ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - ตอนพิเศษ 1
ฤดูหนาวในเมืองหลวง หนาวจนทําให้คนสะท้านเยือก
กู้ซีอยู่ที่เมืองหลวงได้เจ็ดปีแล้ว แต่ก็ยังไม่คุ้นชินกับอากาศเช่นนี้อยู่ดี
โดยเฉพาะตอนเช้าที่ต้องลุกจากที่นอนตั้งแต่ยามอิ๋น เพื่อไปต้มยาให้นายหญิงใหญ่
ด้วยตนเอง
แต่หัวใจของนางกลับสงบสุขนัก
เพราะว่าตอนนี้นางมีลูกชายหนึ่งคนแล้ว
นางเพิ่งจะตั้งท้องกับเผยถงตอนเข้าปีที่หกหลังจากแต่งงานกัน
ปีนั้น เผยถงกับเสิ่นฟางจากสกุลเสิ่นเข้าร่วมสนามสอบช่วงฤดูใบไม้ผลิด้วยกัน
เสิ่นฟางเข้าร่วมการสอบเป็นครั้งแรกก็สอบติดทันที ส่วนเผยถงที่ลงสนามสอบเป็นครั้ง
ที่สองยังไม่ผ่านการคัดเลือก
เผยถงปากไม่พูดอะไร แต่ในใจคงเจ็บปวดมาก กลางวันเขาต้องออกไปแสดงความ
ยินดีกับสหายเจียงหนานที่สอบติด ตกดึกเขาก็ขังตัวเองในห้องหนังสือ ดื่มเหล้าอยู่ในนั้นติดกัน
หลายวัน
นางทนมองเผยถงในสภาพนี้ต่อไม่ไหว คิดว่าเขาไร้ซึ่งจิตวิญญาณแล้ว
คนส่วนใหญ่ต้องสอบถึงห้าหกครั้งจึงจะสําเร็จ เผยถงเองก็อายุยังน้อย แต่ทําอย่างกับ
ชีวิตพังยับไม่เป็นท่า ไร้ชีวิตชีวาโดยสิ้นเชิง
ไม่ต้องพูดถึงบุรุษที่วิ่งเต้นอยู่ข้างนอกโน่น แค่สตรีเรือนหลังอย่างนาง หากยอมรับ
ชะตากรรมเพียงเพราะถูกมารดาเลี้ยงข่มเหงกดขี่ นางยังจะมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้หรือ?
วันนั้นนางตั้งใจยกนํ้าแกงสร่างเมาไปให้เผยถงที่ห้องหนังสือ
3109
เผยถงถึงซาบซึ้งจนตาแดงเรื่อ จับมือนางไว้แล้วพูดถึงเรื่องนายหญิงใหญ่ไม่หยุด “นาง
จะต้องผิดหวังในตัวข้ามาก! แต่เล็กนางก็คอยบอกให้ข้าตั้งใจเรียน…พอข้าตั้งใจเรียน นางก็จะ
มีความสุข…การตายของท่านพ่อเป็นบาดแผลใหญ่ของนาง ตอนข้าแยกสกุล นางดีอกดีใจ
หนักหนา ทั้งยังยอมอดทนรอ รอให้ข้ามีชื่อติดบนป้ายประกาศ จะได้ลืมตาอ้าปากต่อหน้าคน
จากบ้านเดิมได้เสียที…แต่ข้าไม่อาจทําให้นางภาคภูมิใจ ยังจะ…”
เขาพูดต่อไปไม่ไหวแล้ว
กู้ซีแต่ไรก็ไม่ชอบแม่สามีอยู่แล้ว
นางนับเป็นตัวอะไรกัน? แค่เหนือใต้ยังแยกไม่ออกเลยด้วยซํ้า!
ขนาดพี่สะใภ้จากสกุลฝั่งมารดานางได้เจอแม่สามีเพียงสองสามครั้ง ตอนนี้ก็ไม่คิดจะ
คบหาเจอหน้าอีก มีเรื่องอะไรก็จะส่งหญิงรับใช้มาแจ้งข่าวแทน ไม่ก็เรียกนางไปคุยที่สกุลฝั่ง
มารดา ส่วนสกุลหยางนั้น หลังจากที่ข่าวเผยถงสอบไม่ติดแพร่ออกไป นายหญิงใหญ่สกุลหยาง
เคยมาเยือนครั้งหนึ่ง นางปลอบใจนายหญิงใหญ่สองสามคํา จากนั้นก็ไม่ย่างเท้าเข้ามาเหยียบ
ที่นี่เป็นหลายวันแล้ว
นางได้แต่ให้กําลังใจเผยถงว่า “ท่านดูพี่ชายข้าสิ เขาตั้งใจว่าหากสอบได้เป็นจวี่เหรินก็
จะหยุดสอบรอบหนึ่งก่อนแล้วค่อยลงสนามใหม่ ท่านจะใจร้อนเกินไปแล้ว”
เผยถงนิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน
อินหมิงหย่วนก็ให้เขาหยุดพักไปก่อน แต่มารดาเขา…แค่ทุกวันนี้ อินหมิงหย่วนก็ไม่
ค่อยจะเสวนากับเขาแล้ว
เขาไม่อยากโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของคนที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในเรือนหลังมา
ตลอดหลายปีอย่างมารดา แต่การบีบบังคับของนาง ก็เหมือนมีดที่จ่ออยู่ใต้คอหอยของเขา
เผยถงคลี่ยิ้มขื่น เอ่ยอย่างหมดอาลัยว่า “เป็นเพราะข้าไร้ความสามารถ เจ้าดูอาฉาน
กับอาปัวสิ”
3110
เผยฉานกับเผยปัวเข้าร่วมสนามสอบเมื่อสามปีที่แล้ว ทั้งสองต่างสอบผ่าน ทั้งยังได้
เป็นถึงซู่จี๋ซื่อ ตอนนี้รับตําแหน่งเจิ้งกวนที่หกกรมจนครบกําหนดแล้ว เขาได้ยินจากอารองเผย
เซวียนว่า เผยฉานจะไปทํางานที่สํานักตรวจการ ส่วนเผยปัวจะอยู่ที่กรมโยธา
นี่ก็คือจุดจบของสกุลเผยหลังจากต่อสู้กับสกุลเผิงและสกุลเจียงมาตลอดหลายปี
อาสามของเขานั้น ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกราชสํานัก ล้วนไม่ใช่คนที่ใครจะมองข้ามไป
ได้เลย
ห้าปีก่อน ไม่รู้เพราะเหตุใดอาสามถึงเริ่มเพ่งเล็งสกุลเผิงไม่เลิก ไม่เพียงทําให้สกุลเผิง
ต้องสูญเสียแหล่งทํามาหากินอย่างสํานักตรวจการไป ซํ้ายังกัดไม่ปล่อย หันไปเล่นงานสกุล
เจียง จนกรมโยธาที่เคยอยู่ใต้อํานาจของสกุลเจียงต้องยับเยินไม่เป็นท่า
นี่ก็คือเหตุผลที่เผยฉานและเผยปัวต้องไปประจําที่สองกรมนั่น
นอกจากนั้น เพราะอารองเผยเซวียนดูแลกรมคลังได้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพิ่งจะได้
เลื่อนตําแหน่งขึ้นเป็นเจ้ากรมกรมคลัง ทั้งได้อวยศักดิ์เป็นมหาบัญฑิตหอจิ่นเชิน เป็นรองมหา
เสนาบดีแห่งหอเน่ยเก๋อร์
หลังจากผ่านไปหลายปี สกุลเผยแห่งหลินอันก็ต้องยืนอยู่ท่ามกลางการต่อสู้แย่งชิงอีก
ครั้ง กลายเป็นหนึ่งในสกุลที่เรืองอํานาจที่สุดในราชสํานัก
เผยถงคิดได้ถึงขนาดนี้ มีหรือที่กู้ซีจะคิดไม่ได้
นางมองเผยถงที่เจ็บปวดจนร้องไห้ยังร้องไม่ออก จู่ๆ ก็คิดถึงปีที่แยกสกุลออกมาปีนั้น
ท่าทางที่อวี้ถังกอดเผยเยี่ยนเอาไว้
กู้ซีเข้าไปกอดเผยถง ใช้นํ้าเสียงที่นางเองยังคิดไม่ถึง นํ้าเสียงที่คล้ายตอนอวี้ถังใช้
ปลอบเผยเยี่ยน “ไม่เป็นไรหรอก ใกล้จะถึงวันตวนอูแล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะไปมอบของขวัญให้อา
หญิงรอง เรื่องของท่าน ข้าจะพูดกับอาหญิงรองเอง พวกเขามักจะคอยดูแลพวกเราอยู่เสมอ”
กรอบตาของเผยถงพลันร้อนวูบ
3111
พอข้ามปี นางก็ให้กําเนิดลูกชายคนหนึ่ง
ลูกชายของนางไม่เพียงหน้าตาเหมือนท่านลุง ทั้งนิสัยใจคอก็คล้ายพี่ชายนางกู้ฉ่าง
อย่างกับอะไรดี
คิดถึงลูกชายที่ยังนอนหลับอุตุอยู่บนเตียง หัวใจของกู้ซีก็อุ่นวาบ พอจะทนรับลมหนาว
ที่เย็นเสียดกระดูกในเมืองหลวงแห่งนี้ได้
เหอเซียงแต่งให้กับพ่อบ้านคนหนึ่งในสกุล นางยังคงคอยรับใช้กู้ซีอยู่เหมือนเก่า
นางเปลี่ยนเป็นคนที่ถ่อมตัว และเข้าใจกู้ซีมากกว่าเดิม
พอเห็นท่าทางของกู้ซี เหอเซียงทางหนึ่งก็รีบเทยาต้มร้อนๆ ใส่กาอุ่นเอาไว้ ทางหนึ่งก็
เอ่ยยิ้มๆ ว่า “สองวันนี้พวกเราจะไปจวนสกุลเผยไหมเจ้าคะ? ปีนี้ที่เรือนเราซื้อถ่านเก็บไว้ได้มาก
ก็เพราะนายหญิงรอง”
คนที่ติดตามพวกนางมาจากสกุลเผย ยังคงเคยชินกับการเรียกขานชื่อตามลําดับศักดิ์
ในสกุลเผยอยู่ ในคฤหาสน์หลังใหม่แห่งนี้ นับว่าพอมีประวัติที่ยังเชิดหน้าชูตาได้
กู้ซีไม่เคยคิดจะตัดขาดความสัมพันธ์กับสกุลเผย
ปีนี้ได้ยินว่าซานซีเกิดกบฏก่อความวุ่นวาย ไม่เพียงทําให้ราคาถ่านที่เมืองหลวงพุ่งสูง
คนธรรมดาทั่วไปยังหาซื้อแทบไม่ได้ หากมิใช่นางโผล่หน้าไปให้นายหญิงรองเห็นบ่อยๆ นาย
หญิงรองจึงนึกถึงพวกนางอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นปีนี้พวกนางคงต้องลําบากเรื่องถ่านไม้มากแน่ๆ
“ต้องไปอยู่แล้ว” กู้ซีไม่ได้หยุดคิดนาน จากนั้นก็เอ่ยว่า “ครั้งก่อนที่ข้าไป นายหญิงรอง
ไอค่อนข้างหนัก ครั้งนี้เจ้าอย่าลืมเตรียมนํ้าเชื่อมลูกแพร์ของพวกเราไปด้วย”
นายหญิงรองก็เหมือนนาง ที่แม้จะอยู่เมืองหลวงมาหลายปี แต่ก็ยังปรับตัวให้เข้ากับ
สภาพอากาศไม่ได้ สกุลกู้เองก็มีคนเป็นขุนนางอยู่เมืองหลวง จึงทิ้งตํารับยาบํารุงปอดเอาไว้
นางลองทําตามดูรอบหนึ่ง เห็นว่าผลลัพธ์ไม่เลว ตอนหลังจึงได้ส่งไปให้สกุลเผยจํานวนหนึ่ง
ทุกๆ ปี
3112
แต่มิใช่ส่งให้หมดในครั้งเดียว นางทยอยส่งหลายครั้ง จนกระทั่งหมดหน้าหนาว
นับว่าเป็นอุบายอย่างหนึ่ง
เหอเซียงจดจําไว้ในใจ
สองคนมีบ่าวรับใช้ห้อมล้อม เดินเลาะไปตามระเบียง ตัดผ่านสวนดอกไม้ จนไปถึง
เรือนพักของนายหญิงใหญ่ ซึ่งเป็นเรือนเล็กมีสามห้องตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของคฤหาสน์
จากที่ไกลๆ นางยังได้ยินเสียงไอของนางหญิงใหญ่ดังแว่วมา
กู้ซีกับเหอเซียงอดจะหันมามองหน้ากันไม่ได้
ครั้งที่สองที่เผยถงสอบไม่ติด นายหญิงใหญ่ทนรับความสะเทือนใจไม่ไหว ร้องห่ม
ร้องไห้ข้ามคืน จนเป็นโรคปอดไม่แข็งแรง ต่อมาเมื่อเข้าหน้าหนาว คนก็จะไอจนหายใจแทบไม่
ทัน ด้วยเหตุนี้นางจึงชอบเรียกเผยถงไปดุด่าในช่วงที่นางไอหนักเป็นพิเศษ
แม้กู้ซีจะทํานํ้าเชื่อมลูกแพร์เป็น แต่นางไม่อยากกตัญ�ูต่อนายหญิงใหญ่ ดังนั้นครั้ง
แรกที่นางทํานํ้าเชื่อมลูกแพร์ไปให้ นางจึงจงใจใส่ชวนเป้ยมากกว่าปกติ นายหญิงใหญ่รังเกียจ
ว่ารสชาติแย่ กู้ซีจึงเติมนํ้าตาลกรวดเข้าไป ต่อมานายหญิงใหญ่เพราะกินนํ้าตาลกรวดมากไป
คนจึงไอหนักกว่าเดิม
เช่นนี้นางจึงไม่ส่งนํ้าเชื่อมลูกแพร์ไปให้นายหญิงใหญ่อีก ทั้งยังบอกกับเผยถงว่า
“อย่างไรของข้าก็เป็นแค่ตํารับบํารุงสุขภาพเท่านั้น กลัวจะเป็นการทําลายปอดท่านแม่เปล่าๆ
เช่นนั้นก็ให้นางกินยาตามปกติจะดีกว่า”
เผยถงคิดว่านางพูดจามีเหตุผล ทุกปีพอเข้าช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะเชิญท่านหมอมาจับ
ชีพจรและเขียนใบสั่งยาให้นายหญิงใหญ่ ส่วนกู้ซีนั้น ตลอดหน้าหนาวก็จะคอยดูแลคนป่ วยอยู่
ตลอด เป็นเช่นนี้อยู่หลายปี เพราะได้พี่สะใภ้สกุลอินคอยช่วยกระพือข่าว สกุลจากเจียงหนานที่
มีคนเป็นขุนนางอยู่เมืองหลวงรวมถึงเหล่าสตรีทั้งหลายต่างก็รับรู้เรื่องนี้กันทั่ว ทั้งขนานนามกู้ซี
ว่าเป็น ‘หญิงกตัญ�ูผู้มีคุณธรรม’
3113
นายหญิงใหญ่รู้เรื่องก็สะอิดสะเอียนแทบอาเจียน มองกู้ซีด้วยความขัดตาขัดใจยิ่ง
กว่าเดิม
นางจึงทรมานกู้ซีโดยให้ลุกมาต้มยาตั้งแต่ยามอิ๋นทุกๆ วัน
กู้ซีต้องเอาตัวรอดจากมารดาเลี้ยงตั้งแต่เล็ก นางรับมือกับเรื่องเรือนหลังได้อย่างมั่นใจ
อีกอย่าง ไม่รู้ว่าสกุลเผยจงใจหรือไม่ ถึงนําเงินที่ท่านผู้เฒ่าสกุลเผยแบ่งไว้ให้มามอบให้นางดูแล
แม้เหนือนางขึ้นไปจะมีแม่สามีอยู่ แต่เงินทองในบ้านกลับอยู่ในกํามือนาง หากนางไม่ต้องการ
ให้มีเสียงเล่าลือหลุดออกไป มันก็จะเป็นไปตามนั้น
นายหญิงใหญ่มีลูกไม้ แต่นางมีวิธีรับมือ
ตอนที่เผยถงกลับห้องมานอน นางก็จะลุกจากเตียงตอนยามอิ๋น แต่ตอนที่เผยถงอยู่ใน
ห้องหนังสือ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
บวกกับภายหลังที่เผยถงสอบไม่ผ่าน กู้ฉ่างมาหาเขา สองคนปิดห้องหนังสือคุยกันอยู่
ค่อนวัน ทั้งยังหาอาจารย์คนใหม่มาให้เผยถง ช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ เผยถงจึงใช้เวลาส่วนใหญ่
อยู่ในห้องหนังสือ ต่อให้นายหญิงใหญ่อยากจะฟ้อง ก็ต้องดูด้วยว่าเผยถงอยากฟังหรือไม่ มี
เวลาฟังนางหรือเปล่า
ดังนั้นตอนที่กู้ซีกับเหอเซียงเข้าไป นายหญิงใหญ่ก็เริ่มเสียดสีลูกสะใภ้เหมือนคนสติไม่
ดีว่า “ไฉนวันนี้นายหญิงน้อยจึงมีเวลาแวะมาได้? ไม่ต้องอ่านหนังสือเป็นเพื่อนสามีแล้วรึ?”
กับคนที่พ่ายแพ้ หากกู้ซีมีอารมณ์ก็จะเสวนาด้วยสักสองสามคํา หากไม่มีอารมณ์ก็จะ
ก้มหน้าเงียบ วางท่าอ่อนน้อมถ่อมตน กระตุ้นให้นายหญิงใหญ่โมโหเล่น
วันนี้นางอารมณ์ดีไม่เลว หลังจากบอกเหอเซียงส่งยาให้หญิงรับใช้ข้างกายนายหญิง
ใหญ่แล้ว ก็เดินไปนั่งบนตั่งเตี้ยโดยไม่รอให้ใครเชิญ เอ่ยเสียงนุ่มว่า “เมื่อวานสามีพักที่ห้อง
หนังสือ แต่วันนี้ข้าจะไปจวนสกุลเผยสักหน่อย ต้องรีบออกแต่เช้าเจ้าค่ะ” จากนั้นก็แสร้งทําหน้า
3114
ดีใจ “ดีที่ต้องลุกมาต้มยาให้ท่านแม่แต่เช้า ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องรีบกลับมาต้มให้ท่านตอนบ่าย
แล้ว”
นายหญิงใหญ่เดือดดาลจนไอสําลักไม่หยุด
นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทําให้นางไม่พอใจกู้ซี
ตลอดสองสามปีนี้ ขอเพียงมีเวลากู้ซีก็จะวิ่งโร่ไปจวนสกุลเผย แสดงความกตัญ�ูต่อ
นายหญิงรองเสียยิ่งกว่านางที่เป็นแม่สามีเสียอีก
สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปคลายโทสะให้นายหญิงใหญ่
ประมือกันมาหลายปีดีดัก กู้ซีย่อมรู้ว่านายหญิงใหญ่มีปมในใจเรื่องไหนบ้าง
นางคลี่ยิ้มน้อยๆ วางท่าสุขใจ แล้วเอ่ยต่อระหว่างที่นายหญิงใหญ่ยังไอไม่หยุดว่า “ได้
ยินว่าเขยห้าปีหน้าก็จะลงสนามสอบอีก ข้าต้องไปถามดูหน่อย ถึงเวลานั้นจะได้ส่งข้าวของ
สําหรับเตรียมตัวสอบไปให้ด้วย”
นี่ก็คือปมในใจของนายหญิงใหญ่เรื่องหนึ่ง
คนบางคน พอได้พบกับบุพเพที่ดีเพียงครั้งเดียว กลับโชคดีไปชั่วชีวิต
เผยตันในตอนนั้น ทั้งหัวอ่อนและขี้อาย ในบรรดาพี่น้องกลับไม่โดดเด่นเลยสักนิด ใคร
จะคิดว่านางจะแต่งออกไปแล้วได้ดีที่สุด
เวลาเพียงไม่กี่ปี ลูกเขยสกุลฉินก็เดินสายสอบผ่านทั้งซิ่วไฉและจวี่เหรินติดๆ กัน ปีนี้
จะต้องสอบขุนนางเสียทีแล้ว
บารมีของใต้เท้าฉินจึงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องที่สกุลเผยเล่นงานกรมโยธาซึ่งเคยอยู่ใต้อํานาจสกุลเจียงจนแทบแย่ ก็เกี่ยวกับรอง
เจ้ากรมใต้เท้าฉินคนนี้เป็นอย่างมาก
3115
ใต้เท้าฉินรับตําแหน่งอยู่กรมโยธา พูดจาคําไหนคํานั้น ภายใต้การสนับสนุนของสกุล
เผย เขาเล่นงานเจียงหวาจนไม่มีที่ยืน
ตอนนั้นก็คงไม่มีใครคาดคิดเช่นเดียวกัน
กู้ซียังไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับนายหญิงใหญ่ ไม่อย่างนั้นเผยถงคงต้องไว้ทุกข์อีกสาม
ปี เช่นนั้นก็จะลงสนามสอบปีหน้าไม่ได้
นางอยู่ที่เรือนของนายหญิงใหญ่พักหนึ่ง ก่อนจะกลับไปเรือนของตน ดูแลลูกชาย
หยวนเกอเอ๋อร์ให้กินข้าวเช้าด้วยตนเอง ก่อนจะอุ้มเขาไปจวนสกุลเผยด้วย
ลูกชายคนโตของเผยตันอายุไล่เลี่ยกับหยวนเกอเอ๋อร์ ฮูหยินฉินหลงรักดั่งสมบัติลํ้าค่า
ไม่ยอมปล่อยให้ห่างมือ นายหญิงรองยากนักกว่าจะเจอหลานชายสักครั้ง จึงใจดีกับหยวนเกอ
เอ๋อร์เป็นพิเศษ
กู้ซีอุ้มลูกชายมาด้วย นับว่าเป็นอุบายเพื่อเอาใจนายหญิงรองวิธีหนึ่ง
เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่า ตอนที่ไปถึงสกุลเผย เหล่าบ่าวไพร่และสาวใช้จะสาละวนกัน
อยู่ที่เรือนฝั่งตะวันตก คล้ายกําลังทําความสะอาดลานเรือนอยู่
หลายปีมานี้ ครอบครัวของนายหญิงรองอาศัยอยู่ที่เรือนฝั่งตะวันออก
เรือนฝั่งตะวันตกนี้ แต่ก่อนเคยเป็นที่พักของอวี้ถัง
หัวใจของกู้ซีพลันเต้นไม่เป็นจังหวะ นางรีบลากเด็กรับใช้ที่คุ้นหน้ามาถามความ “มี
เรื่องอะไรรึ? ยังไม่ถึงวันล่าปาเสียหน่อย ไฉนเริ่มทําความสะอาดกันแล้ว?”