรุนแรงระลอกนี้ทำให้พลังของเทพธิดาหนี่ว์วาในร่างอวิ๋นเยี่ยเริ่มปกป้องแดนล่างจากการล่มสลายที่กำลังมาเยือนไม่ไหว อวิ๋นเยี่ยรีบเพิ่มข่ายอาคมอีกหนึ่งชั้น ในขณะเดียวกันหญิงสาวก็ยื่นมือไปทางจุดตันเถียนของหลิงจือ
ในช่วงเวลาวิกฤตนั่นเอง เสียงมังกรคำรามดังกังวานพลันดังก้องมาจากขอบฟ้า!
ร่างของหญิงสาวชะงักกึก
มังกรมารน้อยผู้มาพร้อมกับเกล็ดดำขลับเป็นประกายทะยานเข้ามาในข่ายอาคมของอวิ๋นเยี่ย ข่ายอาคมนี้แม้แต่หญิงสาวก็ต้องสิ้นเปลืองพลังถึงสามส่วนเพื่อฝ่าออกไป ทว่านางกลับทะลวงเข้ามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้
สายตาปราศจากเจตนาดีของหญิงสาวจับจ้องบนร่างของมังกรมารน้อย มังกรมารน้อยตัวนี้แย่งชิงบุรุษที่แต่เดิมสมควรเป็นของนาง มันทำร้ายนาง เปิดโปงนาง ทำให้นางสูญเสียทุกสิ่งที่ตรากตรำตระเตรียมมา แล้วยังต้องทนรับมหาอัสนีวิบากแปดสิบเอ็ดหน
นางยังไม่ทันคิดบัญชีกับมัน มันก็พาตัวเองมาส่งถึงหน้าประตู!
มังกรคำรามดังกึกก้อง ขุนเขาธาราสั่นสะเทือน!
มังกรมารน้อยบินลงมาเบื้องหน้าหลิงจือ มันถลึงตาใส่หญิงสาวอย่างดุร้ายแล้วคำรามท้าทายอย่างเกรี้ยวกราด
หญิงสาวถูกสายลมแรงโหมใส่จนแทบลืมตาไม่ขึ้น นางใช้คาถาคลายแรงกดข่มจากมังกรมารน้อย มุมปากยกโค้ง “เจ้ามาพอดี วันนี้ข้าจะคิดบัญชีแค้นเก่าแค้นใหม่กับเจ้าพร้อมกันเสียเลย!
กล่าวจบนางก็ซัดพลังปราณสายฟ้าออกมาอย่างรุนแรง พลังฟาดใส่เขามังกรของมังกรมารน้อย
เขามังกรเป็นดั่งชีวิตของมังกรตัวหนึ่ง หากไร้เขามังกร มังกรตัวนั้นก็ไร้พลัง ทว่าพลังปราณสายฟ้าเล็กกระจ้อยร่อยสายเดียวคิดจะทำร้ายมังกรน้อยตัวนี้หรือ
เหอะ!
มังกรมารน้อยหนังตาไม่กระตุกสักนิด
อวิ๋นเยี่ยคิดว่ามันจะใช้กายเนื้อต้านรับพลังปราณสายฟ้าสายนี้ คิดไม่ถึงว่าชั่วพริบตาที่สายฟ้ากำลังจะปะทะร่าง มันกลับขยับตัวหายวับไป!
ทว่าอวิ๋นเยี่ยอยู่ด้านหลังของมันพอดี!
เปรี้ยงๆ! พลังปราณสายฟ้าฟาดลงกลางกระหม่อมของอวิ๋นเยี่ย อวิ๋นเยี่ยถูกผ่าจนหน้าดำไปทั้งหน้า
“…” อย่ารับมือกระบวนท่าของศัตรูเช่นนี้จะได้หรือไม่
มังกรมารน้อยปรากฏตัวก่อนจะแลบลิ้นใส่หญิงสาว หญิงสาวจึงส่งอสนีบาตไปผ่ามันอีกหน มังกรมารน้อยก็หายตัวไปอีกครั้ง สายฟ้าฟาดลงบนร่างอวิ๋นเยี่ยอีกหน หางของอวิ๋นเยี่ยดำเป็นตอตะโก
วิชาอำพรางกายวิชานี้เป็นสิ่งที่จอมมารสอนให้ สิ่งอื่นมังกรน้อยตัวแสบล้วนไม่ชอบเรียน แต่วิชานี้นางเรียนรอบเดียวก็ทำได้ มิใช่เพราะสิ่งใด เพราะว่าเรียนเป็นแล้วจะได้อำพรางกายไปมองเสี่ยวซิวได้ตลอดเวลาอย่างไรเล่า มองเสี่ยวซิวอาบน้ำ มองเสี่ยวซิวนอนหลับ แล้วก็มองว่าในกางเกงของเสี่ยวซิวซ่อนของอะไรไว้ด้วย!
แต่เดิมมังกรมารน้อยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหญิงสาว ทว่าประมือกันมาหลายกระบวนท่า หญิงสาวกลับเล่นงานมังกรมารน้อยไม่ได้ หญิงสาวมองรอบด้านอย่างหวาดระแวง จากนั้นกำหมัดอย่างเย็นชา “คิดว่าหลบข้าแล้ว ข้าจะทำอันใดเจ้ามิได้หรือ”
มือขวาของหญิงสาวมีพลังสีดำก้อนหนึ่งผุดขึ้นมา นางซัดพลังนั้นใส่หลิงจือ
มังกรมารน้อยปรากฏตัวแล้ว มันพ่นเพลิงมังกรออกมาเต็มพิกัด ขวางการโจมตีของหญิงสาวเอาไว้ได้ทันเวลา
ข้ากำลังรอเวลานี้อยู่เชียว!
ร่างกายของหญิงสาวเร็วดุจสายฟ้าแลบ เพียงไม่ถึงชั่วพริบตานางก็โผล่มาอยู่ด้านหลังมังกรมารน้อย ฟันดาบฉับเข้าที่เขามังกรของมังกรมารน้อย!
บึ้ม! ข่ายอาคมของอวิ๋นเยี่ยพังทลาย
พลังอันน่าหวาดหวั่นสายหนึ่งโถมเข้าชนอย่างรุนแรงประหนึ่งมังกรยักษ์เหินทะยาน
หญิงสาวถูกพลังสายนี้กระแทกเต็มรัก นางลอยไปชนกับเสาศิลาด้านหลัง กระดูกซี่โครงตรงหน้าอกหักไปสามท่อน นางทรุดลงไปกองกับพื้นแล้วกระอักเลือดออกมาทันที หญิงสาวหันไปมองก็เห็นหมิงซิวมาปรากฏตัวเหนือท้องนภาของแดนล่างตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ แดนล่างที่จวนเจียนจะพังทลายถูกเขาประคองให้มั่นคงอย่างง่ายดาย
เขาสวมอาภรณ์สีขาวยืนตระหง่านอยู่กลางฟ้า ใบหน้างามประหนึ่งหยกทำให้ขุนเขาธาราล้วนหม่นสี
หญิงสาวมองเขาอย่างเผลอไผล ทว่าดวงตาที่เขามองนางกลับมีแต่ความเย็นชา
นางรู้ว่าเขาคือใคร นางรู้มาตลอด
ยามที่เขาแอบมองนาง นางก็รู้
เขาเคยเห็นร่างจริงของนาง เขาคิดว่าผู้ที่อยู่เคียงข้างเขาริมสายธารสามวันสามคืนคือเสวี่ยหลันอี แต่ความจริงแล้วมิใช่ นั่นคือนางต่างหาก
หมิงซิวมองดวงตาแดงระเรื่อของนางอย่างเย็นชา บนใบหน้าไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อยนิด
มังกรมารน้อยเห็นหมิงซิวมาแล้ว นางจึงบินกลับไปซุกในอ้อมแขนหมิงซิวอย่างออดอ้อน นางกลายร่างเป็นมนุษย์ สองแขนกอดคอหมิงซิวแล้วฟ้องอย่างดุร้าย “นางชั่วร้ายเกินไปแล้ว! นางควักรากปราณของหลิงจือ!”
หมิงซิวมองเฉียวเวยเวยด้วยแววตาอ่อนโยน สายตานั่นทิ่มแทงหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บปวดรวดร้าว!
หมิงซิวหันไปมองนางอย่างเย็นชา ความอ่อนโยนในดวงตามลายหายสิ้น สิ่งที่มาแทนที่คือความเหินห่างและเย็นชาอันไร้ที่สิ้นสุด “ส่งรากปราณของหลิงจือมาเสีย แล้วก็ส่งกระจกปี้คงมาด้วย”
เฉียวเวยเวยยังซุกอยู่ในอ้อมแขนของหมิงซิว นางฟังคำพูดของหมิงซิวจบก็หันไปมองหญิงสาว คิ้วน้อยๆ ขมวดมุ่น “กระจกน้อยก็อยู่กับเจ้าด้วยหรือ”
หญิงสาวถูกภาพนี้ทิ่มแทงจนเจ็บปวดแสนสาหัส ความริษยาโถมซัดดุจเกลียวคลื่น มุมปากของนางหยักยิ้ม “ใช่ อยู่ที่ข้าแล้วจะทำไม เก่งนักเจ้าก็มาแย่งไปสิ”
“เอาก็เอาสิ! เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ!” เฉียวเวยเวยกล่าวจบก็พลันกลายร่างเป็นมังกรน้อย ทะยานเข้าไปหาหญิงสาว
หญิงสาวรอจังหวะนี่อยู่แล้ว มุมปากของนางบิดออกเป็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม หากต่อสู้กัน หมิงซิวย่อมไม่กลัวนาง ไม่ว่านางจะโจมตีมังกรน้อยอย่างไร เขาก็มีหนทางทำให้อันตรายหมดไปได้ ทว่ารอยยิ้มนี้ของนางทำให้หมิงซิวตระหนักว่านางไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้น
หรือนางคิดจะ…
“กลับมา!” หมิงซิวตะโกนดังลั่น
แต่สายไปแล้ว
ร่างของหญิงสาวกลายเป็นลำแสงสายหนึ่งมุดเข้าไปในกระจกปี้คง
มังกรมารน้อยเห็นนางเหาะเข้าไปจึงแค่นเสียงหยันอย่างเย็นชาคำหนึ่งแล้วเหาะตามเข้าไปด้วย
กระจกปี้คงร่วงลงบนพื้น ปราณมารมหาศาลเริ่มแผ่ออกมา
อวิ๋นเยี่ยสังหรณ์ร้าย “แย่แล้ว นางกลืนกินพลังของผานกู่ต้าตี้อยู่ นางคิดจะเซ่นสังเวยโลหิตของตนเองผนึกกระจกปี้คงไปชั่วนิรันดร์!”
หากกระจกปี้คงถูกผนึก มังกรน้อยก็จะออกมาไม่ได้อีกต่อไป
ไม่มีผู้ใดรอดอยู่ในกระจกปี้คง ร่างกายของนางจะถูกกลืนกิน จิตตั้งต้นของนางจะถูกทำลายหมดสิ้น
หญิงสาวโหดเหี้ยมนางนี้ คิดวิธีชั่วร้ายเช่นนี้ออกมาเพื่อลงทัณฑ์บุรุษที่นางมิอาจครอบครอง ให้หมิงซิวได้ลิ้มรสความทรมานที่รักแต่มิอาจได้มาครอบครอง
บานกระจกของกระจกปี้คงค่อยๆ ถูกแช่แข็งไปทีละนิด เมื่อกระจกปี้คงถูกแช่แข็งจนสมบูรณ์ ต่อให้จอมมารรีบเร่งเดินทางมาถึงก็ไร้หนทางแก้ไขเรื่องราวแล้ว
อวิ๋นเยี่ยส่งพลังของเทพธิดาหนี่ว์วาสายหนึ่งออกมา พยายามขวางการผนึกของหญิงสาว ทว่าพลังของเขาถูกผนึกสูบเข้าไปจนหมด บานกระจกถูกแช่แข็งรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
อวิ๋นเยี่ยหันไปมองหมิงซิว
หมิงซิวปลดป้ายเจ้าตำหนักที่เอวออกมา เขามองอวิ๋นเยี่ยด้วยแววตาซับซ้อนแล้วไม่พูดพร่ำไร้สาระแม้แต่คำเดียว เขาเพียงวางป้ายลงบนมืออวิ๋นเยี่ย “นับจากวันนี้ไป เจ้าคือเจ้าตำหนักเมฆารุ่นที่สิบแปด ฝากตำหนักเมฆาไว้กับเจ้า แล้วก็ฝากน้องสาวไว้กับเจ้าด้วย”
อวิ๋นเยี่ยตกตะลึง “พี่ใหญ่!”
ร่างของหมิงซิวกลายเป็นแสงสีทองเหาะหายเข้าไปในกระจกปี้คงอย่างไม่ลังเล
ปฏิทินสวรรค์ ปีที่เก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบแปด
เล่ากันว่า
นายน้อยแห่งเผ่ามารสิ้นชีวิต
ตราพญาเทพดับสูญ