องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 574 สัญชาตญาณของข้าคือการปกป้องเจ้า
เฮ่อเหลียนเวยเวยขยับนิ้วเล็กน้อยอยู่ในความมืด
ไม่! นางจะปล่อยให้ตัวเองจมลงใต้น้ำทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรไม่ได้
สีหน้าของร่างนั้นดำทะมึนเพราะมันรู้สึกเหมือนกับถูกปฏิเสธ ”เจ้ายังคิดที่จะทำอะไรอีกหรือ ไม่ว่าเจ้าจะทำอย่างไรมันก็ล้วนแต่ไร้ประโยชน์ แม้ว่าค่ายกลนี้จะถูกทำลาย แต่เจ้าก็ไม่มีวันกลับไปได้ นอกเสียจากว่าเจ้าจะยอมมาเป็นเงาของข้าแทน”
“เป็นเงาของเจ้าหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยทำตาโต ดวงตาอันสุกสว่างราวกับดวงดาวบนฟากฟ้าของนางทอประกายเย็นยะเยือก นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า ”ทำไมข้าต้องตกลงด้วย”
ไม่มีใครสามารถบงการโชคชะตาของนางได้ นางก็คือนาง!
ขณะที่พูด เฮ่อเหลียนเวยเวยก็หยัดตัวขึ้น นางยืนตรงอยู่กลางแม่น้ำพร้อมกับแขนเสื้อยาวที่สะบัดไปมา น้ำวนจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบเท้าของนาง ก่อนม้วนตัวเข้าหากันและกลายเป็นคลื่นน้ำชั้นแล้วชั้นเล่า ผมยาวของนางปลิวไสวราวกับมันกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า
จากนั้นนางก็สะบัดแขนเสื้อ และใช้มือซ้ายขาวซีดนั้นผ่าแม่น้ำออกจากกันด้วยพละกำลังที่ราวกับจะสามารถควบคุมโลกได้ทั้งใบ
ตู้ม!
ร่างนั้นตกตะลึงจนตัวสั่นเทาขณะมองร่างที่ลอยออกห่างจากมัน ดวงตาของมันสั่นระริกด้วยความไม่เชื่อ
นาง… นางสามารถต้านทานพลังของตระกูลผู้ขับไล่วิญญาณร้ายได้อย่างไร?!
และยังพลังธรรมะของนางอีก!
สิ่งนั้นคือพลังธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้เมื่อหลายปีก่อนตอนที่พระองค์เสด็จลงสู่ทะเลโลหิตเพื่อแทรกแซงวิญญาณของเหล่าปีศาจไม่ผิดแน่!
ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?!
ใบหน้าอันซีดเซียวของร่างนั้นปกคลุมไปด้วยพายุ ทันใดนั้นก็ราวกับมีอะไรบางอย่างระเบิดขึ้นกลางแม่น้ำจนส่งผลให้น้ำสาดกระเซ็นไปทั่ว จากนั้นกระแสน้ำจึงลดลงจนกระทั่งแสงไฟดับสนิท
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยที่กำลังจะลงมือจัดการอาหารตรงหน้าพลันชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาเรียวรีอันเย็นชาของเขามองคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน
ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาอยากเห็นนักว่านางจะเป็นอย่างไรตอนที่ลืมตาขึ้น
สู้เขาดื่มเลือดของนางในขณะที่นางตื่นอยู่จะไม่น่าอร่อยกว่าหรือ
อย่างไรเขาก็ไม่ชอบเหยื่อที่ตายแล้ว
แต่เมื่อเทียบกับความรู้สึกไม่ชอบใจที่เขามีแล้ว เขากลับไม่อยากที่จะจบชีวิตของนางมากกว่า เขารู้สึกราวกับว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้เขารู้สึกว่างเปล่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…
แต่ลำคอของเขาก็แห้งผาก มันแห้งเสียจนแทบจะฉีกขาด แม้กระทั่งมุมปากของเขาก็ยังเต็มไปด้วยเส้นเลือดอันเป็นสัญลักษณ์ของบาป นั่นคืออาการของการกำลังกลายร่างเป็นปีศาจอย่างสมบูรณ์!
“กลิ่นเมื่อครู่นี้ เป็นท่านจริงๆ ด้วย…” เฮ่อเหลียนเวยเวยยังคงไร้เรี่ยวแรง นางขมวดคิ้วทันทีที่ลืมตาขึ้น ”ท่านเป็นอะไรไป ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย”
หยวนหมิงกระโดดออกมาจากมิติสวรรค์และตะโกนขึ้นอย่างเป็นกังวลว่า ”เวยเวย รีบอยู่ให้ห่างจากเขา! เขากำลังจะกลายเป็นปีศาจ!”
“กลายเป็นปีศาจหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยมองใบหน้าหล่อเหลาเกินคนของชายที่อยู่ตรงหน้านาง จากนั้นจึงหันไปมองที่นิ้วของเขา นิ้วพวกนั้นยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด นางรีบคว้ามือที่บาดเจ็บของเขาขึ้นมาทันทีโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาจะกำลังกลายร่างเป็นปีศาจหรือไม่ ”มือของท่าน!”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยชะงัก เจ้าตัวเล็กนี่ไม่รู้จริงหรือว่าเขากำลังจะดูดเลือดนางจนแห้งไปทั้งตัว
นางยังมัวแต่เป็นห่วงมือของเขาได้อย่างไร
หึ มนุษย์ช่างโง่เขลาเหมือนอย่างที่เขาคิด
ทันทีที่ความคิดนี้แล่นเข้ามาในใจของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย
เฮ่อเหลียนเวยเวยก็ประทับริมฝีปากลงที่นิ้วของเขาพร้อมกับพึมพำว่า ”ให้ข้าห้ามเลือดและฆ่าเชื้อแผลพวกนี้ก่อน”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวของหัวใจที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจ้องมองใบหน้าเล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้า ความร้อนจากร่างของนางไหลบ่าลงไปถึงส่วนลึกที่สุดในหัวใจของเขา…
“เวยเวย” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับนิ่วหน้าเล็กน้อย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา
ภาพจำนวนนับไม่ถ้วนไหลเข้ามาในความคิดของเขา ภาพตอนที่เขายืนอยู่หน้าพระพุทธรูปทองคำสูงสุดสายตาบนสวรรค์ระหว่างขัดขืนการเกิดใหม่ในภพภูมิทั้งหก
ภาพตอนที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์โดยมีบรรดาปีศาจเต้นรำอยู่แทบเท้า
ภาพตอนที่เขาสังหารเหล่าปีศาจและพระพุทธองค์อย่างแน่วแน่และไม่เคยยอมแพ้
เวลาพลบค่ำมาเยือนหลังจากหายนะและการตายของบรรดาเทพบนสวรรค์ จากนั้นเขาก็ตกอยู่ในความโกลาหล และร่วงหล่นลงมาจากฟ้าในที่สุด
แต่อย่างไรสิ่งเหล่านั้นก็เป็นเพียงแค่กลลวงอันแสนน่าเบื่อสำหรับเขา
ภาพสุดท้ายที่ค้างอยู่ในหัวของเขาคือภาพของนางที่กำลังก้มหน้าก้มตาเลือกขนมให้เขา…
เล็บอันแหลมคมของเขาจิกลงบนฝ่ามือ เลือดที่ไหลออกมาซึมเข้าไปตามรอยขาดบนเสื้อคลุมของเขา
“เจ้า… อยู่ให้ห่างจากข้า”
เขาผลักเฮ่อเหลียนเวยเวยออก ผมสีเข้มยุ่งเหยิงทิ้งตัวลง ปลายนิ้วสีดำสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับการสั่นสะเทือนนั้นจะสามารถช่วยยับยั้งความปรารถนาที่จะสูบกินเลือดเนื้อลงได้
อะไรบางอย่างจู่โจมเขาจากด้านหลัง มันเป็นการต่อต้านจากผนึกขับไล่วิญญาณ แสงแห่งพระธรรมรวมกันกลายเป็นลำแสงสีทอง มันฉวยโอกาสจากความสับสนและความอ่อนแอของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเพื่อทำลายล้างเขา และทำให้เขาดับสูญไปตลอดกาล
เฮ่อเหลียนเวยเวยหรี่ตา แล้วหมุนตัวกลับไปปกป้องไป๋หลี่เจียเจวี๋ยราวกับเป็นกำแพง แสงเรืองรองสว่างไสวแผดเผาอยู่ที่ด้านหลังของนางจนกระทั่งดับลง
แต่ทันใดนั้นจู่ๆ เลือดปีศาจในร่างของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็เดือดพล่าน เขายกมือขึ้น ก่อนจับเข้าที่คางของเฮ่อเหลียนเวยเวย
ริมฝีปากของเขาอ้าแล้วก็หุบ เส้นเลือดบนใบหน้าของเขาเริ่มเรืองแสงเป็นสีแดงราวกับดอกไม้อันงดงามที่เบ่งบานอยู่บนใบหน้าของเขา ความหล่อเหลาและความชั่วร้ายนั้นยากจะหาใดมาเปรียบ
จากนั้นเขาก็ต่อยพื้นดินข้างตัวของเฮ่อเหลียนเวยเวย พื้นดินบริเวณนั้นแตกออกเป็นช่องว่างทันที
ไม่ว่าการกระทำของชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์อย่างแท้จริงผู้นี้จะหยาบคายเพียงใด แต่ความสง่างามที่เขามีมาตั้งแต่กำเนิดก็ยังเปล่งประกายออกมาให้เห็นโดยไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้รักษามารยาทหรือใส่ใจกับรายละเอียดใด เพราะหลังจากเวลาล่วงเลยมาหลายพันปี สิ่งเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาไปเสียแล้ว
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยพยุงร่างของตัวเองด้วยมือขวา ขณะที่กดมืออีกข้างเข้ากับดวงตาตัวเอง หยดเลือดไหลผ่านนิ้วของเขาเพราะเขาจงใจทำร้ายตัวเองเพื่อให้ยังสามารถรักษาสติสัมปชัญญะที่เหลือน้อยนิดเอาไว้
แต่เขาก็ยังไม่สามารถต้านทานสัญชาตญาณที่ต้องการกลายร่างเป็นปีศาจได้!
นัยน์ตาสีแดงของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหรี่ลง มีเสียงโครมครามดังขึ้น จากนั้นโคมเปลี่ยนวิญญาณที่เคยสว่างไสวก็หล่นลงมาจากผนังทั้งสองด้าน มันตกลงพื้นและแตกกระจายกลายเป็นกลีบดอกไม้
ตอนนั้นเองที่กิเลนอัคคีรีบกระโจนเข้ามาหาเขา มันพยายามข่มความเจ็บปวดจากการถูกแสงแห่งพระธรรมเสียบทะลุร่างเพียงเพราะต้องการทำให้ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกลับเป็นตัวเขาคนเดิม
แต่ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว
แม้กระทั่งไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเองก็รู้เรื่องนั้น
ข้าจะทำร้ายนางไม่ได้ ข้าทำร้ายนางไม่ได้เด็ดขาด!
แสงสีแดงปรากฏขึ้นในดวงตาเขาเป็นครั้งสุดท้าย ทันใดนั้นไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็คว้าแสงอันคมกริบราวกับดาบจากผนึกนั้นมาไว้ในมือ และแทงมันเข้าไปในร่างตัวเองอย่างไร้ซึ่งความปรานี
ใบมีดแหลมคมนั้นแทงทะลุไหล่ข้างซ้ายของเขา เจาะทั้งเสื้อคลุมและกระดูกผีเสื้อของเขาไปพร้อมกัน
หยดเลือดไหลทะลักเข้าสู่ดวงตาของเฮ่อเหลียนเวยเวยทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปจนนางไม่ทันตั้งตัว
ชายที่อยู่ตรงหน้านางเซไปข้างหลัง เสื้อคลุมสีดำของเขาลอยขึ้นก่อนจะกลายเป็นขนนกสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน สีดำที่บริเวณปลายนิ้วของเขาเลือนหายไปและกลับมาใสดังเดิม ใบหน้าของเขายังคงสง่างาม หล่อเหลา แต่เย็นชา เสน่ห์อันชั่วร้ายของมันทำให้เขาดูเหมือนกับดอกม่านถัวหลัวที่เบ่งบานตอนเที่ยงคืนและเผยความงดงามเย้ายวนออกมาอย่างรุนแรง
เสื้อคลุมสีดำไร้รอยมลทินของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือก คราบเลือดนั้นกลับมองเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่าสีของเสื้อคลุม แต่เฮ่อเหลียนเวยเวยก็รู้ว่าเขาแทงตัวเองลึกมากทีเดียว
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาเช่นใด ในเวลานี้สิ่งเดียวที่เหลือจากความเยือกเย็นของนางมีแต่เพียงอาการตัวสั่นเท่านั้น นางยังพยายามกดแผลของเขาสุดแรงเพื่อหยุดเลือด นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางได้ลิ้มรสสิ่งที่เรียกว่าความตื่นตระหนก
แสงจากผนึกขับไล่วิญญาณจางหายไป กิเลนอัคคีรีบทะยานเข้าไปหาเขาอย่างกระวนกระวาย เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ดวงตาของมันก็พลันสั่นไหว มันรีบลงมือในทันที มันตั้งใจจะนำชิ้นส่วนวิญญาณใส่กลับเข้าไปในร่างของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย แต่เศษชิ้นส่วนวิญญาณเหล่านั้นกลับดูเหมือนจะถูกอะไรบางอย่างขวางเอาไว้ พวกมันไม่สามารถเข้าไปในร่างของเขาได้…