หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 937 ฉันเจ็บหน้าจะตายอยู่แล้ว! / ตอนที่ 938 ผลัดกันรับผลัดกันส่ง
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 937 ฉันเจ็บหน้าจะตายอยู่แล้ว! / ตอนที่ 938 ผลัดกันรับผลัดกันส่ง
ตอนที่ 937 ฉันเจ็บหน้าจะตายอยู่แล้ว!
น่าเสียดายก็แต่รองเท้าดีดีคู่นั้น
แต่อย่างไรก็ตามในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ยังมีรองเท้าที่สวยกว่า พวกเธอค่อยซื้อใหม่ก็ได้!
เหยาอวิ๋นอวิ๋นไม่คิดว่าตัวเองจะโดนเจิ้งเหยียนจัดการได้น่าอับอายขนาดนี้ แม้พวกเธอจะมีกันสามคน แต่ดูแล้วก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจิ้งเหยียนและเหนียนเสี่ยวมู่
เธอลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล กัดฟันด้วยความไม่พอใจ
“แกคอยดูเถอะ ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่!”
“พวกเรากลับ!” เหยาอวิ๋นอวิ๋นกวักมือเป็นสัญญาณให้คนข้างๆช่วยพยุงเธอแล้วคิดจะจากไป
“เดี๋ยวก่อน!” พอเจิ้งเหยียนเห็นว่าทั้งสามเดินไปถึงประตูทางออกก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที
เสียงที่เกิดขึ้นฉับพลันทำให้เหยาอวิ๋นอวิ๋นและคนอื่นถึงกับชะงัก
เหยาอวิ๋นอวิ๋นล้มลงสองครั้งติดต่อกัน แม้จะมีคนรองรับอยู่ข้างหลังแต่ก็ปวดก้นไม่ไหวแล้ว
ตอนนี้แม้แต่จะยืนตัวตรงก็ไม่ง่ายสำหรับเธอ
เมื่อได้ยินเจิ้งเหยียนเรียกเธอ ก็แอบคิดในใจว่าคำพูดที่เธอเพิ่งพูดไปเมื่อกี้นี้จะต้องทำให้เจิ้งเหยียนกลัวแล้วแน่ๆ
ที่เรียกเธอไว้เพราะอยากจะขอโทษเธอสินะ?
สายไปซะแล้ว!
เธอจะต้องอวดลุคที่สวยที่สุดให้เจิ้งเหยียนได้เห็น!
เหยาอวิ๋นอวิ๋นหันกลับไปอย่างกระหยิ่มใจ ผลักคนข้างๆออกพร้อมกับยื่นมือเท้าสะเอวมองไปทางเจิ้งเหยียน
“อย่าคิดว่าตอนนี้แกจะขอโทษฉันแค่ประโยคเดียวแล้วฉันจะยกโทษให้ง่ายๆ นะ ถ้าไม่อยากให้ฉันเอาเรื่องวันนี้ แกจะต้องคุกเข่าเขกหัวลงกับพื้นดังๆสามที!
“ใช่ เอาหัวเขกพื้นดังๆสามที!” ลูกสมุนอีกสองคนที่อยู่ข้างๆเหยาอวิ๋นอวิ๋นพูดตาม
เจิ้งเหยียนถึงกับหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น
เธอกอดอกเดินไปข้างหน้าพลางเหลือบมองเหยาอวิ๋นอวิ๋นตั้งแต่หัวจรดเท้า “แกโง่หรือเปล่า? ใครบอกแกว่าฉันจะขอโทษ? แกทำรองเท้าพังแล้วจะไปก็ได้ แต่ต้องชดใช้ก่อนแล้วค่อยไป”
เหยาอวิ๋นอวิ๋น “…”
เหยาอวิ๋นอวิ๋น “แกต่างหากที่จะแย่งรองเท้ากับฉันให้ได้ รองเท้าถึงได้พัง แกกล้าดียังไงให้ฉันชดใช้!”
เจิ้งเหยียน “คนที่แย่งรองเท้าไปจากฉันคือแก แล้วรองเท้าก็พังในมือแก เพื่อนของฉันและกล้องวงจรปิดสามารถยืนยันได้ ทำไมล่ะ เป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลเหยาทำเป็นแค่ทำตัวเกรี้ยวกราดแต่ไม่มีปัญญาชดใช้รองเท้าแค่คู่เดียวงั้นเหรอ?”
เหยาอวิ๋นอวิ๋นหายใจติดขัด
หน้ากลายเป็นสีเขียวคล้ำ
ไม่นานก็ได้สติ “แกคิดจะแบล็กเมล์ฉันใช่ไหม? ฝันไปเถอะ! ฉันทำรองเท้าพังแล้วยังไง ฉันแค่ไม่จ่าย แกจะเอาเงินฉันไปได้ยังไง?”
“แก!” เจิ้งเหยียนหรี่ตา ตอนที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆ เธอก็เห็นร่างอันเยือกเย็นปรากฏตัวตรงทางเข้าร้านรองเท้า เธอผงะไปเล็กน้อย
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่เห็นมั่วหย่งเหิงยืนอยู่ตรงด้านนอกประตู เธอก็ยืดตัวตรงไปชั่วขณะ
เธอนึกถึงคำพูดของพนักงานร้านชุดราตรีขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
วันนี้มั่วหย่งเหิงออกมาตรวจงานตามปกติ น่าจะเริ่มจากชั้นบนสุดลงมาถึงชั้นหนึ่งและมาเจอพวกเธอพอดี
“คุณชายหย่งเหิง!” พนักงานร้านรีบเข้าไปทักทาย
มั่วหย่งเหิงกวาดตามองดูสถานการณ์ “เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหยาอวิ๋นอวิ๋นและอีกสองคนที่กำลังเอะอะโวยวายก็หันกลับมาทันที พอเห็นมั่วหย่งเหิงยืนอยู่ด้านนอกประตู แววตาก็เป็นประกาย!
ตอนนี้ตระกูลเหยามีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลมั่ว ถือว่าเป็นแขนขาให้ตระกูลมั่ว
ซึ่งต่างจากตระกูลเจิ้งที่เป็นพวกทรยศ มั่วหย่งเหิงจะต้องช่วยเธอแน่ๆ!
เธอจึงรีบเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“คุณชายหย่งเหิง ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าของตระกูลมั่ว เพราะฉะนั้นคุณจะต้องจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฉันนะคะ!” เหยาอวิ๋นอวิ๋นรีบเดินไปตัดหน้าพนักงานแล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับใส่สีตีไข่ให้เขาฟัง
เธอไม่ได้พูดถึงเรื่องคลิปวิดีโอที่ใช้ยั่วโมโหเจิ้งเหยียน เอาแต่บอกว่าเจิ้งเหยียนรังแกเธออย่างไร
และยังบอกว่าเจิ้งเหยียนวางแผนให้เธอทำรองเท้าพัง จากนั้นก็ให้เธอชดใช้
“คุณชายหย่งเหิง คุณดูหน้าฉันสิ เจิ้งเหยียนถึงขนาดกล้าลงมือตบฉันเพียงเพราะต้องการจะแย่งรองเท้ากับฉัน ฉันเจ็บหน้าจะตายอยู่แล้ว!”
ตอนที่ 938 ผลัดกันรับผลัดกันส่ง
ตอนที่โดนตบหรือตอนที่ล้มลงกับพื้น เหยาอวิ๋นอวิ๋นไม่ได้ร้องไห้
แต่พอเจอมั่วหย่งเหิงและพูดเพียงไม่กี่ประโยคก็ร้องไห้อย่างน่าเวทนาราวกับดอกพิกุลร่วงทันที
น้ำหูน้ำตาไหลเหมือนต้องการจะฉีกหัวใจมั่วหย่งเหิงเป็นชิ้นๆ
ลูกสมุนที่อยู่ข้างๆเธอก็พยายามเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ
“คุณชายหย่งเหิง คุณจะต้องช่วยอวิ๋นอวิ๋นนะคะ เจิ้งเหยียนทำเกินไปแล้ว เธอแย่งรองเท้าอวิ๋นอวิ๋นยังไม่พอ ยังกล้าตบคนอื่นด้วย พวกเราแค่ช่วยห้ามปรามไม่กี่คำ ก็โดนเธอทุบตีจนเจ็บเอวจนถึงตอนนี้แน่ะ!”
“เจิ้งเหยียนเป็นคนทำรองเท้าพังเอง ตอนนี้ยังจะโยนความผิดให้อวิ๋นอวิ๋นอีก นี่คงคิดจะอาศัยบารมีตระกูลเจิ้งมาทำร้ายคนอื่นสินะ? ใครๆต่างก็รู้ดีว่าที่ตระกูลเจิ้งมีวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะมีตระกูลมั่วคอยหนุนหลัง แต่พวกเขากลับลืมบุญคุณแล้วยังมีหน้าออกมาเจอคนภายนอก คุณชายหย่งเหิง คุณจะต้องช่วยพวกเรานะคะ!”
พวกเธอต่างก็ผลัดกันรับผลัดกันส่ง แทบทนไม่ไหวที่จะตั้งเวทีแสดงละคร
เหยาอวิ๋นอวิ๋นก็ไม่ใช่คนโง่
เป็นเรื่องจริงที่เธอเกลียดเจิ้งเหยียน ใครให้เจิ้งเหยียนเกิดมาสวยและยังทำตัวอวดดีจนไม่มีใครดูถูกเธอได้ล่ะ?
ตราบใดที่เจิ้งเหยียนปรากฏตัวอยู่ที่ไหน เธอก็จะถูกคนอื่นมองข้าม
เมื่อก่อนตระกูลเจิ้งเป็นพวกเดียวกับตระกูลมั่ว เธอจึงไม่กล้าล่วงเกินเจิ้งเหยียน ทำได้แต่อดทนอดกลั้น
เวลาเปลี่ยน โลกเปลี่ยน
ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
ตระกูลเจิ้งถอนตัวออกจากกลุ่มบริษัทตระกูลมั่ว ซึ่งเท่ากับเป็นการหักหลังตระกูลมั่ว
ตรงกันข้ามกับตระกูลเหยาที่ติดตามตระกูลมั่วด้วยความจงรักภักดีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะมองมุมไหนมั่วหย่งเหิงจะต้องออกตัวช่วยเธอ ไม่ช่วยเจิ้งเหยียน
คราวนี้จะต้องได้เห็นเจิ้งเหยียนอับอายขายขี้หน้าอย่างแน่นอน
หลังจากที่มองเจิ้งเหยียนก็คิดว่าจะผยองขนต่อหน้าเธออย่างไรดี!
พอเหยาอวิ๋นอวิ๋นคิดได้ดังนั้นก็ทำทีร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ เดินไปใกล้ๆมั่วหย่งเหิง
“คุณชายหย่งเหิง...”
เธอกำลังจะยื่นมือไปจับมือมั่วหย่งเหิง แต่มั่วหย่งเหิงกลับเลี่ยงอย่างไม่แยแส
เขาแสดงปฏิกิริยาที่ไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัวพลางขมวดคิ้ว
เหยาอวิ๋นอวิ๋นจึงไม่กล้าขยับ ได้เพียงแค่ร้องไห้คร่ำครวญ “โชคดีที่คุณชายหย่งเหิงมา ไม่อย่างงั้นฉันก็ไม่รู้ว่าวันนี้จะถูกเจิ้งเหยียนรังแกยังไงอีก”
เมื่อได้ยินดังนั้น แววตามั่วหย่งเหิงก็ขยับเล็กน้อย
สายตาที่ไม่แยแสมองผ่านเหยาอวิ๋นอวิ๋นที่กำลังร้องไห้กระซิกๆไปทางเจิ้งเหยียนและเหนียนเสี่ยวมู่
เพียงแวบเดียวก็ละสายตา
มองไปที่พนักงานร้าน
เมื่อเหยาอวิ๋นอวิ๋นสังเกตเห็นว่าสายตาที่เขามองเจิ้งเหยียนและเหนียนเสี่ยวมู่ดูเย็นชามาก เธอก็แอบได้ใจ
ก่อนที่มั่วหย่งเหิงจะเอ่ยปาก เธอก็ชี้ไปที่พนักงานพร้อมกับพูดขู่ขวัญ
“ไม่เห็นคุณชายหย่งเหิงกำลังมองเธออยู่หรือไง ยืนบื้ออยู่ได้? รีบมาเล่าให้คุณชายหย่งเหิงฟังสิว่าเมื่อกี้เจิ้งเหยียนรังแกฉันยังไง!”
พนักงาน “…”
พนักงานเห็นเพียงเหยาอวิ่นอวิ๋นทำตัวงี่เง่าจนสุดท้ายก็ถึงภัยแก่ตัว
ทั้งยังเฉไฉไม่ยอมจ่ายค่าชดใช้
ดังนั้นเธอจึงพูดไม่ออกจริงๆ ว่าเจิ้งเหยียนเป็นคนรังแกเหยาอวิ๋นอวิ๋น
ประโยคที่เหยาอวิ๋นอวิ๋นเพิ่งพูดออกมาก็มีความหมายชัดเจนมากแล้ว
ถ้าเธอกล้าพูดเป็นอย่างอื่น ก็กลัวจะเสียงานนี้ไป…
พนักงานก้มหน้าด้วยความลำบากใจไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
“ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?” มั่วหย่งเหิงพูดเสียงเรียบๆ
“ไม่ได้ยินหรือไง คุณชายหย่งเหิงถามเธออยู่นะ ที่เธอก้มหน้าเพราะจะเข้าข้างเจิ้งเหยียนใช่ไหม? ยังไม่รีบพูดอีก!” เหยาอวิ๋นอวิ๋นคอยต่อว่าอยู่ข้างๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น มั่วหย่งเหิงก็เลิกคิ้ว “บอกมาตามความจริง”
เหยาอวิ๋นอวิ๋น “คุณชายหย่งเหิงให้เธอพูดตามความจริง เธอยังไม่รีบพูดอีก…”