หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 997 แต่งกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว! / ตอนที่ 998 ค่อยๆ จำไป อีกหน่อยก็จำได้เอง!
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 997 แต่งกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว! / ตอนที่ 998 ค่อยๆ จำไป อีกหน่อยก็จำได้เอง!
ตอนที่ 997 แต่งกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว!
เหนียนเสี่ยวมู่ตกใจกับผู้คนที่มากันอย่างล้นหลาม
ยื่นมือไปคว้าแขนอวี๋เยว่หานไว้ “หยิกฉันหน่อย ฉันประสาทหลอนไปหรือเปล่า ทำไมถึงเห็นคนเยอะขนาดนี้ คงไม่ใช่ว่าเงาพวกนั้นคือ…วิญญาณหรอกนะ”
“เพียะ!”
เหนียนเสี่ยวมู่โดนตบหน้าผากเบาๆ ไปหนึ่งที
อวี๋เยว่หานหดมือกลับ เมื่อยังเห็นว่าเธออึ้งอยู่ก็หยิกแก้มเธอไปอีกหนึ่งที
“เจ็บเจ็บเจ็บ!”
คราวนี้เหนียนเสี่ยวมู่ร้องออกมาจริงๆ
มือทั้งสองกุมหน้าไว้เหมือนโดนทารุณกรรม เธอถลึงตามองอวี๋เยว่หาน
อวี๋เยว่หาน “คุณเป็นคนบอกให้ผมหยิกเอง”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เธอแค่พูดเว่อร์ไปหน่อยเดียว เขาถึงกับลงมือซะโหดเชียว
เหมือนกับมีปัญหาค้างคาใจมานานเลยถือโอกาสนี้แก้แค้นเธอ!
หน้าเธอจะต้องแดงแน่ๆ เลย!
แต่นี่ยังไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด!
“ฉันไม่ได้ฝันไป แต่คนพวกนั้นยังอยู่ คุณเห็นไหม?” เหนียนเสี่ยวมู่กุมหน้าพลางเอนตัวเข้าหาอวี๋เยว่หาน กระแทกไหล่เขาแล้วถามด้วยความหวาดระแวง
คฤหาสน์ตระกูลอวี๋มีพื้นที่กว้างขวาง
ทั้งหมดแบ่งออกเป็นสามหลัง
นอกจากโซนคฤหาสน์หลักที่อวี๋เยว่หานพักอยู่ ยังมีคฤหาสน์อีกสองหลังขนาบซ้ายขวา
มีแม่บ้าน คนรับใช้ และบอดี้การ์ดอีกเป็นจำนวนมาก เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองจำพวกเขาได้หมดทุกคนหรือเปล่า
ตอนนี้ยังมีญาติผู้ใหญ่อีกหลายคนที่ไม่เคยเจอในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ในเวลาปกติมาก่อน...
เหนียนเสี่ยวมู่อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดปฏิทินเพื่อดูว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอะไร
แต่อวี๋เยว่หานที่เพิ่งถูกเธอถามยังมีสีหน้าเรียบเฉย
เหมือนกับว่าไม่เห็นกลุ่มคนที่ยืนอยู่หน้าคฤหาสน์หลักเลย
เขาแค่จูงมือเธอเดินไปข้างหน้า
สายตาหยิ่งทะนงก้าวไปอย่างสงบเสงี่ยม
ทันทีที่เขาปรากฏตัว ความกดอากาศโดยรอบก็ลดลง
แม้ว่าญาติผู้ใหญ่ส่วนหนึ่งจะยืนอยู่ตรงหน้า แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเขาก็ยังต้องก้มหน้าโดยไม่รู้ตัว แสดงความเคารพยำเกรง
“ปะป๊า!”
ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด มีเสียงเด็กน้อยดังมาจากอ้อมแขนนายหญิงอวี๋
วินาทีต่อไปก็เห็นร่างเล็กนุ่มนิ่มไถลตัวลงมา
วิ่งไปข้างหน้า
โดยในมือยังถือกุหลาบช่อใหญ่ ร่างเล็กถูกกุหลาบช่อใหญ่ทับไว้ จึงเดินค่อนข้างลำบาก
พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างอยากจะเข้าไปช่วยประคอง แต่เจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยไม่ยอม
ราวกับกำลังพยายามทำภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ให้สำเร็จด้วยตัวเอง เธอกอดช่อดอกไม้ไว้และวิ่งไปข้างหน้าด้วยอาการเหนื่อยหอบ
พริบตาเดียวก็วิ่งไปอยู่ตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ เขย่งปลายเท้า
พยายามยื่นช่อกุหลาบในอ้อมแขนให้เธอ
“ช่วยปะป๊า เอาดอกไม้ให้หม่าม้า~”
เสี่ยวลิ่วลิ่วกอดช่อดอกไม้ใหญ่เกือบเท่าตัววิ่งมาในระยะทางหนึ่งจนหน้าแดงก่ำ
ขณะกำลังอ้าปากหอบหายใจ
ตาโตคู่สวยก็เป็นประกายระยิบระยับ
ก่อนที่เหนียนเสี่ยวมู่จะรับดอกไม้มา เสี่ยวลิ่วลิ่วที่หายเหนื่อยแล้วก็พูดต่อ
“ปะป๊าบอกว่าถ้าเสี่ยวลิ่วลิ่วเอาดอกไม้ให้หม่าม้า หม่าม้าจะตกลงแต่งงานกับปะป๊า ต่อไปนี้เสี่ยวลิ่วลิ่วก็จะได้นอนกับหม่าม้าตลอดไป ไม่แยกจากกัน…”
“……”
เหนียนเสี่ยวมู่มองทุกคนที่มารวมตัวกันและหันไปมองผู้ชายข้างๆ
ความว้าวุ่นที่อยู่ในหัวก็เริ่มชัดเจนขึ้นมาทีละนิด
ที่เขาทำการใหญ่ซะขนาดนี้ เพราะต้องการจะให้เธอรับปากแต่งงานกับเขา?
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ที่เพิ่งโดนจู่โจมเรื่องรูปแต่งงานจนเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายกลับมาเจอเซอร์ไพรส์ใหญ่กะทันหันแบบนี้ เธอก็ถึงกับตั้งสติไม่ได้
หลังจากเสี่ยวลิ่วลิ่วที่มีหน้าที่มอบดอกไม้พูดเสร็จ เห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่รับดอกไม้ไป
เธอจึงคิดว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ยอมแต่งงานกับอวี๋เยว่หาน เธอจึงรีบเข้าไปกอดขาเหนียนเสี่ยวมู่อย่างกระวนกระวาย
“ถ้าหม่าม้าไม่ชอบปะป๊า ก็แต่งกับเสี่ยวลิ่วลิ่วก็ได้!”
ตอนที่ 998 ค่อยๆ จำไป อีกหน่อยก็จำได้เอง!
ทุกคน “…”
เหนียนเสี่ยว “…” ??
อวี๋เยว่หาน “…” !!
สาวน้อยโปรยดอกไม้ในงานแต่งกลายเป็นคู่อริรักที่แย่งงานแต่งงานของเขาไปเสียแล้ว สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนเขาเริ่มจะรับไม่ได้
เมื่อเสี่ยวลิ่วลิ่วเห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่สนใจตัวเอง เธอจึงใช้ใบหน้าเล็กๆ ถูไปที่ขาเหนียนเสี่ยวมู่พร้อมกับอธิบายอย่างออดอ้อน “ถ้าหม่าม้าแต่งกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว เสี่ยวลิ่วลิ่วก็จะได้กินข้าวกับหม่าม้า ตอนเข้านอนก็จะนอนดีๆ ไม่นอนทับหม่าม้า…”
ก่อนที่เสี่ยวลิ่วลิ่วจะพูดจบ เหนียนเสี่ยวมู่ก็เส้นประสาทกระตุก เธอรีบปิดปากเล็กๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วทันที
พอเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง คนกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็มองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอย่างที่คาดเอาไว้
หลายคนยังปิดปากหัวเราะ…
“ทูนหัวของทวด พูดแบบนี้ข้างนอกไม่ได้นะจ๊ะ!” นายหญิงอวี๋ยิ้มพลางถือไม้เท้าเดินไปข้างหน้า
เมื่อเห็นเหนียนเสี่ยวมู่รับดอกไม้จากอ้อมแขนของเสี่ยวลิ่วลิ่วไปแล้ว ก็อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ทำหน้าตาน่าเอ็นดูกลับมา
พูดติดตลก
“แต่คำพูดเด็กไม่ควรถือสา พูดไปแล้วก็ไม่เป็นไร ป่าป๊าของหนูขยันหน่อยก็ดี ทวดน่ะตั้งตารอเหลนมานานมากแล้ว เสี่ยวลิ่วลิ่วอยากได้น้องไหม?”
เสี่ยวลิ่วลิ่ว “อยากค่ะ!”
คนแก่หนึ่งเด็กหนึ่ง โต้ตอบกันไปมาอย่างคล่องปาก
เหมือนกำลังเล่นละครเพลง
คนรอบๆ ก็พากันโห่ร้องตาม
เหนียนเสี่ยวมู่ถือดอกกุหลาบที่เสี่ยวลิ่วลิ่วเพิ่งหอบมาให้ด้วยความลำบาก พอได้ยินนายหญิงอวี๋หยอกล้อก็พลอยหน้าแดงไปด้วย
หันไปมองอวี๋เยว่หานโดยไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน
“คุณย่าบอกแล้วว่าอยากได้เหลน คุณจะให้ไม่ให้” อวี๋เยว่หานเดินมาข้างๆ แล้วยื่นมือมาจับไหล่ของเธอไว้
เหนียนเสี่ยวมู่ยังคงตกตะลึง นายหญิงอวี๋ได้อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเดินไปข้างหน้าแล้ว
เธออุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วให้อวี๋เยว่หาน จากนั้นก็จูงมือเหนียนเสี่ยวมู่เดินไปหาญาติผู้ใหญ่คนอื่นๆ ของตระกูลอวี๋
“นี่คือคุณลุงใหญ่ และนี่คือป้าสะใภ้ใหญ่…”
“นี่คือคุณลุงรอง ป้าสะใภ้รอง และยังมีคุณลุงสามกับป้าสะใภ้สาม…”
“ส่วนกลุ่มนั้นคือคนที่หนูเจอคราวที่แล้ว ย่าจะแนะนำให้อีกครั้งสำหรับคนที่หนูยังไม่เคยเจอมาก่อน...”
นายหญิงอวี๋จับมือเหนียนเสี่ยวมู่ไว้แน่นและพาเธอไปยืนอยู่ตรงหน้าญาติผู้ใหญ่ตระกูลอวี๋ที่กำลังยืนเรียงแถวกันอยู่
พาเธอไปทำความรู้จัก
ในเวลาเดียวกัน ก็พาเธอไปแนะนำตัวกับผู้อาวุโสและคนรุ่นเด็กในตระกูลอวี๋ให้เธอรู้จัก
แม้นายหญิงอวี๋จะอายุมากแล้ว แต่ความน่าเกรงขามก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย
ไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน ไม่ว่าจะเป็นใครในตระกูลอวี๋ ต่างก็ยืดตัวตรงเหมือนขบวนทหารที่รอเธอมาตรวจกำลังพล
แม้กระทั่งเหนียนเสี่ยวมู่ที่นายหญิงอวี๋พามาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกดูแคลน
“เสี่ยวมู่มู่ จำได้หมดหรือยัง?”
หลังจากเดินครบหนึ่งรอบ นายหญิงอวี๋ก็หยุดเดินแล้วหันไปถามเหนียนเสี่ยวมู่ที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความเอ็นดู
“คนเยอะขนาดนี้อาจจะจำไม่ได้ในคราวเดียว รอแต่งเข้าตระกูลอวี๋เมื่อไหร่ก็จะได้เจอหน้ากันบ่อยขึ้น ค่อยๆจำไป อีกหน่อยก็จำได้เอง!”
“คุณย่า หนูจำได้แล้วค่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่ตอบไปโดยไม่รู้ตัว
แม้ที่นี่จะมีคนอย่างน้อยร้อยคนขึ้นไป แต่เนื่องจากเธอมีความจำเป็นเลิศ เธอจึงจำหน้าและสถานะได้ถูกต้อง
จนกระทั่งเธอรู้ตัวอีกครั้งก็นึกถึงคำพูดที่นายหญิงอวี๋พูดกับเธอเมื่อสักครู่นี้ นั่นคือรอเธอแต่งเข้าตระกูลอวี๋
แต่เธอดันตอบตกลงไปโดยไม่ทันได้คิดอะไร
จู่ๆ หน้าก็เริ่มร้อนผ่าว…
เมื่อนายหญิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งยิ้มอย่างมีความสุข
“เสี่ยวมู่มู่ของย่าเป็นคนฉลาด ใช้เวลาไม่เท่าไหร่ก็จำได้แล้ว รอหนูแต่งงานกับเยว่หานเรียบร้อยแล้วคงต้องรบกวนหนูช่วยดูแลตระกูลใหญ่ของเราด้วย!”
นายหญิงอวี๋ตอกไม้เท้าลงกับพื้น กวาดตามองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้า
“พวกเธอยังยืนบื้ออยู่ทำไม? ยังไม่เรียกเธออีก?”