หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 205 ทรมานตัวเองสนุกไหม / ตอนที่ 206 ไม่ได้เรื่อง? ไม่มีหัวใจ?
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 205 ทรมานตัวเองสนุกไหม / ตอนที่ 206 ไม่ได้เรื่อง? ไม่มีหัวใจ?
ตอนที่ 205 ทรมานตัวเองสนุกไหม
ถังหยวนซือพูดช้ามาก น้ำเสียงดูไม่ปกติอยู่บ้าง
อวี๋เยว่หานหยุดฝีเท้าทันที มีความคร่ำเคร่งพาดผ่านสายตาไป
“คุณจะให้ผมช่วยยังไง”
เขาไม่ได้เพิ่งรู้จักถังหยวนซือแค่ไม่กี่วัน จึงรู้จักนิสัยของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ถังหยวนซือไม่ใช่คนที่ชอบพูดเรื่องบุญคุณสักเท่าไหร่
แต่อยู่ๆ ถังหยวนซือเอ่ยปากขอให้ช่วย เขาคงต้องหมดความอดทนแล้วแน่ๆ…
“อย่าให้ซ่างซินรู้ ว่าผมเป็นคนที่ช่วยเธอไว้วันนี้” เสียงทุ้มต่ำของถังหยวนซือดังมาจากปลายสายอย่างชัดเจน
“…” อวี๋เยว่หานขมวดคิ้วเงียบกริบ
ในหัวของเขาปรากฏปฏิกิริยาตอนที่ถังหยวนซือได้ยินว่าซ่างซินเกิดเรื่อง
ชายหนุ่มร้อนรนใช้อิทธิพลของตัวเองทั้งหมดค้นหาตำแหน่งของซ่างซิน แถมยังไม่มุ่งหน้าไปช่วยนางแบบสาวอย่างไม่สนใจอะไร แล้วคิดจะปิดบังไว้อย่างนั้นเหรอ
แถมตอนนี้ยังขอให้อวี๋เยว่หานช่วยปิดบังอีก…
อวี๋เยว่หานขมวดิ้วจนเป็นเส้นเดียวกัน น้ำเสียงของเขาคร่ำเคร่งขึ้น พลางพูดถากถางอย่างไม่ยอมทำตาม “ทรมานตัวเองสนุกไหม”
“…”
คนที่อยู่ในสายเงียบไปหลายวินาที ก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชา
“พวกเราไม่เหมาะสมกัน ผลลัพธ์แบบนี้ดีต่อพวกเราทั้งคู่”
ถังหยวนซือพูดจบแล้ว เขารู้ว่าอวี๋เยว่หานจะไม่ปฏิเสธคำขอของเขา จึงชิงวางสายไปก่อน
อีกด้านหนึ่ง
เหนียนเสี่ยวมู่ตามซ่างซินเข้าไปยังหลังเวที
เมื่อเหลือบไปเห็นน้ำตาที่หางตาของนางแบบสาว เธอคิดว่าเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะหายตัวเอง จึงรีบร้อนทางห้องพักผ่อน และเตรียมจะเข้าไปข้างใน
แต่มือของเธอยังไม่ทันได้จับลูกบิด ผู้จัดการของซ่างซินก็มาห้ามไว้
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน เธอกำลังไม่สบายใจ ทนมาได้ถึงตอนนี้ไม่ใช้เรื่องง่ายเลย ให้เธอสงบสติอารมณ์สักหน่อยเถอะ” ผู้จัดการกล่าวอย่างมีมารยาท
หลังจากได้ยินแบบนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็รีบจับมือของผู้จัดการเอาไว้
“เธอไม่ได้ถูกใครรังแกใช่ไหมคะ แล้วบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า เธอไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”
“…” ผู้จัดการอ้าปาก เพิ่งคิดจะพูดอะไรบางอย่าง ก็เห็นอวี๋เยว่หานกำลังเดินมาทางนี้ จึงรีบโค้งด้วยความนอบน้อม
“คุณชายหาน”
อวี๋เยว่หานกลับไม่ได้มองเธอ แต่มองตรงมาที่เหนียนเสี่ยวมู่ แล้วขยับริมฝีปากบาง “ตามผมมา”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ตอนนี้เธอเป็นห่วงแต่ซ่างซิน อยากจะเข้าไปเยี่ยมเธอในห้องพักผ่อน
แต่พอคิดดูแล้ว เมื่อครู่หญิงสาวใช้อวี๋เยว่หานกู้สถานการณ์มาได้ ติดหนี้เขาครั้งใหญ่ คราวนี้ไม่ให้ความสำคัญกับเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยดี จึงจำต้องเดินต้วมเตี้ยมตามเขาไป
จนกระทั่งเดินมาถึงมุมที่ไม่มีคนตรงหลังเวที
อวี๋เยว่หานหยุดฝีเท้า แล้วกลับหลังหันมามองเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ดูท่าทางเธอจะเห็นซ่างซินเป็นเพื่อนคนหนึ่งจริงๆ
“ลืมสิ่งที่ได้ยินมาจากผู้ช่วยในวันนี้ซะ” นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานจ้องมองเธอ เงาร่างสูงส่ง หลังพิงกำแพง สองมือกอดอก น้ำเสียงเรียบนิ่งมาก
ราวกับพูดคุยเล่นกันทั่วไป
“อะไรนะ” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงัน
เธองุนงงอยู่หลายวินาที ราวกับไม่เข้าใจความหมายของเขา แล้วถึงจะเงยหน้าขึ้นมองเขา
“เรื่องที่ซ่างซินถูกลักพาตัวไปในวันนี้ คนที่หาที่อยู่ของเธอเจอคือผม คนที่บอกให้ผู้จัดการพาบอดีการ์ดไปช่วยเธอก็คือผม ได้ยินชัดหรือยัง” อวี๋เยว่หานปล่อยมือขวาลงมา ก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวเชยคางจิ้มลิ้มของเธอขึ้น แล้วก้มหน้าเข้าไปใกล้เธอ
ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก
เหนียนเสี่ยวมู่กะพริบตา เธอมองเห็นขนตายาวสีดำของเขาได้ชัดเจน แล้วมันก็สวยกว่าผู้หญิงเสียอีก
ลมหายใจอุ่นๆ สัมผัสใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา กลิ่นมินต์จางๆ นำความเผด็จการมาด้วย ล่อลวงสติของคนได้ดีทีเดียว
ตอนที่ 206 ไม่ได้เรื่อง? ไม่มีหัวใจ?
เหนียนเสี่ยวมู่จำได้ “คุณพูดมั่วแล้ว ฉันได้ยินผู้ช่วยบอกว่าถังหยวนซือไปช่วยซ่างซินแท้ๆ…”
เธอพูดไปได้ครึ่งเดียว แต่อยู่ๆ ก็ดึงสติกลับมาได้ และเบิกตาโพลงด้วยความงุนงง
แล้วมองอวี๋เยว่หานอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ความหมายของคำพูดเมื่อครู่ คืออยากจะให้เธอทำเป็นไม่รู้อะไร และปิดบังซ่างซินอย่างนั้นเหรอ
“อวี๋เยว่หาน คุณคงไม่ได้…โอ๊ย!” เหนียนเสี่ยวมู่ยังพูดไม่จบ ก็ถูกเคาะหน้าผากอย่างแรง ทำเอาเธอมองค้อนชายหนุ่มพร้อมๆ กับเอามือกุมหัว
“เก็บจินตนาการของคุณไว้ แล้วทำตามที่ผมบอก”
“ฉันเป็นคนที่มีหลักการ ถ้าคุณอยากให้ฉันหลอกซ่างซิน ก็ต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉัน” เหนียนเสี่ยวมู่ยังคงยืนกราน
อวี๋เยว่หานจับคางของเธอแน่นขึ้น ก่อนจะจ้องมองเธออยู่หลายวินาที แล้วพูดขึ้นมาว่า “ทำเรื่องดีไม่หวังสิ่งตอบแทนเป็นคุณธรรมที่ตกทอดกันมา คุณอาจจะไม่เข้าใจสินะ”
“…”
นี่เป็นคำกล่าวเยาะเย้ยเหรอ
ไม่เห็นจะตลกเลยสักนิด
“นี่เป็นความคิดของถังหยวนซือ” อวี๋เยว่หานเห็นเธอได้รับคำตอบที่น่าพอใจแล้ว แต่ยังไม่ยอมเชื่อฟัง จึงกล่าวขึ้นอย่างเย็นชาอีก
“…”
เมื่อได้ยินว่าเป็นความคิดของถังหยวนซือ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ทำหน้าอึ้งๆ ไปเล็กน้อย
เธอกำลังคิดจะถามอะไรบางอย่าง อวี๋เยว่หานก็ปล่อยคางของเธอ แล้วพิงกำแพงอีกครั้ง
“ก่อนที่ตระกูลถังจะรับถังหยวนซือไปเลี้ยง เขารักอยู่กับซ่างซิน ทั้งคู่อาจจะเคยผ่านอะไรมาด้วยกัน แต่ถังหยวนซือยอมแพ้แล้ว ถ้าคุณเป็นห่วงเธอจริง ก็โน้มน้าวให้เธอปล่อยวาง ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด แต่มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่”
อวี๋เยว่หานพูดจบแล้ว เขาไม่ได้มองดวงหน้าเล็กๆ ที่กำลังอึ้งงันของเหนียนเสี่ยวมู่อีก แต่เดินจากเธอไปทันที
เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดคิ้ว ยืนงุนงงอยู่ที่เดิม
คำพูดของอวี๋เยว่หานยังวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ไม่ยอมหายไปเหมือนคำสาปแช่ง
จนกระทั่งผู้จัดการมาเรียกให้เธอไปเยี่ยมซ่างซินที่ห้องพักผ่อน เธอถึงจะดึงสติกลับมาได้
“คุณเป็นยังไงบ้างคะ” เหนียนเสี่ยวมู่ถามด้วยความร้อนใจ
ซ่างซินนั่งอยู่บนโซฟา ในอกกอดหมอนเอาไว้ใบหนึ่ง ร้องไห้จนดวงตาบวมปูดไปหมดแล้ว
เมื่อได้ยินคำถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเหนียนเสี่ยวมู่ นางแบบสาวกโยนหมอนทิ้ง และโผเข้าไปในอ้อมอกของเธอ
เสียงร้องไห้อันอัดอั้นทำให้เหนียนเสี่ยวมู่เจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” เหนียนเสี่ยวมู่พูดปลอบใจพลางกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
“เขาไม่มา เขาจะไม่มาหาฉันอีกแล้ว…เสี่ยวมู่มู่ เขาเคยบอกว่าจะคอยปกป้องฉันอยู่ตลอด ทำไมเขาไม่ทำตามที่พูดล่ะ” ซ่างซินเงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมอกของเธอ แล้วถามเธออย่างไม่เข้าใจ ราวกับเด็กที่ถูกทิ้ง
ไม่ได้เรื่อง?
ไม่มีหัวใจ?
ถ้าได้เห็นซ่างซินร้องห่มร้องไห้แบบนี้ก่อนจะได้คุยกับอวี๋เยว่หาน เธออาจะคิดว่าถังหยวนซือไม่ควรค่าให้ซ่างซินทุ่มเทให้ขนาดนี้ก็ได้
แต่ตอนนี้เธอแน่ใจดีแล้ว ถังหยวนซือไม่ได้เป็นอย่างที่ซ่างซินคิด เขาเป็นห่วงซ่างซินอยู่เสมอ
ไม่อย่างนั้นจะรีบร้อนไปช่วยซ่างซิน ตั้งแต่ได้ยินว่าเกิดเรื่องกับเธอเหรอ
หลังจากแน่ใจแล้วว่าเธอปลอดภัย เขาถึงจากไปเงียบๆ
แม้กระทั่งไม่อยากให้ซ่างซินรู้ว่าเขาไปปรากฏตัวอยู่ที่นั่นด้วย…
การกระทำที่ระแวดระวังแบบนี้ กลับทำให้เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกว่า ความจริงแล้วเขาใส่ใจซ่างซินมาก เพียงแต่คอยปกป้องเธออยู่เงียบๆ เท่านั้นเอง
และไม่อยากให้เธอคิดอะไร ถึงได้อดทน ไม่ยอมปรากฏตัวให้เธอเห็น
“ซ่างซิน สิ่งที่คุณเห็น อาจจะไม่ใช่ความจริงทุกอย่างก็ได้นะ ถ้าคุณชอบใครสักคนจริงๆ ก็อย่ายอมแพ้ง่ายๆ สิ” เหนียนเสี่ยวมู่ดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำตาให้เธอ พลางพูดให้กำลังใจเสียงเบา
เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่างซินก็กะพริบตาด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง
“หมายความว่ายังไงคะ”