หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 337 เรียกผมว่าสามี / ตอนที่ 338 นิสัยไม่ดีเลย!
ตอนที่ 337 เรียกผมว่าสามี
คุณค่าของเขาสูงขนาดนั้น…
เหนียนเสี่ยวมู่ตกใจอยู่บ้าง ขณะที่กำลังจะถามมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ว่าฟ่านอวี่เป็นคนอย่างไร เธอก็เห็นอวี๋เยว่หานออกไปเสียนาน กลับมาเสียที
เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวไปแล้ว
เสื้อนอกของเขายังอยู่บนเก้าอี้ของร้านอาหาร ตอนนี้เขาใส่แค่เสื้อเชิ้นสีดำเรียบๆ ตัวหนึ่ง
เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำ
กลิ่นอายความห่างเหินบนตัวของเขาเพิ่มมากขึ้น แถมสดำยังทำให้เขาดูน่าเกรงขามและมีเสน่ห์มากขึ้นอีกด้วย
เขาเดินกลับมานั่งลงที่หน้าโต๊ะอาหารอย่างสุขุมด้วยความรวดเร็ว
“คุยอะไรกันอยู่”
เขากวาดสายตามอง เหนียนเสี่ยวมู่ดูว่าง่ายเป็นพิเศษ จึงคิดว่าเธอกินยาอะไรผิดไป ก่อนจะถามออกมาเสียงเบา
เหนียนเสี่ยวมู่คิดว่าเขาโกรธ คิดว่าเขาไม่ตีเธอสักครั้งก็อาจจะต่อว่าเธอสักยก
คิดไม่ถึงว่าเขาจะถามเธอเร็วอย่างนี้ เธอจึงรีบตอบ “คุยเรื่องฟ่านอวี่!”
เมื่อพูดจบ เธอก็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“คุณชายหาน คุณรู้จักฟ่านอวี่ไหม”
“คุณคิดว่ายังไงล่ะ” อวี๋เยว่หานย้อนถาม ก่อนจะรับหนังสือพิมพ์จากมือเธอมา นันย์ตาสีดำวูบไหวเล็กน้อย “คุณชอบเขาเหรอ”
“ไม่ใช่แน่นอน! ฉันไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ จะไปชอบคนแปลกหน้าคนหนึ่งได้ยังไงกัน” เหนียนเสี่ยวมู่ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็เลิกคิ้วขึ้น “ไม่รู้จักก็ชอบไม่ได้เหรอ หลายคนที่ไม่รู้จักผม ก็เรียกผมว่าสามีทั้งนั้น”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
คุณชายหาน ถ้าแฟนคลับของคุณรู้ว่าคุณหลงตัวเองขนาดนี้ อาจจะเลิกเป็แฟนคลับเอาได้นะ!
อวี๋เยว่หานวางหนังสือพิมพ์ในมือลงข้างๆ กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พนักงานเดินมาเสิร์ฟอาหาร ขัดจังหวะบทสนทนาของคนทั้งคู่พอดี
เมื่ออาหารอยู่บนโต๊ะ
เหนียนเสี่ยวมู่รีบดูแลมิสเตอร์ลอมบาร์ดี
ชายชรากินอาหารมือนี้ด้วยความเบิกบานใจอย่างมาก
เขาคุยกับเหนียนเสี่ยวมู่พร้อมรอยยิ้มอยู่ตลอด
กลับเป็นอวี๋เยว่หาน ที่ดีใจกับอาหารที่ใครบางคนสั่งให้เขาได้ไม่ถึงสามวินาที ก็พบว่าตัวเองถูกมองข้ามไปโดยสิ้นเชิงอีกครั้ง…
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาฟังภาษาอิตาลีรู้เรื่อง รู้ว่ามิสเตอร์ลอมบาร์ดีชมว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง เขาแทบจะสงสัยว่าเธอชอบคนแก่หรือเปล่า เป็นหญิงสาวที่ชอบคนแก่กว่าตัวเองมาก
บนโต๊ะอาหารมีแค่เสียงของคนสองคน
ทันใดนั้นมิสเตอร์ลอมบาร์ดีก็ถามขึ้นส “ได้ยินมาว่าคุณชายหานไม่ยุ่งกับใคร ไม่เคยมีเพศตรงข้ามมาอยู่ข้างกาย ผมสงสัยจังว่าพวกคุณสองคนรู้จักกันได้ยังไง”
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่กลัวความเงียบที่มาอย่างกะทันหันที่สุด
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเปลี่ยนมาพูดเรื่องของอวี๋เยว่หาน จึงไปต่อไม่ได้
จากนั้นเธอก็ลอบมองอวี๋เยว่หานครั้งหนึ่ง
มิสเตอร์ลอมบาร์ดีกลับไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ หลังจากตนเองพูดจบ ก็ยังมองอวี๋เยว่หานด้วยรอยยิ้มอยู่
ชายชรายกแก้วน้ำชาข้างมือ ก่อนจะพูดด้วยภาษาจีนฟังยาก “ใช้ชาแทนเหล้า ดื่มหมดแก้วอวยพร”
ถ้ามองข้ามท่าทางของเขาไป ก็ฟังภาษาจีนที่ไม่ได้เรื่องนี้ไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว
เมื่ออวี๋เยว่หานดื่มชากับเขาไปแก้วหนึ่งแล้ว ชายหนุ่มก็ใช้ภาษาอิตาลีพูดว่า
“เมื่อกี้ผู้จัดการเหนียนพูดกับผมว่า ในประเทศของคุณ มีการใช้ชาผูกมิตร งั้นตอนนี้พวกเราดื่มชากันแล้ว นับว่าเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม”
“…”
“เพื่อนอยากรู้มาก ว่าระหว่างพวกคุณเนี่ย ใครจีบใครก่อน แล้วมครสารภาพรักก่อน…” มิสเตอร์ลอมบาร์ดียังพูดไม่จบ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตกใจจนสำลักไปเสียก่อน!
เธอไออย่างแรงหลายครั้ง พลางกดหน้าอกของตนเองอย่างแรง
แล้วเธอก็ยื่นมือไปยกน้ำชาข้างๆ ขึ้นมา
เมื่อครู่เธอถูกชาร้อนๆ ลวกปากไป คราวนี้เธอจึงจิบอย่างระมัดระวังก่อน เมื่อแน่ใจว่าไม่ร้อนจนเกินไป เธอถึงดื่มหมดอย่างสบายใจ
ขณะที่เพิ่งจะใจเย็นลงได้ และเตรียมจะวางแก้วชาลง เธอก็ได้ยินเสียงเย็นเยียบดังมา
“ผู้จัดการเหนียน ชาที่คุณเพิ่งดื่มไป เป็นของผมนะ”
ตอนที่ 338 นิสัยไม่ดีเลย!
เธอก้มหน้ามองแก้วชาในมือของตนเอง ก่อนจะหันไปมองบนโต๊ะ
แก้วชาที่เป็นของเธอยังวางนิ่งๆ อยู่บนโต๊ะ
แต่ที่อยู่ในมือของเธอ…เป็นแก้วของอวี๋เยว่หาน!
เหนียนเสี่ยวมู่พลันรู้สึกเครียดเกร็ง จับแก้วชาตัวแข็งทื่อเหมือนกับหิน
ผ่านไปนานทีเดียว เธอถึงจะวางแก้วชาลงเงียบๆ
ขณะที่กำลังจะแสร้งเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และให้พนักงานนำแก้วชาสะอาดมาอีกใบหนึ่ง ก็ได้ยินมิสเตอร์ลอมบาร์ดีหยอกเย้าว่า
“ทั้งสองคนรักกันดีจริงๆ เลยนะ แม้แต่ดื่มชาก็ยังใช้แก้วเดียวกัน”
“…”
ไม่มีความอึดอัดที่สุด มีแต่ความอึดอัดมากกว่า!
เหนียนเสี่ยวมู่เครียดขึ้นมา เกือบจะคว่ำแก้วชาที่อยู่ตรงหน้า รีบร้อนเรียกพนักงาน
แต่พนักงานยังไม่ทันมา อวี๋เยว่หานก็หยิบแก้วชาที่เธอเพิ่งดื่มมาเทชาใส่ลงไป
จากนั้นก็วางไว้ตรงหน้าเธอ แล้วกล่าวเรียบๆ “เอาอีกไหม”
“…” ต้องตอบอย่างไรเนี่ย
รู้สึกเหมือนจะถูกฝัง!
ถ้าบอกว่าไม่เอา ก็เหมือนเป็นการเมินเฉยต่อแก้วของเขา แต่เธอเพิ่งดื่มเข้าไป
ถ้าบอกว่าเขา เธอก็รู้สึกว่าอบอุ่นอยู่บ้าง
มิสเตอร์ลอมบาร์ดีเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาผิดไป ถ้าเธอบอกว่าอยากดื่มชาแก้วของเขาอีก แล้วอีกเดี๋ยวจะอธิบายอย่างไรเล่า
แถมสองคนใช้แก้วเดียวกัน ไม่นับว่าจูบกันหรอกเหรอ
อ๊ากก!
คิดต่อไปไม่ได้แล้ว คิดอีกต้องถูกพิษแน่!
ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่ได้คิดมาก แค่ชาแก้วเดียว และเขาเห็นใจที่เธอสำลัก จึงเทชาให้เธอด้วยความหวังดี
อวี๋เยว่หานฟังภาษาอิตาลีไม่ออก เขาไม่รู้ว่าเมื่อครู่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีพูดว่าอะไร
เขาไม่ได้ตั้งใจแน่นอน
เหนียนเสี่ยวมู่ตั้งสติ แล้วรับแก้วชามาจากมือของอวี๋เยว่หาน แต่ถือเอาไว้ไม่กล้าดื่ม
เมื่อเงยหน้าขึ้นอีก ก็พบว่ามิสเตอร์ลอมบาร์ดีเข้าใจผิดยิ่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ดวงตาของชายชราเป็นประกาย ฉายแววอยากซุบซิบ “ซินญอริตาของผม รีบบอกผมเร็ว พวกคุณรู้จักกันได้ยังไง”
“…ก็ ก่อนหน้านี้ฉันไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล ชนเขาเข้าโดยไม่ทันระวัง จากนั้นก็รู้จักกัน” เหนียนเสี่ยวมู่ถือแก้วชาไว้ พลางพูดไม่เป็นศัพท์
เธอพูดไปพลาง ชำเลืองมองอวี๋เยว่หานอย่างระมัดระวังปพลาง
เธอพูดความจริง แต่ความรู้สึกใจฝ่อแปลกๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน
เดิมทีเธออยากอธิบายกับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีสักหน่อย ว่าพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น
แต่อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ใช้แก้วของตนเองเทน้ำชาให้เธออีกแก้ว ทำเอาเธอไม่รู้ว่าจะอธิบายความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างไร…
รู้สึกเหมือนบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็เท่ากับแหย่แล้วทิ้ง
แต่ถ้ายอมรับว่าคบหากัน ก็เหมือนกับตอบรับเขา
ตอนนี้เหนียนเสี่ยวมู่ได้แต่รู้สึกดีใจที่อวี๋เยว่หานฟังภาษาอิตาลีไม่รู้เรื่อง ขอต้องขจัดความอยากรู้อยากเห็นของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีได้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ต้องโด่งกังหลังจากที่ชายชรากลับไปที่อิตาลีแล้วแน่ๆ!
“มิสเตอร์ลอมบาร์ดี คุณชอบอาหารจีนไม่ใช่เหรอคะ ฉันจะแนะนำอาหารอร่อยๆ ให้คุณอีกสองสามอย่าง…”
เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือไปหยิบเมนู แต่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีกลับกดมือของเธอเอาไว้ ขณะที่เธอกำลังจะสั่งอาหาร
“ไม่ต้องหรอก อาหารเยอะพอแล้ว ที่ผมสนใจมากกว่าในตอนนี้ก็คือเรื่องของพวกคุณ ถ้าไม่คิดว่าผมละลาบละล้วงล่ะก็ เล่าเรื่องควมรักของพวกคุณให้ผมฟังหน่อยได้หรือเปล่า”
“…”
“เรื่องความรักดีๆ กระตุ้นแรงบันดาลใจในการออกแบบได้ดีทีเดียว แถมพวกคุณสองคนก็ยอดเยี่ยม ชายเก่งหญิงสวย”
“…”
อะไรคือชายเก่งหญิงสวย มิสเตอร์ลอมบาร์ดี คุณต้องตาถั่วแน่ๆ
เป็นตาประเภทที่มองฤดูร้อนเป็นฤดูหนาวได้
เหนียนเสี่ยวมู่คิดดูแล้ว ถึงอย่างไรอวี๋เยว่หานก็ฟังไม่รู้เรื่อง จึงแขวะออกไปอย่างอดไม่อยู่ “เขาไม่ได้ดีอย่างที่คุณเห็นหรอกค่ะ นิสัยไม่ดีเลย!”