หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 643 เป็นกำลังใจให้คุณชายฟ่าน! / ตอนที่ 644 ความเงียบคือชัยชนะ
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 643 เป็นกำลังใจให้คุณชายฟ่าน! / ตอนที่ 644 ความเงียบคือชัยชนะ
ตอนที่ 643 เป็นกำลังใจให้คุณชายฟ่าน!
“สิงซิง ขอถามหน่อยค่ะว่าทำไมคุณไม่กล้าเงยหน้าขึ้น คุณไม่กล้าสูหน้าพี่สาวของตัวเองเหรอ”
“คุณทำให้พ่อแม่ของตัวเองต้องตาย ทำให้พี่สาวต้องเสียโฉม คุณไม่รู้สึกผิดบ้างเหรอคะ คุณเคยคิดอยากจะชดเชยบ้างไหม”
“ได้ยินว่าคุณกำลังจะแต่งงานเข้าตระกูลอวี๋ กลายเป็นนายหญิงของตระกูล คุณกังวลว่าคุณชายหานจะรังเกียจอดีตของคุณใช่หรือเปล่า ถึงได้ไม่ยอมรับพี่สาวของตัวเอง”
“สิงลี่บอกว่าคุณคือตัวกาลกิณี คนที่อยู่กับคุณจะต้องพินาศกันทั้งตระกูล คุณเคยคิดอยากจะเลิกกับคุณชายหานไหม”
“เรื่องคำวิจารณ์ในอินเตอร์เน็ตที่มีคนบอกว่าคุณไม่คู่ควรกับคุณชายหาน คุณมีอะไรจะพูดหรือเปล่าคะ”
“……”
พวกนักข่าวผลัดกันถามรัวไปหมด
ไมค์แทบจะยื่นเข้ามาในรถ
แต่เมื่อสบกับดวงตาดำสนิทของอวี๋เยว่หาน ก็รีบหดกลับอย่างรวดเร็ว แต่ว่าสายตาไม่ได้ละไปจากเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ในอ้อมกอดของอวี๋เยว่หานเลย
รอให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้น
ขอแค่เห็นใบหน้า พากหัวข่าววันนี้ก็มีแล้ว!
ไม่รอให้เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้น บอดี้การ์ดที่โดนสิงลี่ผลักออกก็เดินเข้ามาลากตัวสิงลี่ให้ออกไป
“พวกแกปล่อยฉัน ใครก็อย่ามาโดนตัวฉัน!” สิงลี่เห็นว่ามีนักข่าวอยู่ ก็เริ่มโวยวาย
คำวิจารณ์ทั้งหมดต่างเข้าข้างเธอที่เป็นผู้อ่อนแอกว่า ถ้าเกิดบอดี้การ์ดของอวี๋เยว่หานลงมือทำร้ายเธอต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ เธอก็จะได้ทำตัวน่าสงสาร ให้ทุกคนได้เห็นว่า หลังจากที่สิงซิงทำให้พ่อแม่ของเธอตายแล้ว มีการข่มขู่พี่สาวผู้เสียโฉมแบบเธออย่างไรบ้าง
ถึงตอนนั้น ต่อให้ตระกูลอวี๋จะมีอิทธิพลขนาดไหนก็กู้ภาพลักษณ์ของเธอไม่ได้หรอก!
สิงลี่ราวกับคนบ้า สองมือเกาะหน้าต่างเอาไว้
บอดี้การ์ดลากเธอไม่ไป ก็ไม่กล้าลงมือซ้ำอีก เหตุการณ์เปลี่ยนเป็นยืดเยื้อ
นักข่าวที่อยู่ข้างๆ สัมภาษณ์คนในอ้อมกอดของอวี๋เยว่หานไม่ได้ ทั้งหมดจึงหันมาหาสิงลี่แทน
“คุณสิงคุณแน่ใจหรอว่าคุณที่อยู่ในรถคือน้องสาวของคุณ เธอเป็นฆาตกรฆ่าพ่อแม่ของตัวเองจริงๆ เหรอ”
“ได้ยินว่าหลายปีมานี้ คุณถูกส่งไปอยู่ที่บ้านญาติ เห็นคนที่ทำร้ายคุณให้เป็นแบบนี้จะได้กลายเป็นนายหญิงของตระกูลอวี๋ คุณมีความรู้สึกอย่างไรบ้างคะ”
“สิงซิงเป็นน้องสาวของคุณ คุณจะให้อภัยเธอไหม”
“……”
คำถามของนักข่าว แฝงไปด้วยการยุแหย่
ยังไม่ทันจะรับรู้ได้ถึงเรื่องจริง ต่างก็ลงความเห็นว่า คดีน่าสยดสยองของตระกูลสิงเมื่อตอนนั้นสาเหตุมาจากสิงซิง
ถ้ายังปล่อยให้สิงลี่พูดต่อไปอีก ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะบานปลายไปขนาดไหน!
“คุณชายหาน เมื่อครู่ได้รับข่าวว่าพอมีการไลฟ์สดออกไป หุ้นของตระกูลอวี๋ก็เริ่มตกลง ตอนนี้เป็นที่สนใจในวงกว้าง พวกผู้ถือหุ้นต่างก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น!”
ผู้ช่วยถือโทรศัพท์เข้ามารายงานอย่างร้อนรน
ไม่เพียงแต่ผู้ถือหุ้นเท่านั้น ยังมีผู้ใหญ่ในตระกูลอวี๋อีก
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่มีพื้นเพทางครอบครัวเลย อยากเป็นนายหญิงของตระกูลอวี๋ ในสายตาของพวกเขาก็เป็นเรื่องที่สุดจะทนแล้ว
ตอนนี้ยังมีคำว่าตัวกาลกิณีติดมาอีก พื้นฐานครอบครัวและชื่อเสียงแบบนี้ ไม่คู่ควรกับอวี๋เยว่หานเลย!
“ให้เธอหุบปาก!” แววตาเยือกเย็นของอวี๋เยว่หานกวดมองไปที่สิงลี่ที่กำลังพูดจาไร้สาระอยู่กับนักข่าว
เห็นว่าบอดี้การ์ดไม่กล้าลงมือ ก็กำลังจะลงไปเอง แต่ฟ่านอวี่เดินลงไปก่อนแล้ว ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปหาสิงลี่
ท่ามกลางสายตาของพวกนักข่าวมากมาย ราวกับมองเล่ห์กลของสิงลี่ออก มุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างเย้ยหยัน
“ผมไม่ใช่คนของตระกูลอวี๋ ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับสิงซิง ผมไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น ถ้าเกิดผมเกิดควบคุมตัวเองไม่อยู่ชกคุณเข้าไป คงสามารถเบี่ยงความสนใจเรื่องข่าวได้บ้าง ทางที่ดีคุณอย่ายั่วให้ผมโมโหจะดีกว่า!”
ตอนที่ 644 ความเงียบคือชัยชนะ
พอฟ่านอวี่พูดออกไป แววตาของสิงลี่ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
มองดูชายหนุ่มอย่างอึ้งๆ
อยากจะพูดอะไร แต่ว่าฟ่านอวี่ไม่มีความอดทนที่จะฟัง เอื้อมมือไปลากสิงลี่ที่อยู่ที่รถคันหน้าให้เดินไปที่รถคันหลัง
เปิดประตูรถแล้วยัดตัวหญิงสาวเข้าไป
กระแทกประตูรถปิดลงอย่างรุนแรง!
หันหน้าไปกำชับกับบอดี้การ์ด “เฝ้าเอาไว้ให้ดี ถ้าปล่อยให้เธอลงมาได้อีก พวกนายไม่ต้องมีงานทำแล้ว!”
“ครับ คุณชายฟ่าน!” พวกบอดี้การ์ดรับคำอย่างแข็งขัน
สิ้นเสียง ถึงตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่ใช่ลูกน้องของฟ่านอวี่
ฟ่านอวี่เดินกลับไปหานักข่าวพวกนั้นอีกครั้ง ดวงตาอ่อนโยน ใบหน้าหล่อเหลาแม้ว่าการกระทำจะโหดร้าย แต่ว่าในขณะเดียวกันก็ปกปิดรัศมีอันน่าเกรงขามของเขาไว้ไม่มิด
ชายหนุ่มยืนอยู่ต่อหน้านักข่าว ใบหน้าสงบนิ่ง
“แม้ว่าตระกูลอวี๋กับตระกูลฟ่านจะเป็นคู่แข่งกัน แต่หากเราเห็นข่าวที่ไม่เป็นความจริงแพร่ออกไปแม้แต่นิดเดียว ผมเชื่อว่าคุณชายหานคงไม่รังเกียจที่จะร่วมมือกับผม จัดการให้วงการนักข่าวมันสะอาดขึ้น!”
ฟ่านอวี่พูดจบก็หันไปมองอวี๋เยว่หานที่นั่งอยู่ในรถ
แววตานิ่งๆ แต่แฝงใบด้วยความคมกริบ
สิ้นคำพูด มุมปากของอวี๋เยว่หานก็หยักขึ้น ไม่ได้เอ่ยพูดอะไร
ความเงียบคือชัยชนะ
เมื่อได้ยินว่าทั้งสองจะร่วมมือกัน สีหน้าของนักข่าวที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็เปลี่ยนไปในทันที
ต่างลดกล้องที่อยู่ในมือลง
แล้วถอยหลังออกไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“พวกคุณอย่าเพิ่งไปสิ ฉันยังมีอีกหลายเรื่องที่จะพูด……” สิงลี่เห็นว่านักข่าวเตรียมจะจากไป ก็โผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างรถอย่างร้อนรน
ได้ยินคำพูดของหญิงสาว พวกนักข่าวก็หันมามองทางเธอเป็นตาเดียว
สีหน้าของสิงลี่ปรากฏแววดีใจ กำลังจะเอ่ยพูดก็โดนบอดี้การ์ดยัดตัวกลับไปตามเดิม
ไม่มีใครกล้าไปขวางรถของอวี๋เยว่หานอีก
รถขับเคลื่อนไปยังคฤหาสน์ตระกูลอวี๋อีกครั้ง
ในไม่ช้าก็ขับมาถึงหน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์
พอลงจากรถ ผู้ช่วยก็เดินเข้ามาก่อน เขาเปิดประตูให้อวี๋เยว่หานแล้วเอ่ยรายงาน
“รับตัวคนอื่นๆ ในตระกูลสิงมาแล้วครับ ตอนนี้รออยู่ที่สนามหญ้าในบ้าน!”
“……”
อวี๋เยว่หานจูงมือเหนียนเสี่ยวมู่เอาไว้ กำมือของเธอเอาไว้แน่นแล้วจูงเข้าไปด้านใน
ฟ่านอวี่ล้วงมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกง เดินตามไปด้านหลังอย่างเงียบๆ
พวกเขาเพิ่งเดินเข้ามาในคฤหาสน์ ก็มองเห็นคนสิบกว่าคนยืนอยู่ตรงพื้นหญ้า
เสื้อผ้าที่ใส่ดูธรรมดา มีทั้งอายุมากและอายุน้อย ในนั้นมีคนคู่หนึ่งดูเหมือนเป็นสามีภรรยากัน
เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันจะดูหน้าคนพวกนั้นให้ชัดเจน สิงลี่ที่ถูกบอดี้การ์ดนำตัวเข้ามาก็ตะโกนเรียกคนพวกนั้นอย่างตื่นเต้น “คุณลุงคุณป้า!”
คนที่ยืนอยู่ที่สนามหญ้า เมื่อมองเห็นสิงลี่ก็รีบตรงเข้ามา เอื้อมมือกอดหญิงสาวเอาไว้
หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งยังกวาดตามองไปทั่วทั้งร่างของเธอ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรก็กอดเอาไว้แน่น
“เด็กโง่ ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ทำไมยังปล่อยวางไม่ได้สักที!”
“……”
ในของเหนียนเสี่ยวมู่สั่นไหวน้อยๆ
คนพวกนี้ เป็นครอบครัวของเธอจริงๆ เหรอ
หญิงสาวอยากจะเดินเข้าไป แต่อวี๋เยว่หานกลับโอบไหล่เธอเอาไว้แล้วดึงเธอมาอยู่ข้างกายเสียก่อน
ริมฝีปากค่อยๆ เอ่ยขึ้น
“ใครเป็นคนเลี้ยงสิงลี่”
“……พวกเราเอง” ผู้หญิงวัยกลางคนที่กอดสิงลี่ไว้เมื่อครู่และผู้ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ เดินออกมา
ได้ยินคำถามของอวี๋เยว่หาน ผู้หญิงคนนั้นยกชายเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาที่หางตาของตัวเอง
“คุณชายหาน อย่าได้โทษสิงลี่เลยค่ะ ตอนที่บ้านเก่าของตระกูลสิงถูกไฟไหม้ เสี่ยวลี่ก็กลายเป็นเด็กกำพร้าแถมยังมาเสียโฉมอีก หลายปีมานี้ก็ไม่ได้ง่ายเลยสำหรับเธอ!”
ผู้หญิงวัยกลางคนมองดูอวี๋เยว่หานแวบหนึ่ง จากนั้นก็มาหยุดอยู่ที่เหนียนเสี่ยวมู่ แววตาเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง
“พูดตามจริงแล้ว มันก็เป็นเพราะตัวกาลกิณีอย่างสิงซิงทั้งนั้น เธอเป็นคนทำลายตระกูลสิงของเรา!”