หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 44 หมาป่าได้รับบาดเจ็บ
ตอนที่ 44 หมาป่าได้รับบาดเจ็บ
นางหวงเดินเข้ามาเพื่อช่วยบุตรีถือถังน้ำ แต่อีกฝ่ายเบี่ยงหลบเพื่อไม่ให้มารดาต้องยกของหนัก หมอเหลียงบอกว่าตอนนี้ท่านยังไม่สามารถทำงานหนักได้ ท่านไปนั่งใต้ร่มไม้เถิด ด้านนี้ข้าจัดการเองเจ้าค่ะ !
หากไม่ให้แม่แบกถังน้ำ เช่นนั้นก็ให้แม่ช่วยเจ้ารดน้ำดีหรือไม่ ? นางหวงรู้สึกสงสารบุตรสาวจับใจที่ต้องมาทำงาน ทั้งที่ทุกคนในบ้านควรช่วยกันทำ ดังนั้นนางจึงอาสาช่วยบุตรสาวรดน้ำแทน
ท่านแม่ หากท่านเป็นลมแดดขึ้นมา เช่นนั้นร่างกายที่เฝ้าบำรุงมาโดยตลอดก็จะไม่เป็นการเสียเปล่าหรือ เช่นนี้ไม่ได้เรียกว่าช่วยแต่อาจเพิ่มความวุ่นวายก็ได้ ! หลินเว่ยเว่ยยังคงยืนกรานที่จะไม่ยอมให้มารดาช่วย เพราะถ้ามารดาคอยตามติดเช่นนี้ นางจะแอบเอาน้ำจากมิติน้ำพุวิญญาณออกมาได้เช่นไร ?
หากต้องให้ขึ้นลงภูเขาไปตักน้ำมารดแปลงนาทั้งแปลง มันคงทำให้เหนื่อยแย่ ดังนั้นนางจึงชอบมารดน้ำตอนเช้าตรู่ หรือไม่ก็ชอบมาตอนฟ้ามืดที่ชาวบ้านยังไม่ลงนา นางรดด้วยน้ำในถังเพียงครึ่งแปลงเท่านั้น นอกนั้นจะนำน้ำในมิติน้ำพุวิญญาณมารดแทน นี่จึงเป็นสาเหตุว่าเหตุใดพืชพันธุ์ของบ้านนางจึงเติบโตได้ดีกว่าบ้านอื่น !
นางหวงกำลังอยากกล่าวบางอย่าง แต่ป้ากุ้ยฮวาที่อยู่แปลงนาด้านข้างก็โน้มน้าวขึ้นว่า ลูกรักของเจ้ามีจิตใจกตัญญูยิ่งนัก เจ้าก็ฟังนางเถิด ! อย่าตามติดนางเลย ประเดี๋ยวเจ้าจะหมดสติเอาได้ !
ที่ดินสามหมู่เหลือที่ว่างไม่เท่าไรแล้ว หลินเว่ยเว่ยใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วยามก็รดน้ำเสร็จ หลังจากที่นางรดน้ำเสร็จก็ถือถังน้ำแล้วประคองนางหวงกลับบ้าน
นางหวงเห็นแปลงนาของครอบครัวอื่นก็ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจออกมา แม่กลัวว่าผลผลิตปีนี้จะน้อยกว่ารอบที่แล้ว หากทางการไม่ยอมลดหย่อนภาษีให้ พวกเราก็คงต้องใช้ผลผลิตหน้าหนาวจ่ายแทนภาษี หากเป็นเช่นนั้นพวกเราต้องประหยัดให้มากกว่านี้ !
หลินเว่ยเว่ยจึงกล่าวว่า ท่านแม่ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปขุดหาผักป่าและขึ้นไปล่าสัตว์มาทำอาหารให้ท่านเอง ครอบครัวของเราจะได้มิต้องอดอยาก !
นางหวงคิดแล้วจึงกล่าวว่า ในช่วงที่เกิดสงคราม ทั้งผักป่า รากสมุนไพรรวมถึงเปลือกไม้สามารถช่วยชีวิตมนุษย์เอาไว้ได้ ! เช่นนั้นให้แม่ขึ้นไปบนภูเขากับเจ้าเถิด แม่จะได้ช่วยเจ้าหาผักป่า
‘เอาล่ะ ที่ท่านแม่ทำเช่นนี้คงเพราะอยากจับตาดูนางเพื่อไม่ให้เข้าไปในป่าลึกสินะ ! ’ ทว่าเพื่อทำให้มารดาสบายใจ นางจึงไร้ทางเลือกอื่นนอกจากแบกกระบุงขึ้นหลังแล้วประคองมารดาก่อนจะไปรับน้องเล็กแล้วทั้งสามคนก็พากันขึ้นไปบนภูเขา
นี่ก็เข้าช่วงเดือนห้าแล้ว หลังจากเดินได้ไม่กี่ก้าว พวกนางก็เหงื่อท่วมตัว พอสามแม่ลูกขึ้นมาบนภูเขา ทันใดนั้นสภาพอากาศก็แปรเปลี่ยนไปราวกับเพิ่งหลุดจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง ร่มไม้ช่วยบดบังแสงอาทิตย์ขจัดความร้อนออกไป แม้แต่ลมที่พัดผ่านมายังเย็นสบาย เจ้าหนูน้อยจึงตั้งใจเกี่ยวหญ้าไปให้กระต่ายอย่างขยันขันแข็ง !
เมื่อขึ้นเขาไปอีกหน่อยก็สามารถเห็นต้าเอ๋อร์เหมาขึ้นเป็นกระจุกแทบทุกที่ ดูเหมือนชื่อวิทยาศาสตร์ของมันคือซัลโซลา ผักป่าชนิดนี้สามารถนำมาทำเป็นเครื่องเคียงและสามารถทำไส้ซาลาเปาได้ด้วย ทว่าพวกมันส่วนใหญ่เป็นต้นแก่แล้ว พวกนางจึงเด็ดเพียงยอดใหม่ไปไม่กี่ต้น
นอกจากนี้ยังมีชื่ออู่เจียหรือโสมไซบีเรีย, หลิวฮ่าวหยา, หมาฉื่อเซี่ยน1และพัวพัวติงหรือแดนดิไลออน2…พอเดินเข้ามาลึกอีกหน่อยก็เหมือนไม่เคยมีผู้ใดเข้ามา เพราะสามแม่ลูกสามารถเห็นผักป่าขึ้นกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง นางหวงนั่งยองแล้วเก็บผักป่าอย่างมีความสุขและเพราะครั้งนี้มีมารดากับน้องชายมาด้วย ขณะที่หลินเว่ยเว่ยเก็บต้นผักป่าจึงคอยระวังอยู่เสมอ เกรงว่าสัตว์ป่าอาจออกมาทำร้ายคนสำคัญที่สุดของนาง
ใช่แล้ว ในชาตินี้นางมีครอบครัวที่ต้องดูแล นางต้องปกป้องครอบครัวอย่างสุดความสามารถและต้องปกป้องความสุขของนาง !
นางหวงเก็บผักป่าอย่างมีความสุขกระทั่งพวกนางเข้าใกล้แถบป่าลึกโดยไม่รู้ตัว ยิ่งพวกนางเข้าไปลึกมากเท่าไร ผักป่าก็มีมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังสดใหม่กว่าแถบรอบนอก เพียงไม่นานกระบุงใหญ่ที่พวกนางนำมาด้วยก็อัดแน่นไปด้วยผักป่าและสมุนไพร
ในตอนนี้เองจู่ ๆ ก็มีความเคลื่อนไหวบริเวณพงหญ้าที่อยู่ไม่ไกลออกไป หลินเว่ยเว่ยเหลียวมองไปตรงนั้นอย่างระวังแล้วหันไปกำชับนางหวงกับเจ้าหนูน้อย อย่าเพิ่งขยับ ประเดี๋ยวข้าไปดูเอง !
นางหวงจึงเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล เจ้าเอาท่อนไม้นี้ไปด้วยเถิด ระวังตัวด้วย…
หลินเว่ยเว่ยก้าวไปใกล้พงหญ้าอย่างช้า ๆ จากนั้นนางก็ใช้ไม้จิ้มพงหญ้าอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นสัตว์ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังพงหญ้าก็กระโดดขึ้นมา ทำให้นางตกใจแล้วถอยหลังไปสองสามก้าวและนางยังได้กลิ่นคาวเลือดมาจากตรงนั้นด้วย
หมาป่า ! พี่รอง รีบหนีเร็ว ! ! น้องสี่ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นรูปร่างของสัตว์ตัวนั้นอย่างชัดเจน มันคือหมาป่าตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหมาป่าตัวนี้กระโดดได้ไม่เท่าไรก็ร่วงลงมาแล้วกระเสือกกระสนพยายามลุกยืน
มันคือหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บ หลินเว่ยเว่ยจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความกังวลก่อนหน้านี้เริ่มผ่อนคลายลง นางมองมันอย่างสงสัยก็พบว่าหมาป่าตัวนี้ขาหักไปข้างหนึ่ง นอกจากนี้ที่ลำคอของมันก็ถูกบางอย่างกัดจนเป็นแผลลึก ถึงขั้นเลือดจะไหลออกมาทุกครั้งที่มันขยับตัว
นางหวงค่อนข้างตื่นตระหนกและหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย กระนั้นก็ยังใจกล้าพยายามก้าวเดินไปด้านหน้าเพื่อดึงหลินเว่ยเว่ยกลับมา พวกเรารีบกลับกันเถิด ! แม่ไม่รู้ว่ากลิ่นเลือดพวกนี้จะดึงดูดสัตว์ตัวใดมาบ้าง !
ทว่าหลินเว่ยเว่ยใจกล้าเดินไปด้านหน้า แม้ว่าหมาป่าตัวนี้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่สัญชาตญาณของมันยังไม่เปลี่ยนแปลง มันแยกเขี้ยวขู่จึงเผยให้เห็นเขี้ยวที่เปื้อนเลือด แม้ร่างกายโซซัดโซเซไปมา แต่มันก็ยังรักษาท่าทีที่พร้อมเข้าจู่โจมอย่างดุร้าย
หลินเว่ยเว่ยมองออกว่ามันเริ่มทนไม่ไหวเต็มที นางจึงหยิบท่อนไม้ลักษณะปลายเป็นแฉกขึ้นมา จากนั้นก็กดล็อคคอของหมาป่าเอาไว้แล้วเอาตะกร้อครอบปากที่เคยใช้ครอบปากของตัวแมวป่ามาครอบปากของมัน
หลินเว่ยเว่ยมัดขาทั้งสามข้างของมันเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ใช้น้ำในกระบอกไม้ไผ่ล้างบาดแผลของหมาป่าและใช้กิ่งไม้มัดดามขาข้างที่หักของมันเอาไว้ นางหยิบสมุนไพรป่าที่มีหนามจากบริเวณใกล้เคียงมาบดแล้วทาบนแผลที่ทำความสะอาดแล้วตรงคอของมัน
นางหวงที่เห็นการกระทำทุกอย่างจึงอดถามขึ้นมามิได้ เจ้าคิดที่จะ…ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้มันใช่หรือไม่ ?
หลินเว่ยเว่ยพยักหน้ารับ ปกติหมาป่าเป็นสัตว์ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง พวกมันรักพวกพ้องและตอบโต้ศัตรูอย่างรุนแรง หากเรานำมันกลับไปบ้าน ข้าเกรงว่าอาจทำให้ฝูงหมาป่าลงจากภูเขาไปอาละวาดเจ้าค่ะ…
เช่นนั้น…พี่รองโยนมันไว้ตรงนี้ก็ได้ เหตุใดต้องช่วยรักษาให้มันด้วย ? เจ้าหนูน้อยเห็นว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายสุนัขตัวใหญ่ เจ้าหนูน้อยจึงคันมือยุบยิบอยากเข้าไปลูบศีรษะมันด้วยความเอ็นดู แต่หลังจากที่เห็นสายตาดุร้ายของหมาป่า เขาก็รีบชักมือกลับทันที
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก สิ่งใดที่พอช่วยได้ก็ช่วยเหลือไปเถิด ! ไม่แน่ว่าในอนาคตเจ้าหมาป่าตัวนี้อาจมาตอบแทนพวกเราก็ได้ ! เมื่อชาติที่แล้วมีนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาวิจัยและพิสูจน์ว่าระดับไอคิวของสุนัขเทียบเท่ากับเด็กอายุแปดเก้าขวบและหมาป่าก็เป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับสุนัข ดังนั้นไอคิวของพวกมันน่าจะเทียบเท่าเด็กน้อยใช่หรือไม่ ?
หลินเว่ยเว่ยก้มบอกหมาป่าตัวนั้นว่า จำไว้ว่าข้าเป็นคนช่วยชีวิตเจ้า ! ในอนาคตหากต้องการตอบแทนบุญคุณก็อย่าจำผิดคนล่ะ !
มิรู้ว่าเพราะมันเข้าใจที่นางกล่าวหรือสัมผัสได้ถึงความมีเมตตาของนาง หมาป่าจึงมีแววตาอ่อนโยนขึ้น หลินเว่ยเว่ยเห็นเช่นนั้นจึงลองเอาที่ครอบปากของมันออกซึ่งมันก็มิได้แยกเขี้ยวใส่แล้ว
หลินเว่ยเว่ยจึงเอาน้ำจากมิติน้ำพุวิญญาณเทใส่ใบไม้แผ่นใหญ่ จากนั้นนางก็ยื่นไปวางตรงหน้าหมาป่าซึ่งเหลือบมองนางโดยไม่มีท่าทีดุร้ายหรือขัดขวางแม้แต่น้อย
นางหวงเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยด้วยความกังวล ลูกรัก อย่าเข้าใกล้มันเลย ระวังมันกัดเจ้า !
ตอนนี้บาดแผลบนลำคอของหมาป่าไม่มีเลือดไหลออกมาแล้ว มันมองไปที่น้ำซึ่งถูกส่งมาวางไว้ตรงหน้าสลับกับมองไปที่มือซึ่งกำลังถือใบไม้นั้นอยู่ มันกำลังลังเลอยู่ว่าจะกินน้ำหรือกัดมืออวบคู่นั้นดี ?
หลินเว่ยเว่ยเห็นเช่นนั้นจึงพูดเตือนมันว่า หากเจ้ากล้ากัดข้า ข้าก็จะเอาหินทุบหัวเจ้าให้เละไปเลย เจ้าคิดให้ดีว่าระหว่างเจ้ากับหมูป่า หัวของผู้ใดแกร่งกว่ากัน !
หมาป่าจึงแสดงท่าทีว่ามันเป็นหมาป่ารู้งาน มันรู้ประโยชน์ของน้ำที่อยู่ในใบไม้นี้ดี ดังนั้นมันจึงกินน้ำหมดอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้เหลือแม้แต่หยดเดียว
ในตอนที่หลินเว่ยเว่ยกำลังจะใส่ตะกร้อครอบปากคืนให้มันอีกครั้ง มืออวบที่เนียนนุ่มงดงามได้แตะไปที่ริมฝีปากของมัน มันจึงอดใจที่จะไม่กัดนางเอาไว้ นี่นางจะทำสิ่งใด ? เฮ้ เฮ้…นี่เจ้าจะอุ้มมันไปที่ใด ?
แต่แล้วเจ้ามนุษย์ตัวน้อยคนนั้นก็ถามแทนมันว่า พี่รอง ท่านจะอุ้มมันไปที่ใด ?
หากเราปล่อยมันไว้ที่นี่โดยไม่สนใจใยดี หมาในที่เดินผ่านมาอาจกินมันได้ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าพวกเราเหนื่อยเปล่ามิใช่หรือ ? หากจะช่วยหมาป่าต้องช่วยให้ถึงที่สุด ประเดี๋ยวข้าจะดูว่าละแวกนี้มีถ้ำหรือไม่ เผื่อจะเอามันไปซ่อนไว้ในนั้นได้
และหลินเว่ยเว่ยก็ได้พบถ้ำสูงขนาดครึ่งตัวคนตรงบริเวณหน้าผาอย่างรวดเร็ว นางจึงยัดตัวมันเข้าไปข้างในและย้ายหินก้อนใหญ่สองสามก้อนมาขวางทางเข้าถ้ำเพื่อป้องกันสัตว์ป่าตัวอื่นมาทำร้ายมัน
นางจะป้องกันไม่ให้มันโดนสัตว์อื่นทำร้าย หรืออยากป้องกันไม่ให้มันออกไปหาอาหารกันแน่ เช่นนี้จะไม่ทำให้มันอดตายเอาหรือ !
แน่นอนว่าหลินเว่ยเว่ยต้องพิจารณาถึงจุดนี้อยู่แล้ว ดังนั้นนางจึงวางบ่วงดักสัตว์ไว้ตรงบริเวณที่มีไก่ป่าและกระต่ายป่าอาศัยอยู่ จากนั้นนางก็พรมน้ำที่เอาออกมาจากมิติน้ำพุวิญญาณลงไปแล้วรอกระทั่งพวกนางสามคนแม่ลูกเก็บผักและสมุนไพรป่าจนเต็มกระบุงก็มีไก่ป่ามาติดสองตัวและกระต่ายป่าตัวใหญ่อีกหนึ่งตัว
เจ้าหนูน้อยจึงเข้าไปอุ้มกระต่ายขึ้นมาอย่างดีอกดีใจจนเกือบโดนกระต่ายกัดมือแล้ว พี่รอง พวกเราเอาเจ้ากระต่ายตัวนี้กลับไปเลี้ยงดีหรือไม่ ?
ให้มันได้อย่างนี้สิ เจ้าเด็กน้อยผู้หลงใหลการเลี้ยงกระต่าย !
หลินเว่ยเว่ยลูบศีรษะน้องชายแล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ตัวนี้ข้าจะแบ่งไว้เป็นอาหารของหมาป่า ครั้งหน้าหากข้าดักกระต่ายได้อีกก็จะเอากลับไปให้เจ้าเลี้ยง !
1 หม่าฉื่อเซี่ยน คือผักป่าใบสีเขียว ลำต้นสีแดง ดอกสีเหลือง รากสีขาว ผลสีดำ มีอีกชื่อว่า หญ้าห้าธาตุ ในภาษาไทยคือผักเบี้ย
2 แดนดิไลออน คือ พืชสมุนไพรขนาดเล็ก มีลำต้นอยู่เหนือพื้นดิน มีดอกสีเหลือง เมื่อเวลาผ่านไปดอกสีเหลืองจะกลายเป็นพุ่มบางสีขาว เมื่อถูกลมพัดดอกปุยเล็กๆ สีขาวเหล่านี้ก็จะปลิวตามลมซึ่งเป็นการขยายพันธุ์ของแดนดิไลออนนั่นเอง
ตอนต่อไป