หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 599 เจ้าหนูจำไม / ตอนที่ 600 คนที่ไม่ควรปรากฏตัว
ตอนที่ 599 เจ้าหนูจำไม
เพื่อน E: แถมๆ แฟนบอกว่าขอแค่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกวันก็เป็นวันวาเลนไทน์แล้ว
เพื่อน F: คนโสดมาดูกลยุทธ์อะไรเนี่ย เอ๋? สมองฉันอาจจะพังไปแล้ว…ไม่ ฉันจะคอยดูพวกน่าสงสารอย่างพวกคุณ ว่าจะเลิกกันตอนไหน
เพื่อน G: …
อวี๋เยว่หานอ่านกลยุทธ์วันวาเลนไทน์บนอินเทอร์เน็ตแล้วรอบหนึ่ง พลางขมวดคิ้วแน่น
สิ่งของอะไรน่าซื้อ แล้วเธอถึงจะชอบ
ประหยัดเวลาและแรง ทั้งสวยและทนทาน…
พอคิดได้อย่างนี้ จู่ๆ อวี๋เยว่หานก็คิดว่าวิธีนี้ใช้ได้
ได้ของขวัญ ‘ล้ำค่า’ ขนาดนั้น เกรงว่าเหนียนเสี่ยวมู่คงจะซึ้งจนร้องไห้..
เขาช้อนดวงตาสีดำขึ้นเล็กน้อย บนใบหน้าปรากฏความเจ้าเล่ห์ที่ปิดไว้ไม่มิด
ชายหนุ่มขยับริมฝีปากบาง “เธอไปที่ไหนแล้วล่ะ”
“โรงเรียนอนุบาลของคุณหนูปิดเทอมแล้ว วันนี้ต้องไปรับการบ้านครอบครัวในช่วงปิดเทอม คุณเหนียนเลยขอหยุดงานล่วงหน้า ที่โรงเรียนอนุบาลเป็นเพื่อนคุณหนูครับ” ผู้ช่วยรายงานอย่างนอบน้อม
ก่อนหน้านี้เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับคุณหนู อวี๋เยว่หานจะออกหน้าเอง
แต่ตอนนี้มีแม่แล้ว เสี่ยวลิ่วลิ่วเริ่มลืมไปแล้วว่ายังมีพ่ออยู่…
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็กวาดสายตามองเวลา
ก่อนจะวางเอกสารตรงหน้าไว้ข้างๆ แล้วผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ “เตรียมรถ ผมจะไปรับพวกเธอ”
ใกล้วันตรุษจีนแล้ว ทุกที่ล้วนตกแต่งด้วยโคมไฟหลากสีสัน อบอวลไปด้วยความสุข
บวกกับวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ พ่อค้าหลายคนจึงสร้างกิจกรรมสำหรับคู่รักออกมา มีลูกโป่งและตุ๊กตาเป็นคู่เต็มไปหมด…
ก่อนหน้านี้เสี่ยวลิ่วลิ่วยังเด็ก จึงไม่ค่อยเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง
ตอนนี้พอได้เห็นของพวกนี้ เด็กหญิงก็เกาะกระจกรถอยู่ตลอด กลายเป็นเจ้าหนูจำไม
“แม่คนสวย อันนั้นคืออะไร”
“แม่คนสวย อันนี้กินได้ไหม”
“แม่คนสวย เสี่ยวลิ่วลิ่วก็มีตุ๊กตาลูกหมู เหมือนตัวนั้นเลย!”
“แม่คนสวย…”
เหนียนเสี่ยวมู่กอดร่างเล็กนุ่มนิ่มของลูกสาวไว้ พลางฟังคำถามของเด็กหญิง แล้วตอบด้วยความอดทน
ทั้งยังอธิบายวัฒนธรรมและประเพณีภายในประเทศให้ฟังด้วย
ครั้นเห็นเสี่ยวลิ่วลิ่วเหมือนจะเข้าใจบ้างแล้ว แถมยังทำหน้าตาตั้งใจฟังอีกต่างหาก หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงหอมแก้มเธอครั้งหนึ่ง
“เสี่ยวลิ่วลิ่ว ไม่ใช่แม่คนสวย แม่เฉยๆ” เหนียนเสี่ยวมู่ฟังคำเรียกของลูกสาว ก็นึกถึงเรื่องสำคัญมากขึ้นมา จึงก้มหน้าลงมองเสี่ยวลิ่วลิ่ว
เธอไม่มีโอกาสที่จะอธิบายกับเสี่ยวลิ่วลิ่วดีๆ เลย เรื่องที่เธอเป็นแม่แท้ๆ ของเด็กหญิง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยื่นมือไปอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้นมา วางไว้บนตักของตัวเอง
หญิงสาวให้เสี่ยวลิ่วลิ่วนั่งประจันหน้ากับเธอ ก่อนจะก้มหน้าลง มองดวงตากลมโตสีดำเป็นประกาย
หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อย เธอก็ค่อยๆ เอ่ยปาก “เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก่อนหน้านี้แม่เกิดเรื่องบางอย่าง ไม่ระวังเลยลืมเสี่ยวลิ่วลิ่วไป…”
“แต่แม่รักเสี่ยวลิ่วลิ่วมาก รักหนูมากๆ ตอนนี้แม่กลับมาอยู่กับหนูแล้ว หนูจะให้อภัยแม่ได้ไหม” เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบแล้ว ก็กลืนน้ำลายอย่างแรง
เสี่ยวลิ่วลิ่วยังเด็กอยู่ เธอไม่รู้ว่าเด็กหญิงจะเข้าใจความหมายของเธอไหม
และจะแยกแยะระหว่างแม่แท้ๆ กับแม่คนสวยได้ไหม
หญิงสาวเห็นปากเล็กๆ เม้มแน่นอยู่ตลอด ไม่ยอมพูดจา เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เธอไม่ดีเอง
ตั้งแต่เสี่ยวลิ่วลิ่วเกิด ก็ไม่มีแม่
ตอนนี้จู่ๆ เธอก็ปรากฏตัว ทั้งยังรีบร้อนให้เสี่ยวลิ่วลิ่วยอมรับเธอ ไม่ว่าจะเป็นเด็กคนไหน ก็คงรับไม่ได้ในทันทีหรอก
“เสี่ยวลิ่วลิ่ว แม่ไม่ดีเอง…”
“แม่จริงๆ เหรอ” เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งเอ่ยปาก เสียงออดอ้อนของเสี่ยวลิ่วลิ่วก็ดังขึ้นมาพร้อมกัน
ตอนที่ 600 คนที่ไม่ควรปรากฏตัว
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึง ก่อนจะพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่ เป็นแม่จริงๆ เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่ใช่เด็กไม่มีแม่ แม่เป็นแม่แท้ๆ ของหนู!”
หลังจากหญิงสาวพูดจบ เธอก็กังวลอยู่บ้าง ว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วจะโกรธหรือเปล่า ที่สามปีมานี้เธอไม่ได้อยู่ข้างกายเด็กหญิงเลย
ทำให้เด็กหญิงถูกเพื่อนรุ่นเดียวกันหัวเราะเยาะและรังแก
ทว่าขณะที่เธอกำลังจะขอโทษ จู่ๆ มือของเสี่ยวลิ่วลิ่วก็ชี้ไปที่ท้องของเธอ
ก่อนจะถามด้วยใบหน้าไร้เดียงสา “ก่อนหน้านี้เสี่ยวลิ่วลิ่วเคยอยู่ในนั้นเหรอ”
“…”
“คุณครูบอกว่า ตอนที่ทุกคนยังเด็ก ทุกคนเคยอยู่ในท้องแม่ แต่เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่มีแม่…”
“หนูมีแม่นะ! ก่อนหน้านี้หนูก็เคยอยู่ในท้องแม่เหมือนกัน!” เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมา ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ด้วยกลัวว่าลูกสาวจะไม่เชื่อ เธอจึงยื่นมือไปเลิกชายเสื้อของตัวเองขึ้น
เธอชี้ไปที่แผลผ่าตัดคลอด แล้วบอกเสี่ยวลิ่วลิ่วว่า “ตอนที่เสี่ยวลิ่วลิ่วยัเด็กมากๆ หนูก็เคยอยู่ในท้องแม้ ต่อมาพอหนูโตขึ้น ถึงได้ลอดออกมาจากในท้องของแม่ รอยเท้าตอนที่หนูออกมาจากท้องแม่อยู่ในนี้”
เหนียนเสี่ยวมู่ปล่อยชายเสื้อลง แล้วกอดเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้จนแน่น
แววตาของเธอมีแต่ความละอายใจ “เสี่ยวลิ่วลิ่ว ต่อไปแม่จะอยู่กับหนู จะไม่จากหนูไปอีก!”
“ในนี้เหรอ” เสี่ยวลิ่วลิ่วกะพริบตากลมโต สนอกสนใจแผลผ่าตัดอย่างยิ่ง
มือเล็กอ้วนเลิกเสื้อของเธอขึ้นอีกครั้ง นิ้วหัวแม่โป้งขาวลูบลงตรงนั้นอย่างแผ่วเบา
ทันใดนั้นเสี่ยวลิ่วลิ่วพลันเงยหน้าขึ้น ถามพร้อมทำปากจู๋ “ตอนเสี่ยวลิ่วลิ่วออกมา แม่เจ็บหรือเปล่า”
“…”
“เสี่ยวลิ่วลิ่วจะเป่าให้ เป่าให้จะได้ไม่เจ็บนะ!” เด็กหญิงพูด พลางยื่นปากเล็กๆ เข้าไปใกล้ท้องของเหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากเป่ารอยแผลผ่าตัดแล้ว เธอก็จุ๊บลงบนรอยแผลทันที
จากนั้นเจ้าตัวเล็กก็โผเข้าใส่อ้อมกอดของเหนียนเสี่ยวมู่ ทำตัวอ่อนออดอ้อน
“คุณแม่อุ้ม”
“…”
สามคำง่ายๆ นี้ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ขอบตาแดงในทันที
เธอเคยจินจนาการถึงภาพที่บอกทุกอย่างกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว
เคยคิดว่าเด็กหญิงอาจจะรับไม่ได้
แต่สิ่งเดียวที่ไม่เคยคิดถึง คือเสี่ยวลิ่วลิ่วฟังเธอรู้เรื่อง ไม่เพียงไม่กล่าวโทษเธอ ยังพูดกับเธอแบบนี้อีก…
เหนียนเสี่ยวมู่กอดเจ้าก้อนข้าวเหนียวในอกจนแน่น แล้วพรมจูบลงบนแก้มของลูกสาวไม่ยอมหยุด
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ให้น้ำตาไหลลงมา
“คุณเหนียน ถึงโรงเรียนอนุบาลแล้วครับ” รถหยุดลงตรงหน้าประตูโรงเรียนอนุบาล
หญิงสาวรีบยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่หางตา แล้วอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่ว เปิดประตูลงจากรถไป
คุณครูต้อนรับที่หน้าฌรงเรียนอนุบาลเข้ามาทักทายอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เห็นเหนียนเสี่ยวมู่
ครั้นเห็นเสี่ยวลิ่วลิ่วกอดเหนียนเสี่ยวมู่ไว้อย่างเบิกบานใจ คุณครูก็พาพวกเธอไปนับการปิดครอบครัวในช่วงปิดเทอม
“นี่คือรางวัลของเสี่ยวลิ่วลิ่วค่ะ ปกติเสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นเด็กดีมาก เป็นผลมาจากการสั่งสอนที่ดีของผู้ปกครอง ส่วนนี่เป็นรางวัลที่มอบให้พวกคุณค่ะ” คุณครูนำดอกไม้สีแดงหลายดอกส่งให้เหนียนเสี่ยวมู่
ที่วางอยู่ด้วยกันกับดอกไม้สีแดง ยังมีของเล่นดินน้ำมันด้วย
“รูปแบบของของเล่นดินน้ำมันเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก หวังว่าพวกคุณจะชอบนะคะ” คุณครูยิ้มพร้อมกล่าว
“ขอบคุณค่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่รับของเล่นมา ครั้นเห็นเสี่ยวลิ่วลิ่วยิ้มดีใจ เธอก็ยิ้มตาม
เมื่อรับสิ่งของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สองแม่ลูกก็เตรียมจะออกจากโรงเรียนอนุบาล ทว่าเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยอยู่ข้างนอกโรงเรียน
คนที่ไม่ควรปรากฏตัวที่โรงเรียนอนุบาล…
เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงัน ส่งของในมือให้กับคนขับรถ ให้เขาช่วยถือไปที่รถก่อน ส่วนเธออุ้มเหนียนเสี่ยวมู่เดินไปหาเงาร่างนั้น
“ฟ่านอวี่?”