หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 674 ตัวตนที่แท้จริงของเซียวจิ่นหยู
หลังจากบรรลุจุดประสงค์
หลานเยาเยามองไปทางเย่แจ๋หยิ่ง เย่แจ๋หยิ่งพยักหน้าเล็กน้อย เรื่องราวต่อจากนั้นก็มอบให้เขาแล้ว
เขาสั่งให้คนไปหยิบกระดาษปึกหนาๆมา ด้านบนเป็นดินปืนโบราณ และภาพวาดวิธีการสร้างอย่างเรียบง่ายของอาวุธโบราณเหล่านั้นสำหรับต่อสู้กับคนจากนอกแผ่นดิน
รถถังโบราณในมือของหลานเยาเยาและอาวุธโบราณขนาดหนักมีข้อจำกัด สามารถแบ่งให้แต่ละประเทศได้ไม่มาก อีกทั้งหลานเยาเยาไม่มีปัญญากลับไปหาเสบียงที่ยุคปัจจุบันได้แล้ว กระสุนปืนใหญ่โบราณล้วนมีจำกัดเป็นที่สุด
เพราะฉะนั้น พวกเขาจำเป็นต้องใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่มีจำกัดของแผ่นดินใหญ่ผืนนี้ สร้างอาวุธโบราณออกมา ต่อสู้กับคนจากนอกแผ่นดิน
อีกทั้งหลานเยาเยาก็ต้องการปรุงยาน้ำแห่งชีวิตให้มากขึ้น เพื่อสามารถเป็นหลักประกันความสามารถในการรักษาร่างกายของคนให้ได้มากที่สุด
อีกทั้ง!
จำนวนยาน้ำในการรักษาของนางมีจำกัด ก่อนที่คนจากนอกแผ่นดินจะขึ้นฝั่ง นางจำเป็นต้องปรุงออกมาให้ได้ปริมาณมากที่สุด ใช้ดื่มในขณะที่ร่างกายสูญเสียน้ำ ประสิทธิภาพของยาอยู่ได้นานสามวัน
แต่นี้คือของที่ใช้แล้วหมดไป
นางจำเป็นต้องปรุงออกมาโดยไม่ขาดช่วง
ฮ่องเต้และเหล่าผู้นำของชนเผ่าที่ได้รับภาพอย่างง่ายๆแต่ละชนิด ทยอยจากไป กลับไปโดยใช้ความรวดเร็วเป็นที่สุด เพื่อสร้างสิ่งที่ร้ายกาจและล้ำหน้าระดับนี้ออกมา เช่นนี้ทั้งสามารถโจมตีคนจากนอกแผ่นดินได้ ทั้งสามารถสร้างความยิ่งใหญ่แข็งแกร่งของตัวเองได้อีกด้วย
หลังจากที่ทุกคนจากไป
ยังมีสามคนที่ยืนอยู่ที่นั่นเงียบๆ
พวกเขาคือพวกเซียวจิ่นหยูที่ก่อนหน้านี้ได้ขี่ม้าไปประเทศเชียนหลิงด้วยกัน
ทุกครั้งพวกเขาล้วนช้าไปก้าวหนึ่ง
ตอนนั้นขณะที่หลานเยาเยาพวกเขาเพิ่งจะไปที่เรือแห่งความสิ้นหวัง พวกเขาตามไปถึงริมฝั่ง เรือแห่งความสิ้นหวังเพิ่งจะจากไป ยังสามารถมองเห็นเงาของเรือเล็กๆที่ไกลออกไปได้
หลังจากไปถึงประเทศเชียนหลิง พวกเขาแอบสืบข่าวโดยตลอด ยังไม่ง่ายที่จะสืบได้ว่ามีเสียงฟ้าร้องที่ป่าลึกลับใกล้ๆกับบริเวณรอบชายฝั่งของหมู่บ้านชาวประมง ขณะที่รีบไปถึง ผู้คนจากไปหมดแล้ว ชาวบ้านได้ลี้ภัยไปนานแล้ว
ด้วยเหตุนี้พวกเขาคาดเดาว่า คนจากนอกแผ่นดินถูกกำจัดแล้ว หลานเยาเยาพวกเขาน่าจะกลับเมืองโยวกวงแล้ว
ใครจะรู้……
ขณะกลับถึงเมืองโยวกวง ก็ช้าไปอีกก้าวแล้ว
หลานเยาเยาพวกเขาออกเดินทางนานแล้ว มุ่งไปที่ชายฝั่งอู๋จื่อแห่งแม่น้ำจิ้งฮวา ด้วยเหตุนี้ พวกเขาก็เดินทางไกลเป็นพันลี้มาอีก
วันเวลาเหล่านี้
พวกเขาก็ไม่ได้ราบรื่น และประสบความลำบากเล็กน้อย ทำให้ท่านพี่เซียวต้องได้รับบาดเจ็บหนัก เดิมทีอยากจะให้จื่อซีรักษาให้ทันที
แต่ทว่า……
พวกเขาเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ได้โค่นล้มโลกทัศน์ของพวกเขาแล้ว และเข้าใจผิดต่อเทพเจ้าที่ไม่ได้ดำรงอยู่
พระราชธิดาจาวหยางและเย็นหงล้วนไม่กล้าเดินไปทางหลานเยาเยา
รู้ว่าหลานเยาเยาเก่งกาจ แต่ไม่รู้ว่านางจะเป็นเทพธิดาที่มหัศจรรย์เพียงนี้ วันนี้สิ่งของที่ได้แสดงออกมาชั่งมหัศจรรย์เกินไปแล้ว พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“เทพ เทพธิดา” พระราชธิดาจาวหยางเห็นหลานเยาเยาเดินเข้ามา ร้องเรียกอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด
หลานเยาเยาขมวดคิ้วเล็กน้อย
เดินไปถึงข้างกายนางตีหัวนางทีหนึ่ง
“ทำไม! ดูจนโง่ไปแล้ว? หรือคิดว่าข้าเลื่อนขั้นเป็นเซียนในทันทีแล้ว ตัวเองไม่คู่ควรที่จะกินดื่มอย่างเมามันผ่าเผยกับข้าแล้ว?”
พระราชธิดากลืนน้ำลายอึกหนึ่ง
ยังคงเป็นน้ำเสียงชนิดนั้น ยังเป็นหลานเยาเยาในใจของนาง ไม่ใช่ปีศาจภูตผีที่แปลกหน้า
“ไม่ ไม่มี” นางตกใจเกินไปแล้ว
ที่แท้เพื่อนของตัวเองก็เป็นเทพเจ้า
“เช่นนั้นก็ดี” จากนั้นหลานเยาเยากดเสียงต่ำ พูดกระซิบ “มีของกินอร่อยๆหรือไม่?”
พระราชธิดาจาวหยางพยักหน้าด้วยความน่ารัก
ด้วยเหตุนี้ หลานเยาเยารีบยื่นมือไปคล้องคอนางทันที ก็พานางเดินไปอีกทางหนึ่ง ถือโอกาสใช้สายตาบอกใบ้เย็นหง แสดงความหมายให้นางตามมา
น่าเสียดาย!
ในตาของเย็นหงจ้องมองเพียงแค่มือของนางอย่างเดียว มือที่สามารถเสกสิ่งของออกมาได้มากมายข้างนั้น หลังจากเห็นนางโอบพระราชธิดาจาวหยางเดินไปแล้ว สายตาก็เคลื่อนไปบนตัวของจื่อเฟิงทันที พูดให้ถูก คือเคลื่อนไปบนแขนของจื่อเฟิง
เมื่อครูเห็นจื่อเฟิงกรีดแขนด้วยตัวเอง นางตกใจเป็นอย่างมากแล้ว
ตอนนี้เดินเข้าไปทางเขาช้าๆ
และเซียวจิ่นหยูที่ได้รับบาดเจ็บหนักหน้าซีดขาว เดิมทีเป็นคนสำคัญที่พระราชธิดาจาวหยางและเย็นหงปกป้อง ตอนนี้เอาเขาลืมไปโดยสิ้นเชิงแล้ว
เซียวจิ่นหยูทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
เย่หลีเฉินเห็นเขาตั้งนานแล้ว รีบเดินมาทางเขา ดูท่าทางของเขาอย่างละเอียด ไม่รอให้เขาคุกเข่าคารวะ ก็เอ่ยปากก่อน
“ท่านได้รับบาดเจ็บแล้ว?”
“พ่ะย่ะค่ะ บาดเจ็บเล็กน้อย”
ได้ยินดังนั้น!
เย่หลีเฉินให้คนไปเรียกหมอหลวงมาทันที แต่ทว่าที่มาไม่ใช่หมอหลวง แต่เป็นจื่อซี ในมือของเขาถือขวดเล็กๆขวดหนึ่ง ด้านในเป็นยาน้ำสีม่วง
เซียวจิ่นหยูสงสัย
จื่อซีกล่าว: “คุณหนูให้ข้าเอามาขอรับ”
บนตัวของเซียวจิ่นหยูเป็นบาดแผลของมีด ยาน้ำนี้ใช้ได้พอดี
แต่เซียวจิ่นหยูรีบโบกมือติดต่อกัน: “ไม่ได้ ยานี้ล้ำค่านัก”
ยาวิเศษขนาดนี้ ใช้บนตัวของเขาสิ้นเปลือง จำเป็นต้องใช้ในสนามรบในการต่อสู้กับคนจากนอกแผ่นดิน
“เซียวซื่อจื่อ แม้ว่าการรักษาของยาน้ำจะมหัศจรรย์ และมีไม่มาก คุณหนูบอกว่า ท่านต้องรีบหายขึ้นมาขอรับ นางจำเป็นต้องปรุงยาน้ำในการรักษาออกมามากกว่านี้ นางขาดแคลนกำลังคน หวังว่าท่านจะสามารถเป็นแรงช่วยเหลือนางได้ขอรับ”
“นี่ถือเป็นเกียรติของเซียวจิ่นหยู”
ได้รับการเห็นความสำคัญจากหลานเยาเยา
เซียวจิ่นหยูปลื้มใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้ปฏิเสธอีก มองดูจื่อซีเอายาน้ำหยดลงบนบาดแผลของเขา บาดแผลสมานกันอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่สายตามองเห็นได้ ความเจ็บปวดก็ค่อยๆหายไป
ความมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นบนร่างของตัวเอง เซียวจิ่นหยูตะลึงงันอยู่นาน
“มหัศจรรย์จริงๆ”
จื่อซีหัวเราะแล้ว: “เซียวซื่อจื่อสงบนิ่งจริงๆขอรับ”
ไม่กี่วันก่อน คุณหนูจงใจแกล้งเขา บอกว่าผิดหวังต่อเขามาก ทั้งๆที่เจ้านายส่งให้มาปกป้องนาง แต่ถึงช่วงเวลาคับขัน มักจะใช้การไม่ได้เสมอ ดังนั้นนางต้องการให้เขาผ่าท้องตัวเอง ยังบอกว่าไม่ต้องลึกมาก ความหมายก็คือเป็นพิธีก็พอ
เขาละอายใจที่สุด แต่คุณหนูให้เขาผ่า เขาก็ผ่า
แต่รอจนคุณหนูเอายาน้ำรักษาให้เขาแล้ว ตกตะลึงจนกระโดดสูงไปสามฟุต แทบจะผ่าท้องอีกครั้ง ให้คุณหนูรักษาให้อีก
“แค่เพราะเมื่อครู่ได้พบเห็นแล้ว”
“ก็ถูกขอรับ!” จื่อซีมองฮ่องเต้แวบหนึ่ง รู้ว่าฮ่องเต้มีคำพูดต้องการจะกล่าวกับเซียวจิ่นหยู จึงทำมือเคารพ “ข้าไปที่เรือแห่งความสิ้นหวังก่อนนะขอรับ”
เซียวจิ่นหยูก็ทำมือเคารพทางเขา: “อีกครู่ข้าจะตามไป”
หลังจากจื่อซีเดินไปแล้ว
ทั้งสองเดินออกไปพูดคุยกัน
ริมแม่น้ำ เย่หลีเฉินที่สวมเสื้อผ้าอาภรณ์ของฮ่องเต้ อาจจะเพราะเป็นฮ่องเต้นานแล้ว ราศีความเป็นฮ่องเต้ชนิดนั้น ก็ซึมลึกเข้าไปอยู่บ้าง และเซียวจิ่นหยูในชุดคลุมสีอ่อนทั้งตัว ไม่นับว่าหรูหรา แต่ยังคงความสุภาพอ่อนโยน สง่างามดั่งหยก ราวกับว่าไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป
ทั้งสองล้วนหันหน้าไปทางผิวน้ำ มองไปทางภูเขาแม่น้ำในที่ไกลๆ
“ข้าส่งจดหมายไปเมืองเลยหมิงหลายรอบ อยากให้เจ้าพระยาเซียวและท่านกลับมาทำประโยชน์ให้กับราชสำนักพร้อมกัน จะไม่เดินตามทางเดียวกับเสด็จพ่ออย่างเด็ดขาดเป็นแน่ ทำร้ายขุนนางที่ภักดีอย่างโหดร้าย ทำไมท่านถึงไม่ยอมกลับมา? เสพสุขกับทุกอย่างที่ท่านควรจะได้ครอบครอง”
สำหรับฐานะที่แท้จริงของเซียวจิ่นหยู
เย่หลีเฉินพอจะคาดเดาได้บ้าง และเคยได้สอบถามเสด็จอาอ๋องเย่ แม้ว่าเสด็จอาจะไม่ได้พูดอย่างกระจ่าง แต่ก็บอกเขาอย่างรางๆ
เสด็จอาอ๋องเย่จึงจะเป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งราชวงศ์เก่า
และเซียวจิ่นหยูจึงจะเป็นเสด็จอาที่แท้จริงของเขา
แต่เขาไม่ยอมกลับมา!
“สำหรับข้าแล้ว อยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน ความอิสรเสรีถึงจะเป็นสิ่งที่ข้าต้องการ”
เย่หลีเฉินไม่เข้าใจ
แม้ว่าเขาจะคิดถึงสีสันของโลกภายนอก แต่ก็รู้ว่าราชวงศ์จำเป็นต้องพัฒนาเป็นอย่างมาก ประเทศก่วงส้าจำเป็นต้องผุดขึ้นมา ไม่สามารถที่จะตกต่ำลงไปเช่นนี้ได้อีก
“ท่าน……เป็นกังวลว่าข้าจะหวาดกลัวอ๋องเย่ใช่หรือไม่? และหลังจากที่ท่านกลับมา ข้าก็จะยึดอำนาจเขา และให้ท่านทำหน้าที่ที่สำคัญ กระทั่งหลังจากที่อำนาจฮ่องเต้ของข้ามั่นคงแล้ว ก็จะหวาดกลัวท่านเหมือนกับหวาดกลัวอ๋องเย่เช่นนั้น?”
เย่หลีเฉินรู้ว่าตัวเองเคยล้มเหลวมาก
นิสัยไม่ดี ไม่กล้าขัดขืน แม้แต่การกระทำทุกอย่างก็ทำให้คนรังเกียจ เซียวจิ่นหยูก็ดูถูกเขามาตลอด
แต่เขาไม่ใช่คนโบราณคร่ำครึ
เขากำลังพิสูจน์คุณค่าของตัวเองทีละก้าวๆ พิสูจน์ว่าตัวเองคือฮ่องเต้ที่ดีที่ทำเพื่อราษฎรผู้หนึ่ง
“ไม่ใช่!” เซียวจิ่นหยูส่ายหน้า
กล่าวต่อว่า: “ฐานะสำหรับข้าแล้วจะมีหรือไม่มีก็ได้ เคยเป็นหมาก หมุนเข้าไปในวังวน ก็นับว่าได้เผชิญกับความเป็นความตายแล้ว ตอนนี้ได้อยู่อย่างอิสรเสรี ดีมาก!”
ได้ยินเซียวจิ่นหยูพูดเช่นนี้
เย่หลีเฉินพยักหน้าอย่างกระจ่าง อดไม่ได้ที่จะถอนใจ กล่าวพึมพำ:
“ผ่านประสบการณ์ความเปลี่ยนแปลงโชกโชนแล้วไม่อยากใส่ใจเรื่องเล็กน้อย ปล่อยให้ฉันโบยบินไปในท้องฟ้าอันกว้างไกล นี่คือเป็นสิ่งที่ข้าตั้งหน้าตั้งตารอ ตอนนี้กลับช่วยให้ท่านสมหวังแล้ว
คนที่อยู่ข้างกายของข้าไม่มาก ตอนนี้ล้วนเป็นใบหน้าใหม่ๆที่ไม่คุ้นเคย ไม่เคยคิดมาก่อน ตอนนี้ข้าก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นโดดเดี่ยวแล้ว
หากว่าทันเวลา กลับเมืองหลวงกลับข้าสักรอบเถอะ! ไปสุสานหลวงทำการเซ่นไหว้สักหน่อย”
แม้ว่าเซียวจิ่นหยูจะไม่ยอมกลับเข้าราชวงศ์
ยังไงก็ยังต้องไปสุสานรอบหนึ่ง ไปเซ่นไหว้คนด้านในสักหน่อย
ทีแรกคิดว่าเซียวจิ่นหยูจะปฏิเสธ
แต่เซียวจิ่นหยูกลับพยักหน้าตอบรับแล้ว: “รอหลังจากหายนะเหตุการณ์นี้เถอะพ่ะย่ะค่ะ!”
สำหรับเซียวจิ่นหยูแล้ว ราชวงศ์สำหรับเขาไม่สามารถคาดเดาได้มาก และไม่ได้มีความรู้สึกมากมาย เปรียบเทียบแล้ว ความสัมพันธ์ทางสายเลือดของเขากับเจ้าพระยาเซียวเข้มข้นยิ่งกว่า เขาไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร
ถ้าหากว่าหลังจากที่คนจากนอกแผ่นดินมาโจมตีแล้ว
พวกเขาชนะแล้ว
ไปเยี่ยมที่สุสานหลวง เซ่นไหว้สักหน่อยก็ไม่มีผลกระทบอะไร
หลังจากที่ได้รับการตอบรับอย่างเหนือความคาดหมายของเซียวจิ่นหยูแล้ว เย่หลีเฉินพยักหน้าอย่างแรง “ดี เช่นนั้นก็ไปหลังจากหายนะเหตุการณ์นี้”
พูดจบ!
ก็มีคนมาเรียกเขา เย่หลีเฉินหมุนตัวจากไป เดินได้สองสามก้าวก็ยังไม่ลืมที่จะหันกลับมาเน้นย้ำอีกครั้ง: “จำไว้ว่า ท่าตอบรับแล้วนะ”
“อืม!” เซียวจิ่นหยูพยักหน้าอีกครั้ง
รอจนเย่หลีเฉินเลือนหายไปจากสายตาของเขาโดยสมบูรณ์ เซียวจิ่นหยูหมุนตัวเล็กน้อย เดินไปทางเรือแห่งความสิ้นหวัง เวลานี้บนดาดฟ้าเรือแห่งความสิ้นหวัง หานแสกำลังยืนอยู่ที่นั่น
เขายืนอยู่นานแล้ว…..