หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 833 ใจดีสอนให้ ไม่คิดเงิน! / ตอนที่ 834 หึงถึงขนาดเปิดโรงงานน้ำส้มสายชูได้แล้ว
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 833 ใจดีสอนให้ ไม่คิดเงิน! / ตอนที่ 834 หึงถึงขนาดเปิดโรงงานน้ำส้มสายชูได้แล้ว
ตอนที่ 833 ใจดีสอนให้ ไม่คิดเงิน!
“ผู้จัดการเหนียนสีหน้าดูไม่ดีเลย เธอไม่เป็นไรนะ?” เจิ้งเหยียนยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาจิบและพูดด้วยความเป็นห่วง
แต่ในน้ำเสียงกลับไม่มีความจริงใจเลย
ก็ใช่ ถ้าเธอเป็นห่วงเหนียนเสี่ยวมู่จริง เธอคงไม่เอารูปนี้มาเยาะเย้ยหรอก
มีองค์ประกอบให้ดูก็ยิ่งสนุกมากขึ้นมาหน่อย
คราวที่แล้วไม่ได้เห็นเหนียนเสี่ยวมู่เสียอาการแบบนี้ เธอจึงคาดหวังกับครั้งนี้มาก
“รูปถ่ายได้ไม่เลว แสงก็ใช้ได้ ส่วนเรื่องท่านั้น...” เหนียนเสี่ยวมู่เอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์เจิ้งเหยียนและดูรูปถ่ายอย่างละเอียด พลางทำเสียง “จุ๊ๆ”
“ดูแล้วพวกคุณก็ไม่ได้มีอะไรกันนี่”
“…เธอว่าไงนะ?” เจิ้งเหยียนผงะ
“ก็อวี๋เยว่หานไม่ชายตามองคุณไงล่ะ!” เหนียนเสี่ยวมู่โยนโทรศัพท์คืนให้เธอ เดินวนไปที่ด้านหลังโต๊ะทำงานตัวเองและนั่งลงบนเก้าอี้
มือทั้งสองจับที่ขอบโต๊ะ เธอไม่ได้โกรธ ทั้งตัวเหมือนมีออร่าปกคลุมอยู่ล้อมรอบ
เลิกคิ้วเล็กน้อย
“ในเมื่อตอนนี้คุณรู้แล้วว่าฉันกับอวี๋เยว่หานคบกัน งั้นคุณรู้ไหมว่าเรานอนด้วยกันทุกวัน? เขานอนเป็นยังไง ไม่มีใครรู้ดีไปมากกว่าฉันหรอก ถ้าพวกคุณมีอะไรกันจริง คุณคงไม่นอนอยู่ข้างๆเขา แต่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาต่างหากล่ะ!”
“……”
“อีกอย่าง ถ้าคุณกับอวี๋เยว่หานมีอะไรกันจริง วันต่อมาคุณยังตื่นเช้ากว่าเขาได้และยังถ่ายรูปเขาได้แบบนี้ แสดงว่านั่นไม่ใช่เขา เขาไม่เคยปลุกฉันให้ตื่นเช้ากว่าเขามาก่อน รองประธานเจิ้ง ถ้ารูปนี้ไม่ได้เป็นการตัดต่อ นั่นก็แปลว่าคุณมีเสน่ห์ไม่มากพอ ต้องการคำชี้แนะไหม? ฉันใจดีสอนให้ ไม่คิดเงิน!”
“……”
นี่ไม่เหมือนกับสิ่งที่เจิ้งเหยียนคิดไว้
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่เพียงไม่ให้เธอมีโอกาสได้ยั่วยุ แต่ยังพูดฉีกหน้าเธอด้วยประโยคไม่กี่ประโยค
ทั้งความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยล้วนเป็นการเยาะเย้ยเธอ
แทนที่จะยอมรับว่าตัวเองมีเสน่ห์ไม่มากพอ เธอยอมบอกไปว่าเป็นรูปตัดต่อยังจะดีเสียกว่า
เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกเหนียนเสี่ยวมู่ตลบหลัง แสงมืดมนก็แวบผ่านดวงตาเจิ้งเหยียน
ค่อยๆยิ้มออกมาอย่างช้าๆ
“ฉันดูเบาเธอแล้วจริงๆ ถึงฉันกับอวี๋เยว่หานไม่ได้มีอะไรกัน แต่รูปนี้ก็ไม่ใช่ของปลอมเสมอไป เธอไม่ถือสาสักนิดเลยเหรอ?”
ก่อนจะทำร้ายใคร ไม่สู้เปิดเผยเจตจำนง
มีดล่องหนน่าสะพรึงที่สุด!
ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่เห็นรูปนี้ ได้ยินคำพูดแบบนี้ ตอนนี้จะต้องโกรธจนอยากจะฆ่าคนแล้วแน่ๆ
ทว่าพอเจิ้งเหยียนมองใบหน้าเหนียนเสี่ยวมู่กลับมองไม่ออกว่าจะเสียอาการเลยแม้แต่น้อย
เหนียนเสี่ยวมู่นั่งบนเก้าอี้สำนักงานของตัวเองอย่างสงบ พลางมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยามเหมือนมองตัวตลกที่น่ารังเกียจ
“รองประธานเจิ้งคงไม่ได้คิดจะทำให้ฉันเลิกกับแฟนเพียงเพราะรูปถ่ายเพียงใบเดียวหรอกนะคะ? ตื่นซะทีเถอะ อย่าฝันไปหน่อยเลย การที่แฟนเลิศเลอเกินไปจนทำให้มีผู้หญิงมาตามเกาะแกะก็ไม่ใช่ความผิดของเขาเสียหน่อย พูดอีกอย่างก็คือ…ใครบ้างจะไม่มีคนตามจีบอย่างบ้าระห่ำแบบนั้นล่ะ? ตอนเด็กฉันก็เติบโตมากับพี่ชายรูปหล่อที่ทั้งรักทั้งเอ็นดู”
นัยน์ตาหงส์หรี่ลง “การที่ผู้จัดการเหนียนมั่นใจตัวเองถือว่าเป็นเรื่องดี แต่มั่นใจมากเกินไปก็จะเป็นการทำร้ายตัวเอง ฉันไม่ได้มีพิษสงอะไร แต่คุณไม่กลัวเหรอว่าวันหนึ่งจะมีคนมีพิษสงเผยตัวออกมา?”
เจิ้งเหยียนเดินมาอยู่ตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ พูดทีละคำ
“อย่างเช่นว่าแม่แท้ๆของคุณหนูตระกูลอวี๋”
“พรืด——”
เหนียนเสี่ยวมู่กลั้นไว้ไม่ไหว น้ำพุ่งออกจากปาก
แทบจะพ่นใส่หน้าเจิ้งเหยียน
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่สามารถหยุดหัวเราะได้เมื่อเผชิญหน้ากับสายตางุนงงของเธอ
“กลัว ฉันกลัวมาก กลัวว่าตอนเข้านอนทุกคืนจะตื่นมาพบแม่เสี่ยวลิ่วลิ่วกลับมาในวันรุ่งขึ้น อวี๋เยว่หานก็จะไม่ต้องการฉันแล้ว…”
เหนียนเสี่ยวมู่หันกลับมาและมองเจิ้งเหยียนด้วยความเย็นชา
ตอนที่ 834 หึงถึงขนาดเปิดโรงงานน้ำส้มสายชูได้แล้ว
ลุกจากเก้าอี้เดินไปตรงหน้าเธอ
จับพนักเก้าอี้ของเธอด้วยมือเดียว มองต่ำและสบตาเธอ
“คุณอยากเห็นฉันมีสภาพแบบนี้สินะ? แต่ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องผิดหวัง เพราะฉันก็คือแม่แท้ๆของเสี่ยวลิ่วลิ่ว เซอร์ไพรส์ไหม คาดไม่ถึงล่ะสิ?”
เจิ้งเหยียน “…” !!
เจิ้งเหยียนคาดไม่ถึงว่าผลการเจรจาจะเป็นเช่นนี้
เธอต้องการยั่วยุเหนียนเสี่ยวมู่แต่ไม่สำเร็จ ในทางตรงกันข้ามกลับโดนเหนียนเสี่ยวมู่เล่นงาน
เธอเดินออกจากห้องทำงานของเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยสีหน้าอึมครึม
ประตูห้องทำงานปิดลงอีกครั้ง รอยยิ้มบนใบหน้าเหนียนเสี่ยวมู่หดลงทันที
ในหัวเอาแต่นึกถึงรูปถ่ายที่เห็นในโทรศัพท์เจิ้งเหยียนเมื่อครู่นี้
เธอดูออกว่าอวี๋เยว่หานไม่ได้มีอะไรกับเจิ้งเหยียนทั้งนั้น
แต่อย่างน้อยทั้งสองก็เคยพบกันตามลำพัง เจิ้งเหยียนถึงขนาดมีโอกาสถ่ายรูปแบบนั้นได้ ตอนนี้ยังถือรูปถ่ายมาหาเธอถึงหน้าประตู…
พอคิดถึงจุดนี้ ใจเหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่ได้อยู่เฉยเหมือนที่แสดงต่อหน้าเจิ้งเหยียน
เธอหึงจะตายอยู่แล้ว
หึงถึงขนาดเปิดโรงงานน้ำส้มสายชูได้แล้ว!
พยายามบังคับตัวเองให้ใจเย็นๆและกลับมาทำงาน แต่ในหัวก็ยังเป็นรูปถ่ายใบนั้นอยู่ หลังจากเลิกงาน ไม่ว่าอวี๋เยว่หานจะกลับหรือไม่ เธอจะเรียกรถแท็กซี่ไปยังคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
พอเดินมาถึงห้องนั่งเล่นและอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่ว อวี๋เยว่หานก็กลับมา
ก่อนที่เหนียนเสี่ยวมู่จะมา เธอคิดจะเข้าไปถามอวี๋เยว่หานอย่างตรงไปตรงมาให้ชัดเจน
พอเจอตัวเข้าจริงๆ อีกทั้งสีหน้าเขาก็ดูไม่ค่อยดี พอจะมีความกล้าขึ้นมาก็ตื่นตระหนกไปชั่วขณะ
แต่ความหึงในใจยังไม่ไปไหน
ดังนั้นในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ตลอดทั้งเย็นจึงเป็นบรรยากาศแบบนี้
เสี่ยวลิ่วลิ่ว “หม่าม๊า หนูหิวน้ำ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “แม่ไปรินมาให้”
พอนึกถึงตอนที่ตัวเองโดนทิ้งเมื่อเช้า อวี๋เยว่หานที่นั่งบนโซฟาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ก็พูดขึ้นมาว่า “ผมก็หิวน้ำ”
จากนั้นเหนียนเสี่ยวมู่ก็ออกมาด้วยน้ำสองแก้วที่อยู่ในมือ
แก้วนึงให้เสี่ยวลิ่วลิ่ว ส่วนอีกแก้วพออยู่ต่อหน้าเขาก็ดื่มมันซะเลย!
ดื่มอย่างอัดอั้นตันใจ
ดื่มอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนดื่มเบียร์
พอดื่มเสร็จแล้วก็วางแก้วไว้ตรงหน้าเขาด้วยท่าทีเย่อหยิ่งเป็นพิเศษ จากนั้นอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วและเล่นต่อ…
อวี๋เยว่หาน “???”
ช่วงอาหารเย็น
บนโต๊ะอาหาร
นอกจากหยิบถ้วยเล็กของตัวเอง ก็ตักอาหารให้เสี่ยวลิ่วลิ่วไว้ล่วงหน้าแล้ว บนโต๊ะอาหารจึงเหลือเพียงอวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่
ไม่ว่าอวี๋เยว่หานจะคีบไปตรงไหน สักพักเหนียนเสี่ยวมู่ก็คีบไปตรงนั้น
และคีบชิ้นที่เขาถูกใจ
เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง อวี๋เยว่หานก็เหลือบมองเธอด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่พูดอะไร
ดวงตาดำขลับเป็นประกายเล็กน้อย จากนั้นตะเกียบก็จงใจคีบไปทางซี่โครง
ตอนที่เห็นตะเกียบของเธอกำลังคีบซี่โครงในเวลาเดียวกันกับเขา เขาก็รีบย้ายมาคีบเนื้อปลาอย่างรวดเร็ว
“ถุย ถุย!”
เหนียนเสี่ยวมู่ที่แย่งเนื้อปลาไม่ทันก็ถุยน้ำลายลงไปในจานโดยไม่คิดอะไร
แม้แต่ชิ้นที่อยู่บนตะเกียบของเขาก็ไม่เว้น !!
“โทษทีที่ไอโดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้บนปลามีแต่น้ำลายฉัน คุณไม่ต้องกินแล้ว ฉันจะรับผิดชอบกินมันให้เกลี้ยงเอง!”
พอพูดเสร็จก็เอาปลานึ่งอร่อยๆมากินเอง
ขณะที่กินก็ชื่นชมไปด้วย “วันนี้ปลาอร่อยจริงๆเลย เป็นปลาที่อร่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินมา อร่อยจนอยากจะกินให้เกลี้ยงเลย!”
อวี๋เยว่หาน “…” !!
ถ้าในเวลานี้อวี๋เยว่หานยังไม่รู้สึกถึงความโมโหของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็คงโง่ไปแล้ว
“เหนียนเสี่ยวมู่ ผมไปล่วงเกินคุณหรือเปล่า?”
“…” คุณไม่ได้ล่วงเกินฉัน แต่คู่ควงคนก่อนของคุณต่างหากที่ล่วงเกินฉัน