ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่326 นายหญิงคนใหม่
สายฝนเดี๋ยวเบาเดี๋ยวหนัก เสียงเปาะแปะเพิ่งจะเงียบลงตอนรุ่งสาง
ชิงหยวนจัดการตัวเองเสร็จแล้ว เตรียมไปรอรับใช้ที่เรือนหอทางนั้น
สาวใช้ที่ดูแลนางผลักหน้าต่างให้เปิดออก เหลือบมองพื้นที่เปียกชื้นกับท้องฟ้าสีขาว
พลันเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ฤกษ์แต่งงานของนายท่านสามช่างเลือกได้ประจวบเหมาะเหลือเกิน
หลายวันก่อนพระอาทิตย์ยังสว่างจ้าอยู่เลย แต่พอนายหญิงคนใหม่ผ่านเข้าประตูมา แขกเหรื่อ
แยกย้าย ฝนก็เริ่มตกทันที ใครจะรู้ว่าฝนห่านี้จะตกเพียงคืนเดียว พอฟ้าสว่าง นายหญิงคนใหม่
ต้องไปทําพิธีรับญาติ ฝนก็หยุดเสียดื้อๆ เจ้าอาวาสวัดเจาหมิงช่างร้ายกาจจริงๆ เลยเจ้าค่ะ!”
นี่เป็นนิมิตหมายที่ดี
ชิงหยวนก็คิดว่าโชคลาภเข้าข้างอวี้ถังเช่นเดียวกัน
นางหัวเราะเอ่ยว่า “ฤกษ์นี้มิได้มาจากวัดเจาหมิงเสียหน่อย เป็นนายท่านสามที่ดูจาก
ปฏิทินโหราศาสตร์แล้วเลือกเอาเอง”
เห็นชัดว่านายท่านสามยังร้ายกาจกว่าอีก
นางสั่งพวกสาวใช้ข้างกายอีกว่า “ต่อไปก็เลิกเรียก ‘นายหญิงคนใหม่ๆ’ ได้แล้ว ต้อง
เรียกว่านายหญิงสาม”
เหล่าสาวใช้ต่างตอบรับอย่างพร้อมเพรียง
ชิงเยี่ยนพาสาวใช้อีกสองคนเดินเข้ามา
ชิงหยวนมองดูสีท้องฟ้า คิดว่าเผยเยี่ยนกับอวี้ถังคงไม่ตื่นเช้าเพียงนี้ จึงเชื้อเชิญชิง
เยี่ยนไปนั่งในห้อง ถามว่านางมาทําอะไรแต่เช้าตรู่
ชิงเยี่ยนแก่กว่าชิงหยวนสองปี ตามหลักควรถูกปล่อยตัวไปได้แล้ว แต่นางไม่ยินดีออก
จากจวนสกุลเผย จึงไปขอร้องท่านแม่เฒ่า รอให้อวี้ถังแต่งเข้ามาแล้ว นางก็จะอยู่เป็นโสดชั่ว
2594
ชีวิต หากว่าอวี้ถังเรียกใช้นาง นางก็จะติดตามอยู่ข้างกายอวี้ถัง หากว่าอวี้ถังไม่คิดยกย่องนาง
นางก็จะไปรับใช้อยู่ข้างกายท่านแม่เฒ่า
นางหัวเราะเอ่ยว่า “ข้ากลัวว่าเจ้าทางนี้จะยุ่งงานล้นมือ จึงรีบมาแต่เช้า เผื่อว่ามีอะไร
พอจะช่วยเจ้าได้บ้าง”
ชิงหยวนรินนํ้าชาให้นาง หัวเราะพลางตอบว่า “ยังไม่รู้เลยว่านายหญิงสามจะแบ่งงาน
อย่างไร ต้องรอให้โถงหลักทางนั้นเปิดปากก่อน”
ชิงเยี่ยนไม่ได้รีบร้อน ลองสืบข่าวจากชิงหยวนต่อว่า “ได้ยินว่านายหญิงสามพาสาวใช้
มาด้วยแค่สองคน คนหนึ่งชื่อซิ่งเอ๋อร์ อีกคนชื่อหลันเอ๋อร์ ไม่ได้มีข้าทาสเป็นสินเดิมติดตัวมา
สาวใช้สองคนนี้เจ้ารู้จักแล้วหรือยัง? นิสัยใจคอเป็นอย่างไรบ้าง?”
เผยเยี่ยนกับท่านแม่เฒ่าให้เกียรติอวี้ถัง ในรายการสินเดิมยังเขียนไว้ว่ามีสาวใช้สี่คน
แต่พวกนางที่รับใช้ข้างกายต่างรู้ดี ว่าคนที่มาจากสกุลอวี้จริงๆ มีเพียงซิ่งเอ๋อร์กับหลันเอ๋อร์
เท่านั้น
ตอนที่ชิงหยวนเข้าจวนมาใหม่ๆ เคยได้รับการดูแลอย่างดีจากชิงเยี่ยน นางจึงตั้งใจจะ
ช่วยชิงเยี่ยนบ้าง ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยว่า “เมื่อก่อนข้าสนิทกับซวงเถาสาวใช้ข้างกายนายหญิง
สาม แต่นางเพิ่งแต่งงานออกไปเมื่อเดือนเก้านี่เอง สาวใช้สองคนที่ตามมาด้วยครานี้ข้าก็เพิ่ง
รู้จัก ไม่รู้ว่านิสัยใจคอเป็นอย่างไร ทว่านางหญิงสามเป็นคนใจกว้าง พวกนางคงไม่ใช่คนเหลี่ยม
จัดเป็นแน่”
สามารถขึ้นเป็นสาวใช้แถวหน้าที่ดูแลจวนสกุลเผยได้ ชิงเยี่ยนย่อมไม่กลัวคนเหลี่ยมจัด
กลัวแต่ว่าจะไม่ได้รับความไว้ใจจากอวี้ถังมากกว่า
สองคนคุยกันเรื่องสาวใช้สินเดิมของอวี้ถังต่ออีกพักหนึ่ง
2595
สาวใช้ ‘สินเดิม’ อีกสองคนของอวี้ถังนั้น เผยเยี่ยนล้วนเป็นคนเลือกด้วยตนเอง พวก
นางก็ไม่เคยเจอเช่นกัน ไม่รู้ว่าเลือกมาจากที่นาผืนไหนของสกุลเผย หรือว่าซื้อมาจากด้านนอก
กันแน่
ชิงหยวนกับชิงเยี่ยนต่างก็ค่อนข้างกังวลใจ
ชิงเยี่ยนได้แต่ปลอบใจชิงหยวนว่า “เล่ยจือกับหลิ่วซวี่ต่างก็รับใช้อยู่ข้างกายนายหญิง
สาม สาวใช้ของสองสกุลก็พอรู้จักอยู่ หากเช่นนั้นยังถูกคนข้างกายนายหญิงสามหยอกเย้าอีก
พวกเราคงไม่มีหน้าอยู่สกุลเผยต่อแล้ว”
ชิงหยวนก็คิดเช่นเดียวกัน
นางหัวเราะแล้วพยักหน้ารัวเร็ว เห็นว่าเริ่มจะสายแล้ว จึงเรียกสาวใช้มาอยู่เป็นเพื่อน
ชิงเยี่ยน ตนเองพาหลิ่วซวี่กับเล่ยจือเดินไปยังเรือนหอของเผยเยี่ยนกับอวี้ถัง
คิดไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะลุกจากเตียงแล้ว ทั้งยังหวีผมเสร็จเรียบร้อย คนกําลังถือกรรไกร
ทองเล่มน้อยตัดแต่งกิ่งให้ดอกกล้วยไม้ซึ่งอวี้ถังวางไว้ชื่นชมในห้องหนังสือ
ชิงหยวนรีบเข้าไปคารวะเผยเยี่ยน ก่อนใช้หางตากวาดมองเผยเยี่ยนทีหนึ่งอย่าง
รวดเร็ว
เผยเยี่ยนสวมชุดคลุมหังโฉวไร้ลายสีชมพู หัวคิ้วสายตาเจือยิ้ม ยิ่งขับให้เขาโดดเด่นไม่
สามัญ เหมือนกับหยกชิ้นเลิศชิ้นหนึ่ง กระทั่งชิงหยวนที่บังคับให้ตนเองเห็นความงามของเผย
เยี่ยนเป็นสิ่งว่างเปล่ายังอดจะใจเต้นแรงไม่ได้ นางค่อยเอ่ยปากว่า “นายท่านสาม นํ้าอุ่นที่นาย
หญิงใช้บ้วนปากจะให้พวกเราวางไว้ตรงนี้หรือว่าเทใส่อ่างเจ้าคะ?”
คําถามที่ง่ายดายเพียงนี้ เผยเยี่ยนกลับลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมองนาฬิ
กานกร้องใน
ห้องโถงแล้วตอบว่า “พวกเจ้ารอครู่หนึ่ง ข้าจะไปปลุกนายหญิงสามก่อน”
พวกชิงหยวนย่อมไม่กล้าขยับหรือสอดส่ายสายตาไปทั่ว
ทุกคนนิ่งเงียบแทบกลั้นหายใจ จนได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวด้านในอยู่รางๆ
2596
อวี้ถังร้องครางอย่างเกียจคร้าน เผยเยี่ยนกระซิบบอกนางอย่างอ่อนโยนและใจเย็น ไม่
นาน ก็ได้ยินเสียงสวบสาบของเสื้อผ้าดังลอยมา
พอจะเดาออกได้ พวกเขาน่าจะใส่เสื้อผ้ากันอยู่
สาวใช้คนสนิทของชิงหยวนอดจะกระซิบกับชิงหยวนไม่ได้ว่า “สาวใช้ข้างกายนาย
หญิงสามเมื่อคืนไม่ได้มาเข้าเวรหรือเจ้าคะ”
ชิงหยวนกลัวว่าเผยเยี่ยนจะได้ยิน จึงถลึงตาใส่สาวใช้ไปยกหนึ่ง ก่อนหมุนกายไปบอก
ชิงเหลียนว่า “พวกเจ้าอีกเดี๋ยวเข้าไปหวีผมให้นายหญิงสาม สายตาอย่าสอดส่องไปทั่วล่ะ”
ชิงเหลียนกับชิงหรงเม้มปากกลั้นยิ้ม ดวงหน้าต่างขึ้นสี พยักหน้าหงึกหงักไม่หยุด
ผ่านไปพักหนึ่ง เสียงในห้องจึงเงียบลง
พวกนางได้ยินเสียงเผยเยี่ยนตะโกนว่า “เข้ามา”
ชิงหยวนประสานมือเก็บสายตามองตํ่า นําสาวใช้เดินเรียงกันเข้าไปในห้อง
ไม่รู้ว่าหน้าต่างในห้องถูกเปิดตั้งแต่ตอนไหน ลมหนาวเดือนสิบโชยลอดเข้ามา ดีที่ใน
ห้องยังเผาพื้นไฟอยู่ ไม่เพียงไม่รู้สึกหนาว แต่เพราะอากาศเย็นสบายนี้ยังทําให้คนตื่นเต็มตาอีก
ด้วย
ชิงหยวนเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเพียงอวี้ถังที่สวมชุดคลุมหังโฉวไร้ลายสีชมพูเหมือนกับ
เผยเยี่ยน แม้จะบอกชายหญิงแตกต่าง รูปแบบไม่เหมือนกัน แต่ก็มองออกว่าตัดมาจากผ้าชนิด
เดียวกัน
นางกําลังนั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ผมถูกรวบเป็นมวยลวกๆ โดยมีปิ่นทองทรงหยด
นํ้าเสียบเอาไว้ เตียงนอนได้รับการเก็บกวาดจนสะอาด ผ้าห่มหงส์คู่มังกรพับไว้เสร็จสรรพ วาง
ไว้บนเตียงอย่างเรียบร้อย
มองเห็นชิงหยวน นางก็เงยหน้าแล้วส่งยิ้มให้
2597
เหล่าสาวใช้คนอื่นเพียงคิดว่าอวี้ถังช่างงดงามเฉกบุปผา ดึงดูดสายตาคน จนได้แต่
ลอบอุทานในใจว่า ‘งามนัก’ มีเพียงชิงหยวนที่มองออกเพราะใกล้ชิดกับอวี้ถังมากกว่าคนอื่น ว่า
รอยยิ้มของนางแฝงความขวยเขินเอาไว้
เจ้าสาวมือใหม่ล้วนเป็นเช่นนี้กระมัง?
ชิงหยวนส่งยิ้มตอบกลับอวี้ถัง แล้วเริ่มสั่งงานให้พวกสาวใช้ไปเตรียมนํ้าล้างหน้า หวี
ผมแต่งหน้า และเก็บกวาดห้องให้อวี้ถัง
อวี้ถังให้ความร่วมมือแต่โดยดี ถึงตอนที่ถามว่าอยากติดเครื่องประดับผมชิ้นใด นางก็
ฟังคําแนะนําของชิงหยวน เลือกชุดทองถักรูปหงส์ แต่เหล่าสาวใช้ที่เก็บกวาดห้องกลับรู้สึกอึด
อัดอย่างมาก
เผยเยี่ยนนั่งอยู่บนเตียงตั้งแต่ต้น มองพวกชิงเหลียนที่กําลังหวีผมให้อวี้ถัง
แล้วเตียงนอนยังต้องเก็บกวาดหรือไม่ต้องเก็บกวาดเล่า?
สาวใช้สองคนส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปให้ชิงหยวน
จากประสบการณ์ที่ชิงหยวนรับใช้เผยเยี่ยนมา เวลาเช่นนี้ย่อมไม่อาจเข้าไปรบกวน
เผยเยี่ยนอย่างเด็ดขาด
นางส่ายหน้าส่งให้สาวใช้ทั้งสองเบาๆ รอจนอวี้ถังแต่งตัวเสร็จ หลิ่วซวี่กับเล่ยจือถึงยก
อาหารเช้าเข้ามา
กินไม่พูด นอนไม่คุย
อวี้ถังกับเผยเยี่ยนแม้จะไม่ได้คุยกัน แต่เผยเยี่ยนก็คอยดูแลอวี้ถังอยู่ตลอด เดี๋ยวสั่งชิง
หยวนตักนํ้าแกงไก่ให้อวี้ถัง เดี๋ยวก็คีบขนมเกล็ดหิมะใส่จานให้อวี้ถัง พอใกล้จะอิ่มแล้ว เขายัง
เอ่ยกับอวี้ถังเป็นประโยคแรกว่า “เจ้ากินเยอะๆ หน่อย”
นี่คงทําเรื่องไม่ดีมาสินะ?
2598
อวี้ถังเขินอายจนไม่กล้าเงยหน้า ในใจก็สาปแช่งไม่หยุด
เมื่อคืนบีบเค้นนางเพียงนั้น ตอนนี้มาก้มศีรษะให้นาง นางไม่มีทางยกโทษให้เขาง่ายๆ
แน่!
แม้ใจจะคิดเช่นนั้น แต่พอเห็นสิ่งที่เผยเยี่ยนปฏิบัติต่อนาง คนก็อดจะใจอ่อนและรู้สึก
หวานลํ้าไม่ได้ คิดว่าเรื่องเมื่อคืนคล้ายไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่รับไม่ได้อีกต่อไป อีกอย่าง นางยังเอนไป
พิงร่างของเผยเยี่ยนอย่างไม่รู้ตัว เหมือนว่าขอเพียงได้อยู่ใกล้เขา หัวใจก็จะกระปรี้กระเปร่าเป็น
ที่สุด
เหตุใดนางไม่เอาไหนถึงเพียงนี้?
อวี้ถังรู้สึกกลัดกลุ้ม ใช้ตะเกียบปักลงขนมในถ้วยอย่างดุดัน
ไม่ง่ายกว่าจะกินข้าวกันเสร็จ อวี้ถังพาหลิ่วซวี่และเล่ยจือ เดินตามเผยเยี่ยนออกจาก
เรือนหอไป
ดูท่าเผยเยี่ยนคงเตรียมไปไหว้บรรพบุรุษและทําพิธีรับญาติก่อน
ชิงหยวนรีบสั่งงานกับสาวใช้อีกสองสามคนให้อยู่เก็บกวาดห้องต่อ จากนั้นก็รีบตามไป
หอบรรพชนของสกุลเผยตั้งอยู่ที่ตีนเขาเทียนมู่ แต่ที่เรือนเก่าของบรรพบุรุษก็สร้างหอ
บรรพชนเล็กๆ ไว้เช่นกัน ปกติเวลาจุดธูปเซ่นไหว้ก็มักทํากันที่นั่น หากถึงวันสําคัญเช่นเทศกาล
เช็งเม้งค่อยไปที่หอบรรพชนเขาเทียนมู่
อวี้ถังต้องรอแต่งงานให้ครบสามเดือนก่อนถึงจะได้เข้าร่วมผังสกุลอย่างเป็นทางการ
ถึงเวลานั้นก็จําเป็นต้องไปหอบรรพชนที่เขาเทียนมู่ การเซ่นไหว้วันนี้ จะจัดขึ้นที่หอบรรพชนเล็ก
ในจวนสกุลเผย
นางเดินตามหลังเผยเยี่ยนอย่างเชื่องช้ามุ่งหน้าไปยังหอบรรพชน สองข้างทางร่มรื่นไป
ด้วยใบไม้หนาทึบ ทิวทัศน์ดั่งภาพวาด ฉากที่ปรากฏเบื้องหน้า ทุกมุมล้วนแตกต่าง ทว่ากลับไม่
อาจแยกแยะได้เลย
2599
อวี้ถังรู้สึกขอบคุณเผยเยี่ยนนัก
หากมิใช่เขาบอกให้นางทําความคุ้นเคยกับสกุลเผยล่วงหน้า และถ้าจู่ๆ นางแต่งเข้ามา
แบบนี้ คงต้องหัวหมุนไปหมด ขนาดเดินก็คงหลงทางเป็นแน่
เผยเยี่ยนค่อนข้างกังวลร่างกายของอวี้ถัง เขาหันกลับมาแล้วถามนางเสียงเบาว่า “เจ้า
ยังดีอยู่หรือไม่?”
ดวงหน้าของอวี้ถังพลันแดงวูบทันที รีบแสดงท่าทีราวกับเป็นผู้บริสุทธิ์
ตอบกลับว่า “ข้า
ข้าสบายดี ท่านรีบนําทางเร็วเข้าสิ อย่าให้พวกท่านผู้เฒ่าต้องรอนาน”
เผยเยี่ยนหัวเราะ แต่กลับชะงักเท้าหยุด
อวี้ถังไม่ทันระวัง เกือบจะชนโครมเข้ากับร่างของเผยเยี่ยน
นางถลึงตาใส่เผยเยี่ยนอย่างขุ่นเคือง
เผยเยี่ยนมีประกายขบขันในดวงตา มองนางด้วยสีหน้าอ่อนโยนและตามใจ
ภาพนั้นทําให้นางคิดถึงท่าทางเมื่อคืนตอนที่เขาพยายามจะจูบนาง
นางยังนั่งโง่งมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เอาแต่มองดวงหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยความ
เคลิบเคลิ้มหลงใหล ไม่เพียงเปิดโอกาสให้เขากระทําแผนชั่วจนสําเร็จ ยังจะบุกรุกเข้ามา…
ดวงหน้าของนางร้อนไหม้ยิ่งกว่าเก่า
นางแสร้งเอ่ยเสียงแข็งทั้งที่ภายในอ่อนปวกเปียกเต็มทีว่า “ท่าน คิดจะทําอะไร?”
เขาไม่ได้คิดจะทําอะไร
แค่อยากจะลูบนางหน่อยก็เท่านั้น
เผยเยี่ยนคิดดังนั้น ก็ยื่นมือออกไปลูบแก้มนวลที่นุ่มนิ่มและลื่นมือดั่งไข่ปอกของนาง
หางตาของอวี้ถังเหลือบไปเห็นหน้าตาแตกตื่นและปากที่อ้าค้างของเหล่าสาวใช้
2600
นางเขินอายถึงขีดสุด ไม่ทันคิดให้ดีก็ตีมือเผยเยี่ยนดัง ‘เพียะ’
เผยเยี่ยนตะลึงงัน
อวี้ถังก็ตะลึงไม่ต่างกัน
นางรู้ดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นสิ่งที่สามีภรรยาทุกคู่เขาทํากัน ก่อนจะออกเรือน
มารดายังกลัวว่านางไม่รู้ความ จึงไหว้วานนายหญิงอู๋มาสอนนางเป็นครึ่งค่อนวัน นางเองก็มิใช่
ว่ารังเกียจที่เผยเยี่ยนทําเรื่องแบบนี้กับนาง…แต่รู้ก็ส่วนรู้ ทว่าการต้องเจอกับตัวเองก็เป็นอีก
เรื่องหนึ่ง นางอดจะกระดากไม่ได้ ดังนั้นจึง…นางไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย
อวี้ถังก้มหน้านิ่ง หลุบตามองตํ่า
หากมองไปจากมุมของเผยเยี่ยน ก็จะเห็นขนตาดําดั่งขนกาของนาง มันคล้ายเปียกชุ่ม
ด้วยฝน เพราะหลุบหล่นอย่างไร้เรี่ยวแรง ดูแล้วน่าสงสารจับใจ เขาพลันรู้สึกเห็นอกเห็นใจนาง
ขณะเดียวกันก็คิดว่าน่าขันยิ่ง
เด็กสาวคนนี้ เพิ่งจะแต่งให้เขาก็กางเคี้ยวเล็บใส่เสียแล้ว หากไม่ได้ดั่งใจขึ้นมาก็คง
ตะปบเขาเล่นแล้วกระมัง
ทว่าอวี้ถังที่มีชีวิตชีวาแบบนี้ กลับทําให้เขารู้สึกหวงแหนแปลกๆ
เขารัดนางเข้ามากอดทันที ก่อนกระซิบเสียงทุ้มข้างหูนางว่า “ใช้ได้นี่! เก่งกล้าไม่เบา
แล้ว ถึงกลับกล้าตีข้า คอยดูเถอะว่ากลับเข้าห้องข้าจะสั่งสอนเจ้าอย่างไร!”
ในสมองของอวี้ถังผุดภาพครั้งก่อนที่เผยเยี่ยนพูดจาเช่นนี้กับนาง
สองขานางอ่อนยวบ หากมิใช่ว่าเผยเยี่ยนกอดไว้ นางคงเซล้มไปแล้ว
“ท่าน ท่านฝันไปเถอะ!” พอพูดจบ อวี้ถังก็ผลักเผยเยี่ยนแล้ววิ่งหนีทันที
เบื้องหลังของนางมีเสียงขบขันของเผยเยี่ยนไล่ตามมาติดๆ
เสียงหัวเราะนั้น ไม่เพียงก้องกังวาน ทั้งยังชอบอกชอบใจมากอีกด้วย