ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่384 ไม้ต้นเดียว
กู้ฉ่างปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างยิ่ง
ท่านผู้เฒ่าเผยจากไปกว่าสามปีแล้ว ก็หมายความว่าเผยเยี่ยนรับช่วงต่อสกุลเผยมา
สามปีเช่นกัน แม้จะมีบัญชีอะไรไม่สมดุล เขาคงจะจัดการให้เรียบร้อยไปนานแล้ว สุดท้ายตก
ลงท่านผู้เฒ่าเผยเหลือทรัพย์สินไว้เท่าใด จะดูจากบัญชีนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้
ทั้งจากฐานะตําแหน่งของท่านผู้เฒ่าเผย เงินสามแสนตําลึง ข้อเสนอที่เผยเยี่ยนยื่นมา
นับเป็นราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว สําหรับเผยถงที่แยกสกุลแบ่งสมบัติ ถือว่าให้ความเป็นธรรม
กับเขาเช่นกัน
แต่เขาไม่อยากให้เผยถงแยกสกุล
การแยกสกุลไม่เป็นผลดีกับเผยถงในระยะยาวอย่างยิ่ง
ยังไม่พูดถึงเรื่องที่เผยถงยังไม่ได้เป็นขุนนาง แต่เผยเฟย เผยโย่วจากไปแล้ว เผยถงเป็น
ลูกชายคนโต เผยเฟยย่อมอยู่ในความดูแลของเขา ไม่มีร่มใหญ่อย่างสกุลเผยคอยคุ้มครอง เผย
เฟยเป็นลูกคนรองที่พึ่งพิงพี่ชายคนโต จะพูดคุยเรื่องงานแต่งได้ดีขนาดไหนกันเชียว?
ไม่มีงานแต่งที่ดี พวกเขาสองพี่น้องจะกอดกันผ่านความยากลําบาก มีอนาคตที่ดีได้
อย่างไร?
อีกอย่างผู้ที่เข้าสอบขุนนางหรือผู้ช่วยรุ่นเดียวกับเผยโย่วพวกนั้น มีเผยเซวียนที่เป็นอา
กําลังเดินสายข้าราชการได้อย่างเจริญรุ่งเรือง ใครจะกล้าข้ามหน้าข้ามตาเผยเซวียน ทุ่มเท
ทรัพย์สินให้กับเผยถงที่ไร้ประโยชน์ ทั้งมองไม่เห็นอนาคตข้างหน้า
หากเผยถงมีเรื่องจริงๆ ไปหาเผยเซวียนไม่ได้อย่างนั้นรึ?
หากเผยเซวียนช่วยเผยถง สายสัมพันธ์เครือญาติย่อมยังอยู่ แต่หากเผยเซวียนไม่ช่วย
เผยถง ใครจะยังนับเผยถงเป็นลูกหลานของสกุลเผย?
3052
คนที่เพิ่มลายดอกลงบนผ้าแพรมีมาก แต่ช่วยเหลือในยามคับขันกลับมีน้อย!
เหตุใดเผยถงถึงสายตาตื้นเขินเพียงนี้ ยินดีที่จะแยกสกุล?
กู้ฉ่างสงสัยว่าจะเป็นแผนของนายท่านใหญ่สกุลหยาง
ทั้งไฉนกู้ซีจึงไม่ขัดขวางเสียหน่อย?
เขาถลึงตามองกู้ซีอย่างเจ็บใจที่สั่งสอนนางได้ไม่ดีพอ ตวาดว่า ‘ใช้ไม่ได้’ ก่อนจะเอ่ย
กับพี่น้องสกุลเผยว่า “เรื่องนี้ปรึกษาหารือกันอีกสักหน่อยเถิด!”
กู้ซีอัดอั้นตันใจ
นางรับรู้ได้อย่างเลือนรางว่าพี่ชายย่อมไม่เห็นด้วยกับการแยกสกุล แต่อย่างไรนางก็
เป็นสตรีในเรือน ถือสิทธิ์
อันใดไปขัดขวางเผยถงและนายท่านใหญ่สกุลหยาง?
อีกอย่าง นางคิดว่าแยกออกไปเช่นนี้ก็ดี
การใช้ชีวิตของนางย่อมจะดีขึ้นเรื่อยๆ
กู้ซียู่ปาก ก้มหน้าลง
กู้ฉ่างเห็นก็ถอนหายใจ คิดว่าตัวเองกําลังพาลโกรธน้องสาว
ทั้งมีกี่คนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเผยเยี่ยนได้กัน!
หากเผยเยี่ยนมีความคิดจะแยกเผยถงออกไปอยู่ตามลําพัง แม้ว่าเขาจะอยู่ใน
เหตุการณ์ ก็ใช่ว่าจะสามารถขัดขวางได้เสมอไป
แต่เขายังคงไม่ยอมแพ้ ไม่ยินดีจะละทิ้งเช่นนี้
เขาถามเผยถง “อาเจ้าทั้งสองไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย บางเรื่อง เจ้าต้องคิดให้ดี นํ้าที่หก
ไปแล้วย่อมเก็บคืนมาไม่ได้”
เผยถงได้ฟังก็อดลังเลขึ้นมาไม่ได้
3053
นายท่านใหญ่สกุลหยางที่อยู่ด้านข้างเห็นท่าไม่ดี ก็รีบเตือนเผยถงด้วยรอยยิ้ม “นี่ก็เป็น
ความประสงค์ของปู่ เจ้า ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ส่งตําแหน่งผู้นําสกุลให้อาสามเจ้าหรอก เจ้า
ออกมา นับเป็นการให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งเป็นผลดีกับสกุลเผยเช่นกัน”
นี่เขากําลังเตือนว่าเผยโย่วทําเรื่องอะไรลงไปแล้วบ้างอย่างนั้นรึ
เป็นเพราะเช่นนี้ เผยถงจึงได้แยกออกไปอย่างละอายใจ
เขามองอาทั้งสองของตัวเอง ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ยังคงอดไม่ได้ เอ่ยขอโทษกับอาทั้ง
สอง ดึงนายท่านใหญ่สกุลหยางไปที่ด้านนอกประตู เอ่ยจริงจังว่า “หากข้าออกจากสกุลเผย
ท่านสามารถนําจดหมายที่พ่อข้าเขียนให้ท่านฉบับนั้นส่งให้ข้าได้หรือไม่?”
นายท่านใหญ่สกุลหยางระแวดระวังขึ้นมา เอ่ยอย่างตึงเครียด “เจ้าจะทําอะไร? กลัวว่า
สกุลเผยจะผิดคําพูด?”
“ไม่ใช่!” เผยถงเอ่ยอย่างกระดากอายอยู่บ้าง “ข้านั้นเข้าใจอาสามผิด แต่ข้าก็ไม่อยาก
ลืมการตายของท่านพ่อ ข้าคิดว่า ในเมื่อข้าต้องแยกออกมา ก็ควรออกมาอย่างขาวสะอาด ไม่
เข้าไปยุ่งเรื่องต่างๆ ของสกุลเผย จดหมายที่พ่อข้าเขียนให้ท่าน ก็ถือเป็นของขวัญที่ข้ามอบให้
พวกเขา นับจากนี้ต่อไป ข้าไม่ติดค้างสกุลเผยแล้ว พวกเขาก็ไม่ติดค้างข้าเช่นกัน หากทุกคนพบ
กันอีก แค่พยักหน้าให้กันก็เพียงพอแล้ว”
ช่างโง่เขลา!
นายท่านใหญ่สกุลหยางข่มกลั้นไว้ จึงไม่ได้พูดประโยคนี้ออกมา
แต่คนหนุ่มสาว ไม่เคยมีประสบการณ์ มักจะคิดว่าเรื่องในใต้หล้าแห่งนี้ล้วนง่ายดาย
ภายหลังประสบความยากลําบากก็จะรู้ถึงความร้ายแรงเอง
แต่ให้เขาเอาจดหมายให้คนของสกุลเผย นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้
นี่เป็นนับเป็นวิธีหนึ่งที่เขาใช้ปกป้องตัวเอง
3054
เขาเอ่ยอย่างคลุมเครือกับเผยถง “ก็ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนในเวลานี้ รอแบ่งทรัพย์สินให้
ชัดเจนแล้วค่อยว่ากันเถิด”
เผยถงกลับไม่อยากเสียหน้าอีก
เขาเป็นฝ่ายเข้าใจผิดเผยเยี่ยนก่อน ภายหลังยังเอารัดเอาเปรียบเผยเซวียน
เขาก็อยากเป็นบุรุษที่สง่าผ่าเผยเช่นกัน ไม่ใช่ให้คนพูดว่าเขาเอารัดเอาเปรียบสกุลเผย
เผยถงดึงตัวนายท่านใหญ่สกุลหยาง เอ่ยว่า “ลุงใหญ่ ท่านคืนให้ข้าเถิด! ฉวยโอกาสที่
พี่เขยอยู่ด้วย พวกเราพูดกันให้ชัดเจนเถิด ข้าไม่อยากติดค้างนํ้าใจใครก่อนออกจากสกุลเผย”
นายท่านใหญ่สกุลหยางขมวดคิ้วอย่างพบเห็นได้ยาก ไม่ยินดีที่จะมอบจดหมายฉบับ
นั้นออกมา “เจ้าเด็กคนนี้ ไฉนจึงดื้อรั้นเช่นนี้ จดหมายฉบับนั้นเป็นเรื่องสําคัญยิ่ง ไหนเลยจะ
ส่งออกไปเช่นนี้ได้? เจ้าวางใจเถิด ข้าเก็บจดหมายฉบับนั้น ไม่ใช่ว่าจะทําให้สกุลเผยถูกฆ่าล้าง
บางเสียหน่อย นั่นจะมีประโยชน์อะไรต่อพวกเรา? เจ้าเชื่อใจลุงใหญ่เจ้าก็พอแล้ว ข้าจะหา
โอกาสที่เหมาะสมมอบให้สกุลเผยเอง”
หลังจากได้รับผลประโยชน์เยอะยิ่งกว่านี้กระมัง?
เผยถงมองใบหน้าลุงใหญ่ที่คุ้นเคยของตัวเอง กลับเป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความเย็นยะ
เยือกจนถึงกระดูก
สกุลพวกเขาและสกุลเผยทะเลาะจนกลายเป็นเช่นนี้ สกุลหยางไม่ใช่เป็นจุดขัดแย้งที่
สําคัญหรอกรึ?
ลุงใหญ่ไม่มีส่วนรับผิดชอบเลยอย่างนั้นรึ?
บางทีใต้หล้าแห่งนี้อาจจะไม่มีใครที่ไว้ใจได้เลยสักคน
แม้ว่าจะเป็นอารองเขา ก็ต้องยําเกรงอาสาม ไม่อาจทุ่มเทช่วยเหลือเขาได้อย่างเต็มที่
3055
เผยถงผิดหวังอย่างยิ่ง เขามองนายท่านใหญ่สกุลหยางอย่างเรียบนิ่งไปที เอ่ยว่า
“เช่นนั้นก็ขอให้เป็นดั่งที่ท่านพูดเถิด”
แม้ว่าครอบครัวของพวกเขาจะออกจากสกุลเผย ก็ไม่อาจเดินตามสกุลหยางอีกแล้ว
เขาออกไปแล้ว ก็วางแผนจะออกไปให้ถึงที่สุด ไม่ไปมาหาสู่กับสกุลใหญ่ในเจียงหนาน
พวกนี้อีก
ภายหลัง พวกเขาก็จะเป็นสกุลเล็กๆ หนึ่งในเมืองหลวงเท่านั้น
ภายใต้ความมืด เผยถงคล้ายกับเห็นด้านในเรือนที่เขาอยู่มาตั้งแต่เล็กมีแสงไฟจุดส่อง
สว่างอย่างเลือนราง
เอาเช่นนี้แหละ!
เขาคว้าผลประโยชน์ในเรือนไป ก็นับว่าติดค้างอาทั้งสองแล้วกัน รอเขามีความสามารถ
แล้วค่อยคืนนํ้าใจอีกครั้งเถิด!
เผยถงหยัดกายตรง เดินเข้าไป เป็นครั้งแรกที่มองเผยเยี่ยนและเผยเซวียนอย่างเต็มตา
เป็นฝ่ายเอ่ยกับอาทั้งสองของตัวเองก่อน “อารอง อาสาม ทําให้พวกท่านรอนานเสียแล้ว ข้าเชื่อ
ว่าพวกท่านไม่อาจหลอกข้า บัญชีคงไม่ดูแล้ว ทําตามที่พวกท่านพูดเถิด ก่อนข้าจะย้ายไปเรือน
ของท่านพ่อ แก้ไขผังสกุล ปักหลักที่เมืองหลวง รับมารดาและน้องชายเข้ามา เกรงว่ายังต้อง
ขอให้ท่านอาทั้งสองช่วยเหลือข้าอยู่บ้าง”
เขาพูดจบ ยังคํานับให้กับเผยเยี่ยนและเผยเซวียน ราวกับเป็นคนละคนกับผู้ที่มาเอะอะ
โวยวายอย่างบ้าคลั่ง คิดบัญชีกับเผยเยี่ยนเมื่อครู่
เผยเยี่ยนและเผยเซวียนอดมองตากันไปทีไม่ได้
เผยถงกลับหมุนกายไปพูดกับกู้ฉ่างแล้ว “พี่เขย รบกวนท่านจริงๆ ที่ตั้งใจเข้ามาเพราะ
เรื่องของข้า ลุงใหญ่ข้าพูดถูกแล้ว ข้าออกจากสกุลเผย จะดีต่อสกุลเผยที่สุด แยกสกุลออกมา
เช่นนี้เถิด!”
3056
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว กู้ฉ่างคัดค้านอีกจะมีประโยชน์อันใด
แต่ในใจเขากลับเก็บความไม่พอใจต่อสกุลหยางไว้
ผ่านไปสองวัน เผยถงก็กําหนดวันย้ายออกจากสกุล กู้ฉ่างหาเวลาเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง
ของในเรือนที่ต้องขนไปล้วนจัดเก็บเรียบร้อยแล้ว รอเพียงฤกษ์งามยามดีย้ายไปยัง
เรือนที่เผยโย่วซื้อไว้ในปีนั้น กู้ซีก็เปลี่ยนจากเมื่อก่อนที่เกียจคร้าน ยืนอยู่ที่บันไดหน้าห้องหลัก
อย่างขะมักเขม้น คอยบงการบ่าวรับใช้ในเรือนขุดดอกมู่ตานหลายต้นที่อยู่ในลานเรือน
กู้ฉ่างอดเอ่ยไม่ได้ “ไฉนเจ้าจึงขุดต้นไม้ดอกไม้ในลานเรือนขึ้นมา? คนของสกุลเผยรู้
หรือไม่?”
“รู้สิ!” กู้ซีเชิญกู้ฉ่างนั่งลงในห้อง พลางเอ่ยว่า “อาสะใภ้รองกล่าวว่า ข้าชอบอะไรก็
นําไปได้ทั้งนั้น นี่เป็นเบญจมาศดําสองต้นที่ค่อนข้างหายาก มีเงินใช่ว่าจะซื้อได้เสมอไป เผย
สยากวงไม่ชอบต้นไม้ดอกไม้ ดังนั้นในเรือนเขาจึงไม่ค่อยปลูกอะไร ยังมิสู้ให้ข้าเอาไป!”
นี่ล้วนเป็นเรื่องเล็ก
กู้ฉ่างก็ไม่ได้มากความกับนาง เอ่ยถึงเรื่องแบ่งทรัพย์สินแทน “เงินลงในบัญชีหรือยัง?”
กู้ซีพยักหน้า มีท่าทีพอใจอย่างยิ่ง “เช้าตรู่วันที่สองอาทั้งสองก็เรียกเผยถงเข้าไป
นอกจากนําเงินให้เขา ยังเอาบัญชีเล่มหนึ่งให้เขาด้วย ที่ดินสินทรัพย์พวกนั้นที่เหลือไว้ให้สกุล
เผย กล่าวว่าภายหลังพวกเราพักอยู่ยาวที่เมืองหลวง ไม่สะดวกที่จะดูแลจัดการ จึงเปลี่ยนเป็น
ที่นาห้าร้อยหมู่ที่อยู่ใกล้ๆ เขตมี่อวิ้นแทน พวกเราล้วนคิดว่าดีไม่น้อย รอเพียงแม่สามีพา
น้องชายมาเมืองหลวงเท่านั้น”
เช่นนี้ก็ดี!
กู้ฉ่างพยักหน้า
3057
กู้ซียกจานผลไม้ของว่างมาให้เขาด้วยตัวเอง ก่อนจะนั่งลงด้านข้าง เอ่ยว่า “เผยถงไป
จัดเก็บข้าวของทางเรือนเก่า ยามเย็นถึงจะกลับมา ท่านพี่อยู่กินข้าวเย็นที่นี่แล้วค่อยไปเถิด! ข้า
มักรู้สึกว่าสกุลหยางแฝงเจตนาไม่บริสุทธิ์ บางเรื่อง ยังต้องให้ท่านพูดกับเขาจะดีกว่า”
กู้ฉ่างเข้ามา ก็เพราะเหตุนี้เช่นกัน ย่อมเห็นด้วยอย่างยิ่ง
สองพี่น้องยากจะมีเวลาว่างคุยเล่นกัน จึงพูดคุยเรื่องส่วนตัว
ด้านอวี้ถัง อาซิ่งกลับลอบรายงานสถานการณ์ของกู้ซี “ไม่ใช่กล่าวว่าเป็นคุณหนูของสี่
สกุลใหญ่เจียงหนานหรอกหรือเจ้าคะ? ไฉนจึงอยากได้ดอกมู่ตานของสกุลพวกเรา? ไม่อาจไป
ซื้อที่คนสวน ยังต้องมาขุดไปเอง ท่านก็ตามใจนางเกินไปแล้วกระมัง?”
อวี้ถังเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้รับปากเสียหน่อย เป็นนายหญิงรอง ข้าไหนเลยจะสนใจ
เรื่องของนายหญิงรองได้?”
อาซิ่งเบะปาก ไม่พูดอะไรต่อหน้าอวี้ถังอีก
อวี้ถังถามนางว่า “ของที่จะส่งให้สกุลมารดาข้าจัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”
อาซิ่งพยักหน้าหงึกหงัก
อวี้หย่วนจะกลับหลินอันแล้ว อวี้ถังให้เขาช่วยนําของกลับไปด้วย สกุลมารดามีอาซิ่ง
คอยจัดการ ส่วนสกุลแม่สามีอยู่ในความรับผิดชอบของชิงหยวน
อาซิ่งเอ่ยว่า “ข้าได้ยินผู้ดูแลประตูกล่าวว่า นายท่านสามกําชับพวกเขาให้เตรียมรถ
แล้ว ถึงเวลานั้นก็จะส่งคุณชายอวี้หย่วนไปขึ้นเรือที่ทงโจวเจ้าค่ะ!”
เทียบกับชาติก่อนแล้ว อาซิ่งนั้นมีชีวิตชีวากว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังชอบวิ่งวุ่นไปทั่ว
สืบข่าวที่นั่นที่นี่ ด้วยเหตุนี้อวี้ถังจึงทราบเรื่องของบ่าวรับใช้ผู้ดูแลในจวนมากมาย
3058
ได้ยินนางพูดเช่นนี้ อวี้ถังก็อดใจสั่นไหวไม่ได้ ยามที่เผยเยี่ยนกลับมาในตอนเย็น
นอกจากนางจะปรนนิบัติผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เผยเยี่ยนอย่างใส่ใจ ยังเป็นฝ่ ายอิงแอบไหล่ของ
เขาก่อน กล่าวอย่างออดอ้อน “ข้าอยากตามเจ้าไปทงโจว!”
เดิมทีเผยเยี่ยนก็ไม่คิดปิดบังการเดินทางของตัวเอง ฟังจบก็หัวเราะ บีบคางของนาง
เอ่ยหยอกเย้าว่า “เจ้าซื้อของมากเกินไป รถขนไม่ไหว ไม่อาจพาคนไปได้”
“เหลวไหล!” อวี้ถังไม่พอใจ เด้งตัวออกห่างจากเผยเยี่ยน เอ่ยว่า “ข้าถามเผยอู่แล้ว เขา
กล่าวว่าตั้งใจเตรียมรถให้เจ้าสองคันโดยเฉพาะ” ขณะที่นางพูดก็กลอกดวงตาไปทั่ว “หากนั่งไม่
พอจริงๆ เช่นนั้นพวกเราไปยืมรถม้าสกุลอินสักสองคัน? อย่างไรหลายวันนี้นายหญิงอินก็ไม่อาจ
ทําอะไรได้ ใต้เท้าอินย่อมต้องอยู่เป็นเพื่อนนางที่เรือน สกุลพวกเขาคงมีรถม้าเหลืออยู่มากเป็น
แน่”
เผยเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ติดค้างนํ้าใจคนนั้นคืนยาก สองวันนี้ข้าเพิ่งนําเงินออกไป
หนึ่งแสนห้าหมื่นตําลึง พวกเราต้องใช้ประหยัดๆ หน่อย”
อวี้ถังนําเงินส่วนตัวของตัวเองออกมาทันที ยิ้มอย่างลําพองใจ “ยามที่ข้ามา พ่อข้าให้
เงินมาหนึ่งพันตําลึง แม่สามีให้ข้าอีกสามพันตําลึง ไม่ต้องสิ้นเปลืองเจ้าหรอก ค่าใช้จ่ายในทง
โจวครั้งนี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง”
ท่าทีราวกับคนเงินหนามากทรัพย์นั้น ในความซุกซนยังแฝงมาด้วยความเจ้าเล่ห์ พาให้
เผยเยี่ยนที่เห็นรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา