องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 802 เกลี้ยกล่อมองค์ชาย
”ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร” ตอนนี้บุตรแห่งราชานรกปรายตามองนางด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร ”ไปให้พ้นเลย จากนี้ไปเจ้าเป็นศัตรูหัวใจอันดับหนึ่งของข้าแล้ว!”
เฮ่อเหลียนเวยเวยหัวเราะ ก่อนจะดึงบุตรแห่งราชานรกเข้ามาใกล้ๆ ”เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ”
”ข้าไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ทีนี้ก็ปล่อยข้าได้แล้ว แล้วก็ช่วยระวังพฤติกรรมของตัวเองด้วย ข้าเป็นชายมีครอบครัวแล้ว” บุตรแห่งราชานรกพูดกับเฮ่อเหลียนเวยเวย แต่เขาก็ยังไม่ลืมที่จะจัดการปีศาจที่พุ่งเข้ามาไปพร้อมกัน
ชายที่มีครอบครัวแล้วกับผีน่ะสิ! เจ้ายังเป็นแค่เด็กอยู่นะ!
เฮ่อเหลียนเวยเวยหรี่ตาจ้องเขา จากนั้นจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า ”วันนี้เจ้าดูหล่อเหลายิ่งนัก”
บุตรแห่งราชานรกชะงักการเคลื่อนไหวไปในทันที ก่อนจะกลับมามีสีหน้าขึงขัง แล้วเอ่ยอย่างอวดดีว่า ”เจ้าทำอะไรไม่เก่งสักอย่าง แต่อย่างน้อยเจ้าก็เป็นผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ”
”พออยู่ในชุดนี้ เด็กหนุ่มรูปงามอย่างเจ้าช่างหล่อเหลาสมบูรณ์แบบเสียจริง” เฮ่อเหลียนเวยเวยยังคงหยอดคำหวานเพื่อเอาอกเอาใจเขา
บุตรแห่งราชานรกชอบอกชอบใจในคำชมของนาง เขาจับต้นขาของเฮ่อเหลียนเวยเวยไว้แน่นและไม่คิดที่จะสนใจปีศาจพวกนั้นอีก เขาตัดสินใจยกปีศาจเหล่านั้นให้ราชาปีศาจเป็นคนจัดการ จากนั้นเขาจึงพูดกับนางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า ”เห็นแก่ที่เจ้าเป็นคนมีรสนิยม ข้าจะเล่าทุกอย่างที่ข้ารู้ให้ฟังก็แล้วกัน สมัยนั้นเจ้าทำความผิดลงไปเพราะปฏิเสธโอกาสที่พระพุทธศาสนาหยิบยื่นให้อย่างไม่สำนึกในบุญคุณ ส่งผลให้ทัณฑ์สายฟ้าจากสวรรค์ทำงาน หงส์เพลิงคือพลังธรรมะของเจ้า เจ้าเกิดในนรก แต่แสงแห่งพระพุทธคุณก็สาดส่องลงไปถึงเจ้า จึงเป็นธรรมดาที่สาวกของพระพุทธศาสนาจะต้องการให้เจ้าเข้าร่วมกับพวกเขา ส่วนเรื่องที่เจ้ากลายเป็นพระอรหันต์ได้อย่างไรนั้น ข้าไม่รู้จริงๆ แต่ดูจากนิสัยของเจ้าแล้ว มันคงไม่เกี่ยวกับการที่เจ้าเป็นมังสวิรัติหรือท่องบทสวดเป็นแน่”
”ก็จริง เจ้ารู้จักข้าดีทีเดียว” เฮ่อเหลียนเวยเวยตบบ่าเด็กชาย ”แล้วเจ้าวางแผนจะโจมตีเมืองแห่งผู้ขับไล่วิญญาณร้ายอย่างไรหรือ ปีศาจมีจำนวนมากเกินไป อย่างไรเราก็คงจำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากกองทัพของยมโลกมิใช่หรือ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะช่วยรักแท้ของเจ้าได้อย่างไร”
บุตรแห่งราชานรกหรี่ดวงตาสีแดงของตัวเอง ”เจ้าหมายความว่าอย่างไร พวกเรากำลังช่วยรักแท้ของข้าอยู่หรือ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่ต่างหาก!”
”หากเส้นทางนรกถูกบิดเบือน เสี่ยวโกวของเจ้าจะไม่ได้เกิดมา ข้าเข้าใจถูกไหม” เฮ่อเหลียนเวยเวยดีดตัวอักษร ”王” ที่อยู่บนหน้าผากของเขา ”ถ้าไม่มีจุดประสงค์แอบแฝง จิ้งจอกน้อยชั่วร้ายจอมเจ้าเล่ห์อย่างเจ้าย่อมไม่มีทางยอมช่วยข้าหรอก”
บุตรแห่งราชานรกยกมือขึ้นปิดหน้า แล้วพูดว่า ”เจ้าใช้คำว่าชั่วร้ายกับเด็กได้อย่างไร ข้ายังเป็นแค่เด็กนะ เจ้าไม่ควรทำตัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ข้าเห็นสิ อีกอย่างหนึ่ง เจ้าลืมเรื่องกองทัพจากยมโลกไปได้เลย ถ้าพวกเขามีประโยชน์จริง เช่นนั้นข้าก็คงลากพวกเขาขึ้นมาจัดการเจ้าพวกสารเลวนั่นนานแล้ว เจ้าก็รู้ใช่หรือไม่ว่าใครก็ตามที่ขัดขวางการตามหารักแท้ของข้าล้วนแต่เป็นคนสารเลวทั้งนั้น”
”อืม ข้ารู้ เจ้าพูดต่อได้เลย” เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดว่าชายที่สามารถเลี้ยงเด็กให้โตมาเป็นคนเช่นนี้ได้จะต้องเป็นคนที่ยากจะรับมือเช่นกัน
บุตรแห่งราชานรกยิ้ม ”น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถใช้พวกเขาได้ คนของยมโลกกลัวแสงแห่งพระพุทธคุณเป็นที่สุด ถ้าพวกเขาได้รับอิทธิพลจากบทสวดสันสกฤต แล้วแทงข้างหลังข้าเข้าละก็ ข้าคงได้สูญเสียคนรักไปตลอดกาลแน่ ดังนั้นจึงถือว่าข้าลงเรือลำเดียวกันกับเจ้าแล้ว เมื่อครู่นี้เจ้าก็เพิ่งไล่ผู้ขับไล่วิญญาณร้ายไร้ประโยชน์พวกนั้นไปนี่ ทุกวันนี้คนที่กล้าต่อต้านพระพุทธศาสนามีอยู่เพียงแค่หยิบมือเดียว แน่นอนว่ายกเว้นสามีของเจ้า เขาเป็นชายที่สามารถสังหารคนจากทั้งสามภพได้กับมือ อีกทั้งยังเป็นคนที่กล้ายื่นมือออกไปแตะต้องเจ้าทั้งที่ในตอนนั้นเจ้าเป็นถึงพระอรหันต์อีกด้วย เจ้าเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อพระพุทธศาสนามิหนำซ้ำยังกล้าดึงพระสารีริกธาตุออกมาจากร่างเจ้าอีกด้วย”
”เจ้าเคยบอกมิใช่หรือว่าข้ากลับมาเกิดใหม่พร้อมกับพระสารีริกธาตุ” เฮ่อเหลียนเวยเวยหรี่ตา
บุตรแห่งราชานรกขมวดคิ้ว ”ข้าไม่รู้รายละเอียดเรื่องนี้นัก แต่จะต้องมีใครบางคนเจอพระสารีริกธาตุของเจ้า และเก็บรักษามันไว้ในที่ปลอดภัยอย่างแน่นอน ข้าเดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของโพธิ์ต้นนั้น ตามบันทึกที่ปรากฏอยู่ในบัญชีนรก พระอรหันต์คนอื่นๆ โกรธมากที่เจ้าทรยศต่อพระพุทธศาสนา และต้องการลงโทษเจ้าด้วยทัณฑ์สายฟ้าจากสวรรค์ ไม่มีใครกล้าปกป้องเจ้า ในตอนนั้นราชาปีศาจตกสวรรค์ไปได้หนึ่งร้อยปีพอดี เขาจึงไม่ได้อยู่ในภพภูมิทั้งหก ต้นโพธิ์ต้นนั้นได้ยินเสียงสวดสันสกฤตของเจ้า จึงได้กลายร่างเป็นมนุษย์ เขายอมสละตำแหน่งประมุขของพระพุทธศาสนา แล้วรับโทษแทนเจ้าในโลกมนุษย์เพื่อแลกกับการให้เจ้าได้เกิดใหม่”
”แต่เขาเข้าใจผิดว่าหนีเฟิ่งเป็นข้า” เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้ว
บุตรแห่งราชานรกพยักหน้า แล้วจึงเอ่ยต่อ ”แต่เจ้าอย่าได้ประเมินเขาต่ำเกินไปเชียว ผู้ชายคนนี้พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า ดังนั้นการที่เขาเข้าใจผิดคิดว่าหนีเฟิ่งเป็นเจ้าก็อาจจะไม่ได้แย่ไปเสียหมด”
”เจ้าหมายความว่าอย่างไร” เฮ่อเหลียนเวยเวยมองเด็กชายตัวน้อยในมือ
บุตรแห่งราชานรกยิ้ม จากนั้นสายตาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ”เขาไม่เคยยอมแพ้ต่อสิ่งที่ตัวเองรัก แม้เขาจะรู้ว่าตัวเองจะไม่มีวันได้มันมาก็ตาม เขาทุ่มเทมากกว่าใครมาโดยตลอด เจ้ารู้หรือไม่ว่าพระชายาต้องผ่านอะไรจึงจะสามารถมาเกิดใหม่ได้”
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่ตอบ
บุตรแห่งราชานรกสบตานาง แล้วจึงพูดต่อ ”มันคือการแช่ไฟนรกของเทพที่ดุร้ายและโหดเหี้ยมอย่างที่สุด แล้วจากนั้นก็ต้องเข้าไปในแสงแห่งพระพุทธคุณที่ส่องไปทั่วแผ่นดิน มีแค่เพียงการทำเช่นนี้เท่านั้นที่จะสามารถทำให้พระชายาได้เกิดใหม่โดยไม่ข้องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และกลายเป็นตัวตนที่อยู่เหนือสิ่งอื่นในโลกนี้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือการปลดปล่อยเจ้าจากโซ่ตรวนที่จองจำเจ้าอยู่ ไม่อย่างนั้นชะตากรรมย่อมลิขิตให้เจ้าต้องตายในชาตินี้ เขาอาจจะเข้าใจผิดว่าคนอื่นเป็นเจ้า แต่เป้าหมายของเขาก็ยังคงเดิม พระชายาจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ ตราบใดที่เขาสามารถดึงดูดแสงแห่งพระพุทธคุณได้สำเร็จ เป้าหมายของเขาก็ย่อมสำเร็จลุล่วงไปด้วยเช่นกัน เขาเป็นคนละเอียดรอบคอบ ดังนั้นเขาย่อมคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เอาไว้แล้ว และปัจจัยนั้นย่อมรวมถึงตัวของเขาเองด้วย ศาสนาพุทธกล่าวอยู่เสมอว่าทุกคนล้วนแต่มีชะตากรรมเป็นของตัวเอง หากเจ้าต้องการมีชีวิตใหม่ จะมีใครบางคนหยุดเจ้าเอาไว้ ในขณะเดียวกัน ถ้าเจ้าต้องการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง เจ้าย่อมต้องรู้จักใจร้ายกับตัวเอง โพธิ์ต้นนั้นก็น่าจะเป็นคนเช่นนี้ เขากำลังช่วยให้เจ้าหลุดพ้นจากเงื้อมมือของพระพุทธศาสนา นอกจากคิดเช่นนี้แล้วข้าก็นึกอย่างอื่นไม่ออก แต่แน่นอนว่าทุกอย่างที่ว่ามานี้ล้วนแต่เป็นการคาดเดาของข้าเอง คนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นก็คือพวกเจ้า เรื่องที่ข้าเล่าบอกได้เพียงสิ่งเดียว และนั่นก็คือการที่เจ้าจะต้องนำความทรงจำของตัวเองกลับมาให้ได้ เจ้าต้องนำพวกมันกลับมา ไม่ว่าในนั้นจะมีอะไรอยู่ หรือการทำเช่นนี้จะทำให้ราชาปีศาจไม่พอใจก็ตาม เขาคงไม่อยากให้เจ้าจำเรื่องในอดีตได้”
”ข้าย่อมไม่พอใจแน่” ขนนกสีดำโปรยปรายลงมาบนใบหน้าของบุตรแห่งราชานรก ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยโค่นปีศาจตัวใหญ่อีกตัวลงได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะเดินเข้าไปหาพวกเขา พร้อมกับใช้ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นจ้องมองพวกเขา ”แต่ก่อนอื่น ข้าอยากหาตัวคนที่กลั่นแกล้งนางในระหว่างที่ข้าตกจากสวรรค์ให้เจอเสียก่อน ข้าต้องแก้แค้นแทนนาง”
บุตรแห่งราชานรกยังอึ้งอยู่ แต่เขาก็ยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองช้าๆ ”เจ้ายังคิดจะฆ่าคนอยู่อีกหรือ เจ้าไม่กังวลหรือว่าสมัยนั้นนางอาจจะไม่ได้ชอบเจ้าจริงๆ ก็ได้ เจ้าอาจจะใช้กำลังชิงนางมาก็ได้มิใช่หรือ”
ดวงตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยพร่ามัวไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยว่า ”การชิงนางมาเป็นของตัวเองก็นับว่าเป็นความสามารถอย่างหนึ่งเหมือนกัน”
”ไร้ยางอาย! เจ้าจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว!” บุตรแห่งราชานรกอับจนต่อคำพูดของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย
เฮ่อเหลียนเวยเวยยิ้ม แล้วจับมือของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไว้ ก่อนจะดึงเขาเข้ามาใกล้ๆ ”ท่านคิดว่ารสนิยมของข้าเป็นอย่างไรหรือ”
”เจ้าภูมิใจหรือที่ข้อดีข้อเดียวที่เจ้ามีคือการเป็นคนมีรสนิยม” แม้การที่นางจับมือเขาจะช่วยลดความไม่พอใจลงได้ในระดับหนึ่ง แต่องค์ชายก็มักจะเผยรอยยิ้มเหยียดหยันเช่นนี้ออกมาทุกครั้งที่เขาอารมณ์ไม่ดี
เฮ่อเหลียนเวยเวยยอมอ่อนให้เขา จากนั้นนางจึงยิ้มออกมา แล้วตอบว่า ”เอาเถอะ ท่านไม่คิดหรือว่าในสมัยนั้น นี่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในข้อดีของข้าก็ได้”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเลิกคิ้วพลางส่งปีศาจงูลอยไปอีกทาง
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวอันน่าประทับใจของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย เฮ่อเหลียนเวยเวยก็หัวเราะ แล้วเสริมว่า ”ข้าหมายความว่า ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะตกหลุมรักใครได้นอกจากท่านต่างหาก”