หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก - ตอนที่ 370-1 ช่วยเหลือสำเร็จ รักษาอินทรีทอง (2)
ตอนที่ 370-1 ช่วยเหลือสำเร็จ รักษาอินทรีทอง (2)
จิ่งอวิ๋นกับหลิวเกอร์ตากลมเย็นยามราตรีนานเกินไป ตื่นเช้ามาเลยจามไม่หยุด เฉียวเวยเลยไปขอลาหยุดที่สำนักศึกษาให้สามสี่วัน
อธิการรู้สึกผิดมากที่นักเรียนทั้งสองหายตัวไปจาสำนักศึกษา เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายวางแผนมาแล้ว ยังคิดว่าเป็นพวกโจรกระจอกในเมืองหลวงคนใดกินดีหมีเข้าไป จะมาจับเด็กจากสำนักศึกษาไปขาย เฉียวเวยไม่สะดวกจะบอกเล่าสาเหตุให้อีกฝ่ายฟัง เลยโยความผิดให้ “โจรกระจอก” นั้นไป ทั้งยังบอกด้วยว่า “โจรกระจอก” นั่นถูกจีหมิงซิวจัดการไปแล้ว ทางสำนักศึกษาไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลอีก
เมื่อเป็นเช่นนี้ อธิการจึงโล่งอก เขายังกลัวว่าเฉียวเวยจะด่าว่าเรื่องจับตัวเด็กไปให้สักยกเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะเข้าอกเข้าใจง่ายเช่นนี้ เรื่องที่จะขอลาหยุด อธิการจึงตอบรับทันที ทั้งยังบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องบทเรียน ทางสำนักศึกษาจะจัดหาอาจารย์มาสอนเสริมให้
เฉียวเวยขอบคุณอธิการแล้วลุกขึ้นขอตัวกลับ
เรื่องที่ถูกลักพาตัวไปครั้งนี้ ไตร่ตรองโดยละเอียดแล้วจะโทษสำนักศึกษาก็ไม่ได้จริงๆ วรยุทธ์ของชางจิวแทบจะสูสีคู่คี่กับอาจารย์ตาฮั่ว ยอดฝีมือเช่นนี้ องครักษ์ทั่วไปจะขวางเขาอยู่ได้อย่างไร
สำนักศึกษาอย่างไรก็ต้องไป หนังสืออย่างไรก็ต้องเรียน จะไม่ออกไปไหนเลยเพราะเป็นกังวลว่าจะถูกจับตัวไปคงไม่ได้ อย่างมากหลังจากนี้ต้องลำบากอาจารย์ตาฮั่วหน่อยก็เท่านั้น
อาจารย์ตาฮั่วที่จะถูกรบกวนนั้นเวลานี้กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นอันอบอุ่น หลังจากได้นั่งบนเจ้าเก้าอี้นี่มาหลายวัน ชายชราอย่างเขาก็แทบจะติดใจเจ้าเก้าอี้ช่วยเดินนี้ไปแล้ว ยามว่างไม่มีอะไรก็มานั่งสักหน่อย ไม่เพียงแค่เขาที่นั่ง กระบี่เขาเองก็นั่ง ทุกวันนี้เพิ่มจูเอ๋อร์เข้ามาอีกคน เก้าอี้รถเข็นสามตัววางเรียงกันอยู่ในสนามของสวนดอกไม้ หนึ่งคน หนึ่งกระบี่ หนึ่งวานรนั่งหน้าพริ้มเรียงแถวกัน เรียกได้ว่าเป็นภาพที่งดงามมากทีเดียว
เด็กน้อยทั้งสามที่ลาหยุดนี้ก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ คอยแวะเวียนไปดูแลอินทรีทองกันเป็นประจำ แน่นอนว่าถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังเด็ก ที่บอกว่าดูแลนั้นก็เพียงป้อนอาหาร ช่วยกันหาเห็บเท่านั้น แต่เพราะนี่เป็นอินทรีทองที่รักสะอาด พวกเขาจึงหาไม่เจอกระทั่งเพลี้ยสักตัว
อินทรีทองนั้นกินจุมาก ครั้งหนึ่งกินหัวแพะได้ครึ่งหัวเลยทีเดียว แต่มันไม่ได้ต้องกินทุกมื้อ โดยเฉพาะในช่วงนี้ทั้งท้อง ขาขวาและปีกซ้ายถูกพันไว้จนไม่สามารถทำอะไรที่เปลืองแรงได้ อาหารมื้อหนึ่งจึงอยู่ได้ยาวนานขึ้น
อินทรีทองในความทรงจำของเฉียวเวยเป็นสัตว์ที่ดุร้าย มันไม่เพียงกินลูกแพะ แต่ยังกินหมาป่าอีกด้วย แต่อินทรีทองตัวนี้คล้ายถูกคนฝึกสอนมาก่อน จึงเชื่องมาก นิสัยก็อ่อนโยนอย่างหาได้น้อยนัก มันไม่เพียงยอมให้เด็กทั้งสามที่ป้อนอาหารมันเข้าใกล้ แม้แต่สาวใช้ในบ้านชิงเหลียนก็ยังลูบปีกมันได้
ตอนต้าไป๋มาใหม่ๆ มันกัดคนไปตั้งมากมาย ตอนจูเอ๋อร์มาใหม่ๆ ก็ขโมยของไปไม่น้อย แล้วดูอินทรีทองของคนอื่นสิ หากไม่เปรียบเทียบคงไม่รู้เลยจริงๆ
วันนี้ยามเที่ยงวัน เจ้าสัตว์น้อยทั้งสามก็มาให้อาหารมันเช่นกัน
ต้าไป๋จับหนูนาได้ตัวหนึ่ง ยื่นอุ้งมือออกไปส่งให้มัน
มันกินหนูนาตัวนั้นลงไป
จูเอ๋อร์จับนกกระจอกได้ตัวหนึ่ง ยื่นอุ้งมืออกไปส่งให้มัน
มันก็กินนกกระจอกตัวนั้นลงไป
เสี่ยวไป๋จับงูพิษตัวอวบเนื้อแน่นมาได้ตัวหนึ่ง ยื่นอุ้งมือส่งไปให้มัน
มันงาบเสี่ยวไป๋เข้าไปในคำเดียว!
เสี่ยวไป๋: …
งูพิษต่างหากที่เป็นอาหาร! ข้าไม่ใช่เสียน้อย!
อินทรีทองเคี้ยวไปสองทีแล้วรู้สึกกุกกักในลำคอ มันเลยบ้วนเสี่ยวไป๋ออกมา!
เสี่ยวไป๋ร้องไห้จ้า เหตุใดคนที่เคราะห์ร้ายต้องเป็นข้าอยู่เรื่อย…
เสี่ยวไป๋เกลียดการอาบน้ำ แต่ที่เกลียดยิ่งกว่าก็คือน้ำลายของนกยักษ์!
ปี้เอ๋อร์หิ้วน้ำถังหนึ่งเข้ามาด้วยความขบขัน เสี่ยวไป๋กระโดดลงไปอย่างยอมรับชะตากรรม
พูดอย่างไม่เกินความจริงสักนิด ตั้งแต่มีอินทรีทองมา เสี่ยวไป๋จากเดิมที่หลีกหนีการอาบน้ำมาตลอด ก้กลายเป็นเด็กน้อยน่ารักที่อาบน้ำทุกวันไปเลย!
…
เสี่ยวไป๋อาบน้ำเสร็จ ในใจชอกช้ำอย่างหนัก มันสะบัดหยดน้ำตามตัวออกแล้ววิ่งเข้าห้องไปตามหาเฉียวเวย
เฉียวเวยกำลังปรุงยาให้อินทรีทองอยู่ เสี่ยวไป๋วิ่งเข้ามากระตุกขากางเกงนาง เฉียวเวยเลยบอกว่า “อย่าซน”
เสี่ยวไป๋ยังคงกระตุกต่อ ข้าน้อยอยากถูน้อง!
เฉียวเวยจับตัวมันขึ้นมา “จะถูน้อง?”
เสี่ยวไป๋พยักหน้า
เฉียวเวยยิ้มบางๆ “ถูของผู้ใด จีหมิงซิวหรือว่าหมิงเยี่ย นกเขาของพวกเขาอันที่จริงก็ไม่ได้น่าถูสักเท่าไร สู้ถูของนายท่านก็แล้วกัน นายท่านนกเขาใหญ่”
เสี่ยวไป๋พลันตาเป็นประกาย!
เฉียวเวยเอ่ยกับคนหน้าประตูว่า “เอาล่ะ ยกเข้ามาให้หมดเถิด”
ไม่นาน ปี้เอ๋อร์ เยียนเอ๋อร์และฉานเอ๋อร์ก็ยกกรงนกสิบกว่ากรงเข้ามา แต่ละกรงเลี้ยงนกแก้ว นกขุนทองและนกฮวยบี๊เอาไว้หลายตัว เรียกได้ว่าตัวใหญ่มากทีเดียว
เฉียวเวยระบายยิ้มหยาน “เอาล่ะ เจ้าค่อยๆ ถูนะ! ข้าไม่อยู่รบกวนแล้ว”
เสี่ยวไป๋: …
…
ช่วงที่อินทรีทองพักรักษาตัวนี้ ฟู่เสวี่ยเยียนจะมาเยี่ยมมันทุกวัน ทุกครั้งที่ฟู่เสวี่ยเยียนลูบศีรษะมัน นัยน์ตามันจะมีแววรักใคร่และไหลหลงทุกครั้งไป
เฉียวเวยถือกล่องยาเดินเข้ามา “มันชอบเจ้ามาก”
ขนตาฟู่เสวี่ยเยียนพลันสั่นไหว ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปยังกล่องยาของเฉียวเวย “จะทำแผลหรือ”
เฉียวเวยย่อตัวลงมา เปิดกล่องออก “วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ทำแผลเสร็จพรุ่งนี้ก็เอาผ้าพันแผลทั้งหมดออกได้แล้ว”
ฟู่เสวี่ยเยียนช่วยกันกับนางดึงผ้าพันแผลออก “พรุ่งนี้ก็น่าจะหายแล้วกระมัง”
เฉียวเวยเอายามาทาบางๆ ลงบนแผลที่เกือบหายสนิทแล้ว “น่าจะไม่เป็นอะไรมากแล้ว ข้าดูมันกระปรี้กระเปร่าดีมาก หวังว่าจะไม่ทิ้งแผลเรื้อรังอะไรไว้ อินทรีทองประเภทนี้ไม่ใช่สายพันธุ์ในจงหยวน คล้ายมาจากชนเผ่าลึกลับ ไม่รู้ว่าบินจากเกาะนิรนามมาถึงที่นี่ได้อย่างไร”
“เช่นนั้นหรือ” ฟู่เสวี่ยเยียนพึมพำเสียงเบา
เฉียวเวยลูบแผงคออินทรีทอง “อีกอย่าง มันเชื่องเพียงนี้ น่าจะเคยผ่านการฝึกมาก่อน อินทรีทองชั้นดีเพียงนี้มาหายไป เจ้าของมันคงเสียใจแย่”
ฟู่เสวี่ยเยียนบอกว่า “ขอเพียงมันหายดี ก็ไม่เสียใจ”
“เจ้าว่าอะไรนะ” เฉียวเวยฟังไม่ถนัด
ฟู่เสวี่ยเยียนเอาผ้าพันแผลที่แกะออกมาวางลงบนโต๊ะหินที่สะอาด “ไม่มีอะไร ข้าเริ่มง่วงแล้ว ขอตัวกลับไปพักก่อน”
เฉียวเวยมองนางทีหนึ่ง นางสวมกระโปรงเอวสูง จึงมองตรงหน้าท้องไม่ออก แต่อีกไม่นานเท่าไร กระโปรงตัวกว้างเพียงใดก็คงปิดบังท้องของนางไว้ไม่ได้
“นางยักษ์!”