หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 685 การแสดงล้ำเลิศมาก! / ตอนที่ 686 คุณชายฟ่านลงมือเอง เดี๋ยวก็รู้ว่าดีไม่ดี
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 685 การแสดงล้ำเลิศมาก! / ตอนที่ 686 คุณชายฟ่านลงมือเอง เดี๋ยวก็รู้ว่าดีไม่ดี
ตอนที่ 685 การแสดงล้ำเลิศมาก!
สิ้นเสียง ไม่เพียงแต่สิงลี่ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าตะลึงงันไป
เหนียนเสี่ยวมู่ซึ่งแอบอยู่ที่ช่องลับในห้องรับแขกก็ตะลึงงันไปเหมือนกัน
แม้ว่าฟ่านอวี่จะไม่ได้พูดออกมาว่าใครเป็นคนพูดประโยคนั้น แต่ว่าสัมผัสมันบอกเธอว่า คือเธอ……
ไม่เพียงแต่เธอที่คิดแบบนั้น ไอเย็นที่แผ่ออกมาข้างๆ ตัวเธอก็บอกเธอว่าอวี๋เยว่หานก็คิดเช่นเดียวกัน
สีหน้าของชายหนุ่มคล้าลงอีกแล้ว!
“คนคนนั้นคือสิงซิง? คุณยังลืมเธอไม่ได้เหรอ” สิงลี่ได้สติ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นโกรธเคือง
สองมือกำหมัดแน่นเดินตรงเข้าไปหาฟ่านอวี่
“เมื่อกี้คุณบอกต่อหน้านักข่าวว่าเห็นธาตุแท้ของเธอ และจะไม่เชื่อคำพูดของเธออีกแล้วไม่ใช่เหรอ คุณยังขอโทษฉันด้วย คุณโกหกฉัน……”
“ไม่ใช่!” ฟ่านอวี่พูดขัดคำพูดของงหญิงสาว
ยกไวน์ในแก้มดื่มรวดเดียวหมด
จากนั้นก็เขวี้ยงมันลงบนพื้นอย่างแรง
จนแตกละเอียด
แววตาอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นแววตาอันตราย “ผมดีกับเธอขนาดนั้น เธอกลับเลือกอวี๋เยว่หาน ผู้หญิงแบบนี้มีค่าอะไรให้ผมนึกถึงกัน ผมแค่คิดว่ามันน่าขำที่ผมคิดถึงเธอ คิดถึงมาตั้งหลายปี……”
“……”
เหมือนว่าสิงลี่จะไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ยินฟ่านอวี่พูดออกมาแบบนี้ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง
ร่างผอมเพรียวเดินตรงเข้าไปอย่างสั่นๆ
ลูบไปที่ไหล่ของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา บ่นพึมพำกับตัวเอง “ไม่เป็นไรนะ คุณเห็นธาตุแท้ของเธอตอนนี้ก็ยังไม่สาย ฉันก็เกลียดเธอเหมือนคุณ ถ้าตอนนั้นฉันรู้ตัวเร็วกว่านี้ บางทีพ่อกับแม่อาจไม่ตาย”
“ผมโง่มากใช่ไหม” ฟ่านอวี่หมุนตัวไปมองเธอ แววตาเลื่อนลอย
“รู้จักเธอมาตั้งหลายปี ผมกลับไม่เคยรู้เลยว่าเธอเป็นคนแบบนี้ เธอยังไม่ยอมรับอีกว่าตัวเองเป็นตัวกาลกิณี บอกกับผมว่าตอนที่เกิดไฟไหม้เธอโดนรับตัวไปแล้ว คนที่วางเพลิงคือคุณ”
“……เธอบอกกับคุณแบบนี้เหรอคะ” สิงลี่กำชายกระโปรงของตัวเองเอาไว้แน่น ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าซีดเผือดลงทันที
“ไม่ใช่ฉัน มันพูดมั่ว มันนั่นแหล่ะ พ่อแม่ฉันต้องตายก็เพราะมัน!”
พริบตาเดียว สิงลี่ก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
ความเกลียดชังที่สื่ออกมาไม่เหมือนกับการแสดงเลยแม้แต่น้อย
แววตาของฟ่านอวี่นิ่งขรึมลง เอื้อมไปจับบ่าของเธอเอาไว้ “คุณวางใจเถอะ ผมไม่ได้เชื่อที่เธอพูด ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ผมก็จะไม่เชื่อ การตายของพ่อแม่คุณต้องเป็นเพราะเธอแน่ๆ”
“……”
“คุณสงบสติก่อนนะ ผมแค่อยากรู้ว่าที่เธอบอกว่ามีคนมารับตัวไป คือเรื่องจริงหรือเปล่า”
น้ำเสียงของฟ่านอวี่อ่อนโยนมาก
บวกกับภาพลักษณ์ที่ดูสุภาพบุรุษสุขุมของเขามันทำให้คนทำลายกำแพงของตัวเองลงได้ง่ายๆ
สิงลี่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม สีหน้ามีแววงุนงงเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้าลง
ทันใดนั้นก็เหมือนจะรู้ว่าตัวเองเผลอยอมรับออกไป จึงสั่นศีรษะอย่างร้อนรน
ฟ่านอวี่ไม่ได้สนใจการปฏิเสธในภายหลังของเธอ เอ่ยถามต่อ “ตัวกาลกิณีที่ตระกูลสิงก็ไม่ต้องการ จะมีใครมารับตัวไปได้อีก พ่อแม่แท้ๆ ของเธอหรือเปล่า”
“……” สิงลี่มองดูชายหนุ่ม เหมือนจะเอ่ยพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด
ฟ่านอวี่สัมผัสได้ถึงความลังเลในสายตาของเธอ น้ำเสียงนิ่งขรึมลง “ตอนนี้มีแค่ผมที่เชื่อคุณ คุณไม่เชื่อใจผมเหรอ สิงซิงเป็นแค่เด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ทำไมคุณต้องเรียกเธอว่าคุณหนูด้วย”
“ในตระกูลสิง มันคือคุณหนู!” สิงลี่พูดออกมาอย่างร้อนรน จากนั้นก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แววตาก็สงบลงเหมือนเดิม
“คุณอย่าถามเลย เราไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า……”
“ได้ ไม่พูดเรื่องนี้ คุณบอกผมมาก่อนว่าตอนนั้นเด็กผู้หญิงที่ชอบเดินถามหลังสิงซิงไปอีกคนคือใคร” ฟ่านอวี่ถามขึ้นมาอีกรอบ
สิงลี่นิ่งไป “คุณหมายถึงสิงฟางเหรอ”
ตอนที่ 686 คุณชายฟ่านลงมือเอง เดี๋ยวก็รู้ว่าดีไม่ดี
“สิงฟาง” ฟ่านอวี่หรี่ตาแคบลง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มปรากฏแววประหลาดใจ
คนตระกูลสิงอีกแล้ว
ตอนนั้นนอกจากลิ่วลิ่วแล้ว เขาไม่ได้สนใจใครอื่นเลย เหมือนว่าเขาจะพลาดอะไรไปมากทีเดียว
เขานึกมาโดยตลอดว่าการไปมาหาสู่ระหว่างเขากับลิ่วลิ่วเป็นความลับมาก ไม่มีใครล่วงรู้ได้ นึกไม่ถึงเลยว่า ไม่เพียงแต่สิงลี่เท่านั้นที่รู้ ขนาดสิงฟางที่ปกติไม่ได้อยู่ที่บ้านเก่าสิงยังรู้เลย น่าจะรู้นานแล้วด้วย……
“ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกับสิงซิงนั่นแหล่ะ ชอบเกาะติดสิงซิงตั้งแต่เด็กๆ หลังจากที่พ่อแม่ของฉันตาย ก็มีแต่เธอที่ยังคงช่วยพูดแก้ต่างให้สิงซิงไม่หยุด เธอก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก!”
เมื่อพูดถึงสิงฟาง แววตาของสิงลี่ก็ปกปิดความเกลียดชังเอาไว้ได้ไม่มิด
“อย่างนั้นก็แปลว่าเธอก็ค่อนข้างดีกับสิงซิงน่ะสิ แล้วทำไมต้องสะกดรอยตามสิงซิงด้วยล่ะ” ฟ่านอวี่แสร้งถามเหมือนว่าไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
สิงลี่ได้ยินคำพูดของฟ่านอวี่ก็หัวเราะเสียงเย็นออกมา
“อยากประจบสิงซิงล่ะมั้ง ใครๆ ต่างก็รู้ว่าพ่อแม่ของฉันรักและเอ็นดูตัวกาลกิณีคนนี้มาก ลุงกับป้าสะใภ้ของฉันก็ทำดีกับมันเพื่อจะเอาใจพ่อแม่ฉัน หวังที่จะได้เงินมากหน่อย พวกเขาไม่รู้หรอกว่าไม่ว่าใครจะส่งอะไรมาให้ พ่อกับแม่ฉันก็ไม่มีทางเอาของพวกนั้นไปให้สิงซิงใช้ ของทั้งหมดที่มันใช้ล้วนมีคนส่งมาให้ต่างหาก”
สิงลี่พูดถึงตรงนี้แววตาก็เปลี่ยนเป็นริษยา
กัดฟันแน่น
“มันมีของมากมายขนาดนั้นแล้ว ทำไมยังไม่รู้จักพออีก ทำไมยังต้องมาแย่งของของฉัน นั่นมันพ่อแม่ของฉัน บ้านของฉัน! มันไม่ควรปรากฏตัวตั้งแต่แรก ถ้าไม่มีมัน พ่อแม่ของฉันก็คงไม่ต้องตาย หน้าของฉันก็คงจะไม่กลายเป็นแบบนี้……”
สิงลี่ใช้มือจับคลำไปที่ใบหน้าซีกหนึ่งที่เต็มไปด้วยแผลเป็นของตัวเอง จากนั้นก็หันไปมองฟ่านอวี่ที่ดูสง่างามไม่มีที่ติ แววตาปรากฏแววอดสู
“ใช่ เธอไม่ควรปรากฏตัวจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คุณก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่ถ้าคุณไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่แรกทำไมถึงอนุญาตให้พ่อแม่คุณรับเธอมาเลี้ยงล่ะ”
มือของฟ่านอวี่จับไหล่ของสิงลี่เอาไว้บีบแน่นขึ้น ลองเอ่ยถาม
“สิงซิงเป็นเด็กกำพร้าไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้คุณบอกว่าของที่ใช้ทั้งหมดมาจากคนส่งมาให้ ใครล่ะ ครอบครัวของเธอหรือเปล่า”
“ฉันไม่รู้ พ่อแม่ไม่ให้ฉันถาม ฉันเคยบ่น แต่แม่มักจะบอกว่ามีสิงซิงถึงได้มีตระกูลสิงอยู่อย่างทุกวันนี้ พวกเราต้องดูแลมันให้ดีๆ ถ้าฉันพูดอะไรอีกพวกเขาก็จะโมโห……พวกเขาไม่สนใจฉันสักนิด พวกเขาสนใจแต่ตัวกาลกิณีสิงซิงนั่น……”
สิงลี่พูดถึงตรงนี้ดวงตาก็เริ่มแดงก่ำ
เธอในตอนนั้นเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ
อยากได้แค่ความรักของพ่อกับแม่ แต่ว่าในสายตาของพ่อแม่กลับไม่มีเธอ ทุ่มเทแรงกายใจทั้งหมดไปกับการดูแลสิงซิง
เธอเกลียด
เกลียดความลำเอียงของพวกเขา แต่เกลียดตัวเองยิ่งกว่าที่ทำอะไรไม่ได้เลย
แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว
เธอโตแล้ว สิงซิงก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ เธอจะไม่นั่งมองอยู่เฉยๆ เหมือนคนโง่อีกแล้ว
สิงซิงเป็นคนทำลายตระกูลสิงทั้งหมด สิงซิงทำให้เธอกลายเป็นแบบทุกวันนี้……เธอต้องการให้สิงซิงเอาชีวิตมาชดใช้!
“ดังนั้น ก่อนที่บ้านสิงจะเกิดไฟไหม้ขึ้น สิงซิงถูกคนมารับตัวไปก่อนแล้ว คุณรู้ว่าเธอจะไม่กลับมาอีกเลยดีใจมาก ในใจคิดว่าในที่สุดทุกอย่างในบ้านสิงก็กลายเป็นของคุณแล้ว ไม่มีใครจะมาแย่งความรักของพ่อแม่ไปจากคุณอีก แต่พอคิดอีกทีคุณก็ยังไม่พอใจเลยวิ่งไปที่ห้องของสิงซิง แล้วเผาของทุกอย่างของเธอให้หมด แต่นึกไม่ถึงว่าจะบังเอิญทำกะละมังเผาคว่ำทำให้เกิดไฟลุกโชน……”
น้ำเสียงของฟ่านอวี่เรียบต่ำ ราวกับกำลังพูดถึงเรื่องที่ไม่ได้สำคัญอะไร