องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 900 มีเด็กอีกคนถูกลักพาตัวไปด้วย
“สิบห้านาทีก็พอแล้ว!” เฮ่อเหลียนเวยเวยยันตัวลุกขึ้นด้วยมือซ้ายพลางยกขายาวของตัวเองเหยียบลงบนโซฟา สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่คอมพิวเตอร์พกพาเครื่องนั้น แล้วพูดผ่านหูฟังบลูทูธที่หูซ้ายว่า ”เอส แอล พวกนายรับหน้าที่หาตำแหน่งพวกมัน จิน เหล่าเอ พวกนายรับหน้าที่คัดกรองคน นักค้ามนุษย์พวกนั้นน่าจะเลือกทำงานกันเป็นคู่ชายหญิง พวกเขาจะต้องปลอมตัวเป็นสามีภรรยาเพื่อปกปิดร่องรอยของตัวเอง บางคนอาจมีไพ่ตายซ่อนเอาไว้ ดังนั้นพวกนายควรให้ความสำคัญกับคู่แต่งงานที่แต่งตัวเชยแต่ไม่ได้พกอะไรติดตัวมาด้วยมากกว่าคนธรรมดา”
“รับทราบ” สีหน้าของพวกเขาตอนปฏิบัติภารกิจนั้นยากที่จะมองข้ามได้
เฮ่อเหลียนเวยเวยปัดนิ้วดูภาพเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องยากที่ตำรวจในสถานีจะสามารถทำการตรวจสอบผู้ต้องสงสัยได้อย่างเข้มงวด ถ้าพวกเขาลักลอบผ่านไปได้ การจับกุมตัวพวกเขาหลังจากนั้นย่อมกลายเป็นเรื่องยาก พวกเขาสามารถเปลี่ยนสายได้โดยง่ายเนื่องจากการคมนาคมอันสะดวกสบายในยุคปัจจุบัน
เปลี่ยนสายหรือ
เฮ่อเหลียนเวยเวยดูเหมือนจะเริ่มจับจุดได้ แล้วดวงตาของเธอก็เป็นประกาย ”วานร ใช้คอมพิวเตอร์อีกเครื่องตรวจสอบหาคนที่เปลี่ยนสายรถไฟอย่างน้อยสามครั้งในช่วงสองวันนี้มาดูสิ”
“รับทราบครับ”
คลิก คลิก คลิก แกร็ก
เสียงแป้นพิมพ์ดังก้องไปทั่วอู่ซ่อมรถอันว่างเปล่า
ภาพจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในเวลาเพียงแค่สิบห้านาที
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะตัดเงื่อนไขบางประการออกไปแล้ว แต่การตามหาใครสักคนท่ามกลางผู้คนมากมายเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากการมองหาเข็มในกองฟาง
ที่สำคัญที่สุด ถ้าดูจากร่องรอยที่เกิดขึ้นในวีดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนิรภัยของโรงเรียนอนุบาลแล้ว ดูเหมือนว่าหนึ่งในผู้ต้องสงสัยจะมีประสบการณ์มากพอที่จะสังเกตเห็นกล้องวงจรปิดได้
เฮ่อเหลียนเวยเวยขมวดคิ้วพลางใช้เมาส์เลเซอร์คัดภาพนิ่งเหล่านั้นออกทีละภาพ
ในที่สุด เธอก็สามารถระบุคู่แต่งงานที่ตรงตามเงื่อนไขนั้นได้ทั้งหมดสิบเก้าคู่
“ลูกพี่ ใกล้หมดเวลาแล้วครับ!” วานรเฝ้าระวังการโจมตีที่แสดงอยู่บนหน้าจอตลอดเวลา เขาพร้อมออกจากระบบทันทีที่เวลาหมดลง
เฮ่อเหลียนเวยเวยใช้เมาส์เลเซอร์วงภาพสุดท้าย แล้วเอ่ยขึ้นอย่างไม่ลังเลว่า ”ถอนตัว!”
เสียงรัวแป้นพิมพ์ดังขึ้นอีกระลอก พวกวานรรีบลบร่องรอยของตัวเองอย่างรวดเร็ว ไม่เหลืออะไรให้ตรวจสอบแม้แต่อย่างเดียว
ไม่มีใครรู้ว่าวันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น
ระบบการรถไฟขึ้นประกาศแจ้งเตือนสาธารณะบนหน้าเว็บไซต์ว่าอยู่ในระหว่างปรับปรุง และตัวเซิฟเวอร์ก็ใช้งานไม่ได้ชั่วคราว
กว่าพวกเขาจะค้นพบปัญหานี้ พวกวานรก็ถอนตัวออกจากระบบเรียบร้อยแล้ว
ตรงกันข้ามกับคนที่ใช้งานเว็บไซต์เพื่อซื้อตั๋ว พวกเขาหน้านิ่วคิ้วขมวด รู้สึกเหมือนระบบของการรถไฟเพิ่งถูกใครบางคนเจาะเข้าไปไม่มีผิด
โดยทั่วไปนั้น ระบบนี้จะมีรูปแบบการทำงานเป็นกิจลักษณะ ปกติแล้วมันจะเข้าสู่ช่วงการปรับปรุงระบบหลังห้าทุ่ม แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงสองทุ่มเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ระบบจะเข้าสู่การปรับปรุงได้ในชั่วโมงที่ทุกคนต้องการจองตั๋วอย่างเร่งด่วนเช่นนี้
ในไม่ช้า บทความวิเคราะห์ซึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะก็ถูกโพสต์ขึ้นมาบนเว็บไซต์จือฮู แม้มันจะเป็นโพสต์นิรนาม แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายมีความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างดี
การวิเคราะห์ของเขาชี้ให้เห็นว่าคนที่เจาะระบบของการรถไฟเข้ามาต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรใดสักองค์กรหนึ่งอย่างแน่นอน เขาบอกว่าไม่มีใครรู้สึกถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ และจนกระทั่งตอนนี้ผู้ดูแลระบบของการรถไฟก็ยังไม่รู้จุดประสงค์ของการจู่โจมในครั้งนี้ เขาพยายามแกะรอยพวกเขา แต่ปลายทางของที่อยู่ไอพีนั้นกลับมาจากร้านอินเตอร์เน็ตหลายแห่งซึ่งอยู่คนละสถานที่กัน คนที่จะสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้จึงมีแต่สุดยอดผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
หลังจากบทความวิเคราะห์นี้ถูกโพสต์ลง ทางการรถไฟจึงขึ้นประกาศว่ามีคนขายตั๋วผีพยายามกระทำการผิดกฎหมาย แต่พวกเขาก็ถูกขัดขวางและถูกจับกุมตัวแล้ว
เมื่อข้อความนี้ถูกประกาศออกไป บทความนั้นก็ถูกแบนในทันที
คนที่ไม่เข้าใจสถานการณ์คงหลงเชื่อตามประกาศ แต่แฮกเกอร์ที่หัวดีหน่อยย่อมรู้ดีว่านี่คือการกลบเกลื่อนความจริง มีใครบางคนกำลังวางแผนการบางอย่างอยู่!
“วานร เป็นอย่างไรบ้าง ในจำนวนคู่สามีภรรยาทั้งสิบเก้าคู่นี้ มีใครที่เปลี่ยนสถานีกลางทางหรือเปล่า” เฮ่อเหลียนเวยเวยถามเช่นนี้เพราะโดยปกติแล้วนักค้ามนุษย์จะไม่เลือกรถไฟทางไกลเพราะพวกเขาอาจถูกตรวจค้นอย่างกะทันหัน และเด็กๆ ก็อาจจะตื่นขึ้นมากลางคันเช่นกัน
พูดโดยรวมก็คือ ยิ่งนักค้ามนุษย์มีฝีมือมากเท่าใด ก็ยิ่งมีโอกาสที่พวกเขาจะเปลี่ยนรถไฟกลางทางมากเท่านั้น เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้พวกเขาสามารถควบคุมสินค้าของตัวเองได้ง่าย
ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ด้วยดีถ้าหากพวกเขาสามารถควบคุมสินค้าของตัวเองได้
“มีห้าคู่ครับ” วานรกดลงบนแป้นสเปซบาร์ ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดและหมายเลขรถไฟที่คู่สามีภรรยาเหล่านั้นปรากฏขึ้นทันที
เมื่อเห็นข้อมูลนี้ มุมปากของเฮ่อเหลียนเวยเวยก็โค้งขึ้น เธอกระชับหูฟังบลูทูธที่หูแล้วกล่าวว่า ”ทุกคนน่าจะได้รับรูปแล้ว จำข้อมูลทั้งหมดและหมายเลขรถไฟของพวกเขาเอาไว้ให้ดี เริ่มระบุตำแหน่งแล้วแยกกันไปติดตามพวกเขาได้”
ทันทีที่เธอพูดจบ ประตูโกดังของอู่ซ่อมรถเก่าๆ ก็เปิดออกจนสุด รถสปอร์ตชั้นยอดที่มีการผลิตออกมาเพียงไม่กี่คันพุ่งตัวออกจากโกดังแทบจะพร้อมกัน รถแต่ละคันล้วนแต่มีค่าสมรรถนะการทำงานยอดเยี่ยม
สาวๆ ที่เอารถของตัวเองมาซ่อมที่อู่ต่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นรถสปอร์ตทั้งหกคันที่ออกตัวไปพร้อมกัน ภาพนี้เท่มากจนทำให้พวกเธอแทบกรี๊ดออกมา!
ที่สำคัญก็คือ พวกเธอมักเอารถมาซ่อมที่อู่นี้อยู่บ่อยๆ ดังนั้นพวกเธอจึงรู้สถานะของอู่ซ่อมรถแห่งนี้ดี ถึงแม้ว่าในจำนวนคนที่ทำงานอยู่ที่นี่จะมีอาชญากรรวมอยู่ด้วย แต่พวกเขาก็เป็นคนธรรมดา แม้ว่าพวกเขาจะพอมีเงินอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ใช่คนร่ำรวย ยังไม่ต้องพูดถึงหน้าตาของอู่ซ่อมรถที่ทั้งเก่าและเหมือนจะพังได้ทุกเมื่อนี่อีก พวกเขาซ่อนรถสปอร์ตสุดหรูพวกนี้เอาไว้ได้อย่างไร
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่สนใจปฏิกิริยาตอบสนองจากด้านนอก เธอยื่นมือคว้าหมวกกันน็อก ก่อนหมุนตัวกลับไป แล้วถามว่า ”วานร นายเจอข้อมูลอะไรเกี่ยวกับรถคันที่ฉันบอกให้ตรวจสอบไปก่อนหน้านี้หรือเปล่า”
“ผมลองตรวจสอบดูแล้วครับ แต่ว่า…” วานรเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ ”เจ้าของของรถคันนั้นเป็นคนลึกลับอย่างมาก ผมขุดลงไปลึกทีเดียวกว่าจะได้เรื่องนี้มา แลมโบกินีคันนั้นเข้ามาจอดส่งเด็กคนหนึ่งเข้าเรียนครับ ผมถามโรงเรียนแล้ว อาจารย์ที่เห็นรถคันนั้นอ้างว่าเด็กคนนั้นเพิ่งเข้าเรียนชั้นอนุบาลหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องเดียวกันกับที่นายน้อยอยู่ มีข้อมูลอย่างหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าไม่ต้องบอกก็ได้ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าบอกไปจะดีกว่า ลูกพี่ครับ ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะหายตัวไปพร้อมกับนายน้อย”
เฮ่อเหลียนเวยเวยชะงักฝีเท้าลงกลางคันพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ ”เกิดอะไรขึ้น พวกเขาสองคนถูกลักพาตัวไปด้วยกันหรือ”
“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นครับ” วานรลูบสันจมูกตัวเอง ”แต่ผู้ปกครองของเด็กคนนั้นดูเหมือนจะใจเย็นกว่าลูกพี่ ทั้งที่เขาหายตัวไป แต่กลับไม่มีใครไปถามหาเขาที่โรงเรียนเลยสักคน”
เฮ่อเหลียนเวยเวยใช้นิ้วเรียวลูบคางตัวเอง ”ครั้งนี้เป้าหมายของนักค้ามนุษย์คือเด็กๆ จากครอบครัวธรรมดา พวกเขาถึงกับจงใจเลือกเด็กที่มีฐานะค่อนข้างยากจนเลยด้วยซ้ำ เสี่ยวชิงเฉิงอาจจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวยากจน แต่เด็กคนนั้นที่ลงมาจากรถแลมโบกินีก็ยังถูกลักพาตัวไปเหมือนกันหรือ เรื่องนี้ถือว่าผิดปกติอย่างมาก แต่นักค้ามนุษย์พวกนั้นอาจจะพาเขาไปด้วยเพราะจำเป็นต้องทำก็ได้”
“เดี๋ยวนะครับ!” วานรขัดเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างเดือดดาล ”ลูกพี่ เมื่อกี้ลูกพี่บอกว่านายน้อยถูกลักพาตัวไปเพราะคนพวกนั้นคิดว่าเขาจนหรือครับ??!!!”
นายน้อยเนี่ยนะจน? บัดซบ! จบเรื่องนี้เมื่อไหร่ เขาจะบริจาคอาคารพร้อมอุปกรณ์การเรียนครบเซ็ตให้โรงเรียนนั้นภายใต้ชื่อของนายน้อยให้ดู!