องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 918 เวยเวยสุดเท่
บทที่ 918 เวยเวยสุดเท่
“เป็นไปไม่ได้! หัวหน้าเป็นคนลงมือทำพิธีนี้ด้วยตัวเอง! มันจะไปมีปัญหาได้อย่างไร!” แมวเฒ่าผุดลุกขึ้นทันที!
แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความร้อนใจของชายวัยกลางคน แต่เฮ่อเหลียนเวยเวยกลับทำเพียงแค่เดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างๆ ถาดชา พร้อมกับเอ่ยขึ้นเสียงเบาว่า ”อันที่จริง เดิมทีมันก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่โชคร้ายที่คางคกหยกสีม่วงตัวนี้เป็นของที่ถูกขุดออกมาจากสุสาน มันสามารถปกป้องคุ้มครองหลุมศพและคนในครอบครัวได้ แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็เต็มไปด้วยปราณแห่งความเคียดแค้น จริงอยู่ที่ปราณแห่งความเคียดแค้นสามารถสะกดไว้ได้ด้วยการใช้ไม้จากต้นท้อ แต่การจัดวางของที่นี่ต่างหากที่ทำให้มันไม่สามารถใช้การได้” เฮ่อเหลียนเวยเวยยื่นนิ้วออกไป แล้วชี้ไปยังทิศทางที่ไม้จากต้นท้อหันหน้าไป ”พวกเราชาวจีนเชื่อถือศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยเป็นที่สุด ศาสตร์ที่ว่านี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับภูตผีวิญญาณ แต่เกี่ยวข้องกับพลังปราณและโชคชะตาที่อยู่ในนั้น รูปแบบพิธีที่คุณทำนี้เป็นพิธีพื้นฐานในการสะกดหลุมศพและดึงดูดโชคลาภเข้ามา แต่ตรงนี้มีหน้าต่างอยู่บานหนึ่ง และหน้าต่างบานนั้นก็ยังอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟที่มีลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดผ่าน คนส่วนใหญ่ย่อมรู้ว่าสถานีรถไฟเต็มไปด้วยปราณหยาง แต่เพราะกระแสลมนี้มันจึงสามารถสร้างความอึดอัดให้กับผู้คนที่อยู่ในละแวกนี้ได้อย่างง่ายดาย การบ่มเพาะปราณแห่งความเคียดแค้นขึ้นที่นี่เป็นเรื่องง่าย และปราณแห่งความเคียดแค้นที่ว่านั่นก็จะถูกสายลมพัดพาเข้ามา การสัมผัสกับปราณชนิดนี้ในระยะสั้นย่อมไม่ส่งผลอะไร แต่หากได้สัมผัสกับมันเป็นเวลานานแล้วละก็ อย่าว่าแต่บรรยากาศมืดมนที่อยู่บนหน้าผากคุณเลย คุณอาจได้ตายก่อนที่จะรู้ตัวด้วยซ้ำ การเปิดหน้าต่างก็เหมือนกับการเปิดฝาโลงศพทิ้งไว้ สิ่งโสมมทั้งหมดทั้งปวงย่อมสามารถเข้ามารวมกันที่นี่ได้ ยิ่งกว่านั้น แมวเฒ่า คุณยังคิดว่าตัวเองกำลังดึงดูดเงินทองเข้าหาตัวเองอยู่หรือ”
ตอนแรกแมวเฒ่าก็ตกใจกับการอธิบายอย่างมืออาชีพของเฮ่อเหลียนเวยเวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่หลังจากได้ยินคำถามสุดท้ายของเฮ่อเหลียนเวยเวย เขาก็ไม่กล้าซ่อนอะไรไว้กับตัวอีก และเปิดเผยทุกอย่างออกมา
ทุกวันนี้ หากไปถามตามท้องถนนว่าธุรกิจที่สามารถสร้างกำไรได้เป็นอันดับหนึ่งคือธุรกิจอะไรละก็ แปดในสิบย่อมตอบว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แน่นอนว่าเมื่อเศรษฐกิจพุ่งสูงขึ้น ราคาของสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาที่อยู่อาศัยย่อมทะยานตัวสูงขึ้นตามไปด้วย หลังจากกู้เงินจากธนาคารมาได้ พวกเขาจะยื่นสัญญาเงินกู้ให้กับผูัรับเหมาก่อสร้าง แล้วขายพื้นที่บางส่วนของอาคารเพื่อถอนทุนคืน ตราบใดที่สามารถจัดการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ อุตสาหกรรมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็คือธุรกิจฉ้อโกงดีๆ นี่เอง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คนไหนที่กล้าพอจะเดิมพันกับเรื่องนี้ต่างก็ร่ำรวยด้วยวิธีการสกปรกกันทั้งนั้น
แมวเฒ่าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่โชคไม่ดีที่ในระหว่างการก่อสร้างครั้งนี้ มีผู้หญิงที่หลบหนีมาจากเหล่าลิ่วถูกรถชนเข้า
ข่าวลือบอกว่าผู้หญิงคนนี้มาตามหาลูกสาวของตัวเอง เหล่าลิ่วกับคนของเขาเป็นนักค้ามนุษย์ที่ทุกคนรู้จัก พวกเขาเป็นคนที่ขังลูกสาวของเธอเอาไว้ในโกดัง
ผู้หญิงคนนี้โทรศัพท์เรียกตำรวจ และตั้งใจว่าจะรอตำรวจอยู่ที่นั่น แต่เธอคงนึกไม่ถึงว่าสิ่งที่เธอรอคอยอยู่กลับไม่ใช่การช่วยเหลือ แต่เป็นโศกนาฏกรรม
คนลือกันว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่คนในแวดวงทุกคนต่างก็รู้กันดีว่าอุบัติเหตุไม่ได้เกิดกันได้ง่ายๆ เช่นนี้ อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ห้ามเกิดอย่างเด็ดขาดในเขตก่อสร้าง ดังนั้นเรื่องของความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญอย่างเต็มที่
“การตายของผู้หญิงคนนี้ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน” แมวเฒ่าพูดอย่างมั่นใจ ”แต่คนที่ซวยก็คือผม ทันทีที่มีข่าวออกมา ผมก็ไม่สามารถสร้างตึกต่อให้เสร็จได้ ทุกคนพูดกันว่าที่ตรงนี้อัปมงคล คนที่เคยสนใจตอนแรกก็ปฏิเสธกันไปหลายคน ผมฟื้นเงินทุนกลับมาได้แล้ว แต่การก่อสร้างกลับต้องหยุดชะงักลงไป ต่อให้ตึกสร้างเสร็จ แต่ก็คงไม่สามารถขายได้ราคาดีเหมือนเดิม ผมคิดว่ามันจะหมดเรื่องแล้ว แต่แล้วผมก็เริ่มฝันเรื่องเดิมทุกวัน ผมฝันว่า..”
“ว่าคนในตระกูลของคุณบอกว่าข้างล่างมันช่างหนาวเย็นเหลือเกิน” เฮ่อเหลียนเวยเดาประโยคต่อมาได้ก่อนที่เขาจะพูดจบ
แมวเฒ่าอึ้งไปอีกครั้ง เวลานี้เขารู้สึกนับถือเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างมากราวกับเห็นเธอเป็นเทพเจ้าก็ไม่ปาน ”ใช่เลยครับ! ลูกพี่เวยรู้ได้อย่างไร” เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าราชินีนักรบจะรู้เรื่องพวกนี้ด้วย นี่มันยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือชัดๆ!
“ข้อห้ามที่สำคัญที่สุดในการสร้างที่พักอาศัยใหม่โดยเฉพาะในเขตก่อสร้างก็คือห้ามให้มันเข้าไปพัวพันกับความตาย ไม่มีใครรู้ว่าในอดีตเคยมีอะไรเกิดขึ้นใต้ที่ดินผืนนี้ แต่ถ้าฉันเดาไม่ผิด เดิมทีที่นี่น่าจะเคยเป็นเนินฝังศพมาก่อน ก่อนหน้านี้มันไม่เคยมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเพราะพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะออกมาได้ แต่โชคร้ายที่มีคนตายที่นี่ทั้งที่ยังมีห่วง หรือก็คือความยึดติดที่คนเป็นแม่มีให้กับลูกสาวนั่นเอง ความยึดติดนี้ไปกระตุ้นวิญญาณคนตายพวกนั้นเข้า ส่วนคุณก็สร้างตึกที่นั่นโดยไม่ได้เคารพพวกเขาตั้งแต่แรก ดังนั้นพวกเขาจึงลงมือในแบบของตัวเองด้วยการป่วนสุสานบรรพชนของคุณเข้า เมื่อวิญญาณคนตายไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขได้ พวกเขาก็จะมารบกวนคนเป็นในความฝันต่อ” เฮ่อเหลียนเวยเวยเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง ”ดูเหมือนว่าตอนนี้วิญญาณคนตายของผู้หญิงคนนั้นคงถูกตรึงเอาไว้ด้วยอาคมบางอย่าง ไม่อย่างนั้นปราณแห่งความเคียดแค้นของเธอน่าจะพาเธอไปหาเหล่าลิ่วโดยตรง แทนที่จะส่งผลกระทบต่อวิญญาณคนตายที่อยู่โดยรอบแล้วทำให้พวกเขาหันมาเล่นงานคุณเข้า เอาล่ะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไหนเล่าเรื่องของเจ้าหัวหน้าคนที่ว่ามาให้ฉันฟังทีสิ เขาเป็นใครหรือ”
“หัวหน้าคนนี้เป็นคนที่น่าทึ่งมากครับ ลูกพี่เวย ถ้าที่คุณพูดมาเป็นความจริงละก็ คนที่ช่วยเหล่าลิ่วจัดการกับวิญญาณจะต้องเป็นเธออย่างแน่นอน เธอมาที่เขตอวิ๋นกุยเมื่อสองเดือนก่อน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเหล่าลิ่วก็ทำเงินได้เพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ และยังดวงดีอย่างมาก หุ้นทุกตัวที่เขาซื้อไว้ราคาพุ่งขึ้นเป็นเท่าตัวครั้งแล้วครั้งเล่า” น้ำเสียงของแมวเฒ่าเต็มไปด้วยความชื่นชมระคนอิจฉา ”ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าพบหัวหน้าคนนี้ได้ ยิ่งกว่านั้นเธอก็ไม่ได้ทำธุรกิจอะไรเพื่อหาเงินอีกด้วย ตอนนั้นเธอเป็นคนที่เข้ามาหาเหล่าลิ่วเอง ผมได้ยินว่าเธอต้องการจับมือกับเหล่าลิ่วเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ ผมเองก็เคยสงสัยอยู่เหมือนกัน ดังนั้นก็เลยพยายามรวบรวมข้อมูลดู ดูเหมือนว่าเหตุผลทั้งหมดที่เธอมาพบเหล่าลิ่วนั้นจะมาจากธุรกิจลักลอบค้ามนุษย์ของเขาครับ ทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน เธอจะเลือกเด็กคนหนึ่งมาเก็บไว้เอง ไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องการทำอะไรกันแน่ แต่หลังจากนั้นในที่สุดผมก็มีโอกาสได้พบหัวหน้าผ่านทางการแนะนำของเหล่าลิ่ว เธอดูไม่เหมือนคนชั่วร้ายเลยสักนิด นอกจากนั้นรอบตัวของเธอก็ยังมีกลิ่นธูปติดอยู่ เธอค่อนข้างมีเสน่ห์ทีเดียว ผิวของเธอขาวซีด ผมของเธอทั้งดำและเรียบลื่น เธอดูเหมือนครูบาอาจารย์ทั่วไปเลยครับ และยังอ่อนโยนกับเด็กๆ เป็นพิเศษอีกด้วย แต่เธอกลับปฏิบัติต่อคนอื่นๆ อย่างเย็นชา เธอทำเหมือนเหล่าลิ่วกับผมไม่ใช่มนุษย์สำหรับเธอด้วยซ้ำ”
“ผู้หญิงหรือ” ดวงตาของเฮ่อเหลียนเวยเวยหรี่ลง ”เธอมีเอกลักษณ์อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“เอกลักษณ์พิเศษหรือ” แมวเฒ่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง ”จริงสิ เธอแต่งตัวต่างจากพวกเราอยู่นิดหน่อย เธอมักจะใส่อะไรสักอย่างคล้ายกับ…จีวร แต่ก็ไม่ได้เหมือนไปเสียทีเดียว”
ภาพภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของเฮ่อเหลียนเวยเวยทันทีที่ได้ฟังคำอธิบายนั้น ”เด็ก ผู้หญิง กับจีวรหรือ… ฉันว่าฉันรู้แล้วล่ะว่าเธอเป็นใคร”
“เธอเป็นใครหรือครับ” แมวเฒ่ารู้สึกสงสัยเหมือนกัน เขาคิดมาตลอดว่าหัวหน้าคนที่ว่านี้ค่อนข้างลึกลับและแทบไม่เหมือนมนุษย์เท่าใดนัก
เฮ่อเหลียนเวยเวยยิ้ม ”ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร แต่เธอต้องไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน”
แมวเฒ่า : …
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่ได้พูดอะไรอีกในระหว่างที่ต่อสายหาวานรอีกครั้งหนึ่ง ดวงตาของเธอเฉียบคมเต็มไปด้วยสติปัญญา…