องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 239 การผจญภัยของเวยเวย
“สิบปีแล้วที่ไม่มีใครมาที่นี่ แต่เมื่อข้ากำลังจะละสังขารเพียงลำพัง กลับมีคนเข้ามาเสียได้ หรือว่านี่จะเป็นลิขิตสวรรค์”
น้ำเสียงของผู้สูงอายุดังเบาๆ มาจากหุบเขาอันเงียบสงบ เสียงราวกับพระพุทธองค์นั้นดังก้องขึ้นในหู เหมือนกับเสียงวิหคขับขานยามเช้าตรู่ที่ดังไปทั่วทั้งใจ
จากยอดผาไปจนถึงจุดล่างสุดของหน้าผาแห่งนั้นมีระยะทางมากกว่าหลายพันจั้ง ต่อให้คนคนนั้นมีพลังปราณแข็งแกร่ง แต่ถ้าหากตกลงไปละก็ ย่อมไม่อาจรอดไปได้ เพราะกระดูกทุกชิ้นในร่างคงได้แหลกละเอียดเป็นแน่ นอกจากนั้นทั้งสี่ด้านก็มีแต่ภูเขา พวกมันล้วนแต่เต็มไปด้วยอันตรายอย่างยิ่ง ไม่มีใครเคยลงไปถึงก้นผา
แล้วทำไมถึงมีคนอยู่ในถ้ำแห่งนี้กัน
เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้ว
“เราเข้าไปกันเถอะ”
น้ำเสียงเย็นชาลอยเข้ามาในหู ตอนนั้นนั่นเองเฮ่อเหลียนเวยเวยถึงได้รู้ว่าคู่หูของนางตื่นแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาของเขายังคงเปื้อนไปด้วยเลือด ภายใต้เรือนผมสีดำมีผ้าสีขาวปิดบังดวงตาของเขาเอาไว้ ผ้าผืนนั้นไม่ได้ทำให้เขาสูญเสียเสน่ห์ไปแต่อย่างใด แต่กลับยิ่งทำให้เขาดูลึกลับและชั่วร้ายมากขึ้น
เฮ่อเหลียนเวยเวยพยักหน้าแล้วยื่นมือออกไป นางคว้าแขนของเขา แล้วเอ่ยเบาๆ ว่า ”ระวังใต้เท้าเจ้าด้วย มีเถาวัลย์อยู่”
“ได้” มุมปากของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กๆ ตอนที่ก้าวเท้าออกไป เขาก็พยายามใช้พลังปราณของตน และยิ้มกว้างขึ้น
เพื่อไปให้ถึงปากถ้ำ ทั้งสองจึงจำเป็นต้องก้มตัวลง ตอนที่พวกเขายืนใกล้ๆ กัน เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกเหมือนกับว่านางกำลังถูกคนที่อยู่ข้างหลังกอดเอาไว้ โดยเฉพาะในตอนที่นางรู้สึกถึงลมหายใจของเขาบริเวณหลังคอของนาง ทำให้นางเผลอหดคอลงโดยไม่รู้ตัว
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขามองไม่เห็นหรือเปล่า แต่ตอนที่มือของเขายื่นมาจากทางด้านหลังของนางนั้น ดูเหมือนมันมักจะปัดผ่านหน้าอกของนางอยู่เสมอ…
เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกกระดากเกินกว่าที่จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ดังนั้น นางจึงเปลี่ยนท่าทางของตนเล็กน้อยแทน นางคว้ามือของเขาหลบเถาวัลย์ที่อยู่รอบๆ นางดึงวัชพืชออก แล้วก็เห็นชายชราในชุดซอมซ่อคนหนึ่งอยู่ตรงนั้น เขานั่งก้มหน้าอยู่กลางถ้ำ หากเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้พูดขึ้นมา ก็คงจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นศพไปแล้ว โดยเฉพาะในเวลานี้ที่เส้นผมสีขาวโพลนยาวลงมาถึงเอว ปิดบังดวงตาของเขาเอาไว้ ”มีสองคนหรือ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่คิดที่จะถามเขาว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าพวกนางมีกันสองคน อย่างไรเสียเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในที่แห่งนี้มาได้หลายปีโดยที่ไม่ตายไปเสียก่อน ดังนั้นเขาจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
“ทำไมพวกเจ้าไม่ตอบ” ชายชราหันศีรษะมา เส้นผมสีขาวของเขาพลิ้วตาม
เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้ว ”เพิ่งตกลงมา กำลังปรับตัวอยู่”
ชายชรานิ่งไป แล้วทันใดนั้นเขาก็ยิ้มขึ้น ”นี่เป็นครั้งแรกที่อาตมาได้พบคนที่เปิดเผยตรงไปตรงมาเช่นนี้ แม่หนู หนึ่งในพวกเจ้าได้รับบาดเจ็บ กลิ่นเลือดรุนแรงนัก”
เฮ่อเหลียนเวยเวยมองแขนของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ”ไม่นี่ แค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น”
ยามเมื่ออยู่ในโลกภายนอก นางเรียนรู้ที่จะพูดความจริงแค่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
ชายชราไม่ใส่ใจ แล้วกล่าวว่า ”แม่หนู อาตมาต้องการให้เจ้าช่วย”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร
เฮ่อเหลียนเวยเวยยิ้ม ”ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านอยากให้ช่วยอะไร”
เสียงหัวเราะของชายชราลุ่มลึก ”แม่หนู เจ้าช่างน่าสนใจจริงๆ ในเมื่อเจ้ารู้สึกว่าอาตมามีภัยต่อเจ้า เจ้าแค่เลือกที่จะไม่ช่วยเหลือก็เท่านั้น เหตุใดถึงได้แกล้งถามเพื่อรอดูว่าอาตมาต้องการความช่วยเหลืออันใดเล่า”
“เวลาที่เราอยู่ต่อหน้าคนอื่น การจะปฏิบัติอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันตัวเองย่อมเป็นสิ่งที่สมควร แต่ถ้าเราสามารถช่วยได้ เราก็ควรดูว่าเราจะช่วยอะไรได้” เฮ่อเหลียนเวยเวยตอบราวกับว่านั่นเป็นวิถีของการเป็นมนุษย์
ชายชรารู้สึกประหลาดใจกับสติปัญญาของเฮ่อเหลียนเวยเวย ดวงตาของเขาเผยความชื่นชมออกมา ต่างไปจากความประทับใจแรกที่เขามี ”หากเป็นเจ้าละก็ คงจะสามารถนำข้อความของอาตมาออกไปสู่ภายนอกได้”
“ข้อความหรือ ข้อความอะไร” คิ้วของเฮ่อเหลียนเวยเวยขมวดเข้าหากัน ”ไต้ซือ สิ่งที่ท่านต้องการให้ข้าทำคือการนำข้อความออกไปส่งหรือ แต่ปัญหาคือพวกข้าก็อยู่ในสถานการณ์ยากลำบากไม่ต่างกันนัก จะออกไปได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย”
ชายชราคลี่ยิ้ม ”เส้นทางออกจากหุบเขาจิ้งจอกจะเปิดออกทุกหนึ่งเดือนในวันพระจันทร์เต็มดวง แต่เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น ทางออกถูกกำหนดเอาไว้ตามวัฏจักรเก้าตายหนึ่งรอด ตามวิชาของฝูซีนั้น จากเส้นทางทั้งหมดเก้าเส้นทาง จะมีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้นที่นำไปสู่หุบเขา ในเมื่อเจ้าสามารถเข้ามาได้ อาตมาก็เชื่อว่าเจ้าย่อมมีความสามารถที่จะออกไปได้เช่นกัน”
เฮ่อเหลียนเวยเวย ”…”
“พวกเราบังเอิญตกลงมาข้างในเท่านั้น”
ชายชราส่ายหน้า ”มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นความประสงค์ของสวรรค์ ครั้งแรกที่อาตมาตกลงมาที่ถ้ำแห่งนี้ อาตมาก็ใช้พลังวิญญาณที่เหลืออยู่ไปกับการทำนายครั้งสุดท้ายจนหมดสิ้น คำทำนายกล่าวว่าคนที่มีชะตาลิขิตร่วมกันเท่านั้นจึงจะสามารถเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ได้ อาตมารอมาปีแล้วปีเล่า สิบปีผ่านไป อาตมาคิดว่าอาตมาคงต้องเก็บความลับนี้ลงหลุมไปพร้อมกับตัวเองเสียแล้ว จนกระทั่งพวกเจ้าสองคนปรากฏตัวขึ้น”
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่นางจำเป็นต้องหาทางออกไป หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็บอกว่า ”ถ้าข้าสามารถออกไปได้ ข้าจะต้องนำข้อความของไต้ซือไปส่งให้อย่างแน่นอน”
“พวกเจ้าสองคนจะต้องออกไปได้อย่างแน่นอน” ชายชราดูมั่นใจมากทีเดียว สุดท้ายเขาก็เอ่ยว่า ”สิบปีที่แล้ว อาตมาทำผิดพลาดไป”
เฮ่อเหลียนเวยเวยตั้งใจฟังเงียบๆ และไม่ได้พูดอะไรอีก
น้ำเสียงของชายชราหนักแน่นและลุ่มลึก ลมหายใจของเขาฟังดูลึกลับ ”อาตมาไม่ฟังคำเตือนของพี่ชาย และก้าวเข้าสู่ทางโลก อีกทั้งยังทิ้งคำทำนายเอาไว้ว่าเด็กสาวที่จะเป็นพระชายาผู้นั้นจะได้ครองโลกใบนี้ สิ่งที่อาตมาคาดไม่ถึงคือคำทำนายนี้จะทำให้อาตมาต้องตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก”
เด็กสาวที่จะเป็นพระชายาหรือ เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกว่านางกำลังจะได้ยินความลับอันน่าตกใจ และโดยปกติแล้ว เบื้องหลังความลับเช่นนี้มักจะมาพร้อมกับความบาดหมางอยู่เสมอ
เป็นอย่างที่นางคิด ชายชราเอ่ยต่อว่า ”หลังจากวันนั้น เหล่าผู้อาวุโสที่ไม่ควรเอ่ยนามถึงก็มาหาอาตมา พวกเขาต้องการให้อาตมาหาว่าใครกันที่เป็นพระชายา หากอาตมาไม่ยอมบอกพวกเขา พวกเขาจะจับตัวเด็กผู้หญิงทุกคนที่อายุอยู่ในเกณฑ์นั้นมาสังหารเสีย”
“ผู้อาวุโสหรือ ผู้อาวุโสของสี่ตระกูลใหญ่รึ” เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้ว ”มิใช่ว่าพวกเขาควรจะต้องปกป้องจักรวรรดิจ้านหลงหรอกหรือ” นี่คือสิ่งที่ความทรงจำบอกนาง
ริมฝีปากบางของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ยระหว่างที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด
ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ”นั่นเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น หากอาตมาไม่ได้ประสบพบเจอเหตุการณ์นี้ด้วยตัวเอง อาตมาก็คงไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนประเภทนี้ อาตมาคาดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนั้น อาตมาไม่ปริปากบอกอะไรกับพวกเขาตลอดสามวันสามคืน แต่ในสามวันสามคืนนั้นพวกเขาก็สังหารเด็กผู้หญิงไปมากกว่าสามสิบคน เด็กผู้หญิงผู้น่าสงสารเหล่านั้น อาตมาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบอกพวกเขาว่าอาตมาจะทำการทำนายอีกครั้ง”
“คราวนี้ไต้ซือพบตัวเด็กสาวที่เป็นพระชายาคนนั้นแล้วหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกว่าเรื่องราวเริ่มจะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ชายชราเงียบไปครู่หนึ่ง ”อาตมาหานางพบ แต่อาตมาก็ประสบเข้ากับปัญหาบางประการ การที่สี่ผู้อาวุโสจะติดต่อกับอาตมานั้นหาใช่เรื่องอันเหมาะสมไม่ ดังนั้นพวกเขาจึงส่งคนคนหนึ่งมาแทน”
“ใครหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยมีความรู้สึกว่าเรื่องราวในตอนถัดไปจะต้องเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้อย่างแน่นอน!