หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 188 หนีออกจากบ้าน
บทที่188 หนีออกจากบ้าน
สายตาทั้งสองหยุดอยู่ที่นาง รอจนกระทั่งนางพูดจบ ……
แต่สายตาของหลานเยาเยากลับหันไปมองทางหานแส
“พูดตามตรง ตั้งแต่หลังจากที่หนีออกมาจากเรือแห่งความสิ้นหวังพวกเราก็โดนไล่ฆ่ามาโดยตลอด อีกทั้งไม่ว่าจะซ่อนที่ไหนก็ถูกพบได้โดยง่าย ดังนั้นข้าจึงสงสัยมาโดยตลอดว่าเจ้าคือสายลับของ······ท่านชายหยิ่ง
“จนถึงเมื่อวันก่อนที่เจ้าได้รับบาดเจ็บปางตาย ตอนที่ข้าถอดเสื้อทำแผลให้เจ้าถึงได้พบว่าบนเสื้อผ้าของเจ้าถูกคนทำกลอุบายไว้ ถึงได้รู้ว่าที่แท้ก็เข้าใจผิด ดังนั้นข้าจึงจัดการกับเสื้อผ้าของเจ้าเล็กน้อย”
ตอนที่พูดนี้ หลานเยาเยาได้ยกมือขึ้นแสร้งทำท่าเป็นเหมือนว่ามีความสามารถมาก
“ดูสิ ผ่านมาตั้งนานแล้วไม่มีนักฆ่าไล่ตามมาสักคน พวกเจ้านอนหลับได้อย่างสบายใจ”
แต่ทว่า!
ประเด็นสำคัญที่คนอื่นได้ยิน กลับไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่นางเข้าใจ
สีหน้าของเย่แจ๋หยิ่งเปลี่ยนไป พูดเสียงเย็นว่า: “เจ้าเห็นร่างกายเขาหรือ?” เขาหมายถึงทั้งร่างกาย
เมื่อคำนี้เอ่ยออกไป
หน้าของหานแสก็แดงขึ้นมาทันที
เอ่อ……
ทั่วตัวของหานแสมีแผลลึกตื้นต่างกันไป อีกอย่างตอนนั้นสถานการณ์เฉียดตาย การทายาทำแผลไม่ใช่ว่าจะต้องถอดเสื้อผ้าออกเหรอ?
นี่มันปกติมากนะ!
ไม่ได้ผิดปกตินะ?
“ข้ายังเห็นหัวใจเจ้าเลย!” ตอนทำการผ่าตัด นางก็เห็นหัวใจที่เต้นของเขา
เย่แจ๋หยิ่งสำลักทันที
แม้จะรู้ว่าหลานเยาเยาแค่รักษาให้หานแส แต่นางเห็นร่างกายของคนอื่น ข้อนี่ทำให้เขาอึดอัดมาก
ดังนั้น!
หลังจากนั้นเขาก็เงียบมาตลอด
จนกระทั่งช่วงเวลาเที่ยงคืนผ่านไป หลานเยาเยาที่คิดว่าพวกเขาหลับหมดแล้วก็ใช้ฟืนจุดไฟแล้วมานั่งข้างเย่แจ๋หยิ่งอย่างเงียบๆ
จากนั้นก็ค่อยๆเอาหัวเข้าไปใกล้ไหล่เขาเบาๆ พูดพึมพำ
“ก็รู้ว่าหึง ถ้าให้เจ้ารู้ว่าแต่ก่อนข้าเห็นร่างกายผู้ชายมานับไม่ถ้วน ความหึงของคนขี้หึงนี้จะไม่กลายเป็นน้ำในแม่น้ำหวงเหอเลยหรือ?”
ทันทีที่นางพูดจบ ก็เห็นร่างกายของเย่แจ๋หยิ่งแข็งทื่อจากนั้นก็ลืมตา
“……”ไม่ใช่ว่าหลับไปแล้วเหรอ?
ทันใดนั้นในใจของหลานเยาเยาเต็มไปด้วยคำว่าFu*k
นี่เรียกว่าการสารภาพงั้นเหรอ?
ฮือฮือฮือ
“ที่แท้เจ้าก็เป็นคนเจ้าชู้”
คำพูดนิ่งๆของเย่แจ๋หยิ่งทำให้หน้าของหลานเยาเยาพังทันที
“เจ้ายังไม่หลับเหรอ?”
“หลับแล้วจะได้ยินประวัติความเจ้าชู้ของเจ้าเหรอ?”
จิ๊จิ๊!
อารมณ์หึงนี่ไม่ได้เยอะเหมือนปกติ! แล้วยังประวัติความเจ้าชู้อะไรห้ะ!
“นั่นไม่ได้เรียกว่าเจ้าชู้ แต่ในฐานะหมอ เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
อย่าพูดถึงผู้ชายเลยแม้แต่ผู้หญิงก็ดูแลไม่ให้ผิดพลาด เห็นเยอะจนชินจนเป็นปกติ ก็กะอีแค่เนื้อขาวๆสองสามชิ้น ไม่มีอะไรมากไปกว่ารูปร่างที่ต่างกันเท่านั้น
เห็นแล้วก็เห็น ที่จริงก็ไม่มีอะไรให้ดู”
เดิมทีนางคิดว่าพูดอย่างนี้แล้วความหึงของเย่แจ๋หยิ่งจะไม่มากนัก
ใครจะรู้……
เย่แจ๋หยิ่งกลับฮึดฮัด พูดเย็นชาว่า:
“แล้วร่างกายข้าหล่ะ? ก็เป็นหนึ่งในร่างกายขาวๆนั่นด้วยใช่ไหม?”
ร่างกายของเขา?
พอนางคิดถึงตอนที่เห็นรูปร่างของเย่แจ๋หยิ่ง ใบหน้าก็แดงก่ำรีบจับจมูกตนเองทันที
ภาพที่ทำให้คนเลือดไหลได้นั้นทำให้นางเลือดกำเดาไหลออกมาอย่างอดไม่ได้
“แค่กแค่กแค่ก มันไม่เหมือนกันรึไง!”
เพื่อปกปิดความอับอายของตนเอง หลานเยาเยาจึงเบิกตาพูดมั่วซั่ว
“แล้วเจ้าจะหน้าแดงทำไม?” เย่แจ๋หยิ่งเห็นหน้านางยิ่งแดง ก็มีความสุขขึ้นมาทันที จากนั้นมุมปากก็กระตุกขึ้น พูดอย่างภูมิใจว่า: “ดูท่าแล้วร่างกายของข้าจะทำให้เจ้าพอใจ”
“ได้ๆๆ เจ้าว่ายังไงก็ว่าอย่างงั้น แต่อ๋องเย่! เจ้าเบาเสียงหน่อยไม่ได้รึไง? นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าอวดนะ”
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ร่างกายเขาอ่อนแอขนาดนี้ จะพูดให้เปลืองแรงทำไม?
“อ่า……”
เย่แจ๋หยิ่งเอาแต่ยิ้ม
หลังจากที่รอให้หลานเยาเยาหลับไปข้างกายเขา เขาก็ยื่นมือตนเองออกไปเงียบๆ
มักจะมีความรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติที่มือ
หรือเกี่ยวกับที่ร่างกายอ่อนแอ?
——
เป็นเวลาหลายวันที่พวกเขาไม่ได้พบกับนักฆ่าของยิงจวน
หลังจากร่างกายดีขึ้นบ้าง พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังเผ่าหยินไห่ ตลอดทางนอกจากหลานเยาเยาจะเป็นหมอแล้ว ก็ยังเป็นพี่เลี้ยงเด็กอีก
อีกอย่าง!
เพียงแค่นางสัมผัสหานแสแม้แต่นิดเดียว เย่แจ๋หยิ่งเอะอะก็หึง
ดังนั้น สองสามวันนี้ อ๋องเย่ที่เคยทำให้คนหวาดกลัว ตลอดทางนี้เอาแต่หึงหวง พูดได้ว่ามีความหึงเต็มฟ้าไปหมดแล้ว!
นี่ก็ทำให้หลานเยาเยาหมดคำพูดไปในเวลาเดียวกันแต่ในใจก็เต็มไปด้วยความสุข
วันนี้ ใกล้เข้าใกล้เผ่าหยินไห่แล้ว ความหึงของอ๋องเย่ก็เกิดขึ้นอีก เนื่องจากเพราะอาการบาดเจ็บของหานแสดีขึ้นมาแล้ว เขารู้สึกว่าเรื่องการเปลี่ยนยานั้นสามารถทำเองได้
แต่นางแค่บอกว่าแผลที่หลังของหานแสตนเองทาไม่ถึงก็เท่านั้น ผลสุดท้ายก็คือเย่แจ๋หยิ่งหนีออกจากบ้าน······
อ้อไม่ หนีออกจากโรงเตี๊ยม
เมืองที่อยู่ริมเผ่าหยินไห่ถูกสร้างขึ้นริมทะเล แม้ตลาดที่นี่จะมีหลายประเภทแต่ที่สำคัญที่สุดก็คืออาหารทะเล
หลานเยาเยาหาที่ริมทะเลอยู่นานแต่ก็ยังคงไม่พบร่องรอยของเย่แจ๋หยิ่ง
“คงไม่ไปจริงๆใช่ไหม?”
ตอนที่หลานเยาเยาพึมพำกับตนเองอยู่นั้นก็มีเสียง “ตุ้บตับตุ้บตับ”ดึงดูดความสนใจของนาง
ดังนั้น!
นางจึงรีบเดินไปข้างหน้า ในโรงน้ำชาแห่งหนึ่ง มีชายป่าเถื่อนทุบตีบางอย่างตามอำเภอใจ ทั้งยังตีเถ้าแก่โรงน้ำชากับบ๋อยจนอาเจียนเป็นเลือด พวกเขาล้มลงไปกับพื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
“พี่ใหญ่ เด็กนั่นถูกโยนลงทะเลไปแล้ว คาดว่าน่าจะตายแล้ว”
“ตายแล้วก็ดี ใครใช้ให้มายุ่งเรื่องชาวบ้าน ข้าก็คิดจะทำเช่นนั้น เพียงแค่ยังไม่มีโอกาส”
“พี่ใหญ่ชาญฉลาด ฉวยโอกาสตอนที่เด็กนั่นโดนยาพิษสาหัสจับโยนลงทะเล ตอนนี้ไม่มีเด็กนั่นคอยคุ้มครอง พวกเราก็สามารถเก็บค่ารักษาได้ ทั้งยังสามารถกินดื่มเท่าไหร่ก็ได้”
“พูดไร้สาระอะไร ทุบสิ ทุบแรงๆ”
จากนั้นก็มีการขานรับของสมุนข้างกาย คนที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่ นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างหยิ่งผยอง มองลูกสมุนทุบข้าวของในโรงน้ำชาตามอำเภอใจและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
มาอยู่ที่นี่วันแรก หลานเยาเยาไม่อยากจะไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน
แต่ตอนที่นางเห็นของที่แขวนอยู่บนตัวพี่ใหญ่นั้นสายตานางก็หรี่ลง และเกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นในใจทันที
ป้ายที่แขวนอยู่ตรงเอวนั่นไม่ใช่ป้ายห้อยเอวขององครักษ์ลับในบังคับบัญชาของเย่แจ๋หยิ่งหรอกหรือ?
ป้ายนี้ทำจากทอง เป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะ ปกติจะไม่เปิดเผยง่ายๆ
แต่ตอนนี้ ป้ายนั่นกลับอยู่ในมือของชายป่าเถื่อน ดูท่าจะมีองครักษ์ลับพบกับอันตรายไม่คาดคิด
หลังจากนั้นไม่นาน
คนกลุ่มนั้นก็มองโรงน้ำชาที่ถูกทุบยับเยิน แล้วหัวเราะขึ้นมา พี่ใหญ่นั่นเหยียบไปที่หัวของเถ้าแก่โรงน้ำชา
“วันหลังข้าจะมากินข้าว ดื่มชา ดูซิวันหลังเจ้าจะกล้าเก็บเหรียญเงินหรือไม่? เฮอะ!”
พูดจบก็ถอนเท้าออก เตรียมจะพาพี่น้องจากไป แต่ไม่คาดคิดว่าตอนที่เดินมาหน้าประตูจะถูกหลานเยาเยาที่เป็นหญิงแต่งชายขวางเอาไว้
พี่ใหญ่มองหลานเยาเยาที่สวมชุดหรู ใบหน้าหล่อเหลาหาใดเปรียบ
“เด็กน้อย เจ้าขวางข้าอยู่ รีบหลบไป”
เขาเห็นท่าทางของหลานเยาเยาดูร่ำรวย เป็นคนมีเงิน ดังนั้นจึงไม่อยากทำให้ไม่พอใจ แต่น้ำเสียงนั้นกลับไม่ดี
“ข้าจะเข้าไปดื่มชา ผู้ที่ควรหลบไปคือพวกเจ้า”
สายตาของหลานเยาเยานิ่งสงบ น้ำเสียงก็นิ่ง แต่ไม่ใส่ใจพวกเขาเลยสักนิด
เข้าไปดื่มชา?
ไม่เห็นว่าโรงน้ำชาถูกพวกเขาทุบไปแล้วรึไง?
“เด็กน้อย อวดดีนักนี่! ดูท่าต้องให้ข้าแสดงให้ดูแล้วกระมัง” พี่ใหญ่มองหน้าตาของหลานเยาเยา ในใจก็คิดว่า รอให้จับได้ก่อนจะเอาไปขายในซ่องให้ไปเป็นโสเภณีชายเสีย