องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 782 องค์ชายยอมศิโรราบ
ดวงตาของเฮ่อเหลียนเวยเวยเป็นประกายขึ้นมาทันที แล้วงอขาที่เหยียดอยู่เข้าหากัน บนใบหน้าของนางมีความตื่นเต้นปรากฏขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ”นอกจากในท้องของข้าจะมีเด็กอยู่สองคน! ใช่แล้ว! จะต้องเป็นเช่นนี้แน่ๆ!” เฮ่อเหลียนเวยเวยเหลือบมองไป๋หลี่เจียเจวี๋ยด้วยดวงตาเปี่ยมด้วยความยินดี ”มีความเป็นไปได้สูงทีเดียวที่คนเป็นพ่ออย่างท่านจะมองข้ามกลิ่นของเด็กอีกคนไป เพราะพลังปีศาจของหนึ่งในนั้นแข็งแกร่งมากเกินไป แต่สำหรับสัตว์อสูรแล้ว พวกเขาสัมผัสถึงพลังปีศาจของเด็กคนนั้นไม่ได้เพราะกลิ่นอายของข้าช่วยปิดบังกลิ่นของเขาเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ สัตว์อสูรพวกนั้นจึงได้กลิ่นพลังวิญญาณอันอ่อนแอที่รั่วซึมออกมาจากร่างของทารกอีกคน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมสัตว์อสูรในน้ำตกซางไฮ่ถึงได้พยายามเข้ามาหาข้าในระหว่างทางมายังสุสานโบราณแห่งนี้ แต่มันก็ทำไม่สำเร็จเพราะท่านไล่มันไป หากลองคิดดูให้ดี ถ้ามันอยากกินใครสักคนจริงๆ มันก็ควรพุ่งไปที่จูเก่ออวิ๋นที่มีพลังวิญญาณมากกว่าข้ามิใช่หรือ ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเด็กคนนี้นี่เอง!” ดวงตาของเฮ่อเหลียนเวยเวยเป็นประกายสดใสขณะยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัว น้ำเสียงของนางนุ่มนวลขึ้นราวกับว่าถ้าเป็นเรื่องลูก นางจะสามารถโอบกอดโลกทั้งใบได้อย่างอ่อนโยน ถ้าผู้เฒ่าหลี่อยู่ที่นี่ตอนนี้ เขาจะต้องคิดว่าภาพนี้ดูคุ้นตาอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่
เฮ่อเหลียนเวยเวยยังคงจดจ่ออยู่กับการพึมพำให้ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยฟังว่า ”ลูกสองคน แต่ในวังหลวงมีรองเท้าหัวเสือเพียงแค่คู่เดียวเท่านั้น ชุดที่มากับมันก็เหมือนกัน ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เสด็จปู่สั่งให้ข้ารับใช้ทำเปลมังกรขึ้นมาแค่ปากเดียว ตอนนี้ดูเหมือนเราคงต้องทำเพิ่มขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเสียแล้ว แล้วเราก็จะต้องเตรียมถ้วยกับตะเกียบเล็กๆ สำหรับเด็กผู้ชายเอาไว้ให้เขาด้วยเพราะก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกไว้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นผู้ชาย แล้วอีกคนหนึ่งเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรือ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง เช่นนั้นพวกเราคงต้องเตรียมของสำหรับองค์หญิงน้อยไว้ด้วยเสียแล้ว ดูเหมือนว่าหลังจากกลับไป เราจะยังมีงานให้ต้องทำกันอีกมากทีเดียว ข้าอยากรู้จังว่าถ้าจับเด็กสองคนนี้มาอยู่ด้วยกัน พวกเขาจะทะเลาะกันหรือจะกอดกันแน่นกันแน่ พอถึงตอนนั้น ข้าจะให้ทั้งสองสะพายกระเป๋าใบเล็กๆ ไปที่สำนักไท่ไป๋ ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะต้องดูน่ารักน่าชังมากแน่ๆ!”
ทารกที่ตัวเล็กกว่าชะงักไปทันทีที่ได้ยินคำพูดของเฮ่อเหลียนเวยเวย ความรู้สึกอบอุ่นเข้ามาเติมเต็มความรู้สึกผิดที่เขามีอยู่ในตอนแรกอย่างช้าๆ เขาเคลื่อนสายตาไปมองทารกที่ตัวโตกว่าด้วยสีหน้าน่ารัก ”ท่านแม่รู้เรื่องข้าแล้วขอรับ ท่านพี่ ท่านแม่รู้เรื่องข้าแล้ว ตอนนี้ท่านแม่รู้ถึงการมีอยู่ของข้าแล้วขอรับ!
“อืม” ทารกที่ีตัวโตกว่าก้มหน้าลงพลางเรียนรู้จากการสัมผัสของท่านแม่ แล้วใช้ความรู้ที่มีลูบศีรษะของทารกที่ตัวเล็กกว่า ”ยิ่งกว่านั้น ข้าก็ยังสามารถบอกได้อีกด้วยว่าท่านแม่รักเจ้า เจ้าดูสิว่านางดูมีความสุขเพียงใด”
แน่นอนว่าทารกที่ตัวเล็กกว่าได้เห็นภาพนั้นกับตา ดวงตาคู่โตของเขาตวัดมองไปทางผู้เป็นพี่ระหว่างกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า ”ท่านพี่ พวกเราต้องออกไปด้วยกันนะขอรับ พวกเราจะทำให้ท่านแม่ผิดหวังไม่ได้”
“แน่นอนอยู่แล้ว” ทารกที่ตัวโตกว่ารับคำพร้อมกับโอบแขนรอบทารกที่ตัวเล็กกว่า
เวลานี้ทารกที่ตัวโตกว่าสูงกว่าทารกอีกคนกว่าครึ่งศีรษะ ตอนแรกทั้งสองตัวเล็กจิ๋วจนแทบเรียกว่าเด็กทารกยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ถึงทารกที่ตัวโตกว่าจะมีสีหน้าอวดดีราวกับผู้ใหญ่ แต่เวลาที่เขากอดทารกที่ตัวเล็กกว่า ความไม่เป็นมิตรที่เขามีในยามไล่จับวิญญาณคนตายก็พลันหายไปทันที แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เขากลับมีท่าทางราวกับพี่ชายผู้แสนดี นอกจากนั้นเขายังเป็นคนที่ก้มหน้าลงจูบหน้าผากของทารกที่ตัวเล็กกว่าอีกด้วย ภาพนี้ดูน่ารักและเต็มไปด้วยความอบอุ่นอย่างมาก
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยชะงักไปครู่หนึ่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีลูกถึงสองคน
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ นอกจากเจ้าเด็กนั่นแล้ว ยังมีมนุษย์อีกคนอยู่อีก
มนุษย์เหมือนกับเฮ่อเหลียนเวยเวยหรือ
ดวงตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจมลง ทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวลง พร้อมกับใช้นิ้วไล้ไปตามขาของเฮ่อเหลียนเวยเวย
คราวนี้เขาไม่ได้จุมพิตริมฝีปากของเฮ่อเหลียนเวยเวย
ริมฝีปากของเขาแตะลงบนข้อเท้าข้างที่ได้รับบาดเจ็บแทน จากนั้นจึงใช้ลิ้นของตัวเองเลียเลือดสดๆ ที่อยู่บนนั้น
ถ้าเด็กอีกคนเป็นมนุษย์ เช่นนั้นเห็นทีพวกเขาคงต้องเร่งมือเสียแล้ว
เขาเป็นปีศาจ ดังนั้นจึงเข้าใจธรรมชาติของปีศาจดียิ่งกว่าใคร
ปีศาจเกิดมาเพื่อพรากชีวิต แม้บางครั้งพวกมันจะไม่อยากทำเช่นนั้นก็ตาม
วันใดที่เขาต้องการสารอาหารมากขึ้นเพื่อรักษาร่างของตัวเอง วันนั้นเขาจะต้องทำร้ายเด็กอีกคนหนึ่งอย่างแน่นอน!
มันไม่เคยมีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน
คนหนึ่งเป็นปีศาจ ส่วนอีกคนเป็นมนุษย์…
มันไม่ต่างอะไรไปจากการจับหมาป่ากับแกะมาขังรวมกัน และในไม่ช้า แกะก็จะต้องกลายเป็นอาหารของหมาป่า
พูดเช่นนี้อาจดูโหดร้าย
แต่นี่คือสิ่งที่ปีศาจเป็น พวกมันเจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัวมาตั้งแต่เกิด
ไม่ว่าภายนอกนั้นพวกมันจะเสแสร้งเป็นคนดีหรือสง่างามเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
เช่นเดียวกันกับที่เขารู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้เป็นคนของโลกนี้ ดังนั้นพวกเขาย่อมถูกกำหนดให้ต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ นานาในอนาคต
แต่เขาก็ยังฝืนบังคับให้นางอยู่เคียงข้างเขา และไม่อยากให้ใครคนอื่นได้เห็นนางเลยด้วยซ้ำ
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหัวเราะกับตัวเองอย่างเย้ยหยัน ช่างเป็นความต้องการอยากครอบครองที่บ้าคลั่งยิ่งนัก
บางทีเสด็จแม่ที่เขามีตอนยังอยู่ในโลกมนุษย์อาจพูดถูกแล้วก็ได้ว่าเขาแตกต่างจากคนปกติ
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่นางก็ต้องอยู่เคียงเขา ต่อให้เขาจะต้องเปลี่ยนชะตาชีวิตของนาง หรือจะต้องทำให้เลือดเปื้อนแผ่นดินไปด้วยก็ตาม!
เขาคล้ายกับผู้พิทักษ์ของตระกูลผู้ขับไล่วิญญาณร้ายตรงจุดนี้
แต่ในชาตินี้เขาพบนางก่อน
แต่ผู้พิทักษ์คนนั้น หึ เขากลับเข้าใจผิดว่าคนอื่นเป็นนางกลับชาติมาเกิด
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในสมัยที่พวกเขายังเป็นเทพอยู่
เลือดของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำหลังจากตกจากสวรรค์
เขาไม่ได้เพียงแค่ดูถูกเทพเท่านั้น แต่ยังดูแคลนปีศาจอีกด้วย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างก็เหมือนกันสำหรับเขา
มีแค่นาง มีแค่เฮ่อเหลียนเวยเวยคนเดียวที่เขาต้องการ
เขาไม่สนใจว่าตาแก่พวกนั้นจะพูดความจริงหรือไม่
ต่อให้คนที่นางชอบเมื่อก่อนจะไม่ใช่เขาก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
แต่คนที่เป็นเจ้าของนางในเวลานี้ก็คือเขา!
ทันทีที่เลือดของนางเข้าไปสู่คอของเขา ดวงตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็กลายเป็นสีแดงเข้มทันที
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่รู้ว่าไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกำลังคิดอะไรอยู่ นางรู้สึกได้เพียงอาการชาจากจุดที่เขาจูบนางเท่านั้น ดังนั้นนางจึงอยากชักขากลับมา ”นี่ ท่านทำอะไร ท่านไม่คิดว่าเลือดมันสกปรกหรือ”
“ไม่เลย มันหวานมาก” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเลียริมฝีปากบางของตัวเอง ดวงตาดอกท้อของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้ผมสีดำนั้นฉายรอยยิ้มขึ้นแวบหนึ่ง ท่าทางอันน่าหลงใหลและทรงเสน่ห์นั้นย่อมสามารถดึงความสนใจจากเด็กสาวได้แทบทุกคน ”แต่ต้องฆ่าเชื้อเสียก่อน”
ทันทีที่พูดจบ เขาก็เกร็งนิ้วแล้วใช้ปลายนิ้วสีดำแทงเข้าไปในฝ่ามือตัวเอง เลือดสดไหลลงจากฝ่ามือของเขา ก่อนหยดลงบนบาดแผลของนาง
นอกจากเฮ่อเหลียนเวยเวยแล้ว ทารกทั้งสองที่อยู่ในท้องของนางก็ยังตกใจกับการกระทำของเขาเช่นกัน
พวกเขารู้ดีว่า ’อาวุธ’ ที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างความเสียหายให้กับปีศาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปีศาจระดับสูงเช่นเขาคือการดูดเลือดออกจากร่างกาย
สำหรับปีศาจแล้ว เลือดเป็นตัวแทนของการทำสัญญา ยิ่งกว่านั้นมันยังหมายถึงการยอมจำนนตลอดชีวิตอีกด้วย
ดังนั้นเลือดทุกหยดของปีศาจจึงมีค่าเป็นอย่างยิ่ง
มันไม่ได้เพียงแค่ช่วยชุบชีวิตคนได้ แต่ยังสามารถช่วยรักษาบาดแผลได้อย่างรวดเร็ว
แต่ปีศาจจะต้องเป็นฝ่ายที่แบกรับความเจ็บปวดนั้นแทนผู้เคราะห์ร้าย
ดวงตาของเฮ่อเหลียนเวยเวยจ้องเขม็งอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลายิ่งกว่าคำว่าสมบูรณ์แบบอย่างตกตะลึง
หมายความว่าต่อไปในอนาคต เขาก็จะขอยอมจำนนต่อข้าโดยสมบูรณ์หรือ
ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาทำสัญญาร่วมกัน พวกเขาตกลงกันเพียงว่าเมื่อวันนั้นมาถึง วิญญาณของนางจะเป็นของเขาเท่านั้น
นี่คือจุดที่ปีศาจเจ้าเล่ห์ที่สุด แม้นั่นจะเป็นสัญญาที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นกับความตาย แต่ปีศาจก็มักจะเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์มากกว่าเสมอ
แต่ใช่ว่าปีศาจทุกตนจะยินยอมศิโรราบต่อมนุษย์
แต่เวลานี้ เขาได้เพิ่มน้ำหนักให้กับสัญญาฉบับนี้เสียแล้ว…