หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 111 การต่อสู้ศิลปะบนเตียง
บทที่111 การต่อสู้ศิลปะบนเตียง
อ๋องเย่อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
นี่จริงหรือหลอก?
ดูแล้วน่าจะหลอกนะแต่สีหน้าพระชายาซีดเช่นนี้ไม่ใช่แกล้งทำออกมาแน่นอน!
“ เจ้ายังยืนที่นี่ทำไม? ไม่ใช่บอกว่าจะปกป้องร่างข้าให้ปลอดภัยมิใช่หรือ? แต่ตอนนี้ข้าไม่ปลอดภัยอย่างมาก ข้าจะไปนั่งอยู่ตรงร้านอาหารด้านนั้นสักครู่ เจ้าก็ช่วยข้าไปหาหมอมา” น้ำเสียงของนางอ่อนแรง
“พระชายา ท่านไม่ใช่หมอหรือ?”
องครักษ์ลับรู้สึกว่าอาจจะถูกหลอกเพราะอย่างไรวิชาการรักษา ของพระชายาก็แข็งแกร่งขนาดนั้น ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะถามเพิ่ม
หลานเยาเยารีบก้มหัวลงพร้อมกับร้อง “โอ๊ยโอ๊ย”อย่างเจ็บปวด จากนั้นก็พูดเสียงทุ้มว่า:
“ก็อย่างที่สุภาษิตกล่าว เป็นหมอก็ไม่สามารถรักษาตนเองได้นะ! พู่······”
ทันทีที่พูดจบก็พ่นเลือดออกมาเต็ม ทำให้องครักษ์ลับตกใจ
จากนั้นก็ไม่พูดอะไรพานางไปยังร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดหลังจากที่เอานางจัดนั่งให้เรียบร้อยแล้วก็รีบแฉลบตัวออกไปหาหมอ
โชคดีที่ริมทะเลสาบมีร้านยา หลังจากที่องครักษ์ลับพูดอาการของหลานเยาเยาจบ
เจ้าของร้านยาก็พูดถามอย่างสงสัยว่า: “ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันคืออะไร? จากอาการที่เจ้าพูดมา เจ้าบอกว่าแม่นางผู้นั้นน่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน แต่ไส้ติ่งอักเสบไม่ได้ทำให้คนพ่นเลือดออกจากปากนะ”
เมื่อได้ฟังเจ้าของร้านยาพูดเช่นนั้น
องครักษ์ลับก็หรี่ตาและเข้าใจในทันที
หลังจากคำนับเจ้าของร้านยาแล้วก็รีบหมุนตัวและรีบไปร้านอาหารทันที
ตอนที่เขามาถึงร้านหรูที่หลานเยาเยาอยู่ก็ไม่มีคนแล้ว
······
หลานเยาเยาที่นั่งอยู่ในเรือลำน้อยตอนนี้ก็เหยียดตัวออกอย่างสบาย
สีหน้าของนาง……
มีหน้าซีดที่ไหนกัน?
มีท่าทางปวดท้องที่ไหนกัน?
“คนพายเรือ ความเร็วนี่เร็วกว่านี้หน่อยได้ไหม?” อาหารรสเลิศ ข้ามาแล้ว
แม้เรือลำน้อยนี้จะห่างจากริมทะเลสาบมากแล้วแต่ทำไมนางถึงรู้สึกว่าเรือลำน้อยนี้ยังอยู่ที่เดิมไม่ขยับนะ!
“คุณชาย ความเร็วนี้ก็เร็วมากแล้วอีกทั้งยังไปตามลมไม่สามารถเร็วกว่านี้ได้แล้ว”
เพราะหลานเยาเยาเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นชายดังนั้นคนจึงนึกว่านางเป็นคุณชาย
“งั้นก็ดี เจ้าก็ทำเท่าที่เจ้าทำได้!”
ไม่ใช่ว่านางรีบร้อนแต่เป็นท้องของนางที่มันร้องเอะอะกับนางตลอด นางก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน!
โชคดีที่มีเรือลำเล็กจำนวนมากมุ่งไปทางเรือใหญ่ นางอยู่ที่นี่จึงไม่โดดเด่นนัก
ไม่นาน เรือเล็กจำนวนมากก็มารวมตัวกันที่ท่าลงเรือของเรือใหญ่
เรือที่หลานเยาเยาอยู่หยุดรออยู่ตรงกลางเรือเพื่อรอขึ้น บนดาดฟ้าของเรือใหญ่มีคนคอยต้อนรับแขกโดยเฉพาะ บนหน้าของคนเหล่านั้นสวมหน้ากากปิดหน้าทำให้มองเห็นหน้าพวกเขาไม่ชัด
แต่การแต่งตัวของพวกเขาเกินไปหน่อย! ปกเสื้อของผู้ชายเปิดกว้างจนเห็นแผงอกไปจนถึงท้องอีกทั้งยังดูไม่ออกถึงความลามกดูเหมือนว่าแบบนี้จะเป็นการแต่งตัวที่ปกติของพวกเขา
ทันใดนั้น!
หลานเยาเยาก็ได้ยินเสียงดัง
ดูเหมือนว่าคนที่ขึ้นเรือกับคนที่ต้อนรับแขกจะทะเลาะกัน
“คุณชาย เอกสารขึ้นเรือของท่านเป็นวันที่ของเมื่อวาน คุณชายโปรดซื้อเอกสารขึ้นเรือแยกต่างหาก”
“นี่ ตามองไปที่ไหนกัน? นี่ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นวันที่ของวันนี้เจ้ายังจะบอกอีกว่าเป็นวันที่ของเมื่อวานคิดจะโกงเหรียญเงินห้าสิบตำลึงข้าเหรอ?”
ชายที่ต้องการจะขึ้นเรือนั้นคิดว่าตนเองใหญ่โตดังนั้นจึงพูดจาอย่างไม่เกรงใจ
“คุณชาย วันที่นี้คือท่านเปลี่ยนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกเรามีวิธีแยก ถ้ายังวุ่นวายขัดขวางเวลาการขึ้นเรือของแขกด้านหลังอีกก็อย่ามากล่าวหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ”
น้ำเสียงของคนต้อนรับเรือนิ่งแต่กลับมีท่วงท่าที่สง่างามแต่ก็ไม่ใช่คนธรรมดา
“ไม่เกรงใจ ข้าคิดว่าเจ้าก็คือมองหมาเฝ้าเรือ คิดจะไม่เกรงใจยังไง?” ผู้นั้นก็เริ่มพูดจาแย่ๆ
คนต้อนรับเรือก็ไม่โกรธเพียงแค่ดึงแส้ที่อยู่รอบเอวออกมาอย่างมาดมั่น
“เจ้าทำอะไร? ยังคิดจะฆ่าคน ฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต······อ๊ะ······”
ผู้นั้นยังพูดไม่ทันจบก็ถูกแส้ดึงไปบนผิวน้ำจากนั้นก็เห็นคนโผล่ออกมาจากน้ำและเอาผู้ชายที่ถูกแส้ดึงโยนไปยังที่นั่งบนเรือที่เขานั่งมาก่อน
คนต้อนรับเรือเก็บแส้ คำนับให้กับคนที่ยังคอยขึ้นเรืออยู่แล้วก็พูดว่า:
“ขึ้นเรือต่อ!”
รอจนกระทั่งตอนที่หลานเยาเยาขึ้นเรือ แววตาของคนต้อนรับเรือก็สั่นไหวจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นร้อนแรง รีบคำนับเอ่ยปากชื่นชม:
“ลักษณะของคุณชายไม่ธรรมดาเป็นความงามที่หาได้ยากและเป็นชายรูปงาม”
“ก็พูดเกินไป!” หลานเยาเยาหยิบเงินห้าสิบตำลึงออกมาแล้วส่งไป
คนนั้นก็เก็บเหรียญเงินไป สุดท้ายก็ส่งเอกสารขึ้นเรือให้นางแล้วก็ทำท่าทางเชิญให้นาง
หลานเยาเยาก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย!
คนต้อนรับเรือนี่มีไมตรีกับนางขนาดนี้เลยหรือ? หรือที่นี่ก็ดูหน้าตา?
ก็คาดว่าจะอย่างนั้น!
ไม่งั้นครั้งแรกที่นางขึ้นเรือลำใหญ่นี้ทุกคนอาจจะมองหน้านาง?
หลังจากที่หลานเยาเยาได้ขึ้นมาบนเรือแล้วก็พบว่า เรือใหญ่ลำนี้ก็เหมือนกับร้านอาหารขนาดใหญ่ มีห้องหรูที่ต่างกันออกไปแล้วก็มีขนาดใหญ่มาก ด้านในก็จัดให้ผู้คนทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันโดยเฉพาะ
นี่การแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันนี่หน่า!
สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ความสามารถใดๆก็ได้ แม้แต่ของที่ไม่เข้าขั้นก็สามารถเอามาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันได้ มีเพียงเจ้าที่คิดไม่ถึง ไม่มีอะไรที่พวกเขาทำไม่ได้
การแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันแบ่งออกได้เป็นสองประเภท ประเภทแรกก็คือแขกแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันกับเหล่าลูกน้องของเจ้าของเรือใหญ่นี้ กับอีกประเภทคือแขกแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันกับแขกด้วยกันเอง
ก็ไม่รู้ว่าหลานเยาเยานั้นโชคดีหรือโชคไม่ดี
นางเข้าไปในห้องหรูห้องนึงก็เห็นผู้ชายกลุ่มใหญ่กลุ่มนึงล้อมสองเตียงไว้ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่?
ด้านในก็ยังมีเสียงครวญครางสยิวของผู้หญิงกับเสียงหอบทุ้มของผู้ชาย
นี่คงไม่ใช่การแข่งขันทักษะบนเตียงนะ! ผลักกลุ่มคนออกไปดูหน่อยซิ!
โอ้แม่เจ้า!
บนเตียงสองเตียงต่างก็มีชายหญิงคู่หนึ่ง
สู้กันในร่างเปลือยเปล่า ฉากตรงหน้าช่างดุเดือดสุดๆอีกทั้งท่วงท่าก็เปลี่ยนไปไม่หยุด
แต่ว่า!
ไม่ว่าจะชายหรือหญิงบนหน้าของพวกเขาก็จะสวมหน้ากากอยู่
ทั้งตัวของผู้ชายไม่มีอะไรมาปิดบัง ผู้หญิงยังดีที่ยังใส่ผ้าโปร่งบางๆ แม้ใส่จะเหมือนกับการไม่ใส่แต่แบบนี้ดูมีเสน่ห์มากกว่า
ในขณะที่พวกผู้ชายขย่มร่างอย่างสุดกำลัง มือใหญ่ก็ไม่หยุดบดขยี้ตำแหน่งที่เป็นเนินสูงเบาบางของฝ่ายหญิงทำให้เสียงครวญครางของหญิงสาวนั้นยิ่งดึงดูด
ชายที่สู้อย่างสุดตัวกำลังเสพสุข เหล่าผู้ชายที่เฝ้ามองอยู่ก็กำลังทรมาน พวกเขายังไม่ทันเสร็จธุระคนดูก็ส่งเสียงคำรามออกมาเสียก่อนแล้วจากนั้นก็รีบเดินไปหลังฉากกั้นเพื่อเปลี่ยนกางเกง
ในไม่ช้า!
บนเตียงหนึ่งในนั้นก็มีเสียงผู้ชายคำรามออกมาอย่างทนไม่ได้จากนั้นก็นอนคว่ำหน้าบนตัวหญิงสาว
เห็นได้ชัดว่าเหนื่อยจนนอนคว่ำหน้าลงแต่มือก็ยังอยู่ไม่สุขปัดไปมาบนตัวผู้หญิง······
ส่วนบนเตียงอีกเตียง ผู้ชายก็เพิ่มความเร็วแต่ก็รู้แล้วว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
หลังจากการแข่งขันจบ
ฝ่ายที่แพ้ก็ต้องเซ็นชื่อลงนามอนุญาตให้เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างสลดใจสุดท้ายก็ถูกคนลากออกไปตอนจะไปก็ยังตะโกนเสียงดังมาว่า:
“ตายใต้ตอกโบตั๋น แม้เป็นผีก็ถือว่าคุ้มค่า” (ได้หญิงสาวที่หมายปอง แม้ตายก็ถือว่าคุ้ม)
แปลว่าอะไรนะ?
หรือว่าจะถูกดึงไปฆ่า?
ยังไม่ทันได้รับความเข้าใจอะไรก็เห็นพนักงานด้านในเริ่มเตรียมการแข่งถัดไปแล้ว
หญิงสาวสวยหยาดเยิ้มสองคนถูกเปลี่ยนไปนั่งบนเตียงอีกครั้ง ผู้ชายก็ต้องถูกเลือกออกมาจากกลุ่มคนในห้องหรู