หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 632 ควรเข้าหอได้แล้วหรือไม่
ตอนที่ 632 ควรเข้าหอได้แล้วหรือไม่ ?
เจียงโม่หานลูบหนวดเคราอ่อนนุ่มบนคางของตน…ภรรยาของเขาอายุ 19 ปีแล้ว ควรพูดเรื่องเข้าหอได้หรือยัง ? พอคิดว่าได้กอดร่างนุ่มนิ่มของภรรยาทุกวัน แต่ต้องยับยั้งความปรารถนาในใจเอาไว้…วันเวลาเช่นนี้ช่างทรมานเขาจริง ๆ !
องค์หญิงเจียวเจียวอยู่เรือนสกุลเจียงจนถึงเวลาก่อนห้ามออกนอกบ้านในยามค่ำคืน โดยมีองค์รัชทายาทมารับกลับไปและสิ่งที่นำกลับไปด้วยยังมีกล่องอาหารขนาดใหญ่ ด้านในเป็นขนมรสเลิศที่ทำร่วมกับพี่เว่ยเว่ย
แม้ว่าขนมที่ขายในร้าน ‘เถียนมี่ฉือกวง’ ของเมืองหลวงจะมีรูปแบบแปลกใหม่และรสชาติดี ทว่าเมื่อเทียบกับฝีมือของพี่เว่ยเว่ยก็ยังห่างชั้นอีกไกล !
องค์รัชทายาทเห็นน้องสาวถือกล่องอาหารราวกับของรักของหวง จึงอดไม่ได้ที่จะแกล้งหยอกเย้า “พี่ชายรัชทายาททิ้งงานที่ยุ่งเหยิงเพื่อมารับเจ้ากลับวัง เจ้าควรจะตอบแทนด้วยอะไรบางอย่างหรือไม่ ? ”
องค์หญิงเจียวเจียวหยิบขนมชิ้นเล็กที่สุดและน่าเกลียดที่สุดออกมาจากกล่องอาหารด้วยความอาลัยอาวรณ์ “พี่ชายรัชทายาท มีใครเป็นพี่ชายแบบพระองค์บ้าง ? ถือโอกาสผ่านทางมารับน้องสาว แถมยังอยากได้ผลประโยชน์อีก นี่เป็นขนมที่หม่อมฉันทำเองกับมือ พระองค์เอาไปเสวยสิเพคะ ! ”
องค์รัชทายาททอดพระเนตรกล่องอาหารด้วยความโมโหและรู้สึกอยากขำ “อาการร้อน ทิ้งขนมไว้นานไม่ดี ขนมมากมายขนาดนี้ เจ้ากินคนเดียวหมดหรือ ? ”
“ใครบอกว่าหม่อมฉันจะเก็บไว้กินคนเดียวเพคะ ? ส่งให้ฟู่หวง 2 ชิ้น ให้หมู่โฮ่วอีกสักหน่อย แล้วก็…ไม่ว่าอย่างไรก็เหลือให้ตัวเองแค่ไม่กี่ชิ้นหรอก ! ” องค์หญิงเจียวเจียวมุ่ยโอษฐ์
“ยังมีใครอีก ? เจ้าเด็กเหมิงชิงเหอนั่นหรือ ? เฮอะ ยังไม่ทันแต่งออกไปก็เห็นคนนอกดีกว่าคนในบ้านแล้ว ! เจ้าเด็กนั่นยังได้กิน แต่ไม่มีส่วนของพี่ชายอย่างข้าอยู่คนเดียวกระมัง ? ” องค์รัชทายาทยื่นพระหัตถ์จะไปแย่งกล่องอาหาร
“ใครบอกว่าไม่มีของพระองค์ ? หม่อมฉันจะเอาไปให้พี่สะใภ้หนึ่งชุด สามีภรรยาถือเป็นคนเดียวกัน ให้พี่สะใภ้ก็เท่ากับให้พระองค์แล้วเพคะ ! ” องค์หญิงเจียวเจียวเหมือนลูกสุนัขเฝ้าชามอาหาร นางใช้ร่างกายบังกล่องอาหารไว้
“ค่อยน่าฟังหน่อย ! สมแล้วที่พี่สะใภ้ไม่ได้รักเจ้าอย่างสูญเปล่า ! ” ฤดูใบไม้ร่วงของปีก่อน องค์รัชทายาทก็อภิเษกแล้วเช่นกัน ตอนนี้พระชายาเพิ่งตรวจพบว่าตั้งครรภ์ เสวยอะไรไม่ค่อยลง บางทีขนมขององค์หญิงเว่ยเว่ยอาจทำให้นางเสวยได้บ้าง
“พี่เว่ยเว่ยบอกแล้วว่าแยมโรลสตรอเบอร์รี่มีรสเปรี้ยวอมหวาน สามารถเรียกน้ำย่อยได้ดีที่สุด อีกประเดี๋ยวพระองค์นำไปที่ตำหนักบูรพา 2 ชิ้น แล้วยังมีมูสบลูเบอร์รี่ที่รสสัมผัสเนียนนุ่ม หวานแต่ไม่เลี่ยน อย่ามองว่ามันไม่ค่อยสวยงาม แต่หม่อมฉันทำเองเลยนะเพคะ ! ” องค์หญิงเจียวเจียวชี้ขนมที่อยู่ในกล่องอาหาร
“เป็น…เจียวเจียวใช่หรือไม่ ? ” ด้านนอกรถม้ามีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
“เหมิงชิงเหอ ! ” องค์หญิงเจียวเจียวเลิกม่านแล้วมองออกไปด้านนอก “วันนี้เจ้าเป็นผู้นำหน่วยลาดตระเวนหรอกหรือ ! พอดีเลย ข้าเรียนทำขนมกับพี่เว่ยเว่ยมาสองสามชนิด เจ้าเอากลับไปชิมสิ ! ”
เหมิงชิงเหอคือบุตรชายคนเล็กของหยงหวู่โหว เดิมทีหยงหวู่โหวเป็นแม่ทัพใต้บัญชาของหมินอ๋องซึ่งได้สร้างชื่อในสนามรบ เหมิงชิงเหอก็มีฝีมือไม่เลว ปีก่อนได้ช่วยองค์หญิงเจียวเจียวที่ออกมาเดินเล่นในงานวัดเอาไว้ ทั้งสองจึงเกิดชอบพอกันขึ้นมา ฮ่องเต้ได้พระราชทานสมรสให้ทั้งสอง ซึ่งในเดือน 9 นี้ก็จะเข้าพิธีกันแล้ว !
องค์หญิงเจียวเจียวหยิบขนมออกจากกล่องสองสามชิ้นแล้วใส่ลงในกล่องอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านเถียนมี่ฉือกวง ก่อนจะพูดด้วยความเขินอายว่า “เอ่อ คือ…ขนมที่ข้าทำจะน่าเกลียดหน่อย…”
เหมิงชิงเหอเห็นนางถือกล่องกระดาษไว้และไม่ยอมยื่นให้สักที เขาจึงเข้าไปรับเอง หลังกวาดตามองแล้วก็เอ่ยชมทันที “เจียวเจียวเก่งมาก ถึงขั้นทำขนมเป็นด้วยหรือ ? น่าเกลียดที่ไหนกัน ข้าคิดว่าดูดียิ่งกว่าขนมร้านเถียนมี่ฉือกวงเสียอีก ! ”
เจียวเจียวยกยิ้มที่มุมปาก “นั่นเป็นเพราะเจ้ายังไม่เคยเห็นขนมที่พี่เว่ยเว่ยทำ พวกมันเหมือนภาพวาด สวยจนไม่กล้ากิน ! ”
“ขนมทำมาไว้เพื่อกิน หากไม่กล้ากินแล้วจะทำมาเพื่ออะไร ? ในสายตาข้าเห็นว่าขนมที่เจียวเจียวทำเป็นขนมที่ดีที่สุดแล้ว ! ” เหมิงชิงเหอเก็บขนมอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็หยิบตุ๊กตาแม่ลูกดกที่ได้มาจากชนเผ่าออกจากกระเป๋าอกเสื้อ “เจ้าคิดว่าตุ๊กตานี้น่ารักหรือไม่ ? เหมือนเจ้าหรือเปล่า ? ”
“อะแฮ่ม ! ” องค์รัชทายาทแค่นสุรเสียงดังมาจากในรถม้า…เจ้าเหมิงชิงเหอมีรูปร่างสูงใหญ่ คาดไม่ถึงว่าเวลาสนทนากับคู่หมั้นแล้วจะหวานเยิ้มได้ขนาดนี้ ! พระองค์ทนฟังต่อไม่ไหวแล้ว !
เหมิงชิงเหอรีบเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วทำมือคารวะเข้าไปในรถม้า “กระหม่อม เหมิงชิงเหอ รองผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์ ขอถวายพระพรองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ ! ”
“ไม่ต้องมากพิธี…เจียวเจียว ใกล้ถึงเวลาห้ามออกนอกบ้านแล้ว พวกเรารีบกลับกันเถิด ! ” องค์รัชทายาทก็เป็นเหมือนพี่ชายทั่วไป พระองค์ไม่ชอบหน้าคนที่จะมาแย่งน้องสาวไปหรอก
เหมิงชิงเหอส่งตุ๊กตาแม่ลูกดกให้องค์หญิงเจียวเจียว หลังขยิบตาให้นางแล้วก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น “น้อมส่งเสด็จองค์รัชทายาทและองค์หญิงเจียวเจียว…”
องค์รัชทายาท “…” เจ้าเหมิงชิงเหอเห็นข้าตาบอดหรือไร ?
วันนี้นายอำเภอเจียงได้เลื่อนขั้นทีเดียวถึงสองขั้น จากนายอำเภอขั้นหกไปเป็นรองผู้ตรวจการขั้นสี่ภายในพริบตา เมื่อข่าวถูกแพร่ออกไป พวกขุนนางอาวุโสก็นั่งไม่ติดทันที…เจ้าเด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่งได้ขึ้นไปอยู่เหนือกว่าขุนนางอาวุโสที่ทำงานอยู่ในราชสำนักมานานหลายสิบปีได้เชียวหรือ ?
ด้วยเหตุนี้บนโต๊ะทรงพระอักษรของฮ่องเต้หยวนชิงจึงเต็มไปด้วยฎีกาขอให้พระองค์ทบทวน เมื่อเข้าสู่ท้องพระโรง ช่างชูกรมขุนนางก็ออกมาร้องเรียนก่อนใคร “ทูลฝ่าบาท นายอำเภอเจียงเพิ่งรับตำแหน่งขุนนางได้เพียง 3 ปี แม้จะทำผลงานไว้บ้าง แต่ยังเยาว์วัยนัก ประสบการณ์ไม่เพียงพอ ไม่ควรได้รับตำแหน่งรองผู้ตรวจการพ่ะย่ะค่ะ ! ”
ฮ่องเต้หยวนชิงถลึงดวงเนตรใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “แล้วผู้ใดเหมาะสม ? น้องภรรยาผู้ไม่เอาไหนของเจ้าหรือ ? อย่าคิดว่าเจ้าเป็นช่างชูกรมขุนนางแล้วจะสร้างพรรคพวกหาผลประโยชน์ให้ญาติตัวเองได้ เจ้าลองนับดู ตั้งแต่ตัวเองเข้ารับตำแหน่งได้เลื่อนตำแหน่งให้ญาติมิตรของตนกี่คนแล้ว ? เริ่นกั๋วเฉา แผ่นดินต้าเซี่ยไม่ใช่แผ่นดินของตระกูลเริ่น ! ทหาร ! มาถอดหมวกขุนนางของเขาออกแล้วส่งตัวไปที่ศาลต้าหลี่ ส่วนตำแหน่งช่างชูกรมขุนนางก็ให้ชื่อหลางดำรงตำแหน่งชั่วคราวไปก่อน ! ”
“ฝ่าบาท ! กระหม่อมถูกปรักปรำ ! ฝ่าบาท ! ” การนั่งในตำแหน่งช่างชูกรมขุนนางนี้ไม่มีทางบริสุทธิ์ได้ตลอดไปหรอก การเก็บตำแหน่งสำคัญไว้ให้ญาติตัวเอง เรียกร้องสินบนจากขุนนางคนอื่น…ขอแค่สืบสวนออกมาก็อย่าว่าแต่ตำแหน่งช่างชูกรมขุนนางเลย แม้แต่หมวกขุนนางบนศีรษะก็ยังรักษาไว้ไม่ได้ !
พอขุนนางคนอื่นที่ร่วมถวายฎีกาเห็นแบบนั้นแล้วก็รีบทำตัวสงบเสงี่ยมทันที…ตำแหน่งรองผู้ตรวจการ ถึงจะไม่ใช่ของเจียงโม่หานก็ไม่มีทางตกมาถึงพวกตน จากเรื่องของช่างชูกรมขุนนางก็สามารถเห็นได้ว่าฝ่าบาทตัดสินพระทัยจะส่งเสริมบัณฑิตจากครอบครัวยากไร้คนนี้ หากพวกตนยังเสนอความเห็นออกไปก็คงมีจุดจบเหมือนช่างชูกรมขุนนาง ! เพราะพวกเขาเองก็ไม่สามารถโดนตรวจสอบจากศาลต้าหลี่ได้ !
ทว่าทางขุนนางฝ่ายบู๊กลับมีแม่ทัพนายหนึ่งก้าวออกมา ฉางหลงโหวมองไปทางหมินอ๋องด้วยสายตามีเลศนัยปราดหนึ่ง “ทูลฝ่าบาท ในเมื่อพระองค์ไม่โปรดที่ช่างชูกรมขุนนางดึงญาติมารับตำแหน่ง แล้ว…ที่ทรงสนับสนุนนายอำเภอเจียง ไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าสหายเก่าอย่างหมินอ๋องหรือพ่ะย่ะค่ะ ? ”
หมินอ๋องกวาดดวงเนตรไปทางเขาเบา ๆ แล้วแย้มโอษฐ์ออกมาอย่างเย็นชา “หลิวโกวต้าน ! ถ้าบุตรเขยของ เปิ่นหวางต้องพึ่งความสัมพันธ์กับตำหนักหมินอ๋องเพื่อเลื่อนตำแหน่ง บุตรเขยแบบนี้เปิ่นหวางไม่เอาก็ได้ ! เจ้าช่วยใช้แผนสกปรกให้น้อยหน่อย เปิ่นหวางเป็นลูกผู้ชายมากพอ ! ”