หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 121 โหลวเย่วมากินข้าวที่บ้าน
บทที่121 โหลวเย่วมากินข้าวที่บ้าน
“พระชายา พระชายา ท่านต้องเชื่อข้านะก็เพราะแต่ก่อนข้าโดนนังสาวใช้ชั้นต่ำนี่สะกดจิตถึงได้พูดจาไร้มารยาทเยี่ยงนั้น
ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ตอนนี้ข้าเสียใจอย่างยิ่ง โปรดท่านให้โอกาสได้ปรับปรุงตัวอีกครั้ง ข้ารับปากว่าจากนี้ข้าจะประพฤติตัวเรียบร้อยรับใช้ท่าน”
ชิวซวนคุกเข่าลงกับพื้นทันทีน้ำตาเป็นเม็ดไหลลงมา อ้อนวอนอย่างขมขื่นด้วยท่าทางราวกับได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างมาก
สาวใช้ที่คุกเข่าอยู่ข้างๆก็ไม่เต็มใจที่ถูกได้รับความไม่เป็นธรรม จึงร้องไห้ไปอธิบายไป
โดยรวม!
พวกนางสองคนร้องไห้ได้ยิ่งกว่าหยาดฝนบนลูกแพร์(เปรียบถึงท่าทีการร่ำไห้ที่เหมือนท่าทีของหยางกุ้ยเฟย สวยและอ่อนแอ ดูแล้วน่าสงสาร)
หลานเยาเยาแค่มองพวกนางนิ่งๆไม่พูดอะไร สองมือก็กอดอกไว้ราวกับดูละคร
จนกระทั่งผ่านไปครู่นึง พวกนางก็ยังร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสาย จนถึงตอนที่พวกนางพบว่ามีอะไรผิดปกติไป
จึงหันไปมองหลานเยาเยา……
ก็ต้องพบว่าหลานเยาเยากับฮัวหยู่อันไปนั่งกินข้าวอยู่บนเก้าอี้กันตอนไหนก็ไม่รู้ ความเร็วในการกินข้าวของพวกนางไวมากเหมือนกับว่าถ้าช้าไปก้าวเดียวข้าวก็จะหายไป แล้วก็เมินพวกนางที่นั่งน้ำตานองอยู่ข้างๆไปโดยปริยาย
“……”
ในใจของชิวซวนก็แอบจงเกลียดจงชัง
กำหมัดแน่นจนเล็บยาวๆแทบจะทิ่มเข้าไปในเนื้อ
ถ้าสายตามันกลายเป็นลูกธนูแหลมได้หลานเยาเยาในตอนนี้ก็คงกลายเป็นเม่นไปแล้ว เวลาผ่านไปไม่นาน ตำแหน่งของหลานเยาเยาดีกว่าพวกนางเหล่าสาวใช้ พวกนางคิดจะรังแกนางยังไงก็รังแกนางอย่างงั้น
คิดไม่ถึงว่าตอนนี้……
ยิ่งคิดในใจก็ยิ่งเกลียด!
แต่นางก็ยังคงแสร้งทำท่าทางน่าสงสารเพื่อดึงดูดความสนใจจากหลานเยาเยา
นางคุกเข่ามาที่ข้างเท้าหลานเยาเยาแล้วพูดร้องไห้สะอื้น
“พระชายา ได้โปรด……”
นางยังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกหลานเยาเยาตัดบทว่า: “ถ้ายังร้องไม่อิ่มก็ไปร้องทางด้านนั้น รอข้ากินจนอิ่มแล้วค่อยคิดบัญชีกับพวกเจ้า”
ท้องฟ้าใหญ่ ผืนดินใหญ่ กินข้าวใหญ่ที่สุด
เพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสพร้อมกับมีคนร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างหู มันช่างส่งผลต่ออารมณ์จริงๆ
คนน่ารังเกียจข้างเท้านางนั้นขวางหูขวางตาหลังจากนั้นจึงดึงมีดสนามรบออกมาจากเอว ที่จริงคือหยิบออกมาจากระบบ
นางเอามีดรบฟันไปหน้าชิวซวนสองสามที
ทำให้ชิวซวนตกใจกลัวจนหน้าขาวซีดรีบร้อนถอยร่นไปข้างหลัง!
หลังจากนั้นแม้แต่ร้องก็ไม่กล้าร้อง
จนกระทั่งกินข้าวจนอิ่ม หลานเยาเยาถึงลุกขึ้นปรายตามองพวกนางชิวซวนแล้วเอ่ยเรียบๆว่า: “เมื่อครู่ข้าได้พูดไว้ว่าจะให้ของพวกเจ้า ข้าก็ไม่อาจคืนคำได้! ตามข้ามา”
เมื่อเห็นพวกนางตามนางเข้าไปในห้องด้วยตัวที่สั่นงกงก หลานเยาเยาก็อยากจะยิ้ม
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้ปรับปรุงตัวสักครั้ง ต้องการหรือไม่?”
“ขอบพระทัยพระชายา พระชายาต้องการให้ข้าน้อยทำอะไรข้าน้อยก็จะทำจะไม่กล้าบ่นอะไรสักนิด” ชิวซวนรีบพูด
“งั้นก็ดี ข้าจะไม่ได้ให้เจ้าไปบุกน้ำลุยไฟ แค่ต้องการให้เจ้าไปช่วยข้าจัดเตียงก็พอแล้ว”
ได้ยินดังนั้น!
หน้าของชิวซวนก็ยิ่งซีดเข้าไปอีก
จัดเตียงหน่ะเป็นเรื่องเล็ก แต่ก่อนหน้านี้พวกนางได้วางอะไรที่มันน่ากลัวมากๆไปในเตียง ที่ไม่สามารถแตะได้ถ้าแตะก็ตาย
หากตายนางก็จะไม่ไป
“พระชายา นี่มันเรื่องเล็กให้นางไปเถอะ! ข้าจะไปทำเรื่องอย่างอื่น”
ชิวซวนชี้นิ้วไปที่สาวใช้ข้างๆ!
สาวใช้คนนั้นแค่ได้ยินก็จะไม่ทำแล้วจึงรีบพูดด้วยความโกรธว่า: “เจ้าชิวซวนนี่ เจ้าคิดจะฆ่าข้ารึไง? ก็เห็นอยู่ว่าในเตียงนั้นวาง……”
พูดยังไม่ทันจบก็ถูกหลานเยาเยาตัดบท
“ชู่ว……”
“หยุดพูด พวกเจ้าไปด้วยกันเลย!”
ตอนนี้ ขาของชิวซวนและสาวใช้คนนั้นอ่อนลงอีกครั้ง ทั้งสองคนเงียบไม่ส่งเสียง
ผ่านไปครู่นึง!
“เสี่ยวฮัว(ฮัวหยู่อัน)พวกนางไม่ขยับ เจ้าไปช่วยพวกนางหน่อย”
ชิวซวนกับสาวใช้นั้นก็คิดว่าหลานเยาเยาจะสั่งให้ฮัวหยู่อันไปช่วยพวกนางจัดเตียง ทั้งสองคนก็โล่งใจ
จะตายงั้นก็ให้ฮัวหยู่อันตายก็ดี!
ใครจะรู้……
หลังจากฮัวหยู่อันรับคำเสร็จสิ้นก็ยกเท้าขึ้นถีบทันที จนทำให้สาวใช้ที่อยู่ใกล้นางที่สุดลอยไปจนถึงบนเตียง
“อ๊า……”
เสียงกรีดร้องท่ามกลางความไม่คาดคิดก็ดังขึ้นมา
เห็นสาวใช้ที่อยู่บนเตียงรีบร้อนหมายจะตีแมลงสีดำที่ปีนบนเท้าให้ตกลงไป แต่ยังไม่ทันได้ตี แมลงสีดำก็เจาะเข้าไปในผิวหนังของนางแล้ว
นางเจ็บปวดจนอยากจะควักเนื้อของตนเองออกมา แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีแมลงเจาะเข้าไปในร่างกายนางอีก สุดท้ายก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรกสาวใช้ยังสู้สุดแรง
แต่ต่อมาแม้แต่เสียงร้องก็ยังร้องไม่ออก ทำได้เพียงโค้งตัวนอนบนเตียง สายตาก็ค่อยๆหย่อนลงแต่ก็สามารถมองเห็นแมลงสีดำพวกนั้นลุกลามไปใต้ผิวหนังของนางอย่างรวดเร็ว
“ตาเจ้าแล้ว!”
หลานเยาเยามองชิวซวนแล้วเอ่ยขึ้นเรียบๆ
“ไม่……ไม่ไม่ ข้าไม่ไป ข้าไม่อยากตาย พระชายาได้โปรดเถิด ข้าไม่อยากตายจริงๆ”
ขณะนั้นชิวซวนที่แข้งขาอ่อนแรงมองหน้านางด้วยความละอายใจ
ที่จริงหลานเยาเยานั้นรู้อยู่แล้ว!
เมื่อครู่นางก็ตั้งใจที่จะไม่เตือนเพราะในใจก็ยังมีความเพ้อฝัน หวังว่าหลานเยาเยาจะไม่รู้เรื่อง อยากให้ตอนที่นางนอนลงไปแล้วถูกแมลงกัดตาย
“เอ๊ะ เจ้าไม่อยากตายแล้วข้าอยากตายงั้นหรอ?”
“ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ข้าน้อยสำนึกผิดแล้วจริงๆ พระชายาได้โปรด……”
“น่าเสียดายมันสายไปแล้ว!”
คนที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาอย่างชิวซวนนี้ ถ้าอยากให้นางสำนึกผิดและปรับปรุงตัวจริงๆ นอกเสียจากว่าฟ้าจะถล่มลงมาก่อนตราบใดที่นางมีโอกาสก็จะใช้วิธีเดิมอีก
“ไม่เอา ไม่อยากตาย พระชายา ท่านก็เห็นแก่ข้าน้อยที่เป็นคนของจวนแม่ทัพ ไว้ชีวิตข้าเถิด!”
“วางใจเถอะ! การตายของเจ้าขึ้นอยู่กับเจ้าเอง”
ตลาดดำเป็นสถานที่ที่นางควรไปที่สุด จะมีชีวิตต่อหรือไม่ หรือจะมีชีวิตได้อีกนานเท่าไหร่ นั่นก็ดูการตัดสินใจของนางเอง
เฮอะ!
ในฐานะของคนที่ออกมาจากกองทัพ
นางไม่สามารถฆ่าใครก็ได้ตามใจ แต่คนที่คิดอยากให้นางตายนางก็ไม่สามารถปล่อยไปได้!
ในไม่ช้า!
ชิวซวนก็ถูกพาไป ต่อมาถิงเมี่ยนบอกนางว่า ชิวซวนมีชีวิตอยู่ในตลาดดำได้เพียงสองวันก็ถูกคนที่ทำการค้าเนื้อทรมานตาย
ชิงปี้กับสาวใช้อีกคนที่ไม่ตายถูกไล่ออกจากตำหนัก!
ตลอดช่วงบ่าย หลานเยาเยาสั่งให้คนทำความสะอาดลานซวนซี แม้แต่เตียงก็เปลี่ยนเผื่อว่ายังคงหลงเหลือพิษอยู่
เรื่องนี้ทำให้โหลวเย่วตกใจ
หลังจากที่นางรู้เรื่องของสาวใช้แล้วก็มาปลอบนางบอกให้นางไม่ต้องโกรธเกินไป สุดท้ายโหลวเย่วก็ถามขึ้นมาอย่างมีลับลมคมในว่า:
“ได้ยินมาว่าเจ้าเอาของอร่อยมาเยอะก่อนกลับ?”
“ไม่มี ไม่มีนะ!”หลานเยาเยารีบตอบอย่างตื่นๆ
นางชักจะสงสัยแล้วว่าโหลวเย่วจะไม่ได้มาปลอบนาง แต่คิดจะมาตีเนียนกินฟรี
“ไม่มีจริงหรือ? เยาเยา เจ้าก็เห็นแก่ความจริงใจของข้าที่มีแก่เจ้าสิ มีของอร่อยจะไม่เรียกข้าหรอกหรือ แอบกินเงียบๆคนเดียวจะสนุกรึไง?”
นางได้ยินองครักษ์พูดแล้ว
ว่าหลานเยาเยาเอาอาหารกลับมาจนกลิ่นหอมมันลอยออกไปจากลานซวนซีและหลายคนก็ได้กลิ่น!
“มีที่ไหน! กับข้าวพวกนั้นไม่อร่อย!” พูดเหมือนนางเป็นคนขี้งกมาก
นางเป็นคนอย่างงี้เหรอ?
“ไม่อร่อยข้าก็อยากกิน สรุปแล้วข้าวเย็น ข้าก็จะกินที่บ้านเจ้า” ไม่สนว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อย วันนี้นางก็จะกิน
“ก็ได้ๆๆ ข้าจะขวางให้เจ้าไม่กินได้รึ? กับข้าวอยู่ที่ห้องครัว! อีกครู่ก็ถึงเวลาข้าวเย็นแล้วข้าจะให้คนมาเพิ่มตะเกียบอีกคู่” หลานเยาเยายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ดูท่านางจะกินข้าวเย็นได้น้อยอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม!
ตอนที่ถึงอาหารเย็นก็มีข่าวร้าย
อาหารที่พวกนางคิดถึงอยู่ตลอดเวลาได้ถูกส่งไปยังห้องนอนของอ๋องเย่แล้ว……