หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 857 อย่าให้มันหนีไปได้! / ตอนที่ 858 ไม่มีน้ำจิตน้ำใจกันบ้างหรือไง
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 857 อย่าให้มันหนีไปได้! / ตอนที่ 858 ไม่มีน้ำจิตน้ำใจกันบ้างหรือไง
ตอนที่ 857 อย่าให้มันหนีไปได้!
อวี๋เยว่หานร้องเสียงหลงลอยเข้ามาในหู
เหนียนเสี่ยวมู่ยืนช็อกอยู่กับที่ มองไปยังรถคันนั้นที่กำลังพุ่งเข้ามาหาตัวเอง อยากวิ่งแต่ขาเหมือนโดนตอกติดกับพื้น ขยับไม่ได้เลย เธอทำได้เพียงเบิกตาโพล่งพลางมองรถที่ขับอยู่ตรงหน้าและตกใจจนหลับตา!
ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ อวี๋เยว่หานคว้าแขนเธอไว้และลากเข้ามาในอ้อมแขน ถือโอกาสเบี่ยงเข้าข้างถนนภายในชั่วพริบตา
เพื่อหลบรถคันนั้นอย่างหวุดหวิด!
“พรึบ” รถขับผ่านพวกเขาไป
หายไปต่อหน้าต่อตาในชั่วอึดใจ…
“คุณชายหาน!” ผู้ช่วยตั้งสติได้เป็นคนแรก เขาพุ่งไปตรงหน้าอวี๋เยว่หานอย่างเคร่งเครียด “คุณไม่เป็นอะไรนะครับ? ผมจะรีบเรียกรถพยาบาล…”
“ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นไร โทรศัพท์เรียกตำรวจก่อน” อวี๋เยว่หานกอดเหนียนเสี่ยวมู่แน่น เมื่อหลุบตามองเธอก็แน่ใจแล้วว่าเธอแค่หน้าซีดเผือด ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาจึงสั่งด้วยเสียงทุ้ม
ที่นี่เป็นเขตตัวเมือง ถ้าพูดกันตามเหตุผลแล้วรถก็ไม่น่าจะวิ่งเร็วขนาดนี้
อีกอย่างเห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้คนคนนั้นขับรถพุ่งมาทางเหนียนเสี่ยวมู่…จะปล่อยให้เขาหนีไปแบบนี้ไม่ได้!
แววตามืดมนของอวี๋เยว่หานมีแสงเย็นยะเยือกเขย่าขวัญคน!
“ฉันจำทะเบียนรถได้!” เหนียนเสี่ยวมู่กลับมามีสติเมื่อได้ยินเสียงเขา
แม้รถคันนั้นจะขับไปเร็วมาก แต่เธอเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะมันขับเข้ามาหาเธอโดยตรง
ผู้ช่วยรีบโทรแจ้งตำรวจ
เบื้องต้นทางตำรวจตามเฝ้าระวังทางแยกอยู่ที่ทางแยกถัดไปเพื่อสกัดรถคันนั้น
ได้ยินว่าสกัดรถคันนั้นได้แล้วโดยคนขับจอดรถไว้ข้างทาง หลับเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น
เมื่อผ่านการทดสอบความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ก็พบว่าระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์เกินขนาด ซึ่งเป็นการเมาแล้วขับที่ก่อให้เกิดอันตรายโดยแท้จริง!
“คุณชายหาน ทางตำรวจได้ตรวจสอบตัวตนของอีกฝ่ายแล้วพบว่าไม่มีประวัติอาชญากรรม นี่เป็นครั้งแรกที่เมาแล้วขับโดยประมาท ดำเนินการตามกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ที่เกือบจะขับชนคุณเหนียนน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ”
ผู้ช่วยวางสายเสร็จก็รายงาน
ขณะนี้คนขับของพวกเขาได้เปลี่ยนยางอะไหล่เรียบร้อยแล้ว
หากพวกเขาต้องการตามอีกฝ่ายมารับผิดชอบต่อการกระทำ ก็ต้องอยู่เมือง N ต่ออีกหนึ่งวัน
“ตรงไปสนามบิน กลับกันก่อน” อวี๋เยว่หานจับมือเหนียนเสี่ยวมู่แน่นโดยไม่ให้เธอห่างกายเขา
ทั้งหมดขึ้นรถอีกครั้งและตรงไปยังสนามบิน
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
“อาจเป็นเพราะบ้านประจำตระกูลถานดูอึมครึม พอหลังจากที่ฉันออกมาก็เลยว้าวุ่นใจว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้น ดูแล้วตอนนี้ฉันคงกังวลเกินไป”
เหนียนเสี่ยวมู่เดินตามอวี๋เยว่หานไปที่ชั้นสองของอาคารผู้โดยสารขาออก
เมื่อเห็นเขามีท่าทีกลัดกลุ้มจึงโน้มตัวไปข้างๆและยิ้มตาหยี
เมื่อพบกับรอยยิ้มอันสดใสของเธอ ดวงตาเย็นเฉียบของอวี๋เยว่หานก็มลายหายไป ยื่นมือไปหยิกแก้มเธอ
“อืม ดีแล้วที่รักษาชีวิตไว้ได้ ผมกลัวแทบตายยังจะยิ้มเหมือนกวางโง่อยู่ได้”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
นี่ชมหรือด่าเธอกันแน่?
หรือตอนที่ชมเธอก็ถือโอกาสด่าไปด้วย?
เหนียนเสี่ยวมู่ปัดมือเขาลง ทำแก้มป่องและไปอีกด้านของบันไดเลื่อน
เมื่ออวี๋เยว่หานเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้วจึงปล่อยเธอ
ขณะที่เขากำลังจะลงจากบันไดเลื่อน ทันใดนั้นก็มีเด็กผู้ชายวิ่งขึ้นมาโดยมีผู้ปกครองตามมาจากข้างหลังอย่างรีบร้อน
“ช้าหน่อย วิ่งช้าๆ ตรงนั้นขึ้นไปไม่ได้ ระวัง…”
“……”
เมื่อได้ยินผู้ปกครองร้องเสียงหลง เหนียนเสี่ยวมู่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเด็กคนนั้นก็ก้มตัวลงเพื่อพยายามช่วยจับเขาไว้โดยไม่รู้ตัว
ตอนที่ 858 ไม่มีน้ำจิตน้ำใจกันบ้างหรือไง
ทันทีที่ยื่นมือออกไป เด็กผู้ชายไร้เดียงสาที่ดูปราดเปรียวก็เงยหน้าขึ้นมาทันใด สายตาดุร้ายผลักที่หน้าอกเธออย่างรุนแรง!
เหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่บนบันไดเลื่อน ซึ่งบันไดเลื่อนกำลังจะเลื่อนขึ้นไปยังตำแหน่งทางออกชั้นสองแล้ว
เมื่อถูกผลักโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างกายจึงไม่อาจรักษาสมดุลได้
“โครม” เธอชนเข้ากับราวบันไดเลื่อนและรีบคว้าราวจับอย่างไว
ทันทีที่ทรงตัวได้และกำลังจะกลับมายืนขึ้น เด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็ทำท่าจะถีบเธออีกครั้ง——
ยังไม่ทันได้แตะผมเธอซักเส้น เขาก็ถูกอวี๋เยว่หานคว้ามือเอาไว้
ส่วนมืออีกข้างประคองเหนียนเสี่ยวมู่
เหนียนเสี่ยวมู่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับลงจากบันไดเลื่อนด้วยความหวาดผวา
เด็กแสบที่กำลังถูกอวี๋เยว่หานหิ้วตัวไว้พยายามใช้กำลังเพื่อให้อวี๋เยว่หานปล่อยเขา
อวี๋เยว่หานหน้าบึ้งตึง เขาหันไปสั่งผู้ช่วยให้แจ้งตำรวจโดยไม่ลังเล
ขณะนี้ผู้ปกครองของเด็กก็รีบเข้ามา
เป็นคู่สามีภรรยาวัยกลางคนและยังมีหญิงชราคนหนึ่ง
เมื่อได้ยินว่าอวี๋เยว่หานจะแจ้งตำรวจก็โวยวายขึ้นมาทันที “เขาก็แค่เด็ก คุณจะแจ้งตำรวจทำไม? พวกคุณก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ผลักนิดเดียวก็แจ้งตำรวจ จะทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่หรือไง?”
“แม่ครับ อย่าพูดแบบนี้”
ชายวัยกลางคนเอ่ยปากห้ามพลางเดินเข้ามาดูเหนียนเสี่ยวมู่ เขากล่าวอย่างสุภาพ
“ขอบคุณพวกคุณที่เมื่อกี้ช่วยรั้งตัวเด็กไว้ แต่เด็กวัยนี้เป็นเด็กวัยกำลังซน พวกเราจะกลับไปอบรมสั่งสอนเป็นอย่างดี อย่าเอาเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เลยได้ไหมครับ?”
ยังดีที่อีกฝ่ายพูดได้ดี เหนียนเสี่ยวมู่มองไปที่เด็กน้อยซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่รู้ความจริงๆและไม่อยากจะเอาเรื่อง
แต่ยังมีภาพตอนที่เด็กคนนี้ยื่นมือมาผลักเธอเมื่อครู่นี้แวบเข้ามาในหัว สายตานั้นที่เผยออกมา
สายตานั้นไม่เหมือนกับสายตาใสซื่ออย่างที่เด็กคนหนึ่งพึงมี
มันดูมืดมนจนทำให้คนหวาดกลัว!
แต่เครื่องบินของพวกเขากำลังจะออกแล้ว หากต้องตามเอาเรื่องในเวลานี้ก็จะทำให้การเดินทางของพวกเขาล่าช้า
ขณะที่เธอลังเล อวี๋เยว่หานที่กำลังหิ้วเด็กแสบก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความเย็นชา
“ไม่ต้องคุย เรื่องวันนี้จะต้องแจ้งตำรวจ!”
คำพูดนี้ต่างก็ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์ตกใจ
เมื่อหญิงชราได้ยินดังนั้นก็เอะอะโวยวายขึ้นมาทันที
“พวกคุณทำไมทำแบบนี้? ไม่มีน้ำจิตน้ำใจกันบ้างหรือไง? เด็กยังเล็กขนาดนี้เขาทำอะไรผิด? เขาก็แค่ผลักคุณแค่หน่อยเดียว ตอนนี้พวกคุณก็ยังยืนได้นี่ แต่ยังจะจับหลานชายฉันเข้าคุกเนี่ยนะ!”
“พวกคุณคงไม่ได้คิดว่าตัวเองมีเงินถึงคิดจะรังแกหลานชายฉันหรอกนะ? ฉันจะบอกอะไรให้ ตราบใดที่มียายแก่อย่างฉันอยู่ตรงนี้ พวกคุณอย่าคิดจะแตะต้องหลานชายฉันแม้แต่ผมเส้นเดียว!”
ขณะที่พูด หญิงชราก็กระโจนเข้าใส่อวี๋เยว่หานและแกะมือเขาออก
เพื่อต้องการแย่งเด็กแสบออกจากมือเขา
เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้น เด็กแสบก็ดิ้นแรงขึ้น…
แต่เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอวี๋เยว่หาน บวกกับอวี๋เยว่หานยังมีผู้ช่วยอยู่ข้างกาย ภายในสิบวินาทีก็ดึงคนออกไปได้และหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อเตรียมโทรหาตำรวจ
เมื่อเห็นฉากนี้หญิงชราก็นอนลงไปกับพื้นและเริ่มร้องไห้เสียยกใหญ่
เสียงร้องไห้คร่ำครวญดึงดูดความสนใจทุกคนในสนามบินให้หันมามองที่นี่
“โลกนี้ไม่มีความยุติธรรมจริงๆหรือ? หลานชายฉันก็แค่ไปชนพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาถึงกับต้องแจ้งตำรวจ คงเห็นว่าพวกเราไม่รู้กฎหมายถึงได้รังแกพวกเรา ทุกคนเร่เข้ามาตัดสินความผิดให้พวกเราเร็วเข้า…”