ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่387 ป้องกัน
แม่นมผู้นี้พูดไม่ผิดเสียทีเดียว
แม้ว่าสกุลซ่งจะเป็นสกุลขึ้นชื่อในเจียงหนาน แต่หลายปีมานี้กลับไม่มีขุนนางที่สูงเกิน
ขั้นสามมาก่อน ทั้งยังไม่มีบัณฑิตที่ทําให้คนเห็นตาเป็นประกายแต่อย่างใด ในสายตาสกุลสวี
สกุลที่มีขุนนางระดับสูงสุดเช่นนี้ นับว่าตกตํ่าแล้ว ไม่จําเป็นต้องเสียแรงไปคบค้าสมาคม รวม
กับสกุลซ่งอยู่ในเจียงหนาน เดิมทีก็อยู่ห่างไกลกันอยู่บ้าง นายหญิงสี่สกุลซ่งมาถึงเมืองหลวงก็
ไม่ได้เป็นฝ่ ายมาเยี่ยมเยียนสวีเซวียนก่อน สกุลสวีกล่าวประโยคเดียวว่า “ไม่รู้ว่านางมาเมือง
หลวง” ก็สามารถทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปได้แล้ว
ไม่ใช่ความผิดพลาดที่ให้อภัยไม่ได้ขนาดนั้น
เพียงแต่ยามนี้อวี้ถังตั้งใจถามขึ้นมา สวีเซวียนจึงอดให้คําตอบนางไม่ได้
อวี้ถังได้ฟังก็เข้าใจทันที
ไม่ใช่ว่านายหญิงสี่สกุลซ่งไม่อยากเป็นฝ่ ายมาเยี่ยมเยียนสกุลสวีก่อน แต่ตําแหน่ง
ฐานะยังไม่เพียงพอที่มาเมืองหลวงก็สามารถหย่อนเทียบเชิญให้สกุลอื่นได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่
ได้มาเยี่ยมสวีเซวียน ไม่อย่างนั้นสกุลอินคงไม่เสียมารยาทเช่นนี้
หากนางคิดเล็กคิดน้อยในยามนี้ แม่นมผู้ดูแลคนนี้ย่อมได้รับการตําหนิเป็นแน่
เช่นนี้ย่อมไม่ดีแล้ว
อวี้ถังเร่งเอ่ยกับสวีเซวียน “สองวันก่อนนายหญิงสี่สกุลซ่งมาเยี่ยมเยืยนที่เรือน ข้าคิด
ว่านางจะมาดื่มสุรามงคลที่สกุลพวกเจ้าเช่นกัน”
สวีเซวียนทราบว่าอวี้ถังไม่ค่อยเข้าใจธรรมเนียมการไปมาหาสู่ในเมืองหลวงอยู่บ้าง ทั้ง
วันนี้เป็นวันดีของลูกชายนาง ได้ยินอวี้ถังพูดเช่นนี้ ก็ไม่ได้กล่าวถามแม่นมผู้ดูแลคนนั้นอีก โบก
มือให้นางถอยออกไป “ไฉนนายหญิงสี่สกุลซ่งจึงมาเมืองหลวงอย่างกะทันหัน? นางมาหาเจ้า?
มีเรื่องอะไรอยากให้เจ้าช่วยอย่างนั้นรึ?”
3076
อวี้ถังครุ่นคิดเล็กน้อย คิดว่าหากข้างกายนางจะมีคนที่สามารถทําให้นางเชื่อใจได้ คน
ที่สามารถพูดเรื่องในใจด้วยได้ สวีเซวียนย่อมนับเป็นหนึ่งในนั้น จึงไม่ได้ปิดบัง เล่าเรื่องที่นาย
หญิงสี่สกุลซ่งอยากให้คุณหนูเจ็ดแต่งงานกับสกุลที่มีผลประโยชน์กับสกุลซ่งให้สวีเซวียนฟัง
สวีเซวียนได้ฟังก็เบะปาก เอ่ยว่า “นี่ช่างเข้ากับคําโบราณที่ว่า คนใกล้ชาดติดสีแดง คน
ใกล้หมึกติดสีดํา พวกเขาอยากเลียนแบบสกุลอู่ ทั้งต้องยอมใช้เงินมากมายเป็นสินเดิมของลูก
สาวเพื่อแต่งออกไป!”
แต่สกุลซ่งดีกว่าสกุลอู่อยู่บ้างกระมัง?
อย่างไรสกุลซ่งก็เป็นสกุลบัณฑิต
อวี้ถังหัวเราะไร้สุ้มเสียง ดึงสวีเซวียนไปดูลูก
สวีเซวียนก็พานางไปห้องอุ่นที่ถูกจัดแต่งเป็นพิเศษเพราะกลัวว่าเสียงข้างนอกจะดัง
รบกวนเด็ก
อวี้ถังชื่นชอบอย่างยิ่ง อุ้มเด็กน้อยไม่ยอมวางมือ
สวีเซวียนนั่งอยู่บนตั่งด้านข้างด้วยรอยยิ้ม เอ่ยว่า “หากเจ้าชอบ ก็คลอดเองสักคน
เถิด!”
ชั่วขณะนั้นอวี้ถังก็รู้สึกท้อแท้อยู่บ้าง เห็นเปลือกตาของเด็กน้อยหลุบลงราวกับอยาก
นอนหลับ ก็ส่งเด็กน้อยให้กับแม่นม กลับมานั่งข้างๆ สวีเซวียน เอ่ยอย่างเซื่องซึม “ข้าก็อยาก
เช่นกัน! กลับไม่มีเลย! ข้าอยากตามหมอมาดู แต่สยากวงไม่รับปาก กล่าวว่าผู้หญิงบางคนสาม
ปีไม่ท้องก็มี ข้ากําลังพยายามเสียเปล่า ข้าคิดว่า หรือต้องรอให้ข้าพ้นสามปีไปยังไม่มีลูกค่อย
ไปหาหมออย่างนั้นรึ? ยามนั้นข้าไม่รู้ว่าตัวเองจะยังอยู่ในเมืองหลวงหรือไม่ หมอในเมืองหลวง
นั้นมีฝีมือกว่าอยู่บ้าง ทั้งยังสามารถเชิญหมอหลวงมาได้”
นางเล่าเรื่องที่เผยเยี่ยนอยากพานางไปขึ้นเขาไท่ซานให้สวีเซวียนฟัง
3077
สวีเซวียนหัวเราะเสียงดัง เอ่ยว่า “ในเมื่อสยากวงไม่รีบ เจ้าจะรีบไปไย เผยสยากวง
อาจจะคิดว่าเจ้าไม่มีลูกนั้นดีแล้ว พวกเจ้าสองสามีภรรยาจะได้ออกไปเที่ยวทุกหนทุกแห่งได้ รอ
มีลูกแล้ว ทิ้งลูกไว้ก็กังวล ไม่ทิ้งลูก พาไปด้วยก็ไม่สะดวกเช่นกัน” จากนั้นนางก็เอ่ยถึงตัวเอง
“ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่า คลอดก็คลอดเถิด ในเรือนมีคนคอยดูแลมากมายเช่นนี้ ยังต้องให้ข้าลงมือ
เองอีกรึ รอจนเด็กเกิดมาแล้ว ข้าจึงค่อยรู้ว่า จะให้ใครดูแลล้วนไม่วางใจทั้งนั้น กระทั่งแม่ข้าก็ยัง
ไม่ได้ ข้าไม่เห็นเพียงพริบตาเดียว ในใจก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ แล้ว คล้ายขาดอะไรไปบางอย่าง เดิมทีก็
ไม่เหมือนกับที่ข้าคิดไว้ก่อนหน้านี้…”
ทั้งสองคนพูดคุยเรื่องส่วนตัว จวบจนมีแม่นมผู้ดูแลเข้ามาบอกว่าฮูหยินหลีและฮูหยิน
จางเข้ามา สวีเซวียนต้องไปต้อนรับแขก พวกนางจึงออกมาจากห้องอุ่น
แม้จะเป็นเช่นนี้ สวีเซวียนก็ยังคงปลอบใจนาง “เรื่องที่สกุลอู่และสกุลเผิงเกี่ยวดองกัน
เจ้าไม่ต้องกังวล ยังมีเผยสยากวงอยู่ทั้งคน! หากไม่ไหว ก็ยังมีเผยฉี่หมิง เจ้าวางใจเถิด เรื่องของ
ขุนนาง พวกเขาฉับไวกว่าพวกเราอยู่แล้ว ไม่อาจเกิดเรื่องที่เจ้าเป็นกังวลหรอก”
อวี้ถังพยักหน้า ยามที่ออกมาจากสกุลอิน เผยเยี่ยนยังดื่มสุราอยู่ด้านนอกเรือน นางรอ
สักพัก เขาจึงค่อยออกมา
แต่เผยเยี่ยนกลับมีสีหน้าปกติ เข้าไปใกล้ยังได้กลิ่นของสุราอ่อนๆ เห็นได้ชัดว่าดื่มไม่
มาก แต่นางยังคงเข้าไปพยุงเขาอย่างเป็นห่วง ถามว่า “เจ้าไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”
เผยเยี่ยนเหมือนจะอารมณ์ดีไม่น้อย ใช้โอกาสยามที่นางเข้ามาใกล้จุมพิตที่หน้าผาก
นางอย่างรวดเร็ว เอ่ยเสียงแผ่วว่า “ข้าไม่เป็นไร ให้เจ้ารอนานเสียแล้ว ยามที่จะออกมาถูกอิน
หมิงหย่วนรั้งตัวไปพูดคุยธุระนิดหน่อย”
อวี้ถังไม่ได้ถามว่าเป็นเรื่องอะไร
หากเผยเยี่ยนอยากบอกนาง ย่อมบอกเอง
นางและเผยเยี่ยนขึ้นรถม้า
3078
ยามเย็นก็ไล่บ่าวรับใช้ในห้องออกไป อวี้ถังหนุนไหล่ของเผยเยี่ยน เผยเยี่ยนเอ่ยถึงเรื่อง
หนึ่งกับนาง “อินหมิงหย่วนได้รับจดหมายจากอินเฮ่า คิดว่าการเกี่ยวดองระหว่างสกุลอู่และ
สกุลเผิงอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่พวกเราขายแผนที่เดินเรือให้พวกเขาครั้งก่อน สกุลอู่มีคนเรือ
สกุลซ่งสร้างเรือได้ สกุลเผิงมีนายเรือที่เชี่ยวชาญการเดินเรือ สามสกุลร่วมมือกันขึ้นมา นับว่า
เป็นปัญหาอยู่บ้างจริงๆ”
อวี้ถังอดจับแขนของเผยเยี่ยนขึ้นมาไม่ได้
เผยเยี่ยนประคองใบหน้านางมาจูบหลายที เอ่ยว่า “นี่มีอะไรให้กังวลกัน เขามีแผนร้าย
ข้าก็มีวิธีรับมือ ใครต้องกลัวใครกัน?”
อวี้ถังไม่เข้าใจ
เผยเยี่ยนจึงกระซิบเอ่ยกับนาง “ทางท่านผู้เฒ่าอี้ของสกุลพวกเรา มีญาติผู้พี่คนหนึ่งที่
ยามนี้เป็นขุนนางอยู่ที่ซีอัน ข้าและอินหมิงหย่วนปรึกษากันแล้ว อีกสองสามวันโยกย้ายเขามา
เมืองหลวง พี่รองอยู่กรมคลัง เขาไม่อาจไปกรมคลังได้ แต่กรมอาญาหรือสํานักตรวจการย่อม
ไม่มีปัญหาอะไร”
อวี้ถังได้ฟังก็ตื่นตัวขึ้นมา ทั้งกังวลความสามารถของญาติผู้พี่สกุลเผยผู้นี้อยู่บ้าง
ควรรู้ว่า สกุลเผิงนั้นลงทุนลงแรงในสํานักตรวจการไปไม่น้อย
เผยเยี่ยนตบหลังนางเบาๆ เอ่ยแฝงรอยยิ้ม “ญาติผู้พี่ข้าคนนี้ สูญเสียบิดาตั้งแต่เด็ก จึง
เติบโตมากับสกุลพวกเรา เพียงแต่สกุลเผยมีความซับซ้อนอยู่บ้าง หลังจากญาติผู้พี่คนนี้เข้าสู่
เส้นทางขุนนาง ฉากหน้านั้นดูเหมือนไม่ค่อยไปมาหาสู่กันนัก เขาและอินเฮ่าสอบปีเดียวกัน อิน
เฮ่าชื่นชมความสามารถของเขาอย่างไม่ขาดปาก หลังจากพี่รองรับตําแหน่งในกรมคลัง ข้าก็
เคยเขียนจดหมายให้ญาติผู้พี่คนนี้ ถามเขาว่าอยากเข้าเมืองหลวงหรือไม่ เขาตอบกลับข้าอย่าง
รวดเร็ว แต่ก่อนหน้านี้มีเรื่องยุ่งมากมาย ทั้งเมืองหลวงยังไม่มีตําแหน่งที่เหมาะสม เรื่องนี้จึงพัก
ไว้ชั่วคราว ยามนี้โอกาสเหมาะพอดี สกุลเผิงไม่ใช่เกี่ยวดองกับสกุลอู่หรอกรึ? พวกเราก็แทรกตัว
3079
คนหนึ่งไปกรมอาญาไม่ก็สํานักตรวจการ ตัวเลือกที่ดีที่สุดย่อมเป็นสํานักตรวจการ จะได้คบค้า
สมาคมกับเผิงอวี่”
อวี้ถังคิดว่าวิธีนี้ดีไม่น้อย
นางค่อยรู้สึกวางใจ
รอจนผ่านเทศกาลจงหยวน ทางหลินอันก็มีข่าวส่งมา
อันดับแรกคือท่านผู้เฒ่าอี้ เขาตําหนิเผยเยี่ยนในจดหมายชุดใหญ่ กล่าวว่าเผยเยี่ยนไม่
ควรแยกสกุลกับเผยถง แต่เรื่องมาถึงยามนี้แล้ว หลังจากเขาดุด่าก็เริ่มกําชับเผยเยี่ยนว่าควร
จัดการเรื่องเผยถงอย่างไร
นอกจากเขาจะคัดค้านเรื่องที่แบ่งทรัพย์สินส่วนตัวของท่านผู้เฒ่าเผยให้เผยถงเท่าๆ
กัน ยังเขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้เผยเซวียนตามลําพัง ตําหนิเขาอย่างแรงเช่นกัน
อวี้ถังกลัวว่าผู้อาวุโสของสกุลจะเข้าใจเผยเยี่ยนผิดไป โยนเรื่องแยกสกุลของเผยถงให้
เป็นความผิดของเผยเยี่ยน เมื่อรู้ว่ามีจดหมายจากหลินอันมา จึงเข้ามาดูทันที
นางค่อยพบว่า แม้ท่านผู้เฒ่าอี้จะกล่าวด้วยคําพูดรุนแรง แต่ในเรื่องจะจัดการเผยถง
อย่างไรนั้น กลับพิถีพิถันมากกว่าสองพี่น้องเผยเยี่ยน มีความหมายประมาณว่าในเมื่อไม่ใช่คน
ของสกุลเผยแล้ว ก็ไม่จําเป็นต้องสนใจมากมาย
อวี้ถังเหนือความคาดหมายไม่น้อย
เผยเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แม้พวกผู้อาวุโสจะชอบให้ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเรือน แต่ก็
คาดหวังให้พี่น้องมีนํ้าหนึ่งใจเดียวกันมากกว่า”
อวี้ถังพยักหน้า
เผยเยี่ยนกลับมองจดหมายฉบับนั้นอีกหลายครั้ง
3080
ท่านผู้เฒ่าอี้ก็เป็นคนฉลาดมีความสามารถ ตอนแรกยามที่พ่อเขาจากไป ท่านผู้เฒ่าอี้ก็
เรียกพวกเขาสองพี่น้องเข้าไปถามหลายครั้งว่าพ่อเขาจากไปได้อย่างไร พวกเขาไม่มีหน้าจะพูด
ว่าเป็นเพราะการกระทําของพี่ใหญ่ จนกระทั่งถึงตอนนี้จึงไม่มีใครจับจุดอ่อนเรื่องนี้ได้ แต่
หลังจากเขาถอดชุดไว้ทุกข์ให้บิดา ท่านผู้เฒ่าอี้เห็นพวกเขาสองพี่น้องก็ถอนหายใจไม่หยุด
หย่อน เขารู้สึกได้อย่างเลือนรางว่าท่านผู้เฒ่าอี้น่าจะรู้อะไรบางอย่าง
เพราะเรื่องแยกสกุลของเผยถง ท่านผู้เฒ่าอี้จึงได้เขียนจดหมายด่าเขาอย่างลวกๆ
หลังจากนั้นก็กังวลว่าเขาจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ ใจอ่อนกับเผยถงมากเกินไป ถอนหญ้าไม่
ถอนราก เหลือภัยแฝงเอาไว้
เรื่องพวกนี้เขาไม่ได้คิดจะบอกอวี้ถัง
ตั้งแต่สกุลอู่เกี่ยวดองกับสกุลเผิง อวี้ถังก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหน้าเขา เขากลับสัมผัสได้
อย่างเลือนรางว่าอวี้ถังพะว้าพะวังใจมาโดยตลอด สําหรับอวี้ถังแล้วนับว่าไม่ใช่เรื่องดีอะไร เขา
ทําได้เพียงพยายามปลอบใจนาง ให้นางสงบลงมา
เขานําจดหมายของท่านแม่เฒ่าให้อวี้ถัง เอ่ยว่า “ท่านแม่ก็เสียใจอยู่บ้าง ให้พวกเรารีบ
กลับไปเร็วหน่อย ทางพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านแม่ก็กล่าวว่าจะพยายามให้คนส่งพวกเขามาเมืองหลวง
ให้เร็วที่สุด”
พี่น้องระหองระแหงกัน
ผู้ที่เสียใจที่สุดย่อมเป็นมารดา
อวี้ถังเป็นห่วงท่านแม่เฒ่าเผยมาโดยตลอด ฟังจบก็รับจดหมายมาทันที
ท่านแม่เฒ่าดูใจเย็นไม่น้อย แต่ก็พอจะคาดเดาความรู้สึกของนางได้
อวี้ถังถอนหายใจ ปรึกษากับเผยเยี่ยน “เรื่องทางสกุลจางพอเหมาะพอควรแล้ว พวก
เผยถงก็แยกจากสกุลออกไป ท่านแม่เฒ่าย่อมรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว หากเจ้าปลีกตัวไม่ได้จริงๆ
ให้ข้ากลับไปก่อนดีหรือไม่?”
3081
เผยเยี่ยนครุ่นคิดเล็กน้อย เอ่ยว่า “ไม่อย่างนั้นให้ท่านแม่มาเมืองหลวง? คนในเรือน
ถามขึ้นมา ก็บอกว่าอยากมาเยี่ยมเผยถง จากนั้นพวกเราก็เดินทางจากเมืองหลวงไปเขาไท่ซาน
เลย”
อวี้ถังตาเป็นประกาย เอ่ยว่า “พวกเราเที่ยวเล่นคลายเหงาเป็นเพื่อนนางก็ดีเหมือนกัน”
ยังรบเร้าเผยเยี่ยนเขียนจดหมายให้ท่านแม่เฒ่าโดยเร็ว “เพียงแค่ไม่รู้ว่านางจะอยากร่วมทางมา
กับนายหญิงใหญ่หรือไม่?”
เผยเยี่ยนไม่ใส่ใจนัก เอ่ยว่า “ต้องใช้เวลาเดินทางเกือบสองเดือน ข้ากลัวว่าท่านแม่ยัง
ไม่ทันถึง จะโมโหจนล้มป่ วยก่อนน่ะสิ”
คําพูดนี้ก็โหดร้ายเกินไป
อวี้ถังหยิกเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนไม่พูดอีกแล้ว ให้คนไปส่งจดหมายให้เผยถง บอกเขาว่านายหญิงใหญ่จะ
เดินทางมาเมืองหลวงประมาณยามใด
ด้านอวี้ถังกลับครุ่นคิดว่าหลังจากท่านแม่เฒ่ามาแล้วจะให้พักที่ไหนดี
นายหญิงรองและเผยเซวียนทราบเรื่องนี้ก็ดีใจอย่างยิ่ง สองสามีภรรยายังหาเวลาว่าง
เข้ามาปรึกษาหารือกับพวกเผยเยี่ยน ให้ท่านแม่เฒ่าพักอยู่ที่เมืองหลวงสักระยะหนึ่ง พวกเขา
จะไปปรึกษากําหนดงานแต่งของเผยตันที่สกุลฉินอีกครั้ง รอเผยตันออกเรือนแล้วค่อยให้นาง
กลับไปหลินอัน
เวลานั้นเดินอย่างเอื่อยเฉื่อยจนมาถึงกลางเดือนแปด
ต้นกุ้ยฮวาที่อวี้ถังปลูกเริ่มทยอยชูช่อเล็กๆ สีเหลืองอร่าม ทิศตะวันออกของจวนสกุล
เผยจึงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมฟุ้งของดอกกุ้ยฮวา
บางครั้งอวี้ถังก็เทียวเข้าไปครั้งหนึ่ง กลับมายังต้องอาบนํ้าสระผม ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า
กลัวว่าจะทํากลิ่นติดเผยเยี่ยนไปด้วย
3082
เผยเยี่ยนไม่รับรู้แต่อย่างใด เขาเพียงบอกกับอวี้ถังอย่างดีใจ “ญาติผู้พี่คนนั้นของพวก
เรา โยกย้ายมารับตําแหน่งรองผู้ตรวจการที่สํานักตรวจการแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เลื่อนขั้น กลับ
ย้ายมาอยู่ในเมืองหลวง หลายวันนี้เขาจึงพาสตรีในเรือนติดตามเข้ามาในเมืองหลวง ข้าส่งคน
ไปรับเขาที่ทงโจวแล้ว ยังอยากเชิญเขามาฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์กับสกุลพวกเรา เจ้าคิด
ว่าเป็นอย่างไร?”
แม้ว่าจะเป็นคนบนเรือนคนหนึ่ง สนิทสนมได้ก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
อวี้ถังตอบรับอย่างยินดี เป็นฝ่ายเอ่ยว่า “ข้าจะไปปรึกษากับพี่สะใภ้รอง ดูว่าถึงเวลานั้น
จะต้อนรับพวกเขาอย่างไร”
เผยเยี่ยนผงกศีรษะด้วยรอยยิ้ม