ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่382 แบ่งสมบัติ
สีหน้าเผยเยี่ยนเย็นเยียบกว่าเก่า เขาหัวเราะหยันในใจ
โง่เง่าสิ้นดี!
ไม่รู้ว่าสอบเข้ามาเป็นขุนนางได้อย่างไร
เขาถึงขั้นคร้านจะเสวนากับนายท่านใหญ่สกุลหยางผู้นี้ จึงเอ่ยสั้นๆ อย่างหยาบคายว่า
“ทําไมเล่า? พี่รองข้าถอยให้แล้วเขายังไม่รู้จักพอ? ยังจะให้ข้ายอมถอยให้อีก? เหตุใดข้าต้อง
ถอยให้ด้วย? เพราะการยั่วยุอันปลิ้นปล้อนของเจ้า? หรือเพราะเผยถงเชื่อเป็นตุเป็นตะไปเองจน
มาชี้จมูกตะโกนใส่หน้าข้า?”
นายท่านใหญ่สกุลหยางกับเผยถงหน้าร้อนไหม้พร้อมๆ กัน
อวี้ถังอุทานในใจว่า ‘แย่แล้ว’
นางรู้จักนิสัยเผยเยี่ยนดี ว่าเขาเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา
แน่ล่ะ การตรงไปตรงมาไม่ใช่สิ่งผิด แต่คู่สนทนาฝั่งตรงข้ามคือนายท่านใหญ่สกุลหยาง
กับเผยถง ก็มิแปลกที่อวี้ถังจะใช้หัวใจของคนถ่อยไปวัดความคิดของวิญ�ูชน เชื่อว่านายท่าน
ใหญ่สกุลหยางกับเผยถงเป็นคนเลว เมื่อผลประโยชน์กองอยู่เบื้องหน้า พวกเขาต้องบิดเบือน
ข้อมูล หลอกล่อเผยเยี่ยนให้ต้องเสียเปรียบแน่
นางไม่ทันได้ปรึกษากับเผยเยี่ยนก่อน ก็ตบไหล่เผยเยี่ยนเบาๆ อย่างปลอบโยน เอ่ย
ด้วยรอยยิ้มว่า “นายท่านหยางกับคุณชายใหญ่อย่าได้ถือโทษ นายท่านสามของเราเป็นคน
ตรงๆ พวกท่านก็คงรู้ดี เมื่อครู่เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย มิแปลกที่เขาจะมีโทสะ อีกอย่างกิจการ
ที่ท่านผู้เฒ่าทิ้งไว้ให้ เดิมก็ทิ้งไว้ให้นายท่านทั้งสามคน ไม่ว่าจะมากน้อย ก็คือหลักการเดียวกัน
อารองปวดใจแทนหลานชาย ไยท่านสามจะไม่เป็นเช่นนั้นเล่า? ไม่เช่นนั้นครั้งนี้คงไม่แนะนําใต้
เท้าอินให้คุณชายใหญ่ หวังให้คุณชายใหญ่ตั้งใจศึกษาวิชาจากใต้เท้าอินให้ดี เป็นที่เชิดชู
เกียรติของวงศ์สกุล”
3036
“เรื่องแยกสกุล ตามหลักแล้วข้าไม่มีสิทธิ์
มาสอดปาก แต่ข้าคิดว่าเรื่องนี้คงต้องบอกกับ
นายหญิงใหญ่สักคํา อยู่ดีๆ จะมาแบ่งแยกเช่นนี้คงไม่เหมาะ ทั้งเรื่องแบ่งทรัพย์สิน ก็ควรรอนาย
หญิงใหญ่มาถึงเมืองหลวงแล้วค่อยว่ากันภายหลังดีไหมเจ้าคะ?”
นางแค่ไม่อยากให้เผยเยี่ยนต้องตกเป็นขี้ปากคนอื่นเพราะเรื่องเงินทอง ส่วนเรื่องอื่น
นางไม่ได้คิดมาก
นายหญิงรองกลับเข้าใจว่าอวี้ถังกําลังพูดจาแทนนาง และนางเองก็ไม่ใคร่จะยินดียก
ส่วนของตนให้เผยถง มิใช่ว่าเสียดายสมบัติ แต่เพราะปกติเผยถงก็ปฏิบัติกับพวกนางอย่างขอ
ไปที เวลานี้เพราะเผยถง พวกนางกลับทําให้เผยเยี่ยนดูเป็นคนไร้หัวใจ เช่นนี้ไม่คุ้มเสียเลย
นางรีบเอ่ยว่า “นั่นน่ะสิๆ น้องสะใภ้พูดถูก สมบัติของท่านผู้เฒ่าต้องแบ่งให้บุตรชายทั้ง
สามคน ไม่อย่างนั้นท่านผู้เฒ่าคงสั่งเสียมาแล้ว พวกเราก็อย่าได้ผิดต่อความตั้งใจของท่านผู้
เฒ่าเลย เช่นนั้นคงอกตัญ�ูแย่! ส่วนจะแบ่งทรัพย์สินกันอย่างไร ข้าคิดว่าพวกเราควรนั่งคุยกัน
ดีๆ จะเหมาะกว่า” พูดจบ ด้วยกลัวว่าเผยเซวียนจะยังยืนกรานคําเดิม จึงลุกยืนขึ้น แล้วไปยืน
ด้านหลังเผยเซวียนเหมือนกับอวี้ถัง เอ่ยเตือนเผยเซวียนเสียงเบาว่า “นี่ท่านคิดจะเหยียบหลัง
อาสามเพื่อทําตัวเป็นคนดีอย่างนั้นรึ?”
เผยเซวียนไม่ได้คิดมากเพียงนั้น
เขาก็แค่สงสารเผยถง นอกจากมีมารดาที่ชอบสร้างปัญหา แล้วยังมีญาติฝั่งมารดาที่
คิดสูบเงินไม่หยุด ต่อไปยังมีเรื่องให้ต้องใช้เงินอีกมาก
เขาไม่ได้หมายความว่าให้เผยเยี่ยนยอมถอยเรื่องผู้สืบทอดเสียหน่อย
แต่คําของนายหญิงรองทําให้เขาเหมือนถูกฟ้าผ่า สะดุ้งตื่นได้สติ ไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่อง
แบ่งสมบัติอีก
นายท่านใหญ่สกุลหยางมองอยู่ สมองวิ่งแล่นเร็วจี๋
3037
เผยเซวียนคงอยากยกส่วนที่ตนเองสมควรได้ให้เผยถงจากใจจริง แต่พอนายหญิงรอง
เตือนสติ เขาก็ไม่พูดจาอีก เห็นชัดว่าใจคงรู้สึกเสียดายอยู่ แสดงว่าทรัพย์สินที่ท่านผู้เฒ่าสกุล
เผยทิ้งเอาไว้คงมิใช่จํานวนน้อยๆ อย่างน้อยก็ไม่ตํ่ากว่าจํานวนที่เขาคาดเดาเอาไว้แน่
หากว่าเป็นเช่นนั้นจริง รอให้นายหญิงใหญ่มาถึงเมืองหลวง ในใจทุกคนคงครุ่นคิดไป
หลายตลบแล้ว ข้อดีข้อเสียคงพิจารณาอย่างกระจ่าง เผยถงอย่างมากก็แค่รับเอาส่วนที่เขาควร
จะได้มา หากว่าเผยเซวียนกับเผยเยี่ยนใจดําหน่อย พวกเขาไม่มีทางรู้เลยด้วยซํ้าว่าท่านผู้เฒ่า
ทิ้งสมบัติไว้ให้มากน้อยเพียงใด ถึงเวลานั้นสองพี่น้องก็ร่วมมือกันงุบงิบ ไม่แน่เผยถงอาจไม่ได้
เงินสักแดง ต่อให้ได้เงินมา คนข้างนอกก็อาจเข้าใจว่าเป็นสองพี่น้องยอมถอยให้กับหลานชาย
เหตุใดเขาต้องเป็นหน้าเป็นตาให้กับสองพี่น้องสกุลเผยด้วย!
นายท่านใหญ่สกุลหยางคิดว่าเรื่องแยกสกุลเป็นเรื่องเล็ก แบ่งสมบัติต่างหากที่เป็น
เรื่องใหญ่
ทั้งยังต้องรีบแบ่งให้จบโดยไว
ถือโอกาสตอนที่นายท่านรองสกุลเผยยังไม่ได้สติกลับคืนมา
เขารีบเอ่ยว่า “นายท่านเผยทั้งสองเชิญข้ากับใต้เท้ากู้มาด้วยเหตุผลใด? มิใช่เพื่อให้มา
เป็นพยานรึ? หรือนายหญิงใหญ่ไม่เชื่อใจข้ากับใต้เท้ากู้?”
ความหมายก็คือ ไม่จําเป็นต้องรอนายหญิงใหญ่แล้ว ให้รีบแบ่งสมบัติกันเลย
กู้ซีเองก็เข้าใจแล้วเช่นกัน
นางคิดว่าความเงียบงันของเผยเซวียนในตอนนี้ เก้าในสิบคงเพราะกําลังเสียใจแน่
ในเมื่อนึกเสียใจ ย่อมเพราะมีผลประโยชน์อื่นที่ิ
คิดอยากได้
นางหันไปส่งสายตาให้เผยถงทีหนึ่ง
เผยถงเริ่มลังเล
3038
ความปรารถนาดีของอารองเขารับรู้ได้ แต่เขาต้องการแค่ส่วนที่เป็นของเขาเท่านั้น หา
ใช่อยากเอาเปรียบท่านอาทั้งสอง และไม่อยากให้นายหญิงรองเข้าใจผิด
แต่ก่อนตอนอยู่หลินอัน อารองกับอาหญิงรองก็ดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี
ทว่าวาจาของเผยเยี่ยนก็มีเหตุผล เมื่อก่อนเขาไร้มารยาทต่อเผยเยี่ยน เผยเยี่ยนไม่
พอใจ ไม่ยินดีจะยกส่วนของตนให้เขา นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
เขาควรต้องขอโทษหรือไม่หนอ?
เผยถงครุ่นคิด เผยเยี่ยนกลับบอกอวี้ถังเสียงเบาว่า “เรื่องนี้เจ้าอย่ายุ่ง!”
เขารู้ว่าอวี้ถังเป็นห่วง แต่นี่คือกับดักที่เขาขุดไว้รอเผยถง แล้วเขาจะยอมให้อวี้ถัง
กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อล่อได้อย่างไร
เขาต้องการให้เผยถงกระโดดลงไปอย่างงงงัน
เรื่องเลวร้ายต่างๆ นานา เขาไม่ต้องการให้อวี้ถังเข้ามาเอี่ยว
เผยเยี่ยนบีบมืออวี้ถัง ก่อนจะเอ่ยยํ้าว่า “ข้ารู้ขอบเขตดี ถอยให้พี่รองได้ แต่กับพี่ใหญ่
ไม่ได้ ตอนอยู่หรือตายเขาไม่เคยคิดว่าข้าหวังดีต่อเขา ทําไมข้าต้องยอมถอยให้? หากพูดถึง
อาวุโส ข้าก็ยังเป็นลูกชายคนเล็กอีก! สมควรเป็นเขาที่ต้องถอยให้ข้าต่างหาก”
อวี้ถังฟังแล้วค่อยโล่งอก
ขอเพียงเผยเยี่ยนไม่เอาแต่ดึงดันจะพูดว่า ‘ของที่สมควรเป็นของข้าทําไมต้องยอมยก
ให้คนอื่น’ ก็พอแล้ว
ผู้คนมักจะเห็นใจผู้ที่อ่อนแอกว่า นางไม่ต้องการยกส่วนนี้ให้เผยถง แต่ไม่อยากให้พวก
เผยถงใช้เรื่องนี้มาเป็นข้อครหาได้
นางลูบหลังมือเผยเยี่ยนเบาๆ อีกครั้ง กระซิบบอกว่า “ข้ารู้แล้ว ข้าเชื่อท่าน”
เผยเยี่ยนร้อง “อืม” ด้วยความพอใจ
3039
นายท่านใหญ่สกุลหยางเห็นว่าไม่มีคนตอบเขา ก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเดาถูกแล้ว ในใจร้อนรน
อย่างมาก ได้แต่เอ่ยซํ้าอีกครั้งว่า “น้องสาวข้าทางนั้น ข้าตัดสินใจแทนได้ นางมีหรือจะไม่เชื่อใจ
คนที่เป็นพี่ชายอย่างข้า?”
มุมปากของเผยเยี่ยนกระตุกขึ้น เขารอประโยคนี้อยู่
เพียงแต่เขายังไม่ทันเปิดปาก นายท่านใหญ่สกุลหยางก็หัวเราะออกมา แล้วเอ่ยว่า
“อาถงยังเด็ก บางอย่างละอายเกินกว่าจะพูด แต่ข้าที่เป็นลุงอยากพูดอะไรก็พูดออกไปได้ เขา
อายุยังน้อย ทั้งต้องดูแลแม่ม่ายกับน้องๆ ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องใช้เงินอีกมาก ข้ารู้ว่านี่เป็นการ
เอาเปรียบเจ้า ทว่าบุญคุณของเจ้าอาถงย่อมจําใส่ใจ สยากวงขุ่นเคืองอาถง ไม่อยากสนใจ
อาถง ข้าก็เข้าใจอยู่ บวกกับสยากวงเพิ่งสร้างครอบครัว มีที่ให้ต้องใช้เงินมากมายเช่นกัน ใน
เมื่อนายท่านรองมีคุณธรรมสูงส่ง ข้าก็จะไม่เกรงใจ ขอขอบคุณท่านแทนอาถงด้วย ต่อไปเขา
จะต้องกตัญ�ูต่อท่านแน่”
นี่ก็คือบีบให้เผยเซวียนยอมรับวาจาที่เพิ่งเอ่ยไปเมื่อครู่ ยอมยกส่วนของเขาให้กับ
เผยถงไป
เผยถงกับเผยเซวียนต่างก็หน้าแดง เผยถงเห็นว่าท่านลุงของตนทําเช่นนั้น ก็รู้สึกอับ
อายนัก ส่วนเผยเซวียนนั้นเพราะเมื่อครู่ต้องการจะรักษาหน้าให้น้องชาย จนอยากเปลี่ยน
ความคิดเรื่องส่วนแบ่งขึ้นมาจริงๆ
เผยเซวียนได้แต่อึกอักไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร
กู้ซีพลันมองปัญหาออก ทั้งกระจ่างแล้วว่าเหตุใดนายท่านใหญ่สกุลหยางต้องรีบร้อน
แบ่งสมบัติด้วย
ยิ่งทําให้เรื่องฉุกละหุกมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อพวกเขามากเท่านั้น
นางจิกเล็บลงผ้าเช็ดหน้า ลังเลว่าจะพูดออกไปดีหรือไม่ นายหญิงรองพลันถอนหายใจ
ออกมาก่อน
3040
ดูท่าแล้ว เผยถงคงตั้งใจจะเอาส่วนของพวกนางไปให้ได้
เผยเซวียนไม่อาจพูดจาไร้สัจจะ แต่การล่วงเกินเผยเยี่ยนก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ
เช่นกัน
นายหญิงรองได้แต่เอ่ยว่า “หลังมือหน้ามือล้วนเป็นเนื้อเหมือนกัน พวกเราเห็นแก่
คุณชายใหญ่ก็ต้องผิดต่ออาสาม ในเมื่อนายท่านอยากจะถอยออกมา เช่นนั้นก็แบ่งส่วนของเรา
ให้พวกเขาคนละครึ่งสิเจ้าคะ!”
เช่นนี้แม้จะทําให้เผยเยี่ยนเดือดดาลไม่ต่างกัน แต่อย่างไรก็แบ่งครึ่งหนึ่งให้เผยเยี่ยน
นับเป็นการชดเชยได้กระมัง!
เผยเซวียนได้สติคืนมา คิดว่าวิธีนี้ไม่เลว!
น้องชายเขาทางนั้น คงได้แต่อธิบายให้ฟังเป็นการส่วนตัวแล้ว
แม้เผยเยี่ยนจะเจ้าอารมณ์ แต่มิใช่คนไร้เหตุผล ต่อให้ตอนนี้จะขุ่นเคืองใจ พอเวลาผ่าน
ไปก็คงไม่ติดใจอะไรแล้ว
เผยเซวียนหุบปากสนิท
กู้ซีเริ่มร้อนใจ
หากยังปล่อยเอาไว้แบบนี้ เผยเซวียนอาจรู้สึกเสียใจได้ พวกเขาอย่างมากก็คงแบ่งให้
แค่หนึ่งในสาม แม้ตอนนี้ไม่อาจคว้าสองในสามส่วนมาได้ แต่การแบ่งครึ่งอย่างไรก็ดีกว่าหนึ่ง
ในสามอยู่แล้ว
นางกลัวเหลือเกินว่าบ้านรองจะกลับคํา จึงลุกขึ้นแล้วย่อกายคารวะเผยเซวียนกับนาย
หญิงรอง “ขอบคุณอารองกับอาหญิงรองเจ้าค่ะ บุญคุณใหญ่หลวงนี้ ได้แต่ตอบแทนท่านในวัน
หน้าแล้ว”
เช่นนี้ก็เป็นอันตกลงว่าบ้านรองสละสิทธิ์
ในสมบัติของท่านผู้เฒ่าสกุลเผย
3041
นายท่านใหญ่สกุลหยางถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองกู้ซีอย่างชื่นชมทีหนึ่ง คิดว่าหลาน
สะใภ้คนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ ที่สําคัญคือฉลาดถูกเวลา แต่พอเห็นว่าส่วนแบ่งสองในสามเหลือแค่
หนึ่งในสองแล้ว เขาก็ไม่ค่อยจะยินดีเท่าไร
เผยเยี่ยนพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อทิ้งเงินส่วนตัวไว้สามแสนตําลึง พวกนี้ล้วนจดบัญชีเอาไว้
ข้าจะให้คนไปหยิบสมุดบัญชีมา พวกเจ้าหากดูแล้วไม่ติดปัญหา เช่นนั้นก็แบ่งตามนี้เถอะ”
“สาม สามแสนตําลึง?!” นายท่านใหญ่สกุลหยาง เผยถงและกู้ซีต่างก็อ้าปากค้าง
มีเพียงเผยเซวียนกับเผยเยี่ยนสองพี่น้องที่ยังสงบนิ่ง
พวกเขารู้แต่แรกแล้วว่าท่านผู้เฒ่าสกุลเผยทิ้งเงินทองไว้มากน้อยเพียงใด
อวี้ถังก็ประหลาดใจมาก ใจก็คิดเรื่องที่บ้านรองสละสิทธิ์
ในส่วนแบ่งหนึ่งแสนตําลึงนั่น
นางอดจะหันไปมองนายหญิงรองไม่ได้
นายหญิงรองมีสีหน้าแตกตื่นในตอนแรก จากนั้นก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
วาจาที่เอ่ยออกจากปากก็เหมือนนํ้าที่สาดออกไป ไม่อาจกลับคําได้เพราะจํานวนเงินที่
สูงลิ่ว เช่นนั้นเผยเซวียนยังจะมองหน้าใครได้อีก?
แต่ว่าหนึ่งแสนตําลึง…นางย่อมรู้สึกปวดใจอยู่บ้าง
คิดเสียว่าท่านผู้เฒ่าแบ่งมันให้กับบุตรคนโตและคนสุดท้องก็แล้วกัน
สามีนางสามารถรับผิดชอบครอบครัวได้ ถือเป็นชามทองที่เลี้ยงปากท้องได้ชั่วชีวิต
ส่วนชามข้าวของบิดามารดานั้น พวกเขาไม่กินด้วยแล้ว
พอคิดเช่นนี้ หัวใจของนางไม่เพียงสงบลงในฉับพลัน ทั้งยังเอ่ยอีกว่า “สมุดบัญชีพวก
เราคงไม่ดูแล้ว ขอแค่พวกเจ้าไม่มีปัญหาอะไรก็พอ”
อวี้ถังรู้สึกนับถือนายหญิงรองนัก ส่วนเผยเยี่ยนเอง ก็มองนายหญิงรองด้วยสายตาที่
เปลี่ยนไปเช่นกัน
3042
เห็นท่าคงต้องชดเชยให้นายหญิงรองในภายหลังแล้ว
เผยเยี่ยนขบคิด แล้วหันไปมองอวี้ถัง
นัยน์ตาของอวี้ถังก็ราบเรียบ มีเพียงตอนมองนายหญิงรองเท่านั้นที่สายตาเปล่ง
ประกาย
เขากระตุกยิ้มมุมปาก
อวี้ถังแต่ไรก็เป็นคนหนักแน่น นางมิได้หวั่นไหวต่อเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นตําลึงจริงๆ ด้วย
เขากับพี่รอง ล้วนได้ตบแต่งกับภรรยาที่ดี
เรื่องนี้เดิมเขาสามารถจัดการให้เรียบร้อยได้ แต่การเปลี่ยนแปลงของเผยถงทําให้เขา
ต้องรีบตัดใยป่ านที่พันกันยุ่ง สะสางเรื่องนี้ให้จบในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
จะว่าไป เขาก็รู้สึกผิดต่ออวี้ถังไม่น้อย
เผยเยี่ยนกระแอมเบาๆ ทีหนึ่ง “เช่นนี้ก็ตกลงตามนี้ อาถงจะแยกผังสกุลใหม่ พวกเราที่
เป็นอาจะมอบเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นตําลึงให้เขาไปตั้งตัว”