หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 428 ประลองฝีมือกับหานแส
บทที่ 428 ประลองฝีมือกับหานแส
มองจากภาพรวม เห็นได้ชัดว่าหลานเยาเยาสะบักสะบอมกว่ามาก
แต่ทว่า!
หานแสกลับเป็นผู้เก็บมือก่อนจากนั้น เอามือไขว้หลังเหมือนไม่มีเรื่องอะไร พูดอย่างสบายๆ :
“เป็นดังคาด มีความสามารถอยู่บ้าง ก็กล้าก่อเรื่องวุ่นวายที่เรือแห่งความสิ้นหวังเพียงนี้ หลานเยาเยา เจ้าเปลี่ยนแล้ว”
ประโยคสุดท้ายเขาพูดเบามาก แต่กลับเจือปนไปด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง
“ข้าเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน สามปีก่อนท่านก็ได้รู้แล้วไม่ใช่หรือ? แต่จากที่ข้ามอง ท่านไม่ได้เปลี่ยนเลย เพียงแค่ใช้ประโยชน์จากคนขึ้นมา เมื่อเทียบกับสามปีที่แล้วมากกว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลจริงๆ”
หานแสฟังเข้าใจความนัยของนาง ร่างกายกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็โบกมือ ปิดประตูใหญ่ห้องส่วนตัวโดยตรง ปิดบังสายตาของคนที่ดูอยู่ด้านนอก
เขาเดินขึ้นมาข้างหน้าช้าๆ เพ่งมองดวงตาของหลานเยาเยาเขม็ง หลังจากมาถึงด้านหน้าของนาง ก็จะเอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมของนาง
แต่กลับถูกหลานเยาเยาหันหลบไปโดยตรง
หานแสหัวเราะอย่างชั่วร้ายเสียงหนึ่ง เอามือที่ค้างกลางอากาศครึ่งนึ่งเก็บกลับมา
“ถ้าเจ้าอยากจะเอาความเกลียดต่ออ๋องเย่มาลงที่ร่างกายข้า ข้าก็เต็มใจยอมรับ
แต่ เรื่องประเภทนี้เจ้าต้องบอกก่อนสักหน่อย อย่างไรซะสูญเสียเหรียญเงินเป็นจำนวนมากไม่ว่า ยังจะทำให้ชื่อเสียงของเรือแห่งความสิ้นหวังของข้าดีรับความเสียหายอีก ไม่เหมาะสมจริงๆ”
“เจ้าของเรือ ท่านเพียงแค่สูญเสียกำลังทรัพย์และชื่อเสียงเหล่านั้นเท่านั้น แต่สาวใช้ข้างกายของข้ากลับต้องเอาชีวิตเข้าไปแลกด้วย คนเดียวไม่พอ ยังจะเกือบต้องแลกเข้าไปทั้งสองคน ท่านคิดว่าใครที่ไม่คุ้มกว่า?
หลานเยาเยามองดูกระปุกยาที่ไม่มีควันพุ่งแล้ว ก็นั่งลงอีกครั้ง
หานแสก็มาถึงข้างกายนาง เอนพิงโต๊ะทำงาน และเอื้อมมือมาจับปอยผมของนางต่อ
“สาวใช้ของเจ้าตายเกี่ยวอะไรกับข้า?”
จับเส้นผมไวในมือยังไม่ทันร้อน หลานเยาเยาก็ดึงผมกลับไป หานแสปล่อยมืออีกครั้ง กล่าวต่อ :
“ยิ่งไปกว่านั้น สองสามวันก่อน เจ้าสังหารอ๋องเย่ที่ร้านประมูลเสินตู ไม่ใช่ว่าคิดว่าเป็นเขาฆ่าสาวใช้ของเจ้าแล้วหรอกหรือ? ทำไมกลับมาหาเรื่องข้าถึงที่อย่างกะทันหันอีก
เทพธิดาหนอเทพธิดา ข้าเป็นผู้ที่ประคองสร้างให้เป็นเทพธิดา ตอนนี้พวกเราคือพันธมิตร และเป็นผู้ที่ร่วมมือกัน กระทั่งเจ้ายังเป็นสมาชิกเรือแห่งความสิ้นหวังของข้าอีก
ปัจจุบันสถานการณ์เรื่องราวต่างๆของเมืองหลวง เจ้ารู้ดี ข้าก็รู้ดี พวกเราถึงจะเป็นคนเส้นทางเดียวกัน”
“หานแส ข้าไม่ใช่คนที่ยอมให้คนรังแกแล้วจะไม่โต้กลับประเภทนั้น คนอื่นดูไม่ออก ท่านคิดว่าข้าจะดูไม่ออกจริงๆหรือ?
คิดแตะต้องคนข้างกายข้า โดยจะโยนความผิดให้เย่แจ๋หยิ่ง ไม่ใช่แต่ฮ่องแต้ผู้เดียว ท่านก็คอยผสมโรงอยู่เบื้องหลังมาตลอด
ขณะที่ฮ่องเต้ส่งนักฆ่ามาคิดต้องการจะฆ่าช่าจื่อ กลับเพราะช่าจื่อมีวิทยายุทธหลบหนีได้ แต่ท่านก็ใช้ภาพลักษณ์ของเย่แจ๋หยิ่ง ย้ำเข้าไปอีกมีดด้วยตัวเอง อยากผ่านปากของช่าจื่อมาบอกข้าว่า เย่แจ๋หยิ่งเป็นคนฆ่านาง
ช่าจื่อตายแล้ว ข้าไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ฮ่องเต้คิดอยากจะลงมือฆ่าสาวใช้อีกคนหนึ่งของข้าเย็นหงท่านก็เหมือนเดิม หากไม่ใช่ว่าขณะที่กำลังจับนักฆ่าที่ฮ่องเต้ส่งมาในคืนนั้น ข้ามองเห็นเงาร่างของท่าน คาดว่าตอนนี้เย็นหงก็ตายไปแล้ว”
คืนวันนั้น หลังจากที่นางได้เห็นเงาร่างสีม่วง ตอนแรกเริ่มยังคิดว่าตัวเองมองผิด แต่เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ยังให้จื่อเฟิงส่งคนไปปกป้องที่เย็นหงและตาแก่ทั้งหลายอยู่อย่างลับๆ
คิดไม่ถึงว่าหานแสจะลงมือจริงๆ และยังใช้ภาพลักษณ์ของเย่แจ๋หยิ่งเหมือนเดิม
“ทำอะไร? ข้าคิดจะทำอะไรเจ้ารู้ดีเป็นอย่างมากไม่ใช่หรือ? ช่างเถอะ ข้าก็ไม่ใช่ผู้ที่ทำแล้วไม่กล้ายอมรับประเภทนั่น ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่ปิดบังแล้ว ข้าทำเช่นนี้ เพียงไม่อยากให้เจ้าเดินหลงไปในทางผิด”
“เดินหลงไปในทางผิด? หานแสท่านหลอกใช้ข้ามาตลอดตั้งแต่เริ่มจนจบ เริ่มสร้างสถานการณ์ตั้งแต่สามปีก่อน ทำให้ข้าเป็นเทพธิดาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในแผนการของท่าน ต้องการฆ่าราชครูเทียนเวิงเพื่อล้างแค้น เป็นเป้าหมายจริงๆของท่านจริงหรือ?
ทั้งๆที่คนที่พวกเราต้องการล้างแค้นเป็นคนคนเดียวกัน ทำไมท่านยังจะต้องลงมือกับคนข้างกายของข้า?”
นี่ก็คือจุดที่หลานเยาเยาไม่เข้าใจ
หานแสทั้งอยากทำให้ความสัมพันธ์ของนางกับเย่แจ๋หยิ่งแตกหัก ทั้งสามารถลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับคนข้างกายของนาง หรือไม่กลัวว่าหลังจากที่นางรู้แล้ว จะหันกลับมาแค้นเขาหรือ?
ดังนั้นนางจึงเริ่มสงสัย
เป้าหมายจริงๆของหานแสไม่ใช่ราชครูเทียนเวิง……
“ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อเจ้า ตอนนี้เจ้ากับอ๋องเย่ร้าวฉาน ข้าก็ไม่ลงมือกับคนของเจ้าอีกเป็นธรรมดา เจ้าต้องเชื่อในจุดนี้ น้ำสามารถทำให้เรือทรงตัวได้และสามารถพลิกคว่ำเรือได้
เจ้าอยากให้ราชครูเทียนเวิงตาย ข้าก็เหมือนกัน ดังนั้นพวกเรายังเป็นผู้ที่ร่วมมือกัน มิใช่หรือ?
เหมือนที่เจ้าพูด สามารถเป็นเทพธิดาได้ทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือการวางแผนของข้า แม้ว่าจะมีใจคิดหลอกใช้ แต่ก็เป็นความเต็มใจยอมของเจ้า
วันนี้เจ้ากับอ๋องเย่แตกหัก เจ้าเพียงร่วมมือกับข้าต่อ ยังไงซะทุกคนก็ล้วนหลอกใช้กันและกัน ได้ประโยชน์ร่วมกัน
อ๋องเย่ใช้ประโยชน์เจ้า ข้าก็ใช้ประโยชน์จากเจ้า แต่เจ้าไหนเลยจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากพวกเราล่ะ?
แต่ อ๋องเย่เป็นคนของราชครูเทียนเวิง จุดนี้ไม่ต้องสงสัย แต่ข้า ก็มีเพียงเจ้า มีความสามารถที่เพียงพอต่อกรกับราชครูเทียนเวิงด้วยกันกับเจ้า
ข้าฆ่าสาวใช้ผู้หนึ่ง เจ้าทำลายการค้าของข้า ยังจะทำลายชื่อเสียงของเรือแห่งความสิ้นหวัง กระทั่งยังทำให้ส่วนหนึ่งของยิงจวนถูกอ๋องเย่ยึดครองในเวลาอันใกล้อีก หากว่าถือเท่าเทียมแล้ว
ข้าก็เสียเปรียบไปหน่อย แต่ข้าเสียเปรียบได้”
หลานเยาเยาประหลาดใจเล็กน้อย!
เรื่องส่วนหนึ่งของยิงจวน นึกไม่ถึงว่าหานแสรู้แล้ว
ดูท่า สามารถทำได้เพียงปล่อยไปอย่างนี้
“เสมอกันจริงๆ” หลานเยาเยาลุกขึ้นยืน ปะทะสายตากับหานแส “ข้าเคยคิดว่าจะให้ท่านเป็นเพื่อนสนิท แต่ตอนนี้ดูแล้ว พวกเราเป็นได้เพียงผู้ที่ร่วมมือกันเท่านั้นแล้ว”
เมื่อคำพูดนี้หลุดไป
ร่างกายของหานแสสั่นไหวครู่หนึ่ง ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย และมีแววแห่งความสับสนแวบผ่าน แต่สุดท้ายกลับไม่ได้พูดอะไรออกมา
ตอนนี้ทั้งสองคนได้เอ่ยคำอย่างเปิดเผย ล้างแค้นยังต้องการดำเนินต่อ
หลานเยาเยาพูดจบก็เดินอ้อมหานแสไปทางประตู หานแสหันกลับมาถามโดยตรง :
“ทั้งที่เจ้ารู้ว่าข้าฆ่าสาวใช้ของเจ้า ทำไมเจ้ายังต้องการแตกหักกับอ๋องเย่?”
หลานเยาเยาหัวเราะเบาๆเสียงหนึ่ง
“ถึงเวลานี้แล้ว ข้ายังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ? เย่แจ๋หยิ่งหลอกใช้ข้า ท่านก็หลอกใช้ข้า ดั่งที่ท่านพูดเช่นนั้น เย่แจ๋หยิ่งเป็นคนของราชครูเทียนเวิง นอกจากร่วมมือกับท่านข้ายังสามารถร่วมมือกับใครได้?”
พูดจบนางก็จากไป ไม่อยู่ต่อ
หู้ว……
หานแสทางนี้จัดการได้พอสมควรแล้ว ไม่รู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งทางนั้นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?
หานแสยืนนิ่งๆอยู่ข้างโต๊ะทำงาน มองดูประตูที่เปิดอยู่ กำหมัดแน่นขึ้นเล็กน้อย พึมพำกับตัวเอง :
“หลานเยาเยาหนอ! เจ้าเคยคิดให้ข้าเป็นเพื่อนสนิทจริงๆหรือ? เป็นไม่ได้หรอก! เจ้ากับข้าล้วนเป็นคนที่เรือลำใหญ่นี้เลือก ชะตาฟ้ากำหนดไม่ใช่ตัวเอง”
หลังจากที่รอจนหานแสออกมาจากในห้องส่วนตัว ที่อยู่ยืนอยู่ด้านนอก มีเพียงซาหมั่งเฉิงกับโจ๋จุนชิงแล้ว ป่ายเม่ยเซิงไม่รู้ว่าไปทางใดแล้ว
เขามองดูศพทั้งหลายที่ลอยอยู่บนผิวทะเลสาบ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา :
“ไปจัดการ”
“ขอรับ!”
ซาหมั่งเฉิงกับโจ๋จุนชิงเพิ่งต้องการจะทำมือเคารพ ก็เห็นเจ้าของเรือของตัวเองจากไป
ริมทะเลสาบ
หลานเยาเยาลงมาจากเรือแห่งความสิ้นหวัง เดินผ่านร้านน้ำชา อดไม่ได้ที่จะมองไปทางในห้องที่เย่แจ๋หยิ่งอยู่ก่อนหน้านี้ ว่างเปล่าไม่มีใครในทันใด
ด้านหลังเสียงของป่ายเม่ยเซิงดังมา…