หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 207 ล่อลวงผู้ใด
ตอนที่ 207 ล่อลวงผู้ใด?
หลงจู๊ฟางขมวดคิ้วแล้วพยายามครุ่นคิด แต่ยังคิดไม่ออกหลินเว่ยเว่ยก็ส่งสัญญาณให้เขาโดยหันไปทางหนิงตงเซิ่ง
“อ้อ…ที่ท่านพูดคือร่วมมือกับร้านขายขนมและผลไม้อบหนิงจี้เพื่อเปิดตัวของหวานหลังมื้ออาหารใช่หรือไม่ ? ” หลงจู๊ฟางเผยสีหน้าเข้าใจออกมา
หลินเว่ยเว่ยพยักหน้าแล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ใช่ ! แค่ไม่กี่เดือนขนมร้านตระกูลหนิงก็ยืนหยัดได้อย่างมั่นคงในอำเภอเป่าชิง ไม่ว่าด้านรสชาติหรือรูปลักษณ์ก็ไม่เหมือนของร้านอื่น ดูแถวยาวหน้าร้านเขาก็รู้แล้ว ถ้าหยวนเค่อหลายร่วมมือกับตระกูลหนิง สองฝ่ายย่อมมีแต่ได้กับได้ ! ”
ถูกต้อง ถ้าหยวนเค่อหลายรับขนมจากร้านขายขนมและผลไม้อบหนิงจี้ก็จะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่รักขนมร้านตระกูลหนิงมาที่ร้านได้ การที่หยวนเค่อหลายเปิดตัวของหวานหลังมื้ออาหารก็ยังสร้างชื่อเสียงให้ร้านตระกูลหนิงด้วย ถ้าไม่เรียกว่ามีแต่ได้กับได้จะเรียกว่าอะไร ?
รองเจ้าของร้านหยวนเค่อหลายอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “น้องหนิง ถ้ากู่เหนียงอยากเข้ามาในวงการค้าขายล่ะก็ เราสองคนคงมีศัตรูตัวฉกาจเพิ่มมาอีกคนแน่นอน ! ”
“เหตุใดไม่เรียกหุ้นส่วนที่ดีแทนศัตรูตัวฉกาจ ? ” หลินเว่ยเว่ยยิ้มมุมปาก “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะเข้าวงการค้าขายเพราะที่บ้านเดินบนเส้นทางเกษตรกร”
เป็นเกษตรกรและไม่ได้เข้ามาแย่งรายได้ของเจ้าเลยสักนิด ชั่วอึดใจเดียวก็ได้เงินเข้ากระเป๋ากว่า 2,500 ตำลึง แค่ความรวดเร็วในการหาเงินนี้ก็ทำให้คนอยากเข้ามาประจบแล้ว !
ตอนออกมาจากหยวนเค่อหลายก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว หลินเว่ยเว่ยอ้าปากหาวพลางทุบไหล่ไปด้วย จากนั้นนางก็กล่าวว่า “วันนี้เหมือนไปรบกับใครมาไม่มีผิด ไม่มีเวลาให้ว่างเลยสักนิด…”
เจียงโม่หานเหลือบมองนาง เรียกว่าต่อสู้อันใดกัน เจ้าไปต่อสู้มาจริง ๆ ต่างหาก แถมยังเป็นมนุษย์โอสถที่ฟันแทงไม่เข้าอีกด้วย !
หนิงตงเซิ่งคลี่ยิ้ม “ข้าจองโรงเตี๊ยมด้านหน้าไว้แล้วเพื่อเปิดห้องให้หลินกู่เหนียงและทั้งสองท่านจำนวนสามห้อง เดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว…”
พวกหลินเว่ยเว่ยไม่ทันระวังก็กินจนแน่นท้องจึงเดินเล่นบนถนนต่ออีกสักพัก หลังจากหลินเว่ยเว่ยขอบคุณหนิงตงเซิ่งแล้วก็พูดกับเจียงโม่หานว่า “คุณชายหนิงคิดได้รอบคอบมาก นิสัยก็ดี ผู้ชายอบอุ่นใครได้เป็นสามีจะต้องมีความสุขมากแน่นอน ! ”
ฝีเท้าของเจียงโม่หานหยุดเดินทันที ดวงตาจับจ้องไปที่หลังศีรษะของนาง เด็กคนนี้หมายความว่าอย่างไร ? ชอบเจ้าแซ่หนิงแล้วหรือ ? ต้องทำอย่างไรเล่า? เขา…ในฐานะที่เขาเป็นพี่ชายของเด็กตัวแสบต้องคอยตรวจสอบให้นาง !
ชายแซ่หนิงมีอันใดดี ? ดูสิ ! ดวงตาดอกท้อคู่นั้นแค่มองก็รู้ว่าโปรยเสน่ห์ไปทั่ว แถมยังชอบยิ้มให้ตนดูหล่อเหลาตลอด จะล่อลวงผู้ใด ? อีกอย่างแม้ว่าตระกูลหนิงมียศศักดิ์ แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ตระกูลพ่อค้า เจ้าแซ่หนิงก็เป็นแค่บุตรชายของอนุภรรยา ให้มองอย่างไรก็ไม่คู่ควร !
เขารีบเดินตามไปสองก้าว เมื่อเข้าไปยืนด้านข้างหลินเว่ยเว่ย แล้วเขาก็กล่าวออกมาเบา ๆ “เวลามองคนจะมองแค่รูปโฉมภายนอกไม่ได้ บางคนดูอบอุ่นใจดีเวลาอยู่ข้างนอก แต่พอกลับบ้านแล้วระบายโทสะใส่คนในครอบครัว ทุบตีภรรยา ข่มเหงบุตรราวกับเป็นคนละคน! ทว่ามีคนบางกลุ่มที่ภายนอกดูเข้าถึงยากแต่สลักชื่อลูกเมียไว้ที่กระดูก ยอมโดนคนในครอบครัวด่าว่าตามใจชอบ ! ”
ผู้ที่เขากล่าวถึงคือคนที่เคยเห็นในอดีตชาติ แต่หลินเว่ยเว่ยเข้าใจผิดไปในทางอื่น นางฉีกยิ้มหวานจนตาเป็นเสี้ยวพระจันทร์ จากนั้นก็ย้อนถามว่า “บัณฑิตน้อย เจ้ากำลังสื่อถึงอะไร ? ”
ใบหน้าของเจียงโม่หานแข็งทื่อทันที “สื่ออะไร ? ผู้ที่อยู่นอกบ้านและในบ้านทำตัวไม่เหมือนกัน ข้าเห็นมาเยอะแล้ว ก็แค่อยากเตือนเจ้าไว้เท่านั้น ! ”
“เตือนข้า ? ไม่จำเป็นหรอก ข้าไม่ได้คิดอันใดกับเขาเสียหน่อย!” หลินเว่ยเว่ยยักไหล่ สองมือไพล่หลังเลียนแบบท่าทางของบัณฑิตหนุ่มแล้วเดินต่อไปด้านหน้า
เจียงโม่หานหมดถ้อยคำที่จะกล่าวออกมา เด็กประหลาดนี้จะมีคนแบบใดทนนางได้ ? ชอบทำให้ผู้อื่นเป็นห่วงเก่งนัก !
หนิงตงเซิ่งพาทั้งสามคนไปส่งที่โรงเตี๊ยมและบอกลาอย่างรู้ความ “ทั้งสามท่านคงเหนื่อยมากแล้ว รีบพักผ่อนเถิด ! พรุ่งนี้ข้าจะสั่งให้คนมารับพวกท่านออกนอกเมือง ! ”
หลินเว่ยเว่ยก็ไม่เกรงใจ “คุณชายหนิงคิดได้รอบคอบมาก ถ้าเช่นนั้นพวกเราไม่เกรงใจท่านแล้ว คุณชายหนิง ราตรีสวัสดิ์ ! ”
หลังกล่าวจบนางก็โบกมือให้หนิงตงเซิ่งแล้วหมุนตัวเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมทันที เป็นเวลา 2 วัน 1 คืนที่ไม่ได้อาบน้ำ วันนี้ยังไปต่อสู้มาอีก ตัวเหม็นจะตายอยู่แล้ว รีบผสมน้ำร้อนอาบหน่อยดีกว่า !
คุณชายหนิงมองตามแผ่นหลังของหลินเว่ยเว่ยที่ค่อย ๆ หายขึ้นไปบนบันไดแล้วปากถึงจะพึมพำออกมาว่า “ราตรีสวัสดิ์…”
ถ้อยคำเมื่อครู่ของหลินเว่ยเว่ยกับเจียงโม่หาน เขาพอได้ยินอยู่บ้าง หลินกู่เหนียงชมว่าเขาเป็นคนอบอุ่นและยังบอกว่าใครแต่งกับเขาจะต้องมีความสุขมาก นี่ทำให้หัวใจอดมีความหวังขึ้นมาไม่ได้…บางที ถ้าเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับหลินกู่เหนียงอีกหน่อย ทำให้นางรู้จักตัวตนมากขึ้นก็คงมีหวังมากเรื่อย ๆ
แต่คำพูดประโยค ‘ไม่ได้คิดอันใดกับเขา’ ของหลินเว่ยเว่ยเหมือนสาดน้ำเย็นใส่เขาอีกครั้ง…นางไม่ได้คิดว่าตัวเขาดีมากหรือ ? แล้วเหตุใดไม่ยอมให้โอกาสกันเลย ?
ไม่ ! โอกาสเป็นสิ่งที่ควรไขว่คว้ามาด้วยตนเอง ถ้าไม่พยายามสักครั้งต้องทำให้เขาเสียใจไปชั่วชีวิต ! หนิงตงเซิ่งกำหมัดแน่นพลางให้กำลังใจตัวเอง !
“พี่รอง คุณชายหนิงดีต่อท่านถึงเพียงนี้ เขาคงไม่ได้คิดอันใดหรอกกระมัง ? ” ยิ่งคิดหลินจื่อเหยียนก็ยิ่งรู้สึกว่าผิดปกติ เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าหนิงตงเซิ่งขยันเอาใจพี่รองมากเกินจำเป็น ?
หลินเว่ยเว่ยหันไปเขกศีรษะน้องชาย “เขาต้องคิดอยู่แล้ว ! เขาอยากกล่อมให้พี่รองของเจ้ายอมขายสูตรอีกหลาย ๆ สูตรอย่างไรเล่า ! ดูเจ้าสิ อายุแค่นี้ไม่ยอมตั้งใจเรียน ในสมองเต็มไปด้วยสิ่งใดนัก ? ”
หลินจื่อเหยียนลูบหน้าผากที่เริ่มแดงของตนแล้วบ่นว่า “ไอหยา เหมือนจะบวมด้วย พี่รองนี่จริง ๆ เลย ไม่รู้หรือว่าตัวเองแรงเยอะ กลัวข้านอนไม่หลับจึงอยากตีให้สลบใช่หรือไม่?”
ขณะเดินผ่านเขาไป เจียงโม่หานก็ทิ้งถ้อยคำแสนเย็นชาไว้สั้น ๆ “ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปการศึกษาทุกอย่างเพิ่มเป็นเท่าตัว ! ”
หลินจื่อเหยียนคร่ำครวญทันที “ศิษย์พี่เจียง ท่านไม่ได้บอกว่าเรียนและพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีกว่าไม่ใช่หรือ ? แล้วเหตุใดถึงเปลี่ยนใจเสียได้ ? ”
เมื่อเข้าห้องพักแล้วเจียงโม่หานก็ปิดประตู ทว่าคำพูดประโยคเดียวก็ทำให้หลินจื่อเหยียนหัวหมุนได้แล้ว “เรียนด้วยพักผ่อนด้วยก็เพราะเหลือเวลาให้เจ้าคิดทบทวน ไม่ได้เอาไว้ให้สมองของเจ้าเต็มไปด้วยเรื่องไร้สาระ ! ”
“ข้าผิดอันใด ? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าคุณชายหนิงคิดบางอย่างกับพี่รอง นอกจากคนตาบอดเท่านั้นที่มองไม่ออก ! เหตุใดแต่ละคนต้องทำโทษข้าด้วย คนหนึ่งลงโทษด้วยกำลัง คนหนึ่งลงโทษด้วยตำรา ร่วมมือกันได้ดีเสียจริง ! ” หลินจื่อเหยียนบ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจ
“สามเท่า ! ” เสียงของเจียงโม่หานดังทะลุประตูออกมา หลินจื่อเหยียนจึงรีบหุบปากทันทีแล้วรีบวิ่งเข้าห้องของตน หลังกระโดดขึ้นเตียงนิ่มก็นอนหลับภายในไม่กี่อึดใจ…เวลา 2 วัน 1 คืนที่ผ่านมาทรมานเด็กน้อยคนหนึ่งมากเกินพอแล้ว
หลินเว่ยเว่ยให้เงินค่าเหนื่อยแก่พนักงาน 10 อีแปะเพื่อให้เขาต้มน้ำแล้วยกไปไว้ที่ห้องอาบน้ำ พนักงานบ่นในใจ ‘ปีแห่งภัยแล้งเช่นนี้ มีพื้นที่มากมายไม่มีแม้แต่น้ำดื่ม นางยังจะเรื่องมากอีก’ ทว่าเพื่อเงิน 10 อีแปะ เขาก็อดทนทำตามคำสั่ง
น้ำร้อนที่พนักงานยกเข้ามาเพียงพอให้นางเช็ดตัวเท่านั้น หลินเว่ยเว่ยจึงจัดการตัวเองง่าย ๆ นางเข้าไปในมิติน้ำพุวิญญาณแล้วลงไปว่ายน้ำเล่นอย่างมีความสุข ขณะเดียวกันก็ถือว่าได้สระผมไปด้วย โคลนบนตัวก็โดนล้างออกไม่น้อย ให้ตายสิ…นางไม่เคยสกปรกเช่นนี้มาก่อน !