ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่361 มาเอง
เมื่อถึงวันงานเลี้ยง กู้ซีก็แต่งตัวอย่างดี ไปหานายหญิงรองที่เรือนหลักตั้งแต่เช้าตรู่
นายหญิงรองกําลังมอบหมายเรื่องให้กับแม่นมจิน เห็นนางเข้ามา ก็ทักทายนางอย่าง
รีบเร่ง “เจ้าเข้ามาแล้วรึ! อาตันยังแต่งตัวอยู่ในห้อง หากเจ้าเบื่อหน่าย ก็ไปนั่งในห้องนาง คุยกัน
สักพักก่อนเถิด” จากนั้นก็พูดคุยกับแม่นมจินต่อ
กู้ซีมองซ้ายแลขวาไม่เห็นอวี้ถัง เดิมทีอยากจะถามหาอวี้ถัง นายหญิงรองพูดเช่นนี้ นาง
กลับไม่อาจพูดอะไรได้ ทําได้เพียงไปหาคุณหนูห้า
คุณหนูห้ายังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ไม่ทราบว่าเหตุใดวันนี้ถึงจัดงานเลี้ยงรับรองสกุลฉิน
ทําได้เพียงเชื่อฟังคําพูดของมารดา แต่งตัวดีๆ ทําความรู้จักมักคุ้นกับคนของสกุลฉิน ทําตัวเป็น
เจ้าบ้านที่ดี อย่าให้คนอื่นดูแคลน ด้วยเหตุนี้ยามที่กู้ซีเข้ามา นางจึงกําลังเลือกเสื้อผ้า
เครื่องประดับอย่างขะมักเขม้น
กู้ซีเห็นก็อดร้อนใจแทนนางไม่ได้ เอ่ยว่า “นี่มันยามใดแล้ว? คนของสกุลฉินมาถึงได้ทุก
เมื่อ ไฉนเจ้ายังแต่งตัวไม่เรียบร้อยอีก?”
คุณหนูห้าใบหน้าแดงกํ่า เอ่ยเสียงแผ่ว “เมื่อวานข้าเลือกชุดสีเขียวอ่อนไว้ แต่เช้าวันนี้
ตื่นมาเห็นงานเลี้ยงจัดที่โถงบุปผา ข้าทําได้เพียงต้องเปลี่ยนชุดใหม่”
โถงบุปผานั้นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ กลางฤดูร้อนเช่นนี้ ต้นไม้แผ่ใบเขียวชอุ่ม
หากสวมชุดสีเขียวอีก คงกลมกลืนไม่เห็นอะไรแล้ว
กู้ซีถอนหายใจ เอ่ยว่า “แม้งานเลี้ยงไม่ได้จัดที่โถงบุปผา ฤดูนี้ใส่สีเขียวก็ไม่เหมาะอยู่ดี
เจ้าวางแผนจะเปลี่ยนเป็นตัวไหน ทางที่ดีเป็นสีเหลืองหรือสีแดงอ่อน สีชมพูก็ดีไม่น้อยเช่นกัน
อากาศร้อนเช่นนี้ ใส่เครื่องประดับเรียบง่ายหน่อยจะดีกว่า”
2872
คุณหนูห้าพยักหน้าระรัว เปลี่ยนชุดใหม่อีกครั้งโดยมีกู้ซีช่วยออกความเห็น ก่อนแม่นม
ข้างกายนายหญิงรองจะมาเร่ง “นายหญิงสามเข้ามาแล้ว หลานสะใภ้ใหญ่และคุณหนูห้าก็รีบ
เข้าไปเถิดเจ้าค่ะ คนของสกุลฉินคงใกล้จะถึงแล้ว”
กู้ซีและคุณหนูห้ารีบไปโถงบุปผา
อวี้ถังสวมเสื้อกั๊กยาวสีขาวพิสุทธิ์เหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้เป็นผ้าโปร่งที่ละเอียดอ่อน
ใส่ต่างหูไข่มุกขนาดเท่าเม็ดบัว แทบไม่มีเครื่องประดับอะไรติดกาย มีเพียงดอกมะลิแถวหนึ่งที่
ปักระหว่างเส้นผม เมื่อเดินมาใกล้ ก็จะรับรู้ถึงกลิ่นหอมเบาบาง ให้ความรู้สึกสดชื่นเรียบง่าย
แต่คิ้วสีปีกกา ใบหน้าขาวผ่อง ทั้งริมฝีปากแดงระเรื่อกลับพาให้คนเห็นถึงความงามที่ยากจะ
อธิบาย ดึงดูดให้คนมองนางซํ้าแล้วซํ้าเล่า
นางกําลังพูดคุยกับนายหญิงรอง
กู้ซีครุ่นคิดในใจ นับตั้งแต่ที่อวี้ถังสวมชุดสีขาวไปงานแต่งของสกุลเจียง ก็สวมอยู่
เรื่อยมาหลายครั้ง หรือนางคิดว่าตัวเองเหมาะกับสีขาวกัน?
นางและคุณหนูห้าเข้าไปทักทายนายหญิงรองและอวี้ถัง
อวี้ถังคิดว่ากู้ซีแต่งตัวฉูดฉาดอยู่บ้าง อากาศร้อนเช่นนี้ ยังสวมเสื้อกั๊กยาวผ้าหังโฉวสี
แดงเข้มปักก้านดอกไม้สีเหลือง สีสันก็หลากหลายเกินไป พาให้คนเห็นรู้สึกเหนื่อยตาม
แทบไม่ต่างกับนางในชาติก่อน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนัก
บางทีกู้ซีอาจจะชอบแต่งตัวเช่นนี้กระมัง?
นางทักทายกู้ซีด้วยรอยยิ้ม ยังถามคุณหนูห้า “เมื่อคืนนอนสบายหรือไม่? ไม่กี่วันก่อน
ข้าได้รับเครื่องหอมชนิดหนึ่งมา กล่าวว่าสามารถฆ่ายุงได้ เมื่อคืนนําออกมาใช้ ผลลัพธ์กลับดี
อย่างที่คาด เจ้าอยากเอาไปลองดูสักหน่อยหรือไม่?”
คุณหนูห้าเอ่ยว่าดีไม่ขาดปาก ยังบ่นว่า “ก็ไม่รู้เพราะอะไร ยุงพวกนั้นเอาแต่กัดข้า
อาซันไม่เห็นจะเป็นอะไร”
2873
อาซันเม้มปากหัวเราะ
ด้านอวี้ถังกลับลูบศีรษะนางอย่างเอ็นดู เอ่ยกับกู้ซีว่า “พวกเจ้าไปนั่งในโถงบุปผาเถิด
คนของสกุลฉินมาแล้ว ข้าจะให้คนไปเรียกพวกเจ้าอีกที”
อีกเดี๋ยวนางและนายหญิงรองจะไปดูสวนดอกไม้ด้านหลังเสียหน่อย สวนดอกไม้
ด้านหลังนั้นเตรียมจะจัดซุ้มดอกไม้ ยามที่ไปดูเมื่อคืนยังไม่เป็นรูปร่าง ไม่รู้ว่าวันนี้เสร็จแล้วหรือ
ยัง?
กู้ซีและคุณหนูห้าไปโถงบุปผา
คุณหนูห้ามองงาช้างคู่หนึ่งที่ยาวประมาณสามชุ่นถูกจัดอยู่บนชั้นวางของโถงบุปผาอ
ย่างละเอียด ยังเอ่ยกับกู้ซีว่า “หรือสกุลพวกเรามีเรื่องอะไรต้องขอร้องสกุลฉิน? เหตุใดจึงจัดงาน
อย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้?”
กู้ซีก็เดาไม่ออกเช่นกัน
แต่นางกังวลใจอยู่บ้าง
สกุลหยางให้นางนําคําพูดมาถ่ายทอด สกุลเผยกลับนิ่งเงียบไม่เคลื่อนไหว ดูเหมือนไม่
เข้าใจเสียอย่างนั้น
ก็ไม่รู้ว่าสกุลเผยมีแผนอะไร?
นางควรไปถามอวี้ถังหรือไม่?
นึกถึงนางต้องพูดอย่างสุภาพกับอวี้ถัง นางก็รู้สึกอึดอัดในใจอย่างยิ่งแล้ว
เพียงไม่รอให้นางและอวี้ถังพบกัน ก็มีเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาด้วยเหงื่อโชก ถามว่า “นาย
หญิงรองและนายหญิงสามล่ะขอรับ?”
หรือสกุลฉินไม่มาแล้ว?
กู้ซีคาดเดา ก่อนจะถามออกไป “เจ้ารีบร้อนเช่นนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
2874
เด็กรับใช้เห็นว่าเป็นหลานสะใภ้ใหญ่ จึงเร่งเอ่ยว่า “นายหญิงใหญ่สกุลหยางเข้ามา
ขอรับ ไม่มีเทียบเชิญ…”
งานเลี้ยงในวันนี้เชิญสกุลฉินเป็นหลัก สกุลหยางมาโดยไม่รับเชิญ เป็นความบังเอิญ
หรือตั้งใจกัน?
กู้ซีเสียใจภายหลังอย่างยิ่งที่ตัวเองต่อบทสนทนาเมื่อครู่ ละลํ่าละลักเอ่ย “นายหญิงรอง
และนายหญิงสามไปสวนดอกไม้ด้านหลัง”
เด็กรับใช้วิ่งไปแทบไม่เห็นฝุ่น
คุณหนูห้ากล่าวอย่างไม่เข้าใจ “วันนี้พวกเราก็เชิญคนของสกุลหยางด้วยรึ?”
เหมือนจะไม่ได้เชิญ
แต่สกุลหยางเป็นสกุลมารดาของเผยถง พูดออกมากู้ซีย่อมขายหน้า
นางจึงขานรับอย่างคลุมเครือ
ใครจะรู้ว่าคุณหนูห้าจะดึงกู้ซี เอ่ยว่า “ข้าไปต้อนรับคนของสกุลหยางเป็นเพื่อนเจ้าดี
หรือไม่? คนที่มาต่างก็เป็นแขกทั้งนั้น!”
มองสาวใช้และหญิงรับใช้ที่อยู่เต็มห้อง ชั่วขณะนั้นกู้ซีจะปฏิเสธก็คงไม่ได้แล้ว
กู้ซีลอบด่าสกุลหยางในใจ บากหน้าออกไปต้อนรับคนของสกุลหยาง
นายหญิงใหญ่สกุลหยางลงจากรถม้า ก็ยืนคอยอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของสกุลเผย
ผู้เฝ้าประตูจวนมองอย่างกระวนกระวายใจ จะให้นางเข้าไป ก็ไม่มีเทียบเชิญ จะไม่ให้
นางเข้า นางก็ล้วนปรากฏตัวขึ้นที่นี่แล้ว
ผู้เฝ้าประตูได้แต่หวังว่าสตรีของสกุลเผยจะรีบมาไวๆ เป็นใครก็ได้ทั้งนั้น
2875
แต่กู้ซีไม่อยากออกหน้าจริงๆ เดินกับคุณหนูห้าอย่างเอื่อยเฉื่อย ยังเอ่ยว่า “พวกเราควร
รอแม่ของเจ้าและอาสะใภ้สามหรือไม่?”
คุณหนูห้าไม่รู้ว่าเหตุใดสกุลหยางจึงเข้ามาโดยไม่ได้รับเทียบเชิญ ในความคิดของนาง
งานเลี้ยงนั้นต้องให้ความสําคัญ วันนี้กล่าวว่าเชิญคนของสกุลฉิน ทั้งยังเชิญฮูหยินเฟ่ ยและนาย
หญิงอินมาเป็นเพื่อน ไม่ค่อยเหมาะสมกับสกุลหยางที่ไม่ได้ไปมาหาสู่กับคนพวกนี้เท่าใด
นางเอ่ยว่า “หากพบเข้ากับคนของสกุลฉิน คงจะเสียมารยาทแล้ว”
กู้ซีนึกถึงครั้งก่อนยามที่นางไปสกุลหยาง คําพูดพวกนั้นที่คนสกุลหยางกล่าว หน้าผาก
นางก็ชื้นเหงื่อขึ้นมา เอ่ยอย่างร้อนใจ “เช่นนั้นพวกเรารีบเข้าไปเถิด”
หากนายหญิงใหญ่สกุลหยางมาก่อเรื่องก็เป็นปัญหาแล้ว!
นางดึงคุณหนูห้าวิ่งไปด้านนอกทันที
คุณหนูห้าแทบจะทําปิ่นทองที่ปักผมหล่นพื้น
ยามที่พวกนางเห็นนายหญิงใหญ่สกุลหยางก็กระหืดกระหอบอยู่บ้าง ให้คนไปเชิญ
นายหญิงใหญ่สกุลหยางเข้ามา
นายหญิงใหญ่สกุลหยางเห็นทั้งสองคนก็ตกตะลึงอยู่บ้าง เอ่ยว่า “นายหญิงรองและ
นายหญิงสามของพวกเจ้าล่ะ?”
นี่คือหมายความว่าไม่อยากพูดคุยกับพวกนาง
ทั้งเป็นเพราะว่าพวกนางล้วนไม่อาจเป็นคนตัดสินใจเรื่องในเรือนได้
กู้ซีคิดว่านายหญิงใหญ่สกุลหยางย่อมมาเพราะมีจุดประสงค์ นางรีบเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“นายหญิงทั้งสองของพวกเราล้วนอยู่ที่สวนดอกไม้ด้านหลัง พวกเราอยู่ห้องโถงด้านหน้า พวก
นางย่อมเร็วไม่เท่าพวกเรา ท่านรีบเข้ามาเถิด ไปดื่มชาในห้องข้าสักถ้วย!”
2876
นายหญิงใหญ่สกุลหยางครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยรับด้วยรอยยิ้ม ก้มศีรษะเข้าไปใน
ซุ้มดอกไม้กับกู้ซีและคุณหนูห้า เดินไปยังที่พักของกู้ซี
กู้ซีส่งสายตาให้คุณหนูห้า เอ่ยกับคุณหนูห้ายามที่อยู่ระหว่างแยกทางเดิน “เจ้าไปบอก
กล่าวกับอาสะใภ้รองและอาสะใภ้สามเสียหน่อย บอกว่านายหญิงใหญ่สกุลหยางอยู่กับข้า
พวกนางจะได้ไม่ไปหน้าประตูใหญ่เสียเที่ยว”
คุณหนูห้าตอบรับ ก่อนวิ่งไปหายไปอย่างรวดเร็ว
นายหญิงใหญ่สกุลหยางเห็นก็แค่นหัวเราะ เอ่ยกับกู้ซี “มองไม่ออกเลยว่า เจ้ายังเห็น
ตัวเองเป็นหลานสะใภ้ใหญ่ของสกุลเผยจริงๆ! ทําไมรึ ข้าได้ยินว่าวันนี้สกุลเผยเลี้ยงรับรองฮู
หยินฉิน เจ้าก็ร้อนอกร้อนใจ นี่กลัวว่าข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ รบกวนอารมณ์สุนทรีย์ของพวกเจ้า
อย่างนั้นรึ?”
เมื่อก่อนกู้ซีเคยได้รับการถูกกดขี่เช่นนี้มาก่อน แต่นั่นล้วนเป็นผู้อาวุโสของสกุล เคย
อบรมบ่มเพาะ ทั้งเคยสั่งสอนนางมาก่อน แต่นายหญิงใหญ่สกุลหยางที่อยากจะขอเกี่ยวดอง
กับสกุลเผย ถือสิทธิ์
อันใดมาทําเช่นนี้กับนาง!
นางอยากจะฟาดฝ่ามือกลับไปอย่างยิ่ง
แต่นางยังคงอดทนไว้ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ป้าสะใภ้ใหญ่เอาอะไรมาพูด? ข้านั้นยุ่งตัวเป็น
เกลียว ปกติเชิญท่านมาล้วนเชิญไม่ได้ วันนี้ไม่ง่ายที่ท่านจะมา ข้าดีใจยังแทบไม่ทัน ไหนเลยจะ
พูดได้ว่ารบกวน? เพียงแค่ข้าคิดว่า อย่างไรท่านก็สนิทสนมกับสกุลพวกเราที่สุด นี่จึงอยากเชิญ
ท่านเข้ามาดื่มนํ้าชา”
นางทําท่าทีราวกับว่า ‘ดูท่าข้ายังคงประเมินตัวเองสูงเกินไป’ ทั้งมองนายหญิงใหญ่
สกุลหยางอย่างกังวลใจอยู่บ้าง เอ่ยว่า “ไม่อย่างนั้น พวกเราไปรอนายหญิงทั้งสองที่โถงบุปผา?
ที่นั่นเป็นสถานที่รับรองสกุลฉิน นายหญิงทั้งสองอยู่ไม่ไกลจากที่นั่นเช่นกัน”
นายหญิงใหญ่สกุลหยางมาเพื่อทะเลาะ กลับไม่ได้มาแยกวง
2877
นางมองกู้ซีด้วยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มไปที เอ่ยว่า “มองไม่ออกเลยว่า เจ้ายังคงเป็นคนที่มี
ความคิดคนหนึ่ง” พูดจบ ก็ไม่สนใจว่ากู้ซีจะมีท่าทีตอบกลับอย่างไร เอ่ยต่อว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้
ข้าก็ไม่อ้อมค้อมแล้ว วันนี้สกุลพวกเจ้าต้องให้คําตอบกับข้า มิเช่นนั้นพวกเราก็จะก่อเรื่องจนไป
ถึงราชวัง ดูว่าใครจะไม่มีหน้า? ทั้งใครจะถูกพวกบัณฑิตรังเกียจเหยียดหยาม?”
ช่างโชคร้ายจริงๆ!
กู้ซีลอบรําพันในใจ ใบหน้ากลับไม่ปรากฏอันใด ยังคงเอ่ยอย่างอ่อนโยนสุภาพ “ป้า
สะใภ้ใหญ่ คําพูดที่ท่านกล่าว ข้าบอกอวี้ถังอย่างไม่ตกหล่น ทําไมรึ เพราะช่วงนี้นางไม่มีความ
เคลื่อนไหวอะไรเลย?”
ไม่อย่างนั้นนางจะมาถึงหน้าประตูอย่างไม่กระดากอายได้อย่างไร!
นายหญิงใหญ่สกุลหยางใบหน้าขึ้นสี จําต้องยอมรับ “นอกจากนางจะไม่ตอบกลับข้า
นายท่านทั้งสองของสกุลเผยก็ไม่ให้คําตอบอะไรกับสกุลพวกเราเช่นกัน อวี้ซื่อผู้นั้น ตกลงฟัง
คําพูดของเจ้าเข้าหูไปหรือไม่? เจ้าพูดกับนางอย่างไร?”
สกุลเผยทําเรื่องเช่นนี้ ล้วนอาจถูกตัดหัวทั้งตระกูล ไฉนสกุลเผยจึงทําเหมือนไม่มีเรื่อง
อะไรเกิดขึ้น เดิมทีก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลย
กู้ซียังนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าสกุลเผยจะเพิกเฉยต่อสกุลหยาง เช่นนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกรึ?
นางตะลีตะลานขึ้นมาอยู่บ้างเช่นกัน เอ่ยว่า “ป้าสะใภ้ใหญ่ พวกเราไปคุยกันในห้อง
เถิด”
นายหญิงใหญ่สกุลหยางเห็นนางไม่เหมือนเสแสร้ง ก็ตามกู้ซีไปที่พักของนางด้วยความ
ฉงนใจ
เผยถงไม่อยู่เรือน
นายหญิงใหญ่สกุลหยางนั่งลง หลังจากรอสาวใช้ยกชาขึ้นโต๊ะถอยออกไปแล้ว นางก็
อดเอ่ยไม่ได้ “หลายวันนี้เผยถงกําลังทําอะไรอยู่? เหตุใดจึงไม่ไปหาพวกเรา?”
2878
กู้ซีละลํ่าละลักเอ่ยว่า “พี่สะใภ้ข้าขอให้ใต้เท้าอินช่วยชี้แนะแนวทางให้สามี หลายวันนี้
สามีมักจะไปเป็นแขกที่สกุลอิน”
งานเขียนของอินหมิงหย่วนนั้นมีชื่อเสียง นายหญิงใหญ่สกุลหยางจะไม่พอใจอย่างไร
ก็ไม่อาจพูดออกมาได้
นางขมวดคิ้ว เอ่ยว่า “ยังต้องดูว่าถึงเวลานั้นใครเป็นผู้ควบคุมการสอบ เชิญปราชญ์ผู้
ยิ่งใหญ่มาแนะนําจะดียิ่งกว่า”
กู้ซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่ข้าก็พูดเช่นนี้ ดังนั้นหากมีเวลาจึงมักพาเขาเทียวไปเทียวมา
ที่สํานักศึกษาฮั่นหลินด้วย”
นายหญิงใหญ่สกุลหยางไร้คําจะพูด
ก่อนจะมีสาวใช้วิ่งเข้ามา เอ่ยว่า “นายหญิงสามมาแล้วเจ้าค่ะ”