องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 830 ทิ้งฝ่าบาทไว้ข้างหลัง
เมื่อหงส์เพลิงตื่นขึ้นมาอีกที เรี่ยวแรงของนางก็กลับคืนมาดังเดิม แต่นางกลับรู้สึกปวดร้าวไปทั่วร่าง อีกทั้งลำคอของนางยังมีรอยช้ำสีแดงปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก เพียงแค่หันมองไปด้านข้าง นางก็สามารถมองเห็นชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างกันได้ แม้เขาจะหลับอยู่ แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยนางไป แม้กระทั่งท่านอนของเขาก็ยังดูเหมือนพยายามที่จะกักขังนางเอาไว้
นางมองไปทางด้านซ้ายมือของตัวเองอีกครั้ง มือข้างหนึ่งของนางถูกโซ่เหล็กตรึงปีศาจล่ามเอาไว้กับเตียงด้วยฝีมือของชายหนุ่ม โซ่เส้นนี้ถูกเพิ่มเข้ามาในยกที่สองเพื่อทำให้นางล้มเลิกความพยายามที่จะขัดขืน
สายตาของหงส์เพลิงดิ่งวูบเมื่อนางสัมผัสได้ถึงความร้อนที่อยู่ข้างหลังช่วงเอว ในเมื่อโซ่เส้นนี้ไม่สามารถสะเดาะออกได้ง่ายๆ นางจึงใช้มือกระชากมันออกแทน
วิธีการนี้ย่อมทิ้งรอยไว้บนมือของนาง แม้แต่ข้อมือของนางก็ไม่ได้ว่างเปล่า เพราะมันมีโซ่อีกครึ่งหนึ่งติดมาด้วย หงส์เพลิงไม่ได้ส่งเสียงอันใดออกมา นางเพียงยื่นมือออกไปหยิบเสื้อคลุมบนพื้นขึ้นมาสวม นางเป็นคนสูงและสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของนางก็คือช่วงขาอันเรียวยาวของนางนี่เอง ดังนั้นการสวมเสื้อคลุมยาวเพียงตัวเดียวเช่นนี้จึงทำให้ขาเรียวยาวของนางดูขาวผ่องราวกับหิมะ และดึงดูดสายตาเป็นอย่างยิ่ง
เซียนที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นทันทีและทำท่าอยากจะพูดอะไรขึ้นเมื่อเห็นว่านางกำลังจะกลับ
หงส์เพลิงหยุดเขาไว้ด้วยสายตาเย็นชา ”ถ้าตี้จวินตื่น บอกเขาว่าข้าย้ายของออกแล้ว”
”หา?” เซียนคนนั้นไม่กล้าพูดเสียงดัง เขาทำได้แค่พยักหน้าแล้วขานรับ พลางนึกสงสัยอยู่ในใจเท่านั้น ถึงนางจะอยากกลับ แต่นางก็ควรรอให้ฟ้าสางมิใช่หรือ ทำไมถึงรีบกลับไปเร็วเช่นนี้ล่ะ
เขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในห้อง ถ้าเขารู้ เขาคงสติแตกไปแล้ว และคงไม่แสดงสีหน้าเช่นนี้ออกมาแน่
หงส์เพลิงเดินต่อได้สองสามก้าว แต่แล้วนางก็เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับหยิบคู่มือฉบับหนึ่งขึ้นมา นางหยิบปากกาขนนกออกมาขีดฆ่ากฎข้อหนึ่งบนนั้นออกอย่างระมัดระวัง
ในเมื่อนางทำเรื่องนั้นไปแล้ว มันคงเสียเปรียบน่าดูหากไม่ขีดมันออก
ทำไมนางจะต้องเป็นคนเสียเปรียบด้วย
หงส์เพลิงเม้มริมฝีปาก แล้วกลับสู่พระพุทธศาสนาพร้อมกับคู่มือฉบับนั้น อย่างน้อยทุกอย่างก็ยังดูปกติเช่นเดิม
แต่มีแค่หงส์เพลิงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อศีลข้อสำคัญที่สุดถูกละเมิด
ดาบวงพระจันทร์ในมือของนางจะสูญเสียพลังแห่งพระพุทธคุณไป
แต่หงส์เพลิงก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนคนนั้นถึงได้ทำเรื่องเช่นนั้นกับนาง
อาจเป็นเพราะการเอาชนะนางจะทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองประสบความสำเร็จหรือ
นิ้วของหงส์เพลิงกำแน่นเข้าหากัน ดาบวงพระจันทร์ในฝ่ามือของนางกลับเป็นลูกประคำดังเดิมก่อนม้วนตัวพันรอบข้อมือเรียวยาวนั้น
ตอนที่นางล้มตัวลงนอนบนก้อนเมฆ นางยังได้กลิ่นกายของชายหนุ่มที่ติดอยู่บนร่างของนางอยู่ และนั่นทำให้นางเผลอขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างแรง
คนคนนั้นปรากฏตัวขึ้นในความคิดของนางทุกครั้งที่นางหลับตา เงาที่ถูกมองข้ามพลันเริ่มชัดเจนขึ้น
หงส์เพลิงกำลังพิจารณาอยู่ว่านางควรจะหาโอกาสแก้แค้นเขาดีหรือไม่
แต่หลังจากคิดดูอีกทีแล้ว ต่อให้นางคิดที่จะแก้แค้น แต่ในสถานการณ์เช่นนี้คนที่จะเสียเปรียบย่อมเป็นฝ่ายหญิงเสมอ
ในเมื่อชายหนุ่มวางแผนเอาไว้เช่นนั้น
ครั้งเดียวก็คงเกินพอ
หงส์เพลิงยิ้มหยัน นางหยิบคู่มือออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก นางไม่ใช่ฝ่ายที่มีอำนาจขนาดที่จะสามารถช่วยเช็ดผมให้เขา หรือให้เขานอนหนุนตักนางได้ด้วยซ้ำ
ช่างมันเถอะ
จากนั้นนางก็โยนคู่มือฉบับนั้นทิ้ง
ความเหน็ดเหนื่อยถาโถมเข้าใส่ร่างของนาง หงส์เพลิงค่อยๆ หลับตาลง พร้อมกับฝันถึงความทรงจำในวัยเด็กอีกครั้ง
สมัยนั้นนางมักจะอ่านพระไตรปิฎกทุกวัน
สามเณรน้อยเดินเข้ามาหานาง ”ท่านจะเอาแต่ท่องพระไตรปิฎกไม่ได้นะขอรับ ท่านต้องสั่งสมผลบุญด้วยถึงจะได้กลายเป็นพระอรหันต์ ท่านย่อมไม่สามารถเป็นพระอรหันต์ได้ ถ้าท่านเอาแต่อยู่คนเดียวเช่นนี้ แทนที่จะไปอยู่กับคนอื่นๆ”
ใครบางคนดึงสามเณรน้อยเข้าไปแล้วกระซิบว่า ”อย่าพูดจาไร้สาระ คนคนนั้นแตกต่างจากพวกเรา นางคือหงส์เพลิง และหงส์เพลิงถูกลิขิตให้เป็นอรหันต์”
”อะไรนะ คนเราสามารถกลายเป็นพระอรหันต์โดยไม่สั่งสมบุญได้ด้วยหรือ”
”ชู่ กรณีของหงส์เพลิงต่างออกไป นอกจากนั้น เจ้าก็ไม่ควรเข้าใกล้นางมากเกินไปนัก นางมาจากนรก นางสามารถฆ่าคนได้”
”จริงหรือ ข้าดูไม่ออกเลย ใบหน้าของนางช่างงดงามยิ่งนัก”
”นั่นก็เป็นแค่รูปลักษณ์ภายนอกของนาง ข้าได้ยินมาว่าถ้านางโกรธ นางยังสามารถอัญเชิญความชั่วช้าสามานย์ทั้งหมดทั้งปวงขึ้นมาจากขุมนรกได้ แม้แต่สมเด็จก็ยังไม่กล้าบังคับให้นางทำอะไร แต่สมเด็จก็เคยกล่าวเอาไว้ว่าคนที่มีชะตาเช่นนี้ย่อมถูกลิขิตให้มีชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง ไม่มีใครรักนาง ทุกคนล้วนแต่เข้าหานางก็เพื่อผลประโยชน์ นั่นคือสิ่งที่นางได้รับเพราะมีมลทินมาตั้งแต่เกิด…”
หงส์เพลิงตัวน้อยสาวเท้าเดินต่ออย่างเงียบๆ หลังจากได้ฟังคำพูดนั้น นางมองก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าแล้วหัวเราะอยู่ในใจ
มีมลทินหรือ
เหอะ ใครจะไปสน
ในวันนั้น สมเด็จที่ประทับอยู่บนดอกบัวสีทองสัมผัสได้ถึงความเย้ยหยันบนริมฝีปากของหงส์เพลิงได้เป็นครั้งแรก
ในฐานะพุทศาสนิกชนแล้ว การกระทำนั้นนับว่าดูหมิ่นศาสนาพุทธยิ่งนัก
เขาพนมมือเข้าหากันแล้วเอ่ยว่า ”อมิตาพุทธ”
พระพุทธศาสนาย่อมไม่เพิกเฉยต่อการดูถูกเหยียดหยามที่มีต่อพระพุทธเจ้า
ผู้ที่มีพระสารีริกธาตุอยู่ในร่างย่อมไม่อาจทอดทิ้งพระพุทธศาสนาได้
นางต้องพึงระลึกไว้ว่าชะตากรรมของตนเป็นอย่างไร
นางจะเรียนรู้ที่จะยอมแพ้ต่อชะตากรรมก็ต่อเมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสมาเท่านั้น
สมเด็จเชื่อในหลักการนี้มาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อชายคนนั้นเข้าใกล้หงส์เพลิง เขาจึงไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด
อย่างไรเขาก็ไม่เคยเชื่อว่าชายคนนั้นจะจริงใจต่อหงส์เพลิง
ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน แต่คนเราจะตระหนักถึงความเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อได้ลิ้มรสชาติแห่งความสิ้นหวังแล้วเท่านั้น
สิ่งที่จำเป็นต่อหงส์เพลิงก็คือความผิดหวังในความรัก
นั่นเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะทำให้นางเชื่อฟังอย่างแท้จริง…
…
เมฆสวรรค์ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าภายในภพสวรรค์
ชายหนุ่มยังไม่ตื่น ใบหน้าของเขางดงามมากเสียจนทำให้ความงามของโลกดูจืดชืด ยิ่งเวลาที่เขาเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา มันก็ยิ่งดูอบอุ่นหัวใจ ตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มเคลื่อนแขนของตัวเองไปข้างๆ โดยไม่รู้ตัว
แต่นิ้วของเขากลับสัมผัสได้เพียงความอบอุ่นที่หลงเหลืออยู่บนผ้าห่ม
คนที่ควรจะนอนข้างๆ เขาหายไปแล้ว
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นจึงหรี่ตาลงอย่างดุร้าย ก่อนจะหัวเราะออกมา ”เมื่อไหร่นางจะรู้จักทำตัวดีๆ กับเขาเสียบ้าง”
ทันทีที่คำพูดนั้นดังขึ้น เตียงที่เคยอยู่ในสภาพดีก็ถล่มลงมาจนเหลือเพียงเศษไม้ภายในชั่วอึดใจเดียว
เซียนที่ทำหน้าที่รักษาการณ์ตอนกลางคืนรีบรุดเข้ามาหลังจากได้ยินเสียงนั้น เขาคิดว่าจะมีปีศาจโผล่มา
แต่มันกลับไม่มีปีศาจเลยสักตัว
ที่นั่นมีแค่ตี้จวินยืนอยู่เพียงลำพังท่ามกลางซากปรักหักพังนั้น
เขาถือเสื้อตัวในของหญิงสาวเอาไว้ในมือข้างซ้าย ดวงตาของเขาลึกล้ำ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เซียนคนนั้นไม่กล้าเดินต่อแม้แต่ก้าวเดียว
ตี้จวินเกิดมานิสัยชั่วร้าย แต่นิสัยนั้นก็ถูกซุกซ่อนเอาไว้หลังจากที่เขาได้รับสถานะเทพมา
แต่ทันทีที่เขาสวมเสื้อคลุมสีดำลงบนร่าง ดวงตาของเขาจะพลันมืดมิดและลุ่มลึกราวกับห้วงเหวอันไร้ก้นบึ้ง บนร่างของเขาจะมีเสน่ห์อันรุนแรงปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ในความเย็นชาของเขาแฝงไปด้วยความเสื่อมและความเกียจคร้านราวกับน้ำแข็งที่ถูกแช่แข็งเอาไว้เป็นเวลานาน และไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เขาได้แม้แต่คนเดียว
เซียนคนนั้นคิดว่าจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ นอกจากเรื่องที่อรหันต์หงส์เพลิงกลับไปแล้ว ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือ
เอ๋!?
หรือสาเหตุจะเป็นเพราะอรหันต์หงส์เพลิงจริงๆ
ในที่สุดเซียนคนนั้นก็ตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เขาจึงรีบเอ่ยขึ้นว่า ”ตี้จวิน ก่อนที่อรหันต์หงส์เพลิงจะกลับไป นางฝากข้ามาแจ้งท่านว่านางจะย้ายออกแล้วคงไม่กลับมาที่นี่อีกสักระยะขอรับ…”