ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่337 สู่เมืองหลวง
เผยเยี่ยนได้ยินก็ตวัดสายตามองอวี้ถังทันที เอ่ยเสียงขรึมว่า “ข้าว่าไปพร้อมกับพี่สะใภ้
รองดีกว่า ระหว่างทางจะได้ดูแลกันได้ อีกอย่าง ข้าอยากให้อวี้ถังไปเมืองหลวงกับข้าด้วย ก่อน
นางออกเรือนก็คบหาสนิทสนมอยู่กับบ้านของอินหมิงหย่วน ถือโอกาสที่ไปเมืองหลวงคราวนี้
ให้คนของอินหมิงหย่วนพานางเดินเที่ยวรอบๆ ดีกว่าเขียนจดหมายตอบกันไปมาเป็นไหนๆ รอ
ให้ข้าจัดการเรื่องที่เมืองหลวงจบแล้ว ค่อยพานางกลับมา ตั้งใจดูแลจัดการธุระในเรือน ไม่
ออกไปข้างนอกเรื่อยเปื่อยอีก”
อวี้ถังประหลาดใจยิ่งนัก
ไปเมืองหลวง พานางไปด้วย?
นางอดจะหันไปมองท่านแม่เฒ่าสกุลเผยไม่ได้
พอดีกับที่ท่านแม่เฒ่าสกุลเผยก็หันมามองนางเช่นกัน
สายตาของคนทั้งสองสบประสานกลางอากาศ
จากนั้นท่านแม่เฒ่าสกุลเผยก็หลุดหัวเราะออกมา
ความตกใจและลุกลนเด่นหราอยู่บนหน้าของเด็กสาว คงคาดไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะพา
ไปด้วย ไม่ก็กลัวนางไม่อนุญาต หรือเพราะกลัวว่านางจะไม่นึกชอบคนเพราะเรื่องนี้
ท่านแม่เฒ่าพลันใจอ่อนทันที
นางยังเป็นแค่เด็กสาวที่ไม่เคยเจอโลกภายนอกคนหนึ่ง หากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็
คงดี
อีกอย่างคนยังเป็นสุดรักสุดดวงใจของบุตรชายนางอีก
คิดถึงตรงนี้ ท่านแม่เฒ่าก็หันไปมองเผยเยี่ยนทีหนึ่ง
2683
การออกไปเห็นโลกภายนอกเป็นเรื่องเท็จ เรื่องจริงคืออยากให้ภรรยาติดตามอยู่ข้าง
กายมากกว่ากระมัง?
ไม่พูดเรื่องอื่น แค่ช่วงเทศกาลหยวนเซียว เดินไปไหนก็ต้องพกคนติดไปด้วย ทําอย่าง
กับผู้อื่นไม่รู้อย่างนั้น
“เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน!” ท่านแม่เฒ่าอนุญาตอย่างรวดเร็ว “เตรียมเสื้อผ้าเครื่องประดับ
ไปมากหน่อย สะใภ้บ้านหลักของพวกเรา จะได้ไปคารวะนายหญิงสกุลใหญ่ต่างๆ ในเมือง
หลวงเป็นครั้งแรก ไม่อาจให้ขายหน้าได้เด็ดขาด”
เผยเยี่ยนรับปากด้วยรอยยิ้ม แล้วยังเผื่อแผ่มันมาถึงอวี้ถังด้วย
อวี้ถังก้มหน้าลงอย่างกระดาก รู้สึกซาบซึ้งใจต่อท่านแม่เฒ่าเป็นอย่างมาก
นางได้พบกับแม่สามีที่ประเสริฐจริงๆ
ต่อให้เอาไปเปรียบกับชาติที่แล้ว มองดูคนรอบข้างตัวนาง หากกลับเรือนสกุลฝั่ ง
มารดามากหน่อยแม่สามีก็ตีหน้าไม่พอใจแล้ว มีสักกี่คนที่เหมือนอย่างนาง สามารถติดตาม
สามีรอนแรมไปไกลถึงเมืองหลวงได้?
อวี้ถังคารวะท่านแม่เฒ่าเพื่อแสดงความอวยพร ก่อนตอบรับว่า “เจ้าค่ะ”
เรื่องราวจึงกําหนดลงตามนี้
ดีที่ก่อนหน้านี้เผยเยี่ยนตั้งใจจะพาอวี้ถังไปเจียงซี เผยหม่านจึงตระเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อ
ออกเดินทางอยู่แล้ว บัดนี้แม้จุดหมายปลายทางจะเปลี่ยน แต่มือไม้ก็ไม่ได้วุ่นวายมากนัก ทว่า
มีบางเรื่องที่จําเป็นต้องให้เผยเยี่ยนวางแผนใหม่ อย่างเช่นว่า เผยหม่านจะต้องคอยอยู่ดูแลที่
จวนสกุลเผย
เผยเยี่ยนตัดสินใจให้หูซิ่งไปเมืองหลวงด้วย
2684
หูซิ่งดีใจจนดวงตากลายเป็นขีดเส้นตรง รู้สึกว่าความโชคดีของตนเองมาถึงตั้งแต่ที่เริ่ม
ช่วยงานสกุลอวี้ เขาไม่รอให้อวี้ถังไปบอกลาคนสกุลฝั่งมารดา ตนก็หิ้วเหล้าสองไหไปหาอวี้เห
วินแล้ว
อวี้เหวินรู้ว่าบุตรสาวจะได้ติดตามบุตรเขยไปเมืองหลวงก็ดีใจมาก ดื่มเหล้ากับหูซิ่งถึง
ดึกดื่น ทั้งยังเอาแต่ฝากฝังให้หูซิ่งดูแลอวี้ถังไม่หยุด “รอเจ้ากลับมา ข้าจะเลี้ยงเหล้าเอง”
เมื่อก่อนตอนที่อวี้เหวินยังเป็นแค่ซิ่วไฉในเมืองหลินอัน หูซิ่งยังกล้าตอบรับคําเขา บัด
นี้อวี้เหวินกลายเป็นพ่อตาของเผยเยี่ยนแล้ว ทั้งอวี้ถังยังเป็นที่รักใคร่โปรดปราน เขาจะกล้า
รับคําเชิญนี้ได้อย่างไร จึงรีบเอ่ยว่า “จะบังอาจให้ท่านเป็นเจ้ามือได้อย่างไรขอรับ ต้องเป็นข้าที่
เลี้ยงท่านต่างหาก”
เขาประจบเอาใจอวี้เหวินอยู่ค่อนวัน ก่อนจะเมาหัวรานํ้ากลับบ้านไป
แต่เขาเพิ่งจะผ่านเข้าประตูจวน ก็ถูกภรรยาตบใส่หนึ่งฝ่ามือจนสร่างเมาทันที
ภรรยาบิดหูเขาพลางบ่นว่า “เจ้าหายไปกินเหล้าที่ไหนมาอีก? นายหญิงใหญ่อาละวาด
ขึ้นมาแล้ว จะให้นายท่านสามพาคุณชายใหญ่ไปเมืองหลวงด้วย! ท่านแม่เฒ่าโมโหมาก
ประกาศกร้าวว่า ไม่เพียงให้นายท่านสามพาคุณชายใหญ่ไปเมืองหลวง แต่ให้พาหลานสะใภ้
ติดไปด้วยอีกคน บอกว่าพวกเขาอยากกลับมาก็กลับ ไม่อยากกลับก็ให้อยู่เมืองหลวงต่อ แต่
หากพวกเขาจะอยู่เมืองหลวง ก็ให้ไปอยู่กับสกุลหยางโน่น คฤหาสน์ที่เมืองหลวงหลังนั้น ให้แค่
คนสกุลเผยอยู่เท่านั้น”
หูซิ่งตกใจจนสร่างเมา
คําของท่านแม่เฒ่าแฝงความนัย หากว่าเผยถงจะติดตามไปเมืองหลวงครั้งนี้ด้วย ก็จะ
ไม่ยอมรับว่าเขาเป็นลูกหลานของสกุลเผยอีกอย่างนั้นหรือ?
เขารีบถามว่า “แล้วนายหญิงใหญ่ว่าอย่างไร?”
2685
ภรรยาของหูซิ่งทําเสียงจิ๊จ๊ะ เอ่ยว่า “ยังจะว่าอะไรได้! นางรู้ว่าท่านแม่เฒ่ารักหลานชาย
ไม่กลัวสักนิดว่าท่านแม่เฒ่าจะไล่คุณชายใหญ่ออกไป แต่นายท่านสามพูดเอาไว้แล้ว บอกว่า
ให้พวกเขาไปด้วยกันนี่แหละ ส่วนจะเข้าพักที่ไหน ไปถึงเมืองหลวงค่อยว่ากัน ทั้งกล่อมท่านแม่
เฒ่าอยู่นาน นางถึงยอมคลายโทสะลงได้ แล้วไปพูดคุยกับคุณชายใหญ่อย่างสงบ พรุ่งนี้
คุณชายใหญ่กับสะใภ้จะไปเมืองหลวงพร้อมกับเจ้า ระหว่าทางเจ้าต้องระวังให้มาก อย่าไปกอด
ขาผิดคนล่ะ!”
“ข้ารู้แล้วๆ!” หูซิ่งทางหนึ่งก็ครุ่นคิดในใจ ทางหนึ่งก็แสร้งเอ่ยกับภรรยาว่า “ตอนที่นาย
ท่านใหญ่เสียข้าก็ไม่ได้ยืนอยู่ข้างบ้านนายท่านใหญ่ หนึ่งบ่าวมิอาจรับใช้สองนาย ตอนนี้ข้ายิ่ง
ไม่อาจยืนข้างคุณชายใหญ่ได้ คํานี้ของข้าแม้จะไม่จําเป็น แต่ข้าจะระวังให้มากๆ…”
เขายังคงเกาะถ้วยข้าวร้อนๆ อย่างอวี้ถังเอาไว้จะปลอดภัยกว่า…แม้ไม่อาจรํ่ารวยอู้ฟู่
แต่ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่
หูซิ่งตัดสินใจเป็นมั่นเป็นเหมาะ วันรุ่งขึ้นก็ไปควบคุมพวกสาวใช้ให้ขนหีบกล่องจาก
เรือนเขาซู่อวี้ด้วยตนเอง จากนั้นเขาก็พบว่านายหญิงสามให้ความเคารพนายหญิงรองอย่าง
มาก จึงจัดการนําสัมภาระของนายหญิงรองลําเลียงขึ้นเรือให้ด้วยเช่นกัน
นายหญิงรองรู้ว่าอวี้ถังจะเดินทางไปเมืองหลวงด้วยกันก็ดีใจเป็นที่สุด แต่ก็ยังบ่น
เสียดายไม่หยุดว่า “เรือไม่จอดที่จินหลิง ไม่อย่างนั้น เจ้าคงได้ไปเที่ยวเล่นที่บ้านสกุลฝั่งมารดา
ข้าสักหลายวัน บ้านข้าฝั่งนั้นไม่มีอะไร แต่มีคฤหาสน์หลังหนึ่งปลูกดอกจื่อเถิงไว้ร้อยต้น พอผลิ
ดอกขึ้นมา คล้ายอยู่ในความฝันดั่งแดนสวรรค์ก็มิผิด พวกเราออกเดินทางตอนนี้ ก็จะไปถึง
จินหลิง ตอนช่วงที่ดอกไม้บานพอดี”
สถานการณ์ที่เมืองหลวงค่อนข้างตึงเครียด เมื่อวานเผยเยี่ยนก็หารือกับเหล่าผู้ดูแลใน
สกุลจนดึก เช้ามาก็ลุกไปหาท่านเฉินแล้ว เขายังจําได้อีกว่าต้องไปบอกว่าสองผู้เฒ่าที่สกุลอวี้
ด้วย หากมิกลัวว่าบิดามารดาจะรู้สึกว่าเผยเยี่ยนละเลยพวกเขา นางคงกลับไปคนเดียวก่อน
แล้ว
2686
อวี้ถังยื่นมือไปจับแขนนายหญิงรอง พลางหัวเราะเอ่ยว่า “ต่อไปย่อมมีโอกาสแน่เจ้าค่ะ
การเดินทางนี้ตัดสินใจอย่างฉุกละหุก ไม่มีเวลาเหลือพอให้ไปคารวะท่านผู้เฒ่ากับแม่เฒ่าฝั่ง
ท่านจริงๆ”
นายหญิงรองเข้าใจดี ได้แต่บ่นว่าเสียดายเล็กน้อย สองคนคุยกันพักหนึ่ง จากนั้นเผย
เยี่ยนก็กลับมาอย่างรีบร้อน
อวี้ถังเอ่ยขอตัวกับหญิงรองทันที จากนั้นก็ไปบอกลาผู้อาวุโสที่สกุลอวี้
อวี้เหวินรู้ข่าวก่อนแล้ว ส่วนเฉินซื่อก็ดีใจแทนบุตรสาวนัก บรรยากาศไร้ซึ่งความเศร้า
สร้อย แต่กลับเป็นเฉินซื่อที่กระซิบสั่งอวี้ถังว่า “สมควรเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าเพิ่งจะแต่งงาน คงไม่ดี
หากต้องแยกจากกัน เจ้าต้องพยายามให้มากหน่อย รีบตั้งท้องเจ้าตัวน้อยให้ได้”
อวี้ถังหน้าเห่อแดงไปหมด
นางไม่ ‘พยายาม’ ยังเป็นขนาดนี้ หากว่านาง ‘พยายาม’ ขึ้นมา…แค่นางนึกถึงภาพนั้น
ก็รู้สึกปวดฟันแล้ว
คิดว่าอย่าเลยจะดีกว่า
สองคนไม่ได้อยู่กินข้าวที่สกุลอวี้ก็พากันขอตัวกลับ
เผยถงเร่งมือเก็บข้าวของเสร็จแล้ว กําลังรอเผยเยี่ยนกลับมา
เมื่อเห็นเผยเยี่ยนสองสามีภรรยา เขาก็รีบเข้าไปคารวะทันที แล้วเอ่ยกับเผยเยี่ยนเชิง
ขออภัยว่า “ท่านอาสาม ท่านแม่ข้าดื้อดึงเกินไป ข้าไปถึงเมืองหลวงแล้ว จะได้ไปเยี่ยมเยือน
ท่านตาและเหล่าท่านลุง เช่นนี้ท่านตาและท่านลุงๆ จะได้สบายใจ ท่านแม่เองก็จะได้คลาย
กังวลเสียที”
เผยเยี่ยนไม่อยากฟัง
2687
พี่สะใภ้ของเขาคนนั้นคิดอ่านอย่างไร เขาไม่อยากรับรู้ หากว่าเผยถงว่านอนสอนง่าย
เขาก็จะยังยอมรับหลานคนนี้ต่อไป หากว่าเผยถงมีความคิดเป็นอื่น จะได้ถือโอกาสพูดคุยกัน
ให้กระจ่าง
เขาไม่อยากใช้เงินของสกุลเผยมาเลี้ยงดูพวกไร้ประโยชน์
เขาเอ่ยว่า “เช่นนั้นเจ้าก็ไปบอกลามารดาเจ้าเถอะ พวกเราไปบอกกล่าวท่านแม่เฒ่าสัก
หน่อย แล้วก็ออกเดินทาง”
ไม่ทันไรก็จะเที่ยงตรงแล้ว
เผยถงถามงงๆ ว่า “พวกเราไม่กินมื้อเที่ยงแล้วค่อยออกเดินทางหรือ?”
“ไม่ล่ะ” เผยเยี่ยนตอบ “พวกเราต้องเร่งออกจากเมืองหังโจวก่อนที่ประตูทางนํ้าจะปิด
ช่วงคํ่า”
ไม่อย่างนั้นก็ต้องนอนค้างที่เมืองหังโจวอีกคืน
เผยถงร้อง ‘อ้อ’ เสียงหนึ่ง แล้วรีบไปพบนายหญิงใหญ่
นายหญิงใหญ่กําชับเขาเรื่องอะไรบ้าง สองสามีภรรยาไม่รับรู้ รอจนเผยถงกับภรรยา
มาถึง พวกเขาก็ไปพบท่านแม่เฒ่าด้วยกัน
ท่านแม่เฒ่ายากจะหักใจ แต่สีหน้าไม่แสดงออกให้เห็น เพียงสั่งกับเผยเยี่ยนไม่กี่คําว่า
“ดูแลอวี้ซื่อกับพวกเผยถงให้ดี” จากนั้นก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปส่งพวกเขาถึงหน้าประตูใหญ่
ออกไปครานี้ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาสักกี่ปีกัน?
เผยเยี่ยนพยุงท่านแม่เฒ่า ทุกคนเดินตามอยู่ด้านหลัง มุ่งหน้าไปยังประตูใหญ่
เพราะมิใช่วันแรกของปีใหม่ ทั้งไม่ต้องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ วันนี้สกุลเผยจึงเปิดแค่ประตู
เล็กด้านข้างไว้เหมือนเก่า
2688
ตอนที่พวกเขามาถึง สกุลเผยบ้านอื่นๆ ทั้งมาด้วยตนเองและให้คนอื่นมาแทน ต่างก็มา
รอส่งพวกเขากันครบแล้ว
เผยเยี่ยนกําชับฝากคําอีกรอบ โดยเฉพาะกับเผยฉานและเผยปัว ให้พวกเขาตั้งใจเล่า
เรียน พยายามไปเจอกันที่เมืองหลวงให้ได้ในปีหน้า จากนั้นพวกเขาก็นั่งรถล่อลาก มุ่งหน้าไป
ท่าเรือเสาซี กางใบออกเรือ มุ่งหน้าสู่เมืองหังโจวต่อไป
ห้องโดยสารหลักของเรือใหญ่ถูกยึดด้วยเผยเยี่ยนสองสามีภรรยา นายหญิงรองสาม
คนพักที่ห้องโดยสารด้านซ้าย เผยถงสองสามีภรรยาอยู่ฝั่งขวาของพวกเขา ส่วนท่านเฉินถูกจัด
ให้พักที่ห้องฝั่งขวาของสองสามีภรรยาเผยถง
แต่ก่อนอยู่ในจวนใหญ่กว้างขวางจนชิน ตอนนี้ต้องมาอยู่ติดๆ กัน อวี้ถังรู้สึกปรับตัว
ไม่ได้
กลับเป็นคุณหนูห้าเผยตันกับน้องชายเผยหง สองคนแค่คิดว่าอีกไม่นานจะได้เจอบิดา
แล้ว ก็ดีใจจนอยู่นิ่งไม่ได้ เผยหงวิ่งไปหาเผยชี ส่วนคุณหนูห้ากลับแวะมาหาอวี้ถังทางนี้
“ข้าเห็นว่าอาสามกําลังคุยกับท่านเฉินอยู่ห้องข้างๆ ถึงได้มาหาท่าน” สองแก้มนางแดง
กํ่า มือหิ้วตะกร้าส้มมาด้วยอย่างดีอกดีใจ บอกกับอวี้ถังว่า “ข้าจะเลี้ยงส้มท่านเอง”
นายหญิงรองมีกําหนดเดินทางแต่เนิ่นๆ แล้ว ไม่เหมือนกับพวกอวี้ถัง ของกินเล่น
ระหว่างทางต่างก็เพิ่งเตรียมกันอย่างฉุกละหุก ผลไม้ต่างๆ จึงมีไม่มากมายเท่าของนาง
นี่เป็นส้มหวานที่ส่งมาจากเมืองฉางซา ทั้งเป็นของขวัญจากท่านแม่เฒ่าเมื่อปีก่อน อวี้
ถังกินหมดไปตั้งนานแล้ว ไม่คิดว่านายหญิงรองจะยังเก็บไว้กินระหว่างทางด้วย
นางหยิบมาเพียงลูกเดียวเท่านั้น ปอกเปลือกเสร็จก็แบ่งครึ่งหนึ่งให้คุณหนูห้า เอ่ยด้วย
รอยยิ้มว่า “เจ้าให้ข้าแล้ว เจ้าจะกินอะไร”
“ของอร่อยมิใช่ว่าต้องแบ่งกันกินกับทุกคนหรือ?” คุณหนูห้าเอ่ยด้วยความไม่เห็นด้วย
“อีกอย่าง กินอันนี้หมด ข้าก็ยังมีสาลี่หอมอีก”
2689
อวี้ถังทางนี้เตรียมขนมมามาก จึงให้คนไปยกขนมมาให้คุณหนูห้าเลือก “เจ้าลองดูว่า
เจ้าชอบกินอะไร?”
คุณหนูห้าไม่ได้เกรงใจ เลือกผลไม้แช่อิ่มไปสี่ห้าอย่าง กับขนมอีกเจ็ดแปดอย่างถึงจะ
พอใจ ทั้งหันมาถามอวี้ถังว่า “ท่านอาหญิงซื้อวอซือถังนี้มาจากไหน อร่อยกว่าที่ข้ากินปกติเสีย
อีก”
อวี้ถังไม่รู้เช่นกัน เอ่ยพลางหัวเราะว่า “ต้องถามชิงหยวน หากเจ้าชอบ ข้าให้นางจําไว้
ถึงเวลานั้นจะส่งไปให้ที่ซานตง”
คุณหนูห้าพยักหน้าหงึกหงัก “อร่อยกว่าที่ข้าเคยซื้อกินเสียอีก จะต้องเป็นของเมือง
หลวงแน่ๆ”
“เช่นนั้นเจ้าก็หยิบไปมากหน่อย” อวี้ถังหยิบแบ่งให้นางอีกกล่อง
สองคนพูดคุยหัวเราะคิกคัก จนเสียงดังได้ยินไปถึงกู้ซีทางนั้น
เหอเซียงมองกู้ซีที่สีหน้าบึ้งตึง เอ่ยถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณหนู พวกเราจะไป
ทักทายหน่อยไหมเจ้าคะ?”
เผยถงออกจากห้องไปแล้ว
บอกว่าจะถือโอกาสนี้คุยกับอาสามอย่างจริงจังสักครั้ง อาสามจะได้ไม่เข้าใจผิด
เกี่ยวกับเป้าหมายที่พวกเขาไปเมืองหลวง