องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 581 นอนกับองค์ราชา
“วันนี้เจ้าต้องนอนในกรง” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเอ่ยอย่างช้าๆ ”ข้ารู้ว่าข้ามีเสน่ห์มากเกินไป และมักจะทำให้ผู้หญิงมีความคิดอันไม่เหมาะสมอยู่บ่อยๆ แต่ข้าต้องขอเตือนเจ้าว่า อย่าได้พยายามปีนขึ้นมาบนเตียงและลอบจู่โจมข้าเป็นอันขาด เป็นเหยื่อก็ต้องทำตัวให้สมเป็นเหยื่อ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้ว ”คำว่า ’มีเสน่ห์’ ควรจะเป็นคำที่ใช้ชมคนอื่นมิใช่หรือ ท่านชมตัวเองเช่นนี้ไม่คิดว่ามันประหลาดไปหน่อยหรือ”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหยุดเคลื่อนไหว แล้วพูดราวกับไม่แยแสว่า ”อย่าเสียเวลามาเถียงกับข้าในเรื่องที่เป็นความจริงอยู่แล้วเลย กลับไปที่กรงของเจ้าได้แล้ว ถ้าเจ้าหิวก็บอกข้า มนุษย์อย่างเจ้าดูจะชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ”
หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่า ’มนุษย์อย่างเจ้าดูจะชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ’? ข้าไม่ใช่หมูเสียหน่อย! เฮ่อเหลียนเวยเวยบ่นในใจ
แต่ท่าทางของชายคนนี้กลับเย็นชายิ่งนัก นางรู้สึกว่าถ้านางพูดอะไรออกไปอีกแม้แต่คำเดียวละก็ เขาคงได้ถีบนางออกจากวังปีศาจแน่
เขาต่างจากชายในอดีตที่ทนนางได้ทุกอย่าง…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฮ่อเหลียนเวยเวยก็ยิ้มเย้ยหยัน
อย่าโง่ไปหน่อยเลย
แทนที่จะมัวแต่คิดถึงอดีต ทำไมถึงไม่คิดหาวิธีจัดการไป๋หลี่เจียเจวี๋ยผู้โหดร้ายเย็นชาคนนี้แทนล่ะ
โชคดีที่กรงของเฮ่อเหลียนเวยเวยตั้งอยู่ข้างเตียงของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย
จากความคิดของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย เขาคิดว่าสัตว์เลี้ยงควรจะอยู่ในที่ที่เขาสามารถมองเห็นได้ เขาจะได้เล่นกับมันได้ทุกเวลา
“ยกมือขึ้น” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเดินเข้ามา เส้นผมของเขายังเปียกชื้นอยู่ เขาโน้มตัวลงแล้วยื่นมือออกไปหาเฮ่อเหลียนเวยเวยที่อยู่ในกรง
เฮ่อเหลียนเวยเวยกำลังหลับสบาย ผ้าห่มในกรงทั้งหนาและอบอุ่น นางเงยหน้าขึ้นทั้งที่ยังสะลึมสะลืออยู่ ”เอาไปทำไม”
“สัตว์เลี้ยงควรจะกล่าวราตรีสวัสดิ์กับเจ้านายมิใช่หรือ” ริมฝีปากของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกระตุกขึ้น แต่มันกลับดูไม่เหมือนรอยยิ้มเลยแม้แต่นิดเดียว
เฮ่อเหลียนเวยเวยมองเขาเป็นครั้งที่สอง จากนั้นจึงยกมือขึ้น
ในที่สุดไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็พอใจ เขาดึงมือของนางเข้าหาตัวแล้วบีบมัน ”ดีมาก อย่ากรนเวลานอนล่ะ ข้าเกลียดเวลาที่รอบตัวมีเสียงดัง”
“เจ้าค่ะ” เมื่อเห็นท่าทางที่เขาใช้ออกคำสั่งกับนาง เฮ่อเหลียนเวยเวยก็รู้สึกจนปัญญา เพราะมันทำให้นางนึกถึงตอนที่นางออกคำสั่งกับเจ้าทิเบตันมาสทิฟฟ์ที่นางเคยเลี้ยงไว้ในอดีต
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยลูบศีรษะของนาง มันให้ความรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด จากนั้นเขาจึงหรี่ตาลง ”แล้วก็ เจ้าจะลองพยายามหาทางหนีก็ได้ แต่ข้าอาจจะฆ่าเจ้าทันทีที่ข้าหงุดหงิดขึ้นมา”
ท่านพูดเช่นนี้แล้วใครที่ไหนจะไปกล้าหนีกัน!
“เอาล่ะ มานี่สิ ข้าจะถอดชุดออกให้ แล้วเราจะได้นอนกันเสียที” เสียงของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยนั้นแผ่วเบา เพียงแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องที่เขาพยายามจะพูดออกมานั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเช่น พรุ่งนี้เราจะทานโหยวเถียว เป็นอาหารเช้า
เฮ่อเหลียนเวยเวยเคลื่อนสายตาขึ้นมองเขา ”ข้าเป็นผู้หญิง ผู้ชายแตะต้องผู้หญิงย่อมไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกดเสียงลง ”ข้าจะพูดอีกครั้ง มานี่”
“ไม่ ข้าทำเองได้” เฮ่อเหลียนเวยเวยยืนกราน
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเหยียดยิ้ม ”ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเจ้าสร้างปัญหาให้เราอีกแล้ว”
ท่านช่วยหยุดเหยียดชาติพันธุ์สักทีได้หรือเปล่า เฮ่อเหลียนเวยเวยคิด
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่สนใจเจ้าหรอก” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยบอกพลางใช้นิ้วเคาะมุมหนึ่งของกรงที่นางอยู่เบาๆ ”แต่การเปลื้องผ้าเหยื่อเป็นหนึ่งในความสนุกของข้า”
เฮ่อเหลียนเวยเวยกระแอม ”ท่านมีความสนใจที่ผิดมนุษย์อยู่ไม่น้อยทีเดียว ท่านเคยจับเหยื่อเปลื้องผ้ามากี่คนหรือ”
“ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหลุบตาลง และใช้นิ้วยาวของตนแหวกชุดของนางออก ”แต่ข้าเคยโกนขนให้อสูรกลืนนภาอยู่ครั้งหนึ่ง ข้าคิดว่าวิธีการน่าจะเหมือนกัน”
คงมีแค่ท่านคนเดียวเท่านั้นที่เห็นว่าการจับคนอื่นเปลื้องผ้าและการโกนขนให้สัตว์เป็นสิ่งเดียวกัน!
“ดูเจ้าไม่ค่อยพอใจนัก” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยลดเสียงลงและใช้นิ้วของตัวเองจิ้มใบหน้านาง จากนั้นจึงอบรมนางต่อ ”เจ้าไม่ควรแสดงอารมณ์ของตัวเองออกมาให้เจ้านายเห็น”
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่รู้จะพูดอะไรอีก นางแทบจะมองเห็นอนาคตการเป็นเหยื่อที่ว่านี่แล้วด้วยซ้ำ
แต่มันเป็นสิ่งที่นางยอมรับไม่ได้ ถ้านางต้องการพาเขากลับไปพร้อมกันกับนาง การเป็นแค่เหยื่อของเขาย่อมไม่เพียงพอ…
กลิ่นไม้จันทน์อันคุ้นเคยของชายหนุ่มลอยเข้าจมูก และเฮ่อเหลียนเวยเวยเพิ่งตระหนักได้ว่าเขาเริ่มลงมือถอดชุดของนางออกก็ในตอนนั้นนั่นเอง
เขาทำเพียงแค่ถอดชุดของนางออกจริงๆ บนใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งขนตาหนานั่นก็ยังไม่กะพริบเลยสักครั้ง แต่ฝีมือของเขายังจัดว่าขาดการฝึกฝนอยู่เล็กน้อย
ฝ่าบาทถอดชุดให้นางเหมือนกับว่ามันเป็นเพียงแค่หน้าที่!
ไม่ใช่ว่าพวกนางไม่เคยร่วมรักกันมาก่อน แต่ในระหว่างที่เขากำลังค่อยๆ ถอดชุดของนางออกนั้น เฮ่อเหลียนเวยเวยพลันรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ หัวใจของนางเริ่มเต้นแรง
นางรู้สึกได้ถึงความเย็นจากปลายนิ้วของเขาที่อยู่บนผิวนาง และนั่นทำให้นางตัวสั่น
สุดท้ายเมื่อชุดของนางถูกถอดออกจนหมดแล้ว เฮ่อเหลียนเวยเวยจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และกำลังจะลุกขึ้นยืน
แต่ทันใดนั้นนางก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ข้างตัว ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยผลักร่างของนางแนบไปกับพื้น พร้อมกับใช้นิ้วของตัวเองลูบผิวขาวผ่องของนางอย่างช้าๆ ขณะใช้มืออีกข้างยึดศีรษะของนางไว้ ดวงตาของเขาประสานกับนาง
การลงมืออย่างกะทันหันนั้นทำให้หัวใจของเฮ่อเหลียนเวยเวยถึงกับเต้นผิดจังหวะ
เขาเอนร่างท่อนบนมาอยู่เหนือร่างของนาง แสงอันนุ่มนวลรอบบริเวณนั้นส่องเข้าไปในดวงตาของเขา แสงนั้นทำให้คิ้วและดวงตาของเขาดูสูงส่งยิ่งขึ้น ริมฝีปากบางสีอ่อนที่อยู่ใต้จมูกโด่งนั้นเผยอขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงใช้น้ำเสียงทุ้มต่ำเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เอ่ยขึ้นว่า ”คืนนี้นอนกับข้า”
คืนนี้นอนกับข้า…
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ ผิวทุกตารางนิ้วของนางก็สั่นเล็กน้อยเพราะกลิ่นกายของเขา
ถ้าเขาสนใจนางขึ้นมาจริงๆ นางก็น่าจะสามารถพาเขากลับไปพร้อมนางได้ง่ายขึ้น
แต่ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกลับพูดต่อว่า ”ข้าเกลียดของเย็นๆ ตัวเจ้าอุ่น ถ้าได้นอนกอดเจ้าคงจะหลับสบายน่าดู”
เขาเห็นนางเป็นหมอนข้างหรือ
เมื่อครู่นี้นางเพียงแค่ใจเต้นไปเองทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรหรือ!?
ในสายตาของเขา นางก็เป็นเหมือนกับแมวไม่ก็สุนัขตัวหนึ่ง
แม้สายพันธุ์จะแตกต่างกัน แต่มีอะไรที่จะทำให้เขาสนใจได้มากกว่านั้นหรือ
เฮ่อเหลียนเวยเวยถอนหายใจยาว นางคิดมากเกินไปจริงๆ
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยช้อนตัวนางขึ้นโดยไม่พูดไม่จา นิ้วมือของเขาแนบอยู่บนแผ่นหลังเนียนของนาง เขากอดนางเหมือนกอดผ้าห่ม จากนั้นจึงค่อยๆ หลับตาลง
เป็นอย่างที่เขาพูด เขาไม่ได้คิดที่จะเอาเปรียบนาง แม้กระทั่งท่าที่เขากอดนางอยู่ก็ยังสง่างามเกินบรรยาย
แต่เฮ่อเหลียนเวยเวยกลับหลับไม่ลง
มือที่ลูบไล้อยู่บนแผ่นหลังของนางนั้นชัดเจนเกินไป ใบหน้าของนางอยู่ใกล้ชิดกับแผ่นอกของเขามากเสียจนได้กลิ่นเย็นๆ ประจำตัวเขาเลยด้วยซ้ำ
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้วิธีนับแกะ
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยคนที่หนึ่ง ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยคนที่สอง ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยคนที่สาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยคนที่สี่…
แต่คาดไม่ถึงว่าจู่ๆ ชายคนนั้นจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วใช้น้ำเสียงอันเย็นชาและถือดีนั้นเอ่ยว่า ”เจ้าไม่คิดที่จะจูบราตรีสวัสดิ์เจ้านายสักหน่อยหรือ”