หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 1007 แม้แต่แกก็หลอกฉัน / ตอนที่ 1008 มั่วเฉียนคือพ่อของเธอ!
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 1007 แม้แต่แกก็หลอกฉัน / ตอนที่ 1008 มั่วเฉียนคือพ่อของเธอ!
ตอนที่ 1007 แม้แต่แกก็หลอกฉัน
“……”
มั่วหย่งเหิงหลุบตาลงแล้วเหลือบมองไปที่หน้าหนังสือพิมพ์ที่อยู่บนโต๊ะอีกครั้ง
อย่างเงียบๆ
จนกระทั่งมั่วเฉียนอ่านรายงานเสร็จและแน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร มั่วหย่งเหิงถึงจะหยิบเอกสารออกไป
รอจนร่างมั่วหย่งเหิงหายไป
มั่วเฉียนก็หุบยิ้มทันที
เขายื่นมือไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่อยู่บนโต๊ะอาหารอีกครั้ง แล้วลูบหน้าสวยๆของเหนียนเสี่ยวมู่ เหมือนพึมพำกับตัวเองว่า
“ไม่มีใครดูออกจริงๆ เหรอ? เหมือนกันซะขนาดนี้ หรือแม้แต่แกเองก็กำลังหลอกฉันอยู่…”
มั่วเฉียนจับหนังสือพิมพ์แน่น “ตระกูลอวี๋ส่งการ์ดแต่งงานมาไหม?”
พ่อบ้าน “ส่งมาครับ แต่ตอนที่ส่งมาคุณชายหย่งเหิงเจอเข้าพอดี บอกว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้อย่าไปรบกวนประธานมั่วเลย ให้เขาจัดการก็ได้ แล้วเขาก็เอาการ์ดแต่งงานไป”
“……”
มั่วเฉียนค่อยๆหรี่ตาลงอย่างช้าๆ แสงมืดมนส่องผ่านดวงตาเขา
–
เมื่อข่าวการแต่งงานถูกเผยแพร่ออกไป
ว่าที่เจ้าสาวอย่างเหนียนเสี่ยวมู่ก็กำลังลุกจากเตียงด้วยอาการเจ็บหลัง
ก่นด่าเบาๆ “สารเลว” พร้อมกับเหลือบไปเห็นว่าอวี๋เยว่หานไม่ได้อยู่ข้างๆเธอแล้ว
เธอเดินไปรอบๆ ห้องด้วยเท้าเปล่า แต่กลับไม่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยที่คอยเตือนเธอให้สวมรองเท้า
เดิมทียังลุกจากเตียงด้วยความโมโหอยู่หน่อยๆ แต่พอเห็นว่าเขาไม่อยู่ ก็กลายเป็นความรู้สึกผิดหวัง
เธอกลับไปที่เตียงอีกครั้งแล้วกลิ้งไปมาบนผ้าห่ม
คิดจะหลับสบายๆอีกสักงีบ แต่ก็นอนไม่หลับแล้ว
ดังนั้นเธอก็เลยลุกขึ้นมาอีกรอบ
สวมรองเท้าเดินลงไปข้างล่าง
“คุณเหนียน ตื่นแล้วเหรอครับ” ทันทีที่พ่อบ้านเห็นเธอ ก็รีบทักทายเธอด้วยความเคารพ
“คุณชายสั่งไว้ว่าอย่าให้ใครไปรบกวนคุณ ให้คุณตื่นเองตามธรรมชาติ อีกอย่างนึงในห้องครัวก็เตรียมอาหารไว้ตลอด ถ้าคุณเหนียนหิวแล้วก็ทานเมื่อไหร่ก็ได้”
เมื่อได้ยินคำมอบหมายที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่ เหนียนเสี่ยวมู่ก็รู้สึกดีขึ้นมาก
เธอตามพ่อบ้านเข้าไปกินข้าวในครัวและเอ่ยถามในเวลาเดียวกัน
“อวี๋เยว่หานล่ะ?”
“เรื่องงานแต่งงานได้ประกาศออกสู่สังคมภายนอกอย่างเป็นทางการแล้วครับ ตระกูลอวี๋เป็นตระกูลผู้ดี จึงมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ อีกอย่างนายหญิงอวี๋เลือกวันมงคลที่เร็วที่สุดมาแล้วหนึ่งวัน จึงเหลือเวลาเตรียมงานเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น เธอยังกำชับอีกว่าจะต้องยิ่งใหญ่อลังการ ดังนั้นคุณชายหานจึงออกไปเตรียมงานด้วยตัวเอง”
พ่อบ้านรายงาน
หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา คนในตระกูลอวี๋ตั้งแต่ระดับบนลงล่างล้วนปฏิบัติกับเหนียนเสี่ยวมู่เป็นคุณผู้หญิงของบ้าน
เพียงรอผ่านพิธีแต่งงานเท่านั้น ก็จะได้เปลี่ยนคำเรียกขาน
เมื่อรู้ว่าอวี๋เยว่หานยุ่งอยู่กับเรื่องงานแต่งงานของพวกเขา เหนียนเสี่ยวมู่ไม่เพียงแต่อารมณ์ดีเท่านั้น เธอยังมีความสุขมากอีกด้วย
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว เธอก็ไปเล่นกับเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ไม่ได้ไปโรงเรียนอนุบาลเนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่สักพัก
จนกล่อมเสี่ยวลิ่วลิ่วนอน เธอถึงจะสะพายกระเป๋าเตรียมจะออกไปข้างนอก
เรื่องงานแต่งงานปล่อยให้เป็นหน้าที่อวี๋เยว่หานจัดการ ส่วนเธอก็มีเรื่องที่อยากทำ
“ฉันออกไปข้างนอกแป๊บนึงนะ ถ้าอวี๋เยว่หานโทรกลับมา บอกเขาว่าเดี๋ยวฉันจะเข้าไปหาเขา” เหนียนเสี่ยวมู่กำชับกับพ่อบ้าน จากนั้นก็เอารถออกจากโรงจอดรถขับไปยังอะพาร์ตเมนต์ของถานเปิงเปิง
หลังจากเธอฟื้นจากอาการโคม่า เธอก็ไม่มีญาติที่ไหนมาเยี่ยม
คนที่คอยดูแลเธอมีแค่ถานเปิงเปิงคนเดียว
ถานเปิงเปิงเป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้างเธอในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด
ตอนนี้เธอกำลังจะแต่งงาน คนที่เคยพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า “เธอไม่ต้องห่วง ถึงฉันจะยุ่งในวันที่เธอแต่งงาน ฉันก็จะเจียดเวลาไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอ” ทว่าตอนนี้เธอกลับไม่อยู่
ไม่ว่าจะอย่างไร เธอยังต้องมาที่นี่อีกครั้ง
“แกรก!”
เหนียนเสี่ยวมู่ใช้กุญแจไขประตูห้อง
เนื่องจากไม่มีใครอาศัยอยู่ในห้อง แม้จะเก็บกวาดสะอาดสะอ้าน แต่ก็ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจกับบรรยากาศที่เงียบวังเวง
ตอนที่ 1008 มั่วเฉียนคือพ่อของเธอ!
เหนียนเสี่ยวมู่วางรองเท้าไว้ที่ชั้นวางรองเท้าตรงหน้าประตู
วางกระเป๋าลง จากนั้นหยิบกล้องสลับลายที่เธอเอาไปจากอะพาร์ตเมนต์ถานเปิงเปิงเมื่อครั้งที่แล้วออกมาจากกระเป๋า
เดินเข้าไปในห้องนอน
แล้วนั่งบนเตียง พอเธอหันไปก็เห็นรูปถานเปิงเปิงที่วางอยู่บนหัวเตียง
เหนียนเสี่ยวมู่วางกล้องสลับลายไว้ที่เดิม จากนั้นก็ยื่นมือไปหยิบกรอบรูป
มองคนที่อยู่ในรูป
“เปิงเปิง ไหนเธอเคยบอกว่าจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ฉันไง ตอนนี้ฉันกำลังจะแต่งงานแล้ว ทำไมเธอยังไม่กลับมา?”
“อวี๋เยว่หานบอกว่าเธอให้ฉันไปสัมภาษณ์งานที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ก็เพื่อที่จะให้เขาตกหลุมรักฉัน ตราบใดที่ฉันแต่งงานกับเขา ก็จะไม่มีใครมาทำร้ายฉัน…อวี๋เยว่หานเป็นคนเพี้ยนๆ ถึงฉันไม่อยากจะยอมรับ แต่ที่เขาพูดมาทั้งหมดก็เป็นความจริง”
“เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันกับอวี๋เยว่หานจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้แล้ว ไม่มีใครกล้าทำร้ายฉันหรอก เธอจะกลับมาเมื่อไหร่? ฉันคิดถึงเธอจัง…”
เหนียนเสี่ยวมู่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง
ถือรูปถ่ายถานเปิงเปิงไว้ในมือพลางพูดอยู่คนเดียว
เหมือนถานเปิงเปิงอยู่ตรงหน้าเธอ
พูดจนถึงตอนท้าย ขอบตาเธอก็แดงขึ้นเล็กน้อย
ไม่มีใครรู้ว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอมีแค่ถานเปิงเปิงที่คอยอยู่เคียงข้าง
สำหรับเธอแล้ว ถานเปิงเปิงคือคนในครอบครัวของเธอเพียงคนเดียว
ไม่ว่าใครก็ล้วนคาดหวังว่าคนในครอบครัวจะมาร่วมงานแต่งงานของตัวเอง
มาเห็นเธอเดินบนพรมแดงแห่งความสุขด้วยตาตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากผ่านเหตุการณ์มาหลากหลายรูปแบบ เธอคิดอยู่เสมอว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของถานเปิงเปิง
“เปิงเปิง เธอไม่ต้องเป็นห่วง หลังจากผ่านพิธีแต่งงาน ฉันกับอวี๋เยว่หานจะไปตามหาเธอ เธอต้องรอฉันนะ ฉันจะต้องหาเธอให้เจอ…”
ขณะที่พูด เหนียนเสี่ยวมู่ก็มีน้ำตาหยดลงมา
เธอยื่นมือไปดึงทิชชู่โดยไม่ทันระวัง
ด้วยความเร่งรีบ เธอเผลอไปชนกับขวดสกินแคร์ร่วงจากบนหัวเตียง
“เพล้ง” ขวดแก้วแตกกระจัดกระจาย
เสียงดังกังวานราวกับสัญญาณบางอย่างที่ส่งผ่านเข้ามาในหัวเหนียนเสี่ยวมู่ แข็งทื่อไปทั้งตัว
มีเสียงซ้ำๆ ดังก้องอยู่ในหัวอย่างต่อเนื่อง
เหมือนจะเป็นการทะเลาะกัน…
“ทำไมฉันทำอะไรก็ผิดไปหมด? ทำไมคุณถึงไม่เชื่อฉันสักครั้ง?”
เสียงคำรามของใครบางคนดังอยู่ริมหู
ร้องไห้ตีโพยตีพาย
ทันใดนั้นก็มีเสียงของร่วงตามมา
เหมือนกับเสียงเมื่อกี้ “เพล้ง”
“กรี๊ด——”
เหนียนเสี่ยวมู่เอามือจับหัวตัวเองแล้วขดตัวอยู่ตรงหัวเตียง
ใบหน้ามั่วเฉียนปรากฏอยู่ต่อหน้าเธอไม่หยุด บางทีก็รัก บางทีก็มีสีหน้าถมึงทึง
เธอไม่เข้าใจแววตาที่ซับซ้อนของเขา
“ลิ่วลิ่ว ลิ่วลิ่วของพ่อจะต้องเติบโตขึ้นด้วยร่างกายที่แข็งแรง…”
“ลิ่วลิ่วจะต้องเป็นเด็กดี หลังจากผ่านช่วงเวลานี้ไป พ่อกับแม่จะมาหาหนูอีก…”
“ลิ่วลิ่วคือเจ้าหญิงน้อยของพ่อ อยากได้อะไรก็ได้ทั้งนั้น…”
“พ่อ…”
เหนียนเสี่ยวมู่ใช้มือขยุ้มผมตัวเองไว้ พยายามมองใบหน้าของคนตรงหน้าให้ชัดๆ
แต่เธอกลับปวดหัวจนแทบจะระเบิด
ข้างหน้าเธอเหมือนยังมีเด็กผู้หญิงสวมชุดดำคนหนึ่งที่คอยติดตามเธอตลอดเวลา
ตามอยู่ห่างๆ ไม่เคยเข้าใกล้
เหนียนเสี่ยวมู่อยากจะเห็นใบหน้าค่าตาของเธอให้ชัดๆ แต่ก็ถูกบังด้วยชั้นหมอก
“หวืด——”
ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ได้สติ
เธอหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าและรับสายด้วยความตื่นตระหนก
เสียงอวี๋เยว่หานดังเข้ามาในหู “คุณไปอะพาร์ตเมนต์ถานเปิงเปิงเหรอ? ผมจะไปรับคุณ”
เหนียนเสี่ยวมู่สั่นไปทั้งตัว บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ
มือทั้งสองข้างจับโทรศัพท์แน่น
“อวี๋เยว่หาน ฉันคิดออกแล้ว มั่วเฉียน…มั่วเฉียนคือพ่อของฉัน!”