หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 632 รู้สึกขยะแขยงใช่หรือไม่
การปรากฏตัวของหลานเยาเยาทลายความงดงามทุกอย่างของนาง เหมือนว่าอ๋องเย่ชอบพอต่อนาง ปฏิบัติต่อนางแตกต่างอย่างมาก นางเคยไปทำความเข้าใจหลานเยาเยา เป็นบุคคลที่มีแผนการในใจมากมายผู้หนึ่ง ด้วยเหตุนี้นางทำได้เพียงหลอกใช้พี่สาวน้องสาวข้างกายของหลานเยาเยาทำให้นางรู้จักความลำบากและถอนตัว
แต่ไม่ว่านางจะทำอย่างไร ก็หยุดยั้งอ๋องเย่กับนางแต่งงานกันไม่ได้
ดีที่หลานเยาเยาตายแล้ว แต่เทพธิดาที่ขอพรเพื่อประชาชนก็โผล่มาอีกผู้หนึ่ง
เทพธิดาผู้นั้นแค่มองก็ไม่ธรรมดา อีกทั้งความสามารถยิ่งใหญ่ ฮ่องเต้ทุกประเทศล้วนต้องเกรงใจและยอมนาง มองดูอ๋องเย่และเทพธิดายิ่งใกล้ชิดกันเรื่อยๆ และตัวเองก็ต้องโดนบีบคั้นให้แต่งงาน นางจำเป็นต้องเสี่ยง วางแผนการอย่างแยบยล จากนั้นเรื่องหนึ่งสามารถได้รับผลประโยชน์สามอย่าง
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากเทพธิดาที่หายตัวไปกลับมา นางกับอ๋องเย่ดูเหมือนว่าจะยิ่งรู้ใจกัน อีกทั้งแววตาที่อ๋องเย่มองดูนางคือความรักความเอ็นดู
นางแค้นมาก!
คิดเองว่าหน้าตางดงาม ถูกผู้คนชมว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง แต่หลานเยาเยาที่ถอนความอัปลักษณ์ไปกลับสวยเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ นางเทียบแค่ส่วนเดียว ก็ด้อยกว่าแล้ว
เทพธิดายิ่งหยาดเยิ้ม ลึกลับและแข็งแกร่ง เดิมทีนางก็ไม่ถึงระดับ แม้เทียบก็เทียบไม่ได้
ดีที่
เทพธิดาก็ตายแล้ว
แต่ทำไม อ๋องเย่ยังคงไม่ได้สนใจนาง?
ดังนั้นนางทำได้เพียงทำให้นางเป็นเทพธิดา หน้าตาเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่วาจาพฤติกรรมสามารถทำได้ นางทำหมดทุกวิถีทาง
คิดไม่ถึงซ่างกวนหนานซู่โผล่มาอีกผู้หนึ่ง ดีที่เป็นเพียงการตกใจไปเอง ตอนนี้ไม่ง่ายที่อ๋องเย่จะสนใจนาง ทั้งๆที่นางดีใจ แต่ในใจกลับไม่เคยสงบสุข
เพราะว่านั่นคือความคงอยู่ของตัวแทน!
นางจำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อย แต่ทว่าฆ่าเขาเป็นเพียงแค่เรื่องกระดิกนิ้ว คิดไม่ถึงกลับทำให้ตัวแทนผู้นั้นหนีไปได้
แต่ไม่เป็นไร ตัวแทนผู้นั้นคืนนี้จำต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา เพียงหวังว่าคืนนี้คือเขาหนีไป แต่ไม่ใช่ไปหาอ๋องเย่
ความจริง แม้ว่าตัวแทนจะไปหาอ๋องเย่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่นัก เกรงว่ารู้ว่าเขาเป็นอ๋องเย่ปลอม ก็จะถูกฆ่าตาย
เพียงแค่……
นางไม่หวังจะให้อ๋องเย่มีความสงสัยต่อนางแม้แต่น้อย
เพื่อเหตุนี้!
ถังมู่หวั่นหลับอย่างลำบาก
“กึก” เสียงหนึ่ง
“ทำไมหรือ?” ถังมู่หวั่นสอบถามด้านนอกห้อง
“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ คุณหนู แค่แมวตัวหนึ่งเหยียบเศษกระเบื้องเจ้าค่ะ”
สาวใช้ด้านนอกตอบ
“เช่นนั้นก็ฆ่าแมวซะ”
สาวใช้ด้านนอกห้องขานรับ แต่กลับไม่มีการเคลื่อนไหว ถังมู่หวั่นก็ขี้เกียจยุ่ง อย่างไรเสียอย่ารบกวนนางอีกก็ดีแล้ว
ใครจะรู้……
จากนั้น”กึก”อีกเสียงหนึ่ง เสียงดังกว่าก่อนหน้านี้
“ทำไมอีก?” เสียงของนางรำคาญอย่างเห็นได้ชัด
เรื่องเล็กๆเรื่องหนึ่งก็ทำไม่ได้ จะต้องการสาวใช้ไว้ทำไม? หากว่ามีอีกครั้ง พรุ่งนี้จะเอานางขายออกไป
น่าเสียดายกลับไม่มีเสียงสาวใช้ขานตอบ และถังมู่หวั่นก็รู้สึกผิดปกติแล้ว นางลุกขึ้นนั่ง ลงจากเตียง ใช้มือคลำที่เชิงเทียนแล้วจุดเทียน แสงเทียนเติมความสว่างให้ทั้งห้องในพริบตา
นางเรียกชื่อสาวใช้สองสามรอบ
ยังคงไม่ได้ยินเสียงตอบ นางวิ่งไปข้างประตูห้องในพริบตา และไม่ได้เปิดประตู แต่ใช้สลักลงกลอนประตูห้องทันที และลงกลอนจากด้านใน
เวลานี้นางไม่ได้วางใจ แต่พุ่งไปที่ข้างเตียง หยิบมีดสั้นออกมาจากใต้หมอน จับจ้องที่ประตูห้องตลอด ลมหนาวพัดมาอย่างไม่คาดคิด ยกเส้นผมของนางขึ้น
ถังมู่หวั่นมองไปทางลมหนาวทันที
เป็นหน้าต่าง!
หน้าต่างเปิดตั้งแต่เมื่อไหร่?
นางสังเกตรอบๆ ไม่เห็นว่าในห้องมีคนเข้ามา นางรีบวิ่งเข้าไป ต้องการปิดหน้าต่าง
ใครจะรู้ เมื่อเงาดำแฉลบ มีสิ่งของตรงมาทางด้านหน้าของนาง พุ่งมาเต็มหน้าอก ทำให้นางตกใจอย่างรุนแรง
“อ้า……”
เมื่อมองอย่างแน่วแน่ เป็นเพียงแมวดำตัวหนึ่ง ถังมู่หวั่นจับแมวดำขึ้นมาก็หยิบมีดสั้นแทงเข้าไป จากนั้นเอาแมวที่ตายแล้วโยนไปด้านข้าง และรีบไปปิดหน้าต่าง แต่กลับถูกมือข้างหนึ่งขวางไว้ จากนั้นคือใบหน้าเลือดปรากฏตัวของต่อหน้าถังมู่หวั่น
นางรู้นั่นคือสาวใช้ อมเลือดในปาก เหมือนว่าจะถูกตัดลิ้นแล้ว แต่แววตาจ้องมองนางตรงๆ ขอความช่วยเหลือนาง
ถังมู่หวั่นตัดสินใจฉับพลัน โบกมีดสั้น ปาดมือของสาวใช้ที่ขวางหน้าต่างไว้โดยตรง
จากนั้นปิดหน้าต่างสนิทและลงกลอน กระทั่งอยู่ห่างจากหน้าต่าง แต่มีดสั้นในมือกลับกำไว้แน่นโดยตลอด ดวงตามองไปที่ประตูห้องครู่หนึ่ง มองหน้าต่างครู่หนึ่ง
“มู่หวั่น!”
เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังเชิงเทียน ถังมู่หวั่นรีบหมุนตัวไป เงาร่างคนผู้หนึ่งอยู่ด้านหลังเชิงเทียน เห็นหน้าไม่ชัด แต่กลับสามารถเห็นร่างกายที่คุ้นเคย
“อ๋องเย่?” จิตใจของถังมู่หวั่นมีความกลัว ถามอย่างระมัดระวังเสียงหนึ่ง
“เป็นข้า!”
เป็นเสียงของอ๋องเย่
นางรีบผ่อนความระวังตัว รีบเดินเข้าไป ใครจะรู้เมื่อเข้าใกล้ ใบหน้าที่แปลกตาก็ปรากฏขึ้นในม่านตา ถังมู่หวั่นชะงักทันที เกิดความกลัวทันใด ระวังตัวทั้งตัว
นางไม่เคยรู้จักใบหน้านี้
“เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าคือใคร? ข้าคือฉินหวยไง! มักจะร่วมหลับนอนกับเจ้าอยู่เสมอ ฉินหวยที่มีความสุขใจทุกๆคืนไง! ทำไม มู่หวั่นจำไม่ได้แล้ว?” ฉินหวยแววตาเฉียบคม น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย
“ไม่ คนที่มีความสุขกับข้าคืออ๋องเย่ ไม่ใช่เจ้า” ตีให้ตายถังมู่หวั่นก็ไม่ยอมรับ นางหลอกตัวเองมาตลอด ถึงตอนนี้ราวกับว่าเพิ่งจะตื่นจากความฝัน เจ้าของร่างกายผู้นั้นที่ถูกบีบบังคับให้มีความสุขร่วมรักกับนาง เป็นเพียงฉินหวยที่ถูกคลุมด้วยหน้ากากหนังคนหน้าอ๋องเย่เท่านั้น
แต่เช่นนั้นแล้วจะอย่างไร?
เวลาที่มีความสุข ใบหน้าเป็นใบหน้าของอ๋องเย่ นางก็คือคนของอ๋องเย่
“ไม่เป็นไร ก่อนหน้านี้ไม่นับก็ไม่นับ ตอนนี้ข้าจะทำให้เจ้าดู เอาเจ้าทับไว้ใต้ร่างกาย คนที่ครอบครองร่างกายของเจ้าอย่างโหดเหี้ยมคือใคร”
ตอนนั้น ถังมู่หวั่นข่มขู่บีบคั้นเขาอย่างไร ทำให้เขาได้รับความอัปยศอย่างไร วันนี้เขาจะคืนนางเป็นอีกเท่า
พูดจบ ฉินหวยเข้าใกล้ทีละก้าวๆ
“อย่าเข้ามา เข้ามาอีกข้าจะฆ่าเจ้า” ถังมู่หวั่นถอยหลังทีละก้าว
“ฆ่าเถอะ! ยังไงซะข้าก็เป็นคนที่ใกล้ตาย” ความเป็นความตายในตอนนี้สำหรับฉินหวยไม่สำคัญแล้ว เขาต้องการก็คือล้างแค้นถังมู่หวั่นอย่างโหดเหี้ยม ล้างแค้นแทนตัวเองและคนในครอบครัวที่เสียชีวิตไป
“ไม่ ยาพิษที่ข้าวางให้เจ้ามียาถอนพิษ เจ้าปล่อยข้า ข้าให้ยาถอนพิษเจ้า”
ถูก นางยังสามารถใช้ยาถอนพิษที่ไม่มีจริงมาหยุดยั้งฉินหวยได้
“หน้ากากหนังคนได้ถอดออกไปแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้ายังสามารถหลอกข้าได้อีก? ข้าจะต้องตายเป็นแน่ ถังมู่หวั่น เจ้ายังมีโอกาสรอด จะไตร่ตรองหน่อยหรือไม่ วางมีดสั้นในมือลง?”
พูดพลาง ฉินหวยถลกแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อยพลาง บนแขนของเขาติดตั้งหน้าไม้ เพียงแค่กดปุ่มเปิดปิด ถังมู่หวั่นไม่มีแม้แต่ทางจะตอบโต้ แล้วจะตายภายใต้ธนู
มองดูฉินหวยที่มาอย่างเตรียมพร้อม
ในดวงตาของถังมู่หวั่นมีความหวาดกลัว และมีความเกลียดแค้น แต่นางไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงโยนมีดสั้นบนพื้น จากนั้นเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้า เพื่อเอาใจฉินหวย
ใครจะรู้……
ฉินหวยไม่ได้อ่อนโยนและระมัดระวังเช่นนั้นเหมือนตอนที่ถูกนางบีบบังคับ เกรงว่าจะทำให้นางเจ็บหรือทำให้นางไม่พอใจ ตอนนี้ฉินหวยผลักนางไปที่พื้น ไม่มีการเล้าโลมใดๆ ก็โจมตีเข้าไปโดยตรง ย่ำยีแก้แค้นนางอย่างป่าเถื่อน
รอยช้ำทั้งตัวทำให้นางได้รับความเหยียดหยามเป็นที่สุด แต่นางทำได้เพียงกัดปาดกัดฟันยอมรับ
มีความสุขหลายครั้ง ฉินหวยจึงได้หยุดลง ลองบีบคอนาง แต่กลับไม่ได้บีบคอนางให้ตาย เขาเพียงแค่มองดูมือของตัวเอง จากนั้นหัวเราะต่ำๆขึ้นมา
“สวมเสื้อผ้าให้ดี ช่วงเวลาสุดท้ายที่เหลือจะต้องเหมาะสมหน่อย เจ้าไม่ปรารถนาให้ตอนที่อ๋องเย่เห็นศพของเจ้า ไม่ได้สวมเสื้อผ้าสินะ!”
ถังมู่หวั่นที่ผมเผ้ารุงรังอย่างยิ่งเชื่อฟังคำพูด แต่สายตากลับตกอยู่บนมีดสั้นที่ถูกโยนไปข้างๆ ขณะที่เก็บเสื้อผ้าบนพื้น นางก็เก็บมีดสั้นติดมือมาด้วย
ระหว่างนั้นฉินหวยเห็นแล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น เพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชา
รอถังมู่หวั่นสวมเสื้อผ้าดีแล้ว ฉินหวยเข้าใกล้แล้วถาม:
“รู้สึกน่าขยะแขยงใช่หรือไม่? รู้สึกว่าตัวเองได้รับการเหยียดหยามเป็นที่สุด?”
ถังมู่หวั่นไม่พูด เพียงแค่กำหมัดแน่น วางมาดยิ้มเล็กน้อยมองดู ปิดบังความแค้นในดวงตาไว้ลึกๆ
“ที่เจ้าฝืนบังคับข้า ตอนนี้ตัวเองก็รู้สึกสัมผัสได้แล้ว ผลกรรมไม่สนุกสินะ! เจ้าฆ่า…….” เจ้าฆ่าข้าเถอะ!