หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 281 มีตรงไหนแปลกๆ หรือเปล่า / ตอนที่ 282 ฉันคิดถึงคุณอยู่
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 281 มีตรงไหนแปลกๆ หรือเปล่า / ตอนที่ 282 ฉันคิดถึงคุณอยู่
ตอนที่ 281 มีตรงไหนแปลกๆ หรือเปล่า
เหนียนเสี่ยวมู่หันไปมอง เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยดังมาไม่หยุด แล้วจึงเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่งอย่างเงียบๆ เพื่ออยู่ห่างจากเขาเล็กน้อย
กลัวว่าเดี๋ยวจะมีคนเห็นเธอเป็นศัตรู
“น้องสาวอะไร เธอดูให้ดีสิ ภรรยาของเขาก็อยู่ข้างหน้าไง หน้าตาดีทั้งสามคนพ่อแม่ลูกเลย!”
“ฉันว่าไม่ใช่นะ พ่อแม่ลูกที่ไหนจะห่างเหินกันขนาดนี้…”
เหนียนเสี่ยวมู่ส่ายหน้า ไม่ไปฟังเสียงรอบข้าง เธอกำลังจะซื้อตั๋ว แต่อยู่ๆ บนไหล่ก็มือเพิ่มขึ้นมาข้างหนึ่ง
มือที่มีนิ้วเรียวชัดเจนของเขาวางอยู่บนไหล่ของเธอ แต่สายตากลับมองไปยังหน้าจอขายตั๋ว แล้วพูดอย่างเรียบเฉยๆ
“อยากดูหนังอะไร”
“…”
ความสนใจของเหนียนเสี่ยมู่อยู่บนไหล่ของตนเอง
เธอมองมือของเขาที่วางอยู่บนนั้น พลางเบิกตาโพลงด้วยความงงงันเล็กน้อย
และข้างๆ เธอก็มีเสียงกรี๊ดดังขึ้นมาระลอกหนึ่งในเวลาเดียวกัน
“อ๊าย แมนมาก! หล่อสุดยอด!”
“ฉันก็บอกแล้วว่าเป็นพ่อแม่ลูก ฉลาดหน่อยเธอน่ะ!”
“ปวดใจจัง ผู้ชายหล่อมีเจ้าของหมดแล้วจริงๆ ด้วย มีแค่ฉันที่ยังเป็นโสด!”
“ความอิจฉาทำให้ฉันไม่เป็นตัวเอง…”
คนรอบข้างกำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ยินแล้ว
เมื่อครู่เขาได้ยินหรือเปล่าว่าทุกคนกำลังพูดอะไร
ทุกคนต่างก็เข้าใจผิด แต่เขาไม่รักษาระยะห่างกับเธอ แถมยังเข้ามากะทันหันแบบนี้…
ถ้าสายตาฆ่าคนได้ เมื่อครู่เธอคงถูกสายตาอิจฉาของหญิงสาวแทงเป็นหมื่นครั้งแล้ว!
“อวี๋เยว่หาน…”
“ชอบหนังอาร์ตไหม” อยู่ๆ เขาก็ถาม
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เธอยังไม่ทันแสดงความคิดเห็น เขาก็ซื้อตั๋วสามใบ จากนั้นก็จูงเธอเดินไปตรงที่เก็บตั๋ว
หญิงสาวเดินโซซัดโซเซตามเขาไป เมื่อดึงสติกลับมาได้ เธอก็รีบคว้าแขนเสื้อกันลมของเขาเอาไว้
“ไม่ได้จะดูหนังเด็กหรอกเหรอ เสี่ยวลิ่วลิ่วอายุเท่านี้ ยังดูหนังอาร์ตไม่รู้เรื่องหรอกมั้ง?”
เมื่อเธอพูดจบ อวี๋เยว่หานก็ชะงักฝีเท้า แล้วหันมาหาเธอ
คิ้วโก่งเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะชี้ไปที่เสี่ยวลิ่วลิ่วที่พิงอยู่บนไหล่ของเขา เด็กหญิงหลับสนิทไปแล้ว
ดูท่าทางเจ้าตัวเล็กจะหลับตั้งแต่สามนาทีแรก
“คุณว่าเธอเป็นแบบนี้ ยังจะดูหนังได้เหรอ”
“…” ก็ไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ
แต่เดิมทีพวกเขามาดูหนังเป็นเพื่อนเสี่ยวลิ่วลิ่ว ตอนนี้เจ้าตัวหลับไปแล้ว พวกเขาควรพาเธอกลับไปนอนไม่ใช่เหรอ
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา ชายหนุ่มตรงหน้าก็เหมือนจะรู้ความคิดของเธอแล้ว
ใบหน้าของเขาพลันเฉยชา ก่อนจะขยับริมฝีปากบาง
“มาแล้วนี่ ดูจบแล้วค่อยไป”
เขาพูดจบ ก็โทรศัพท์ให้ผู้ช่วยเตรียมที่ปิดหูให้เสี่ยวลิ่วลิ่ว จากนั้นค่อยหันหน้าไปมองเหนียนเสี่ยวมู่
“ดูหนังก็ต้องมีขนมใช่ไหม”
“…ใช่!” เหนียนเสี่ยวมู่กำลังเหม่อลอย แต่ยังตอบไปตามสัญชาตญาณ
ไม่กินขนมแล้วจะดูหนังได้อย่างไร!
หญิงสาวกันหน้าไปมองหน้าต่างขายขนม ก่อนจะเดินไปข้างหน้า แล้วสั่งป็อปคอร์นกับเครื่องดื่มอย่างรวดเร็ว
หลังจากพูดจบ เธอถึงจะนึกขึ้นได้ และหันไปมองอวี๋เยว่หานที่อยู่ข้างหลัง
“คุณจะกินไหม”
เขาชวนเธอมาดูหนัง เธอเลี้ยงขนมเขาก็ได้
อวี๋เยว่หานเหลือบมองสิ่งของในมือของเธอครั้งหนึ่ง แล้วขมวดคิ้วอย่างเมินเฉย
เขาอยากจะบอกว่าไม่ต้อง แต่เมื่อชำเลืองเห็นดวงตาเป็นประกายของเธอ คำพูดตรงปากก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด “ลองดูก็ได้”
“งั้นฉันซื้อให้คุณอีกชุดหนึ่งนะ” เหนียนเสี่ยวมู่พูด พร้อมกับเตรียมจ่ายเงิน
แต่ต่อมาเธอก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขา “ไม่ต้อง ชุดเดียวแบ่งกันก็พอ”
“ก็ได้ พวกเรากินด้วยกันก็ได้ ฉันซื้อชุดใหญ่มาพอดี…” เธอตอบตามสัญชาตญาณ แต่พูดไปได้ครึ่งหนึ่ง อยู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีตรงไหนแปลกๆ
ตอนที่ 282 ฉันคิดถึงคุณอยู่
ทั้งสองคนดูหนังด้วยกัน แถมยังแบ่งขนมชุดเดียวกันอีก
ความรู้สึกแบบนี้…เหมือนคู่รัก
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเหนียนเสี่ยวมู่ เธอจึงตัวแข็งทื่อไปหมด
ขณะที่สติไม่อยู่กับตัวนั้น อวี๋เยว่หานที่อยู่ข้างหลังก็เดินมาข้างๆ เธอ และวางบัตรเครดิตของตนเองไว้บนเคาท์เตอร์เก็บเงิน
“รูดบัตรครับ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันมีเงินสด ฉันเลี้ยงคุณเอง” เหนียนเสี่ยวมู่เหลือบเห็นเขาจะจ่ายเงิน จึงไม่สนใจอะไรมากอีก
เธอรีบหยิบบัตรเครดิตของเขาขื้นมายัดใส่มือเขา แล้วควักเงินสดในกระเป๋าตัวเองจ่ายไป
อวี๋เยว่หานยืนอยู่ข้างๆ เธอ มองบัตรเครดิตที่เธอยัดกลับมาในมือ ตะลึงงันไปเล็กน้อย
มีผู้หญิงแย่งจ่ายเงินอยู่ข้างหน้าเขาเป็นครั้งแรก
และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาให้ผู้หญิงคนหนึ่งจ่ายเงินให้เขา
ความรู้สึกแบบนี้แปลกมาก แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าจริงใจของเธอ เขาก็ไม่อยากจะกำจัดความรู้สึกนี้ออกไป
เขาปล่อยให้เธอจ่ายเงิน และช่วยเธอถือเครื่องดื่ม พลางมองเธอหยิบเฟรนช์ฟรายส์ใส่ปากอย่างรีบร้อน มุมปากของเขายกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“เฟรนช์ฟรายส์น่ะต้องกินร้อนๆ ถึงจะดี คุณลองดูสิ!” เหนียนเสี่ยวมู่กินของตัวเองไปชิ้นหนึ่งแล้ว ถึงจะยื่นไปตรงปากของเขา
ดวงตาสดใสส่องประกายไร้เดียงสาออกมา
อวี๋เยว่หานหรี่ตาลง อยากปฏิเสธแท้ๆ แต่กลับอ้าปาก
ปล่อยให้เธอป้อนเฟรนช์ฟรายส์ใส่ปากของเขา
ความรู้สึกนุ่มนวลท่ามกลางความกรอบ พูดไม่ถูกว่ามีรสชาติอะไร แต่เห็นเธอกินเข้าไปอย่างเบิกบานใจชิ้นแล้วชิ้นเล่า สายตาของเขาก็อ่อนโยนขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ไม่เลว”
“ใช่ไหมล่ะ คุณก็คิดว่าอร่อยใช่ไหม ถ้าเสี่ยวลิ่วลิ่วตื่นอยู่ เธอต้องแย่งฉันแน่ๆ แต่เธอกินขนมมากเกินไปไม่ได้…” เหนียนเสี่ยวมู่พูดพึมพำระหว่างเดินไปที่โรงฉายหนัง
อวี๋เยว่หานซื้อตั๋วในโรงหนังวีไอพี
โรงหนังกว้างขวาง ที่นั่งก็สบายมาก กึ่งนั่งกึ่งนอนดูหนังได้เลยทีเดียว
อวี๋เยว่หานจัดเก้าอี้เอนตรงริมสุดเรียบร้อยแล้ว ถึงจะวางเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้บนนั้น ส่วนตนเองนั่งติดกับเหนียนเสี่ยวมู่
หญิงสาวตะลึงงันไป ก่อนจะมองเขาด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง
แต่บนใบหน้าของเขากลับไม่มีความรู้สึกใด มีแต่ความเรียบเฉยอยู่บนใบหน้า “หนังเริ่มแล้ว”
เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมา เธอรีบกอดถังป็อปคอร์นเอาไว้ พลางมองไปที่จอหนังขนาดใหญ่
ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือเปล่า เขาเลือกหนังอาร์ตโรแมนติกเรื่องหนึ่ง
แม้ความรักของตัวละครชายหญิงจะไม่ได้ร้อนแรง แต่ก็เป็นความรักที่ผูกพันกันอย่างยาวนาน มีความหวานชื่นในชีวิตประจำวัน แต่กลับทำให้เธอหน้าแดงและใจเต้นแรง
เมื่อเห็นตัวละครหญิงในหนังจูบตัวละครชายโดยไม่ทันระวังไม่ครั้งแรก ในหัวของเหนียนเสี่ยวมู่มีภาพเธอชนอวี๋เยว่หานครั้งแรกที่โรงพยาบาลผุดขึ้นมาทันที…
หางตาของเธออดลอบมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้
คราวนี้ถึงจะพบว่าทั้งสองคนนั่งใกล้กันมาก
เธอได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของเขา และได้กลิ่นมินต์สดชื่นบนตัวของเขาด้วย…
อวี๋เยว่หานเหมือนจะรู้สึกถึงสายตาของเธอ จึงมองเธอครั้งหนึ่ง
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นโดยไม่คิด ทำเป็นเหมือนว่าตนเองกำลังตั้งใจดูหนังอยู่
จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงดึงดูดของเขา
“คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้…”
“ไม่เหมือนพวกเราเลย! ฉันจูบคุณโดยไม่ระวังในครั้งแรก เป็นเพราะคุณชนฉัน ฉันเป็นผู้รับเคราะห์!” เหนียนเสี่ยวมู่ขัดจังหวะของเขาอย่างรีบร้อน
จากนั้นก็พบว่าตนเองเสียงดังมาก
เหนียนเสี่ยวมู่รีบปิดปาก ก่อนจะหันไปถลึงตามองชายหนุ่มที่ทำให้เธอขายหน้า
ทันใดนั้นเธอก็ได้สบสายตาเจ้าเล่ห์จากดวงตาสีดำคู่นั้น
“ผมแค่อยากถามคุณว่า คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้ถ่ายทำได้ไม่เลวเลยว่าไหม”
“…”
“เหนียนเสี่ยวมู่ ตอนดูหนังเนี่ย ในหัวคุณคิดอะไรอยู่”