หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 627 สิ่งยืนยันความรู้สึก / ตอนที่ 628 ตั้งปณิธานจะเลี้ยงพี่ชาย
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 627 สิ่งยืนยันความรู้สึก / ตอนที่ 628 ตั้งปณิธานจะเลี้ยงพี่ชาย
ตอนที่ 627 สิ่งยืนยันความรู้สึก
“ตอนนั้น การอบรมภายในประเทศของผมใกล้จบลงแล้ว ตระกูลฟ่านตัดสินใจย้ายที่อยู่ ผมเพิ่งรู้ข่าวนี้ ปฏิกิริยาแรกของผมคือไปหาคุณ ผมจำได้แม่นมาก ผมกลัวคุณจะอาลัยอาวรณ์ผม ตอนนั้นเลยแอบนำเค้กทีรามิสุที่คุณชอบที่สุดไปด้วย อยากจะทำเซอร์ไพรส์ให้คุณ แต่หลังจากผมไปถึง กลับพบว่าในสวนไม่ได้มีแค่คุณ”
“พวกคุณหันหลังให้ผม อยู่ห่างจากผมค่อนข้างไกล ผมเลยไม่ได้ยินว่าพวกคุณคุยอะไรกัน รู้ต่ว่าพอคุณได้ยินเด็กผู้หญิงคนนั้นพูดแล้ว จู่ๆ คุณก็ยิ้มด้วยความดีใจ แล้วหันหน้าไปเรียกพ่อแม่ ก่อนจะวิ่งไปพร้อมความดีใจนั้น”
ฟ่านอวี่ชะงักไป ในแววตาฉายแววเสียดายขึ้นมาแวบหนึ่ง เสียงของเขาทุ้มลงบ้าง
“ครั้งนั้น เป็นวันที่ผมเจอคุณเป็ฯครั้งสุดท้าย…”
วันต่อมา ก็มีคนมารับตัวเขาไป
ตระกูลอวี่ย้ายที่อยู่ด้วยความกระชั้นชิดมาก
เวลานั้นเขาเป็นแค่วัยรุ่นใกล้จะเป็นผู้ใหญ่ หลายๆ เรื่องจำต้องฟังการจัดการของครอบครัว
ก่อนจะไป เขาทำได้เพียงรีบไปที่หน้าบ้านของเธอ นำจดหมายที่ตัวเองเขียน และที่อยู่ใหม่ของตระกูลอวี๋ในต่างประเทศไว้ให้เธอ
นั่นเป็นครั้งแรก ที่เขาไปยืนอยู่หน้าบ้านของเธอ ซึ่งแตกต่างจากจินตนาการของเขา
ประตูหน้าดูเหมือนบ้านธรรมดาทั่วไป แต่ขอเพียงข้ามประตูนี้เข้าไปข้างใน ก็จะพบว่ามีบอดีการ์ดในชุดสีดำยืนเรียงรายอยู่สองข้างทางอย่างเป็นระเบียบ
พวกเขาเฝ้าประตูอย่างเข้มงวดมาก
แม้ตอนนั้นในใจเขาจะสงสัย ทว่าไม่เหลือเวลาให้เขาคิดมากแล้ว
เขารีบทิ้งจดหมายไว้ ทั้งกำชับว่าต้องส่งถึงมือเธอให้ได้ ก่อนจะถูกครอบครัวของตัวเองพาไป…
ต่อมา ตระกูลฟ่านก็ปักหลักอยู่ที่ต่างประเทศ
เขาคิดจะติดต่อเธอเป็นอันดับแรก
เขาเคยเขียนจดหมายให้เธอ เคยโทรศัพท์หาเธอ
แต่เบอร์โทรศัพท์ที่เธอให้เขาไว้ กลับไม่เคยมีใครรับสาย
จดหมายของเขา ก็ฌหมือนหินจมลงสู่มหาสมุทร
สถานการณ์แบบนี้ดำเนินต่อไปไม่ถึงครึ่งปี เขาทนใจเย็นไม่ไหว และไม่สนใจการต่อต้านจากที่บ้าน เขาต้องกลับไปห่เธอ
แต่พอเข้ากลับมาที่ประเทศจีน และไปหาสวนที่ล้อมรั้วแห่งนั้น สิ่งที่เขาเห็นกลับมีแต่กองธุลีทั้งผืน…
ลิ่วลิ่วของเขาหายไปแล้ว
ที่ตรงนั้นเป็นคฤหาสน์ รอบข้างแทบจะไม่มีบ้านใดๆ
บางครั้งมีคนพูดว่า บ้านนี้โชคไม่ดีนัก เกิดไฟไหม้จนตายยกครัว
และได้ยินว่าเหลือเพียงลูกสาว ที่มีคนรับไปเลี้ยง
“ตอนนั้นผมเหมือนคนบ้า อยากจะไปหาคุณให้ได้ แต่จนถึงตอนนั้น จู่ๆ ผมก็นึกอะไรขึ้นได้ นอกจากผมที่รู้ว่าคุณชื่อลิ่วลิ่ว จำหน้าตาของคุณได้แล้ว ทุกอย่างที่ผมรู้เกี่ยวกับคุณ ไม่มีใครรู้เลย…”
มือของฟ่านอวี่กำหมัดเงียบๆ
เขาในตอนนั้นมีเพียงรูปภาพของเธออยู่ในมือ
เขาลองสอบถามกับบ้านใกล้เรือนเคียง แต่กลับไม่พบข้อมูลของเธอ
เขาตามหาเธอในประเทศอยู่อย่างนั้นเกือบหนึ่งเดือน แต่ก็ยังตามหาเธอไม่พบ
จากนั้นเขาก็ถูกครอบครัวพาตัวไปอีกครั้ง
“ตอนที่กลับมาตระกูลอวี่ ผมไม่ได้ยอมแพ้ที่จะตามหาคุณ และให้คนสอบถามเรื่องราวที่เกี่ยวกับครอบครัวของคุณอยู่เสมอ ไฟไหม้ครั้งนั้นเผาไหม้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณไปหมด จนเหลือแต่กองขี้เถ้า”
ความทรงจำวัยเด็กฝังอยู่ในใจของเขาเสมอ
การที่ตามหาเธอไม่เจอ กลายเป็นปมในใจของเขา
หลายปีมานี้ เขาไปมาแล้วหลายที่ เจอใครมาหลายคน
ขอเพียงเห็นเงาร่างที่คล้ายกับเธอ เขาก็เหมือนกับมีความหวังขึ้นมาบ้าง คิดว่าโชคเข้าข้างเขาบ้างแล้ว ในที่สุดเธอก็จะได้กลับมาอยู่ข้างกายของเขา
แต่ความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เขาแทบจะสิ้นหวัง
จนกระทั่งสามปีก่อน แหวนราชินีที่เงียบหายไปหลายปีก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง…
“ผมจำได้ คุณเคยบอกว่าคุณชอบแหวนราชินีวงนั้นมาก สวมใส่มันอยู่ตลอด เมื่อเจอคนที่คุณนักในอนาคตแล้ว คุณจะมอบมันให้เขาเป็นสิ่งยืนยันความรู้สึก”
ตอนที่ 628 ตั้งปณิธานจะเลี้ยงพี่ชาย
ฟ่านอวี่คิดถึงตรงนี้ เขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก
ลิ่วลิวของเขานิสัยไม่เหมือนเด็กในวัยเดียวกันมาแต่ไหนแต่ไร
เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่ไม่มีการรักนวลสงวนตัวแบบผู้หญิง คิดแต่จะเก็บพี่ชายสุดหล่อเอาไว้
ตอนนั้นเธอแอบออกมาเล่นกับเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมเรียนเปียโน
สุดท้ายแค่ได้ยินว่าพอเรียนเปียโนเสร็จ ก็ไปเล่นกับพี่ชายสุดหล่อได้ เธอก็นั่งลงตรงหน้าเปียโนของเขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เร่งเร้าให้เขาสอนเธอเร็วๆ…
วิชาศิลปะป้องกันตัวก็เช่นเดียวกัน
ทีแรกเธอเกียจคร้านเสมอ ไม่ได้ตั้งอกตั้งใจเท่าไหร่
ต่อมาเมื่อได้ยินเขาพูดว่า ถ้าฝีมือไม่ดี ต่อไปหากพี่ชายของเธอถูกรังแก เธอคงจะปกป้องไม่ได้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที
ตอนนั้นเธอแอบออกมาเรียนวิชาป้องกันตัวกับเขาทุกวัน
ฝึกมวยหนึ่งชั่วโมง แต่เธอไม่ร้องว่าเหนื่อยเลยสักแอะ..
“ตอนนั้นพบสืบพบว่าแหวนราชินีปรากฏขึ้นอีกครั้ง ความคิดแรกก็คือคุณกลับมาแล้ว แต่ผมสืบไม่พบอะไรอีก เบาะแสของแหวนราชินีก็หายไปแล้ว” เสียงของฟ่านอวี่ทุ้มต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อพูดจบ เขาก็ยกแก้วชาตรงหน้าขึ้นจิบเบาๆ
แววตาดูซับซ้อนขึ้นบ้าง
เหนียนเสี่ยวมู่นั่งหลังตรง พลางหันไปมองอวี๋เยว่หานด้วยความเคร่งเครียด
ครั้นเห็นใบหน้าเย็นชาของอีกฝ่าน เธอก็ตื่นเต้นขึ้นมา!
เธอจำอดีตไม่ได้เลยสักนิด
แต่เธอเล่นเปียโนได้ เรื่องนี้อวี๋เยว่หานรู้ตั้งแต่งานวันเกิดเจ็บสิบปีของคุณนายใหญ่อวี๋แล้ว
ที่หญิงสาวคิดไม่ถึงก็คือ ฟ่านอวี่เป็นคนสอนเล่นเปียโนให้เธอ!
เหตุผลที่เธอเล่นเป็นโน ก็เพื่อจะไปแกล้งพี่ชายสุดหล่อ…
“อวี๋เยว่หาน ตอนเด็กๆ ฉันอาจจะสมองมีปัญหา คุณคงจะไม่ถือสาใช่ไหม” เหนียนเสี่ยวมู่กลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้น
จู่ๆ เธอก็รู้สึกกังวลขึ้นมาบ้าง ยังไม่ทันที่ฟ่านอวี่จะช่วยเธอดึงความทรงจำกลับมา เธอคงถูกอวี๋เยว่หานบีบคอตายก่อน!
เรื่องเล่นเปียโนเพื่อแกล้งพี่ชายน่ะไว้ก่อน แต่ตั้งใจเรียนวิชาป้องกันตัว เพื่อจะได้ปกป้องพี่ชายสุดหล่อเนี่ย…
เหนียนเสี่ยวมู่เอ๋ยเหนียนเสี่ยวมู่ ความรักนวลสงวนตัวของนางฟ้าล่ะ?
ทำไมตอนยังเด็กถึงไม่รู้ประสาขนาดนี้
ฟ่านอวี่ก็ไม่ห้ามเธอเลย..
แบบนี้แย่แน่…
“ดังนั้น ตอนเด็กๆ คุณเคยเลี้ยงพี่ชายมากี่คนแล้วกันแน่” อวี๋เยว่หานขยับริมฝีปากบาง ส่งเสียงคาดเดา
แค่ได้ยินก็ขนลุกซู่แล้ว
เธอส่ายหน้าอย่างกับกลิงของเล่นป๋องแป๋ง “ไม่กี่คนแน่ๆ ฉันจำไม่ได้แล้ว พิสูจน์ว่าทั้งหมดล้วนไม่สำคัญ!”
“ดังนั้น ถ้าคุณลืมผม ก็เพราะผมไม่สำคัญงั้นสิ?” อวี๋เยว่หานหันหน้าไปชำเลืองมองเธอ เสียงของเขาเย็นชาจนเหมือนออกมาจากถ้ำน้ำแข็ง
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o…”
“ตอนนี้ในใจฉันมีแค่คุณ อยากเลี้ยงแต่คุณเท่านั้น!” เหนียนเสี่ยวมู่ยกมือขึ้นรับประกัน ท่าทางจริงใจ
โดยเฉพาะตอนที่พูดว่าจะเลี้ยงเขา ดวงตาของเธอเป็นประกายมาก
ก่อนจะขยับตัวไปข้างๆ อวี๋เยว่หาน
“ฉันสาบาน ว่าคุณเป็นพี่ชายที่หล่อที่สุดที่ฉันเคยเจอแน่นอน ไม่เหมือนกับปิศาจขี้หลีข้างนอกพวกนั้น”
“…” รอยยิ้มที่มุมปากของอวี๋เยว่หานพลันกระตุก
ดังนั้น ที่เธอชอบเขา อยากโผเข้าใส่เขาตลอด ก็เพราะเขาหน้าตาดีอย่างนั้นเหรอ
ถ้าในอนาคตได้เจอผู้ชายที่หล่อกว่าเขา…
ดวงตาสีดำของอวี๋เยว่หานหม่นลง ก่อนจะยื่นมือไปโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด พลางพูดเสียงเบา
“เหนียนเสี่ยวมู่ ถ้าคุณแหย่เสร็จแล้วหนีไป ผมจะหักขาคุณ!”
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o…”
ทั้งสองคนพูดกันเสียงเบา ฟ่านอวี่ไม่ได้ยิน
อวี๋เยว่หานแน่ใจแล้วว่าเธอจะไม่หันหลังให้เขา แล้วไปหาพี่ชายที่หล่อกว่า ถึงจะช้อนสายตาขึ้นเล็กน้อย “อยากรู้ว่าสิงลี่พูดความจริงหรือเปล่า พวกเราต้องไปหาที่อยู่เก่าของตระกูลสิงสักครั้ง”