องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 430 เหนือความคาดหมาย
จากนั้นไม่นานก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นจากต้นถนน
เฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์หันหน้ากลับไปมอง และเห็นองครักษ์กลุ่มหนึ่งกำลังเดินเข้ามา แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่พวกเขาก็สามารถเปิดเส้นทางการเดินให้คนผู้หนึ่งได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย…
กองทหารเกียรติยศของราชวงศ์มักจะปรากฏตัวอย่างหรูหราอลังการเช่นนี้เสมอ
ในจำนวนนั้น สิ่งที่เห็นสะดุดตาที่สุดก็คือรถม้าสีดำสนิทคันหนึ่ง
แม้ไม่ต้องบอก แต่ทุกคนก็รู้ว่าคนที่อยู่ในรถม้าคันนั้นคือใคร
ผู้คนจำนวนหนึ่งอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าองค์ชายสามและขุนนางทั้งหลายเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อเลือกสาวงามจากเมืองหลวงด้วยมือตัวเอง เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะเหลืออดกับใบหน้าอันแสนอัปลักษณ์ของเฮ่อเหลียนเวยเวยมานานแล้ว ดังนั้นวันนี้พวกเขาจึงมาที่นี่เพื่อหาสาวงามกลับไปที่วังหลวง
สำหรับคนอย่างองค์ชายสามนั้น จะมีก็แต่เพียงหญิงสาวที่มีดีทั้งหน้าตาและฝีมือเท่านั้นที่คู่ควร และสามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ในระยะยาว
เฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์ก็กำลังคิดเช่นเดียวกัน เพราะในตอนแรกนั้น พวกนางไม่ได้ข่าวเรื่องการกลับมาขององค์ชายสามเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นในยามนี้พวกนางย่อมตื่นเต้นที่จะได้พบตัวจริงของเขาเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าก่อนหน้านี้องค์ชายสามจะเคยปฏิบัติต่อนางเช่นไร นางก็ไม่สนใจ
ตราบใดที่นางได้เห็นเฮ่อเหลียนเวยเวยทนทุกข์ทรมาน นางก็รู้สึกพอใจแล้ว
มันอาจจะเป็นอย่างที่อวิ๋นปี้ลั่วเคยพูดเอาไว้ก็ได้ แม้ว่าองค์ชายสามจะดูเหมือนกำลังพยายามเว้นระยะห่างกับอวิ๋นปี้ลั่ว แต่ความจริงแล้วที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเขาไม่สามารถที่จะปล่อยวางจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้ แต่ลึกลงไปในใจของเขา เขาก็ยังคงเป็นห่วงเป็นใยอวิ๋นปี้ลั่วอยู่ หากไม่ใช่เพราะอย่างนั้น เขาจะมาปรากฏตัวที่งานคัดเลือกพระสนมทำไมเล่า เขาคงหวังจะได้เห็นตอนที่อวิ๋นปี้ลั่วได้รับเลือกอย่างแน่นอน
ทันทีที่เฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์คิดได้เช่นนี้ นางก็ชำเลืองมองไปทางอวิ๋นปี้ลั่ว ดวงตาของเด็กสาวคนนั้นติดจะแดงก่ำ นางกำลังสบตากับองค์ชายสามที่นั่งอยู่ในรถม้าคันนั้นอย่างรักใคร่ เมื่อเห็นดังนั้นเฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์ก็มั่นใจว่าต่อให้นางจะไม่ชนะในการคัดเลือกพระสนม แต่อวิ๋นปี้ลั่วก็จะชนะ เดิมทีนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว…
แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่านังแพศยาเฮ่อเหลียนเวยเวยจะเป็นคนที่เดินตามหลังไป๋หลี่เจียเจวี๋ยลงมาจากรถม้า
นางควรจะซ่อนตัวอยู่แต่ในวังหลวง และกลัวการพบเจอกับผู้คนมิใช่หรือ
ทำไมนางถึงมาปรากฏตัวในโอกาสเช่นนี้ได้
เฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์ขมวดคิ้วบางของตัวเองเข้าหากันด้วยความสับสน แล้วทันใดนั้นนางก็ได้ยินขันทีซุนประกาศด้วยน้ำเสียงแหลมปรี๊ดว่า ”ในเมื่อผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้ายมาถึงแล้ว ข้าขอประกาศให้การทดสอบรอบแรกเริ่มต้นได้ ณ บัดนี้!”
นี่… นี่มันหมายความว่าอย่างไร
เฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์มองดูเฮ่อเหลียนเวยเวยส่งหมายเลขปริศนาในมือให้กับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการแข่งครั้งนี้
เจ้าหน้าที่คนนั้นมีปฏิกิริยาราวกับคนที่โดนสายฟ้าฟาดเข้าอย่างจัง!
เขาดูประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด!
เขาคงนึกไม่ถึงว่าเฮ่อเหลียนเวยเวยจะกล้าเข้าร่วมการคัดเลือกพระสนมด้วยใบหน้าอัปลักษณ์เช่นนั้น นางมาที่นี่เพื่อให้ทุกคนตำหนิหรือไร
หลังจากเห็นเฮ่อเหลียนเวยเวย ประกายความมืดสายหนึ่งพลันวาบขึ้นในดวงตาของอวิ๋นปี้ลั่ว แต่การแสดงออกของนางกลับไม่ได้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน นางลดสายตาลง และไม่มีใครรู้ได้ว่าในใจของนางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
การมาถึงของเฮ่อเหลียนเวยเวยสร้างเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี
คนจำนวนหนึ่งคิดว่านางมักจะสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ ดังนั้นในใจของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
แต่ก็มีคนดูอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคิดว่าให้นางอยู่แต่ในวังหลวงเสียยังดีกว่าต้องทำให้ตัวเองขายหน้า
“ข้าได้ยินมาว่าระหว่างการทดสอบพลังที่สำนักไท่ไป๋นั้นนางยังทำให้ลูกแก้วเรืองแสงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ข้าสงสัยว่านางจะทำได้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนสักนิดหรือเปล่า”
“เรื่องนั้นคงไม่ใช่ปัญหาแล้วกระมัง เพราะอย่างไรนางก็เป็นคนที่ชนะในการประลองครั้งที่ผ่านมา แม้ในเวลานั้นนางจะไม่ได้แสดงพลังปราณออกมาจริงๆ แต่ตอนนี้ก็ยากที่จะบอกได้”
“ทุกคน เงียบ!” ใต้เท้าเลี่ยวในชุดเครื่องแบบขุนนางลุกขึ้นยืน แล้วโบกมือเป็นสัญญาณ ”จากนี้ขอให้ทุกคนเดินเข้าประตูเล็กทางด้านข้างตามลำดับหมายเลขของตนเพื่อเข้ารับการทดสอบ คนที่แพ้จะหมดสิทธิ์เข้าร่วมในการทดสอบรอบสุดท้าย”
หมายความว่าเพื่อให้การคัดเลือกพระสนมเป็นไปอย่างรวดเร็ว จะต้องมีผู้เข้าแข่งขันกลุ่มใหญ่ถูกคัดออกในทันที จากนั้นผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่ถึงจะได้เข้ารับการทดสอบจากลูกแก้วต่อหน้าทุกคน
เดิมทีนั้นมันก็ดูไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่งถึงตอนนี้ แต่ทันใดนั้นเฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์ก็นึกขึ้นได้ว่าผู้เข้าแข่งขันทุกคนมารวมกันตามลำดับหมายเลขของตน
หมายความว่าผู้หญิงคนนั้นก็ต้องอยู่ที่นี่เหมือนกันมิใช่หรือ
น่าแปลกจริงๆ ที่นางไม่เห็นผู้หญิงคนนั้น!
เฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์ก้าวเข้าสู่บททดสอบแรกด้วยความสงสัย
แต่ไม่ว่าอย่างไร ตราบใดที่ทุกคนได้รู้ว่าเฮ่อเหลียนเวยเวยเป็นเพียงคนไร้ค่าหน้าตาอัปลักษณ์ เท่านั้นมันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว!
เพราะผู้เข้าแข่งขันมีจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าใครเข้าไปในห้องไหน
สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งพูดขึ้นว่า ”เจ้าจำเป็นต้องคิดด้วยหรือ พระชายาสามจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”
เมื่อเด็กชายตัวน้อยที่สะพายขวดน้ำเต้าไว้บนหลังสังเกตเห็นว่าผู้เป็นนายยังคงนิ่งเงียบ เขาก็กลอกตากลมโตคู่นั้นไปมา และชี้นิ้วไปยังม้วนกระดาษที่อยู่ในมือของผู้ตัดสิน ”คนที่หมดสิทธิ์ในการแข่งจะถูกขีดชื่อออก แต่ชื่อของเฮ่อเหลียนเวยเวยยังอยู่บนนั้น พวกเจ้าไม่สังเกตกันหรือ”
พวกเขา… ไม่ทันได้สังเกตจริงๆ!
เป็นเพราะพวกเขาคิดอคติกันไปว่าเฮ่อเหลียนเวยเวยคงตกรอบแรกอย่างไม่ต้องสงสัย มันเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว
แต่ใครจะไปรู้!
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่เพียงแค่เอาชนะในรอบแรกไปได้ แต่ยังคงรักษาชื่อของตนบนกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้ได้ถึงสามรอบเชียวหรือ
เรื่องนี้ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลก…
ในขณะที่ทุกคนกำลังสับสนงุนงงกันอยู่นั้น ผู้เข้าแข่งขันที่จะได้เข้ารอบในการแข่งรอบสุดท้ายก็มายืนเรียงแถวต่อกันอย่างสวยงามอยู่บนเวทีเบื้องหน้าผู้ชมเสียแล้ว
เมื่อเฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์เห็นเฮ่อเหลียนเวยเวยยืนอยู่ข้างนาง ความประหลาดใจและความสงสัยเคลือบแคลงก็วาบเข้ามาในดวงตาของนาง!
แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน!
ตอนนี้วรยุทธ์ของนางอยู่ในขั้นธาตุทองระดับเก้า ห่างจากระดับสูงสุดเพียงแค่ระดับเดียวเท่านั้น!
ไม่ว่าเฮ่อเหลียนเวยเวยจะเก่งกาจเพียงใด แต่อย่างดีที่สุดนางก็คงอยู่ในขั้นธาตุน้ำเท่านั้น!
นางรู้จักฝีมือของเฮ่อเหลียนเวยเวยเป็นอย่างดี ในการประลองครั้งก่อน ความนุ่มนวลที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็นนั้นจะต้องเป็นพลังของธาตุน้ำอย่างแน่นอน
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นางบอกว่าไม่เป็นไร เมื่อเป็นเช่นนี้นางเองก็จะได้มีโอกาสอัดเฮ่อเหลียนเวยเวยต่อหน้าทุกคนสักครั้งด้วย!
ที่สำคัญที่สุดก็คือ แม้นางจะไม่รู้ว่าเฮ่อเหลียนเวยเวยหมายเลขอะไร แต่ดูจากบนรายชื่อแล้ว เฮ่อเหลียนเวยเวยตามหลังอวิ๋นปี้ลั่วอยู่อย่างชัดเจน
ทุกคนรู้เรื่องพลังปราณของอวิ๋นปี้ลั่วเป็นอย่างดี มันแข็งแกร่งเกินใคร บางทีนางอาจจะทะลุปราณไปจนถึงขั้นธาตุทองระดับสิบแล้วก็เป็นได้
ถ้าเฮ่อเหลียนเวยเวยเข้ารับการทดสอบหลังจากคนเช่นนาง ความต่างชั้นที่เกิดขึ้นย่อมชัดเจน ทุกคนย่อมคิดได้ว่าคนชั้นต่ำเช่นนั้นช่างไม่เหมาะสมกับองค์ชายสามเอาเสียเลย
จากนั้นเฮ่อเหลียนเวยเวยก็ถูกนางกับอวิ๋นปี้ลั่วประกบข้าง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้เฮ่อเหลียนเวยเวยดูไร้ความสามารถมากขึ้นไปอีก
“พี่ใหญ่ ข้านึกไม่ถึงเลยเจ้าค่ะว่าจะได้พบท่านที่นี่” เฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์ยิ้มให้กับเฮ่อเหลียนเวยเวย ”แต่ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ พี่อวิ๋นกับข้าจะดูแลท่านเอง ใช่ไหมเจ้าคะพี่อวิ๋น”
อวิ๋นปี้ลั่วดูอ่อนโยนยิ่งกว่าที่เคย นางมองเฮ่อเหลียนเวยเวยด้วยความสงสาร ขณะกล่าวว่า ”ตราบใดที่เรื่องนี้สามารถลบล้างความเข้าใจผิดระหว่างข้ากับเวยเวยได้ เช่นนั้นข้าก็ยินดีที่จะทำทุกอย่าง”
เฮ่อเหลียนเวยเวยปรายตามองทั้งสอง แน่นอนว่าผู้หญิงฉลาดเช่นนางย่อมรู้อยู่แล้วว่าคนทั้งสองกำลังวางแผนการอะไรอยู่ ริมฝีปากบางของนางกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม แต่นางก็ไม่อยากเปลืองแรงไปกับลำดับผู้เข้ารับการทดสอบเช่นนี้ สำหรับนางแล้วไม่ว่าใครจะเข้ารับการทดสอบก่อนหรือหลังก็ไม่แตกต่างกัน
แต่ขันทีซุนไม่อยากให้เฮ่อเหลียนเวยเวยเข้ารับการทดสอบต่อจากอวิ๋นปี้ลั่ว เพราะพลังปราณของอวิ๋นปี้ลั่วนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง หากเฮ่อเหลียนเวยเวยทดสอบหลังจากนาง มันคงทำให้นางอับอายขายหน้ามากกว่าเดิม
แต่ในเวลานี้ลำดับการแข่งขันได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้…