องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 17 จูบใครเข้า
เอ่อ… ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างแปลกๆ
โดยเฉพาะสัมผัสเย็นเฉียบที่ริมฝีปากของนางอบอวลไปด้วยกลิ่นของใบป๋อเหอ [1] ที่นางคุ้นเคย กลิ่นหอมอ่อนๆ นั้นแผ่ซ่านไปถึงหัวใจ ทำให้ร่างของนางสั่นสะท้านไปทั้งตัว
รสสัมผัสของมันให้ความรู้สึกเหมือนกินไอศกรีมรสวานิลลาไม่มีผิด
เดี๋ยว! ไม่ใช่สิ! ที่นี่จะมีไอศกรีมได้อย่างไรกัน!?
เฮ่อเหลียนเวยเวยรีบลืมตาขึ้นมา แล้วก็พบว่าตัวเองตกลงมาอยู่ในอ้อมแขนของชายคนหนึ่ง!
แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือริมฝีปากของนางกับเขาที่สัมผัสกันอยู่ต่างหาก!
เงาทมิฬที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับอ้าปากหวอค้าง เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ สติของเขาล่องลอยไปชั่วขณะ ลืมว่าจะต้องพูดอะไร ลืมแม้กระทั่งว่าต้องเข้าไปดึงฝ่าบาทให้ลุกขึ้นจากพื้นอีกด้วย เงาทมิฬแค่ยืนตะลึงอยู่กับที่ ทั้งตัวแข็งทื่อราวกับหิน!
นี่…… คนผู้นี้คือ ‘วิหคแดง’ ที่นายท่านต้องการสังหารมาตลอดมิใช่หรือ?!
เหตุใดจู่ๆ นางถึงกระโดดข้ามกำแพงมา ทั้งยังจูบนายท่านโดยไม่ห่วงชีวิตของตนเองเช่นนี้ได้
เฮ่อเหลียนเวยเวยอยากบอกว่า “ก็แค่จูบมิใช่หรือ ตัวนางเองยังไม่เห็นจะใส่ใจด้วยซ้ำ แล้วทำไมคนอื่นถึงต้องแตกตื่นขนาดนี้ด้วย” แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก ชายที่ถูกทับอยู่ใต้ร่างของนางก็ผลักนางออกอย่างแรง ทำเหมือนว่านางเป็นตัวเชื้อโรคก็ไม่ปาน!
เฮ่อเหลียนเวยเวยได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มชัดๆ ก็ในตอนนี้นั่นเอง รอยยิ้มอันเย็นชาปรากฏอยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย เส้นผมสีดำสนิทราวกับรัตติกาลแฝงไปด้วยกลิ่นอายอันตราย แพขนตาหนาโค้งงอนราวกับปีกอีกา จมูกสีขาวราวกับหยกงาช้างสันเป็นคม ริมฝีปากวิบวับราวกับไข่มุก ทำให้ผู้ที่เห็นปรารถนาจะจุมพิต
ริมฝีปากที่เผยอขึ้นของเขายั่วยวนน่าลิ้มลอง เลือดหยดหนึ่งย้อมกลีบปากบางของชายหนุ่มจนเป็นสีแดงสด ขับให้ใบหน้านั้นน่ามองยิ่งขึ้น งดงามซะจนเกือบลืมหายใจ
จุดบกพร่องเดียวที่มีอยู่ก็คือสายตาที่จ้องมองนางราวกับว่านางเพิ่งจะพรากสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาไป!
เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เรื่องแบบนี้ปกติแล้วฝ่ายที่ไม่พอใจต้องเป็นฝ่ายหญิงมิใช่หรือ ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นจูบแรกของนางด้วย แล้วเขาไม่พอใจอะไรกัน?!
แม้ว่า… หากนางมีรูปร่างหน้าตาเหมือนอย่างเขา นางเองก็คงรู้สึกไม่พอใจเช่นกันก็เถอะ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นความผิดของนาง เพราะนางกระโดดข้ามกำแพงมาโดยที่ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือให้ดีเสียก่อน เลยหล่นลงมาทับคนที่เดินผ่านเข้า แล้วก็ อะแฮ่ม จูบคนคนนั้นโดยที่เขาไม่ได้สมัครใจ
ใช่ ทั้งยังเป็นการจูบที่รุนแรงมากด้วย
ก่อนหน้านี้เฮ่อเหลียนเวยเวยเคยก่อกรรมทำชั่วเอาไว้ก็ไม่น้อย แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่ทำให้นางรู้สึกผิดเช่นนี้มาก่อน ยิ่งกว่านั้น มองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าชายผู้นี้เป็นคนสมบูรณ์แบบ และรักความสะอาดมากเพียงใด ใบหน้าของชายหนุ่มในยามนี้บูดบึ้งเย็นชา ดวงตาสีดำไร้ก้นบึ้งแผ่กลิ่นอายอำมหิต กดดันผู้คนจนแทบหยุดหายใจ
กลิ่นอายอันดำมืดเช่นนี้มีเพียงผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดเป็นเวลานานเท่านั้นถึงจะมีได้
ทางที่ดีนางควรรีบไปจากที่นี่ก่อนใครจะไหวตัวทัน เฮ่อเหลียนเวยเวยหยิบย่ามใบเล็กขึ้นจากพื้นและทำท่าจะเดินออกไป
แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ยกขาขึ้น นางก็ถูกหิ้วปีกอย่างกับลูกไก่ ชายหนุ่มใช้มือซ้ายที่สวมถุงมือหิ้วคอเสื้อของนางขึ้นมา แล้วถามด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาว่า “เจ้าจะไปไหน”
ผู้หญิงคนนี้คิดจะแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากที่จูบเขาไปโดยพละการหรือ
หึ…รนหาที่ตายเสียจริง!
พอคิดได้ดังนั้น ดวงตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็ยิ่งเย็นชา
ทุกปีจะมีผู้ฝึกตนหน้าใหม่จำนวนมากเข้ามา แต่หนานกงเลี่ยรู้ดีว่าเขารักความสงบ จึงแอบจัดเตรียมสถานที่แห่งนี้เอาไว้รับรองเขา แต่ทันทีที่มาถึง เขาก็เห็นย่ามบินข้ามกำแพงมา จากนั้นผู้หญิงคนนี้ก็กระโดดตามมา…
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองนางแล้วขมวดคิ้วราวกับกำลังคิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรกับ ‘เจ้าตัวเล็ก’ ที่อยู่ในมือดี
จากนั้นเขาจึงอ้าปากขึ้นอย่างช้าๆ แล้วเอ่ยว่า “เจ้าต้องรับผิดชอบ”
“อะ อะไรนะ” เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดว่าตนเองได้ยินผิดไป นางถึงกับตะกุกตะกักถาม
ดวงตาอันลึกล้ำของชายหนุ่มจ้องนางนิ่งเช่นเดียวกันกับตอนก่อนหน้านี้ ใบหน้าไร้อารมณ์ แต่สายตานั้นกลับดูเหมือนอยากฉีกนางให้เป็นชิ้นๆ มากกว่า
เฮ่อเหลียนเวยเวยยกมือขึ้นทั้งสองข้างอันเป็นสัญญาณขอสงบศึก แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เงาทมิฬที่เพิ่งตั้งสติกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้ก็ถึงกับสำลักลมหายใจตัวเอง!
ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดเรื่องอะไร ให้ฝ่าบาทแต่งงานกับนางอย่างนั้นหรือ
โอ้ พระโพธิสัตว์กวนอิม ได้โปรดชี้ทางสว่างให้แก่ลูกด้วยเถิด!
รีบทำให้หญิงผู้นี้หยุดพูดเสียที เขาไม่อยากเห็นพระหัตถ์ของฝ่าบาทต้องเปื้อนเลือดตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในสำนักหรอกนะ!
“แต่งงานหรือ” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ เขาใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือลูบผ่านริมฝีปากของนางอย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่ลมหายใจเย็นยะเยือกของเขารินรดลงบนใบหน้าของนาง “ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม หืม”
น้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของชายหนุ่มสะกิดอยู่ข้างหู ทำให้ร่างของนางสั่นสะท้าน
“ไปเตรียมห้อง” เขาสั่งกับเงาทมิฬที่ยืนอยู่ด้านข้าง
เงาทมิฬทำตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่กับฝ่าบาทมา เขาไม่เคยเห็นฝ่าบาทเป็นฝ่ายรุกก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในยามปกตินั้นมักจะมีพวกผู้หญิงที่พยายามเข้าหา และเขาก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเลยด้วยซ้ำ
แต่วันนี้…
เงาทมิฬสะบัดศีรษะไปมาขณะหมุนตัวเดินจากไป เขาอาจจะคิดมากไปเอง สาเหตุที่ฝ่าบาทต้องการห้องก็คงเพราะต้องการจะหาที่สะอาดๆ เอาไว้ใช้ฝังศพมากกว่า
ใช่ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!
มิฉะนั้นเขาก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าฝ่าบาทสนใจผู้หญิงคนนี้ตรงไหน ผิวดำมะเมื่อมราวกับน้ำหมึกหรือ
เฮ่อเหลียนเวยเวยเห็นว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าตกใจยิ่งกว่าตนเอง นางจึงไม่พอใจเล็กน้อย องครักษ์นายนี้หมายความว่าอย่างไรกัน เขาคิดว่านางไม่คู่ควรกับนายท่านของเขาหรือ
แม้นางจะยังไม่ได้เช็ดหน้าเช็ดตาให้สะอาด แต่อย่างน้อยใบหน้าของนางก็จัดว่างดงามได้รูปทีเดียว ถ้าให้นางไปยืนอยู่ท่ามกลางคนผิวดำ ก็ยังสามารถบอกได้ว่านางมีผิวขาวราวกับหิมะเชียวนะ
เขาก็แค่คิดไปเองหรือเปล่า
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่จะถูก xxoo ก็คือนางไม่ใช่เขาสักหน่อย
แล้วทำไมเขาต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีอย่างนั้นด้วย
เฮ่อเหลียนเวยเวยเงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆ ห่างออกไป นางก้มหน้า สอดส่ายสายตาอันชาญฉลาดไปรอบๆ ก่อนจะมีประกายแสงวาบผ่านในดวงตาคู่นั้น
“มีอะไรหรือ” ชายหนุ่มคนนั้นเชยคางของนางขึ้น บังคับให้นางต้องมองตรงไปที่เขา คิ้วสีดำราวน้ำหมึก สันจมูกโด่งๆ และริมฝีปากบางได้รูป ทุกสิ่งทำให้ดวงตาดำขลับนั้นเด่นชัดยิ่งขึ้น แม้ว่าเครื่องหน้าส่วนที่เหลือของเขาจะซ่อนอยู่ในเงา แต่ดวงตาคู่นั้นกลับดึงดูดน่าสนใจ “เจ้านึกเสียใจขึ้นมาแล้วหรือ”
ระหว่างที่เขาพูด นิ้วเรียวยาวของเขาก็ค่อยๆ ไล้ลงไปตามคอของนาง จากนั้นเขาก็คว้าหมับเข้าที่ลำคอ ราวกับว่าหากนางพยักหน้า เขาก็จะลงมือปลิดชีพนางเสียเดี๋ยวนั้น!
เฮ่อเหลียนเวยเวยเผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ออกมา แล้วใช้มือที่ยังขยับได้เพียงข้างเดียวของนางโอบรอบเอวของชายหนุ่ม “ข้ากลัวว่าท่านจะเสียใจภายหลังต่างหาก”
“อ้อ อย่างนั้นหรอกหรือ” ดวงตาหงส์ของชายหนุ่มหรี่ลง ขณะมองเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน รอยยิ้มที่อันตรายและดูชั่วร้ายของเขาเหยียดกว้างยิ่งขึ้น
………………………………………………………………………………………
[1] ใบป๋อเหอหรือมิ้นต์ เป็นสมุนไพรจีนมีรสเผ็ด มีฤทธิ์เย็น และมีกลิ่นหอมสดชื่น