ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่319 ถอดชุดไว้ทุกข์
นี่มันคําพูดแฝงความนัยชัดๆ!
ท่านแม่เฒ่าก็ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ฟังจบจึงหยัดกายนั่งตรงทันที เอ่ยว่า “คําพูดนี้ของ
เจ้าหมายความว่าอย่างไร? อ๋อ! หรือว่าคนยังไม่ทันแต่งเข้ามา ก็เริ่มกังวลเรื่องอํานาจในการ
ดูแลเรือนของข้าแล้ว!”
เดิมทีเผยเยี่ยนก็ไม่ได้คิดมากเพียงนั้น ในใจเอาแต่นึกถึงอวี้ถัง ยามที่อยากพบนางก็
อยากเจอนางทันทีเท่านั้น ได้ยินมารดาพูดเช่นนี้ เขาจึงฉุกคิดขึ้นมาได้เช่นกัน
หากมีคนคิดว่าอวี้ถังอยากช่วงชิงอํานาจในการดูแลเรือน…แน่นอนว่า หากนางแต่งให้
เขา อํานาจนี้ย่อมเป็นของนาง แต่เขาไม่อาจให้คนอื่นเข้าใจผิดนางเรื่องนี้ได้
เผยเยี่ยนหัวเราะขึ้นมา ก่อนจะนวดไหล่ให้มารดา เอ่ยว่า “ขอเพียงแค่ท่านชื่นชอบ
อํานาจในการดูแลเรือน ข้าย่อมไม่สนใจแต่อย่างใด ไม่ใช่ว่าในเรือนมีเรื่องมากมาย พี่สะใภ้รอง
ก็ยุ่งเรื่องของเมืองหลวง ข้าจึงอยากให้ท่านพักผ่อนบ้างมิได้หรือ?”
ท่านแม่เฒ่าไม่เชื่อคําพูดของลูกชายคนเล็กแม้แต่ประโยคเดียว แต่นางรู้สึกว่าลูกชาย
คนเล็กก็ไม่ได้พูดโกหก เขาไม่ค่อยสนใจอํานาจในการดูแลเรือนจริงๆ
อาจเพราะว่าอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับอวี้ซื่อกระมัง?
ท่านแม่เฒ่ากลอกตาใส่ลูกชาย เอ่ยว่า “หากผ่านเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว ภายหลัง
ไม่ว่าจะวันไหว้บ๊ะจ่างไหว้พระจันทร์หรือวันปีใหม่ นางล้วนจะฉลองกับสกุลพวกเราทั้งนั้น เจ้า
ยังมีอะไรไม่พอใจอีก”
“อย่างนั้นรึ?” เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างดีใจ “เช่นนั้นท่านคิดจะแต่งสะใภ้เพื่อฉลองปีใหม่
ด้วยกัน วางแผนให้งานแต่งของพวกเราอยู่ก่อนปีใหม่ใช่หรือไม่?”
อ้อมค้อมอยู่ครึ่งวัน ที่แท้ก็ขุดหลุมรอนางอยู่ตรงนี้!
2537
ท่านแม่เฒ่าหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก คว้าหนังสือฟาดเผยเยี่ยนไปหลายที ยามนี้ค่อย
เอ่ยว่า “เช่นนั้นเจ้าลองว่ามา วันไหนเป็นวันดี? ข้าจะทําตามความเห็นเจ้า ให้เจ้าแต่งสะใภ้ใน
วันนั้น”
เผยเยี่ยนไม่อยากเชื่อว่ามารดาเขาจะพูดง่ายถึงขนาดนี้ เขาคันยุบยิบในใจ สมองแล่น
ปราดอย่างรวดเร็ว เอ่ยว่า “ข้าคิดว่าเดือนสิบดีไม่น้อย รองานแต่งของข้ากําหนดแล้ว ข้าอาจจะ
ต้องไปเมืองหลวงสักเที่ยว ท่านก็รู้ว่าในสกุลของอาจารย์ข้าเกิดเรื่อง พี่จื่อจินยังถูกอาจารย์รั้ง
ตัวอยู่ในเมืองหลวง ตามหลักแล้วข้าควรจะเข้าไปดูสักหน่อย ปลอบใจอาจารย์ ทั้งช่วยให้
คําแนะนําพี่จื่อจิน”
เขาอยากไปร่วมพิธีทําบุญให้กับจางเซ่า
นึกถึงตอนแรก ยามที่เขาอยู่เมืองหลวง จางเซ่าก็ดูแลเอาใจใส่เขาอย่างยิ่ง
หากไม่ใช่ว่าเขายังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ทั้งมีคําสั่งเสียของท่านผู้เฒ่า เขาคงจะไปนานแล้ว
ไม่อาจมาขอร้องท่านแม่เฒ่าหรอก
ท่านแม่เฒ่าไม่แน่ใจว่าเผยเยี่ยนอยากเข้าเมืองหลวงหรืออยากแต่งงาน เดิมทีนางคิด
ว่าอยากให้อวี้ถังแต่งอย่างมีหน้ามีตาหน่อย ทางที่ดีควรแต่งในต้นปีหน้า แต่ยามนี้ได้ยินลูกชาย
พูด นางจึงอยากให้อวี้ถังมัดใจลูกชายให้ได้อยู่บ้าง คิดว่าแต่งเร็วหน่อยก็ดีเช่นกัน
“เช่นนั้นข้าจะให้พี่รองเจ้าไปพูดคุยกับนายท่านอู๋” นางเอ่ยด้วยนํ้าเสียงจริงจัง “เจ้า
แต่งงานเร็วหน่อย ข้าก็จะสามารถหมดห่วงได้เร็วเท่านั้น หลานชายของเจ้าจะได้เริ่มพูดคุยเรื่อง
แต่งงานเร็วขึ้นเช่นกัน”
งานแต่งของเผยเฟยเริ่มมีการเตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน
เผยเยี่ยนบรรลุเป้าหมายแล้ว นั่งยิ้มพูดคุยกับท่านแม่เฒ่าอยู่ค่อนวัน
เผยเซวียนได้รับข่าว คิดว่าแบบนี้ดีก็เช่นกัน
2538
พวกเขานั้นควบคุมเผยเยี่ยนไม่ได้ ดูเถิดว่าจะสามารถใช้ความอ่อนโยนผูกมัดเขาไว้ได้
หรือไม่
เขาไปปรึกษากับนายท่านอู๋
นายท่านอู๋ไปหนิงปัวยังไม่กลับมา รอจนนายท่านอู๋กลับมาจากหนิงปัวก็ผ่านพ้น
เทศกาลไหว้พระจันทร์ไปแล้ว
นายท่านอู๋ไปหาเผยเซวียนทันที ได้ยินว่าเผยเซวียนมาหาเขาเพราะเรื่องงานแต่ง
ของอวี้ถัง นอกจากจะปรบมือชมว่าดีแล้ว ยังเอ่ยกับเผยเซวียนว่า “เรื่องสินเดิมพวกท่านไม่ต้อง
กังวล ทางพวกเราเตรียมไว้จวนจะเสร็จแล้ว แม้ว่าช่วงสั้นๆ อาจจะมีอะไรตกหล่นไปบ้าง แต่นี่
ไม่ใช่ว่ายังพอมีเวลาอยู่หรอกรึ? สกุลอวี้ย่อมไม่ละทิ้งคุณหนูอวี้อย่างแน่นอน”
คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เผยเซวียนกลับรู้ดี สกุลอวี้ร่วมหุ้นกับเรือของเจียงเฉาทางซูโจว เจียง
เฉานําเรือกลับมาได้อย่างราบรื่น สกุลอวี้ย่อมได้รับเงินก้อนใหญ่
เขาเผยยิ้ม นําวันต่างๆ ที่ปรึกษากับท่านแม่เฒ่าก่อนหน้านี้ให้นายท่านอู๋ เพื่อให้นาย
ท่านอู๋นําไปให้สกุลอวี้ตัดสินใจ
นายท่านอู๋ยินดีอย่างยิ่ง
เผยเซวียนยังเปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับสินเดิมของอวี้ถัง “สกุลอวี้แค่เตรียมของส่วนตัวที่
คุณหนูอวี้ใช้บ่อยๆ ก็เพียงพอแล้ว พวกที่นาไร่สวน ร้านรวงต่างๆ ครึ่งหนึ่งสยากวงจะเป็นคน
จัดการ อีกครึ่งหนึ่งเป็นท่านแม่เฒ่า ให้สกุลพวกเขาวางใจเถิด ไม่อาจปฏิบัติกับคุณหนูอวี้อย่าง
ไม่เป็นธรรมได้แน่”
นายท่านอู๋คาดไม่ถึงอย่างยิ่ง คล้อยหลังก็อดถอนหายใจไม่ได้ ยามที่ถ่ายทอดคําพูด
ให้อวี้เหวินฟังก็เอ่ยว่า “อย่างไรก็เป็นสกุลบัณฑิต ยามที่นายท่านรองพูดเรื่องพวกนี้ ไม่มีท่าที
ฝืนใจแม้แต่น้อย การอบรมปลูกฝังเช่นนี้ จิตใจเช่นนี้ ข้ายังคงเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก อาถังของ
พวกเจ้านับว่าหาสกุลที่ดีได้แล้วจริงๆ ให้นางไปใช้ชีวิตที่นั่นอย่างสุขสบายเถิด ภายหลังแม้ว่า
2539
ท่านแม่เฒ่าจะแบ่งของอะไรให้บ้านของนายท่านรอง นั่นก็นับว่าปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
อย่าได้หน่ายแหนงใจอะไรเลย”
อวี้เหวินก็นึกไม่ถึงเช่นกัน
ของทั่วไป เงินย่อมซื้อได้ แต่สินเดิมอย่างที่นาร้านค้ากลับไม่ใช่สิ่งที่มีเงินก็สามารถซื้อ
ได้
เขาก็รู้สึกปลดปลงเช่นกัน กลับไปคุยกับเฉินซื่อ
เฉินซื่อกลับมีความกังวล กล่าวว่า “คงไม่ใช่ว่าคนอื่นเห็นก็รู้ว่าเป็นของที่สกุลเผยให้
หรอกกระมัง? นั่นยังมิสู้ไม่เอาดีกว่า!”
อวี้เหวินนําใบรายการให้เฉินซื่อดู “ไม่อย่างนั้นนายท่านอู๋จะชื่นชมไม่ขาดปากได้
อย่างไร เจ้าดูใบรายกายนี้ ที่นาทางหูโจว ร้านค้าในเทียนจิน คนอื่นเห็น ย่อมคิดว่าสกุลพวกเรา
ซื้อที่นาร้านค้าใกล้ๆ นี้ไม่ได้ มองข้ามของที่อยู่ใกล้ไขว่คว้าหาสิ่งที่อยู่ไกล หาวิธีรักษาเกียรติให้
ลูกสาวตัวเอง ย่อมไม่อาจคิดว่าของพวกนี้สกุลเผยเป็นคนมอบให้”
เฉินซื่อพยักหน้าระรัว ซาบซึ้งใจท่านแม่เฒ่าอย่างยิ่ง ทั้งรู้สึกดีกับเผยเยี่ยนที่เป็นลูกเขย
ไปเสียหมด เอ่ยว่า “เอาใจเขามาใส่ใจเรา ภายหลังข้าก็ต้องปฏิบัติกับท่านแม่เฒ่าเผยเหมือน
เป็นผู้อาวุโส กตัญ�ูต่อนางเช่นกัน”
แม้จะกล่าวว่าเมื่อเกี่ยวดองกันแล้ว นางและท่านแม่เฒ่าเผยนับว่ามีลําดับอาวุโส
เท่ากัน แต่ท่านแม่เฒ่าอายุมากกว่านาง ทั้งดีต่ออวี้ถังถึงขนาดนี้ นางย่อมไม่คิดอะไรมากล้วน
จะฟังท่านแม่เฒ่าเป็นหลัก
อวี้เหวินไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ ปรึกษาเรื่องงานแต่งของอวี้ถังกับเฉินซื่อ“เพื่อป้องกันไม่ให้
คนอื่นคิดว่าสินเดิมของอาถังพวกเราไม่สมเหตุสมผล ข้าวางแผนจะป่ าวประกาศเรื่องที่พวกเรา
ได้ลาภก้อนโตจากทางซูโจวออกไป”
เฉินซื่อเห็นด้วยอย่างยิ่ง
2540
ผ่านไปไม่กี่วัน คนในเมืองหลินอันต่างก็ทราบว่าสกุลอวี้และสกุลอู๋รํ่ารวยเงินทอง
ช่วงเวลานั้นผู้ที่มาทาบทามให้อวี้ถังจึงทยอยมาอย่างไม่ขาดสาย
เผยเยี่ยนกลับฉวยโอกาสนี้ส่งสาวใช้คนหนึ่งเข้ามาให้อวี้ถัง กล่าวว่ามอบเป็นสาวใช้สิน
เดิมให้อวี้ถัง
สาวใช้ผู้นั้นชื่อซิ่งเอ๋อร์ อายุน้อยกว่าอวี้ถังสองปี กลับหน้าตาขาวเนียนเปล่งปลั่ง ไม่
เพียงงดงามหมดจด ยังแฝงความน่ารักไร้เดียงสา พาให้คนที่เห็นชื่นชอบ
เฉินซื่อตึงเครียดขึ้นมาอย่างยิ่ง ลอบเอ่ยกับป้าเฉิน “คงไม่ใช่สาวใช้ทงฝางที่นายท่าน
สามเลือกให้ตัวเองหรอกกระมัง?”
รอแต่งงานแล้ว อวี้ถังย่อมมียามที่ไม่สะดวกอยู่บ้าง ช่วงเวลานี้จึงต้องการสาวใช้ทง
ฝาง สกุลที่มีความสามารถ เพื่อจะควบคุมเรือนหลังแล้ว มักจะพาสาวใช้หน้าตาสะสวยสองคน
มาเป็นสินเดิมเจ้าสาว ให้บุตรเขยเลือกสาวใช้ทงฝางจากสองคนนี้ แน่นอนว่า ก็มีบุตรเขยบาง
คนไม่ชอบเช่นกัน ไม่เลือกจากสาวใช้สินเดิม แต่เลือกจากคนที่เคยปรนนิบัติรับใช้ตนเองมา
ก่อน
สกุลอวี้เป็นสกุลเล็กๆ ที่ไม่มีความลึกลับซับซ้อน เดิมทีก่อนหน้านี้เฉินซื่อก็ไม่เคยคิด
เรื่องนี้มาก่อน
ยามนี้อดร้อนใจขึ้นมาไม่ได้
ป้าเฉินก็เครียดตาม นึกถึงเรื่องนี้เช่นกัน กลับทําได้เพียงปลอบใจเฉินซื่อ “คงไม่ใช่
กระมังเจ้าคะ! หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ นายท่านสามก็นับว่าจงใจส่งสาวใช้คนนั้นมาทางคุณหนู
แล้ว”
ทั้งสองคนพาสาวใช้คนนั้นไปพบอวี้ถังด้วยความกังวลใจ
อวี้ถังเห็นสาวใช้คนนั้นกลับดีใจ นางชี้ไปที่ซิ่งเอ๋อร์อย่างลิงโลด “เจ้า เจ้าคือ…”
2541
นางจําไม่ได้ว่าเด็กสาวผู้นี้ในชาติก่อนชื่อว่าอะไร ทราบเพียงว่าหลังจากนางเข้าจวน
สกุลหลี่ก็มีชื่อว่าไป๋ ซิ่ง
ซิ่งเอ๋อร์ย่อกายคารวะให้อวี้ถังอย่างงุนงงอยู่บ้าง แนะนําตัวเอง “โชคดีที่นายท่านสาม
ช่วยเหลือพวกเราไว้”
อวี้ถังถามอย่างละเอียดจึงได้รู้ว่า ที่แท้นางก็คือหญิงสาวของครอบครัวที่โรงเตี๊ยมขอให้
ย้ายออกไปเพราะป่วยเป็นโรคติดต่อ
ชาติก่อน หลังจากนี้อีกหนึ่งปีไป๋ ซิ่งถึงจะเข้าไปในสกุลหลี่
ช่วงเวลานี้นางกลับไม่รู้ว่า ในยามนั้นไป๋ ซิ่งเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
อวี้ถังทอดถอนหายใจ นางรั้งตัวทั้งสองคนไว้ ยังถามนาง “ชื่อเดิมของเจ้าคืออะไร?”
ไป๋ ซิ่งตอบอย่างเขินอายอยู่บ้าง “เจาตี้เจ้าค่ะ”
อวี้ถังชะงักไป คล้อยหลังก็หัวเราะลั่น เอ่ยว่า “ชื่อซิ่งเอ๋อร์นี้ใครเป็นคนตั้งให้เจ้า?”
ไป๋ ซิ่งหันหน้าหนี เอ่ยอ้อมแอ้มว่า “ข้าตั้งเองเจ้าค่ะ”
พาให้อวี้ถังหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
เฉินซื่อและป้าเฉินหัวเราะตามขึ้นมาเช่นกัน ใจที่แขวนอยู่กลางอากาศก็ตกสู่พื้น
อวี้ถังปรึกษานางว่า “เจ้าคิดว่าชื่อไป๋ ซิ่งเป็นอย่างไร?”
ซิ่งเอ๋อร์เผยสีหน้าลําบากใจ เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบชื่อนี้แต่อย่างใด
อวี้ถังก็คล้อยตามนาง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ได้ ภายหลังเจ้าก็ชื่อว่าซิ่งเอ๋อร์แล้วกัน”
ซิ่งเอ๋อร์โขกศีรษะให้อวี้ถังอย่างพอใจ คํานับอย่างนอบน้อม ก่อนจะรั้งตัวอยู่ที่สกุลอวี้
เฉินซื่อค่อยๆ สังเกตเห็นว่าเหตุใดเผยเยี่ยนจึงส่งซิ่งเอ๋อร์มาเป็นสาวใช้สินเดิมของอวี้ถัง
2542
แม้เห็นสาวน้อยผู้นี้เผยยิ้มสดใสทั้งวัน ทว่าเมื่อทําเรื่องขึ้นมากลับตั้งอกตั้งใจอย่างยิ่ง
นอกจากมือไม้คล่องแคล่ว ความจํายังดีเป็นเลิศ เจ้ากล่าวตัวเลขอะไรออกไปเล่นๆ สามวันให้
หลังนางก็ยังจําได้ไม่มีตก ยามที่สกุลอวี้ช่วยอวี้ถังจัดการเรื่องสินเดิม ของอะไรวางตรงไหน ใคร
เป็นคนวาง นางล้วนจําได้อย่างละเอียด ช่วยเหลือได้ไม่น้อย
ครั้งนี้เฉินซื่อจึงค่อยวางใจ ยิ่งมองเผยเยี่ยนรื่นหูรื่นตา แม้เผยเยี่ยนจะมาเที่ยวหาอวี้ถัง
นางก็จะทําเป็นปิดตาข้างหนึ่ง ไม่ไปยุ่งพวกเขา
วันที่สิบเดือนเก้า สกุลเผยก็จัดพิธีถอดชุดไว้ทุกข์ให้ท่านผู้เฒ่า
หลังจากทุกคนเซ่นไหว้บรรพบุรุษสกุลเผยและท่านผู้เฒ่าเผย ท่านผู้เฒ่าอี้จึงเป็น
ประธาน นําคนของบ้านหลักสกุลเผยถอดชุดไว้ทุกข์ออก เปลี่ยนเป็นสวมเสื้อผ้าฤดูใบไม้ร่วง
สีสันสดใส
ท่านผู้เฒ่าอี้ถอนหายใจ มีเผยเยี่ยนและเผยเซวียนคอยพยุงเดินไปยังห้องโถงของบ้าน
หลัก
ระหว่างทางเขาก็ถามเผยเยี่ยน “งานแต่งของเจ้ากําหนดแล้วหรือยัง? หากกําหนดแล้ว
อย่างไรแต่งงานให้เร็วหน่อยจะดีกว่า พี่รองเจ้าจะได้เดินทางไปเมืองหลวงเร็วขึ้นด้วย”
เขาก็เป็นห่วงเรื่องงานแต่งของเผยเยี่ยนไม่น้อย ยังเคยคิดเป็นพ่อสื่อให้เผยเยี่ยน แต่ถูก
ท่านแม่เฒ่าเผยปฏิเสธอย่างอ้อมๆ จึงรู้ว่าท่านแม่เฒ่ามีคนที่เลือกไว้แล้ว
เผยเยี่ยนพูดเรื่องงานแต่งระหว่างสกุลอวี้อย่างใจกว้าง
ท่านผู้เฒ่าอี้ตกใจอย่างยิ่ง แต่ครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้ว บางทีท่านแม่เฒ่าเผยอาจจะ
ให้ความสําคัญเรื่องนิสัยของหญิงสาวมากกว่าสิ่งอื่น ต่อให้สกุลเผยของพวกเขาจะเกี่ยวดองกับ
สกุลใหญ่ที่รํ่ารวยเพียงใด ก็เป็นเพียงการเพิ่มลายดอกลงบนผ้าแพรเท่านั้น
รอจนทราบว่ากําหนดงานแต่งอยู่วันที่หกเดือนสิบ เขาก็ตกใจขึ้นมาอีกครั้ง
2543
“ก็ดี” ท่านผู้เฒ่าอี้รู้สึกโล่งใจทันที เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สกุลพวกเราต้องจัดงานแต่งดีๆ เสีย
แล้ว” ยังถามเผยเยี่ยนว่า “ยามนี้ควรเชิญแขกแล้วกระมัง? เริ่มเขียนเทียบเชิญแล้วหรือยัง หาก
ว่ายัง ข้าจะช่วยเจ้าเขียน”
ท่านผู้เฒ่าอี้เป็นปรมาจารย์ด้านการเขียนอักษรจีนที่เลื่องชื่อของเจียงหนาน เขาเขียน
เทียบเชิญด้วยตัวเอง บางสกุลย่อมยินดีที่จะเก็บเอาไว้เสียด้วยซํ้า
นี่ก็นับว่าเชิดหน้าชูตาให้กับงานแต่งของเผยเยี่ยนมากยิ่งขึ้น
เผยเยี่ยนและเผยเซวียนสองพี่น้องต่างก็เอ่ยขอบคุณอย่างไม่ขาดปาก