องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 929 องค์ชายพิสูจน์ให้เห็นว่าใครบางคนคิดผิด
เมื่อคิดได้ดังนั้น หารีติจึงเงื้อมือขึ้น จากนั้นหุ่นเชิดไม้จำนวนนับไม่ถ้วนก็บินออกมาจากด้านหลังของเธอราวกับมีด้ายที่มองไม่เห็นคอยควบคุมอยู่ แขนขาของพวกมันแข็งเกร็ง และยังมีสีหน้าชวนให้ขนหัวลุกอีกด้วย
แต่ถ้าลองสังเกตให้ดีจะพบว่าหุ่นเชิดพวกนี้ราวกับมีชีวิต ลูกตาของมันสามารถกลอกมองไปรอบๆ ได้เวลาที่ต้องการจ้องมองใครสักคน พวกมันดูน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
บรรดาเศรษฐีเหล่านั้นต่างก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
แต่ดูเหมือนว่าหุ่นเชิดไม้เหล่านี้จะไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศัตรูได้ หากใครเคลื่อนสายตาไปทางอื่น พวกมันก็จะหันไปมองคนคนนั้นทันที
แสงสีเขียวอันน่าขนลุกที่สว่างวาบออกมาจากดวงตาเหล่านั้นเหมือนกับแมวในเวลากลางคืน ใครก็ตามที่โชคร้ายได้สบตากับมันนานเกินไปย่อมสิ้นใจในวินาทีต่อมา
แม้แต่เหล่าลิ่วก็ยังนึกไม่ถึงว่าหัวหน้าจะสามารถกางเขตอาคมอันชาญฉลาดเช่นนี้ขึ้นได้
หุ่นเชิดพวกนั้นดูก้าวร้าวป่าเถื่อนมากเสียจนทำให้คนอื่นๆ รู้สึกหวาดกลัว ยกเว้นครอบครัวของเฮ่อเหลียนเวยเวย
ทันใดนั้น ทุกคนก็สังเกตเห็นว่าหมอกสีดำที่ล้อมรอบพวกเขาอยู่ดูจะหนาทึบขึ้นกว่าที่เคย ความตื่นตระหนกเริ่มคืบคลานเข้าสู่เส้นเลือดของพวกเขา
นอกจากเฮ่อเหลียนเวยเวยและครอบครัวแล้ว คนอื่นๆ ล้วนแต่เสียวสันหลังวาบและรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ
โดยเฉพาะกับเศรษฐีที่เคยก่อกรรมทำชั่วอย่างไร้ซึ่งความละอายมามากมาย
พวกเขารู้สึกเหมือนแขนและขาของตัวเองถูกบางอย่างดึงเอาไว้
ทีแรกพวกเขาไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้พวกเขารู้สึกเช่นนั้น แต่แล้วในวินาทีต่อมาเมื่อพวกเขาก้มหน้าลง ในที่สุดพวกเขาจึงตระหนักได้ว่าขาของพวกเขาถูกมือขาวซีดจำนวนนับไม่ถ้วนรั้งเอาไว้
มือพวกนั้นมีขนาดเล็กเหมือนกับมือของเด็ก
ไม่ผิดแน่
มือพวกนั้นเป็นของเด็กๆ ที่พวกเขาเคยขายไปก่อนหน้านี้!
เหล่าลิ่วยืนอยู่ข้างหารีติ ไม่มีเด็กคนไหนกล้าเข้ามาใกล้เขา
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเหมือนอย่างเศรษฐีพวกนั้น ตรงกันข้าม ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขามองไป๋หลี่เจียเจวี๋ยและคนอื่นๆ ด้วยดวงตาโหดเหี้ยมและอวดดี พร้อมกับพูดขึ้นว่า ”นี่คือผลลัพธ์จากการที่พวกแกบังอาจเสียมารยาทต่อฉัน! พวกแกจะต้องลงนรกให้หมดทุกคน!”
ทันทีที่เหล่าลิ่วพูดจบ หุ่นเชิดที่อยู่รอบๆ ก็กระโจนเข้ามาพร้อมกัน
ดวงตาแต่ละคู่ของพวกมันจับจ้องอยู่ที่คู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงกลาง เวลานี้กลิ่นอายแห่งความเคียดแค้นในอากาศหนาแน่นอย่างมาก แม้กระทั่งปีศาจก็อาจถูกบดขยี้เอาได้เมื่อตกอยู่ภายใต้อำนาจนี้
นอกจากนั้น ในครั้งนี้เธอยังผสานบทสวดมนต์ของพระอรหันต์เข้ากับเขตอาคมเพื่อเป็นการเสริมกำลังให้มันอีกด้วย
ไม่มีใครในดินแดนทั้งสามภพสามารถต้านทานความแข็งแกร่งนี้ได้!
ริมฝีปากของหารีติกระตุกขึ้นก่อนจะกลายเป็นรอยยิ้ม หุ่นเชิดที่อยู่กลางอากาศยืนตรงและมองไปทางพวกไป๋หลี่เจียเจวี๋ยด้วยสายตาอันคมกริบราวใบมีด
ทั้งเหล่าลิ่วและหารีติต่างก็มั่นใจในเขตอาคมของตัวเองอย่างมาก ปีศาจตัวเดียวไม่มีทางเอาชนะเทพและพระอรหันต์ได้
คราวนี้ศัตรูของเขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างยับเยิน!
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวินาทีต่อมากลับพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคิดผิด
หุ่นเชิดที่พุ่งเข้าหาไป๋หลี่เจียเจวี๋ยถูกขยี้กลายเป็นผงภายในชั่วพริบตา!
เขาไม่แม้แต่จะขยับมือเลยด้วยซ้ำ ทั้งหมดที่เขาทำก็คือการยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมรอยยิ้มบางที่มุมปาก
ทันทีที่วิญญาณที่ถูกผูกมัดเหล่านั้นคิดจะโจมตีอีกครั้ง พวกมันก็รู้สึกถึงจิตสังหารอันชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังรอยยิ้มเสแสร้งนั้นได้!
พวกมันไม่มีเวลาให้หนี เพราะอากาศรอบตัวของพวกมันราวกับถูกดูดเข้าสู่สุญญากาศโดยมีไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเป็นจุดศูนย์กลาง!
จากนั้น เงามืดเงาหนึ่งก็ปรากฏขึ้นจากด้านหลังของเขา
ตอนนี้เองหารีติจึงตระหนักได้ว่าหมอกสีดำนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากเขตอาคมของพวกเธอ แต่มันมาจากหลุมดำที่ถูกสร้างขึ้นจากปีศาจนับพันๆ ตน!
“แก แกเป็นใครกันแน่” สีหน้าของหารีติเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่เคยเห็นคนที่ทรงพลังขนาดทำให้เส้นแบ่งระหว่างสามภพภูมิพร่าเลือนได้เช่นนี้มาก่อน เขามีตัวตนอยู่ในโลกมนุษย์แต่ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเทพหรือพระอรหันต์ ทั้งยังมีปีศาจมากมายติดตามอยู่ข้างหลัง
แม้แต่ตัวเธอที่มีตำแหน่งในพระพุทธศาสนาก็ยังไม่สามารถสั่งการปีศาจทุกตนบนโลกได้ แล้วนับประสาอะไรกับปีศาจธรรมดาอย่างเขา!
เว้นเสียแต่ว่า…
ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้หรอก!
เป็นไปไม่ได้ที่คนที่เธอพบจะเป็นตี้จวินผู้หายสาบสูญไปจากภพภูมิทั้งสามเมื่อนานมาแล้ว
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถัดจากนั้นกลับทำให้ความหวังของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ
หมอกสีดำหนาทึบกระจายตัวออกไป ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเดินเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมกับขนอีกาที่โปรยปรายลงรอบตัว ดอกปี่อั้นบานสะพรั่งอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาในทุกก้าวที่เขาเดิน
เหตุการณ์มหัศจรรย์นี้สามารถเห็นได้ก็แต่ในภพสวรรค์ที่อยู่สูงขึ้นไปเก้าพันฟุตเท่านั้น!
เป็นครั้งแรกที่หารีติได้สัมผัสกับความรู้สึกขมขื่นเสียใจต่อการกระทำของตัวเองอย่างที่สุด!
เพราะเธอนึกไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกับตี้จวินที่นี่!
โล่วัชระที่เขาทำลายยังตั้งอยู่ในภพสวรรค์
แม้กระทั่งสมเด็จก็ยังไม่คิดที่จะท้าทายเขา
จากทั้งพระพุทธศาสนา คงมีแค่หงส์เพลิงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับเขาได้
ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้!
ครั้งหนึ่งบรรดาพุทธศาสนิกชนเคยจัดงานเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสที่ทะเลเลือดได้รับการชำระล้าง
ตอนนั้นผู้ชายคนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ภูเขาซวีหมีในลักษณะเดียวกันนี้
ชายผมสีเงินสวมเสื้อคลุมสีดำผู้มีรอยยิ้มอยู่บนริมฝีปาก และมีปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนติดตามอยู่ด้านหลัง
ในเวลานั้นตำแหน่งทางพระพุทธศาสนาของเธอยังต่ำต้อย ดังนั้นเธอถึงไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าของเขาชัดเจนนัก
แต่หารีติจำภาพที่ไม่มีใครอยากนึกถึงนั้นได้อย่างชัดเจน
ไปจากที่นี่!
ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!
นี่คือความคิดเดียวที่หารีติมีอยู่ในหัว
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาออกไป ความเจ็บปวดรวดร้าวราวกับร่างกายถูกฉีกกระชากออกจากกันก็โจมตีร่างของเธอเสียก่อน!
ความทรมานนั้นกรีดลึกเข้าไปในเส้นเลือดของเธอ มันเจ็บปวดอย่างมากจนทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวได้ หน้าอกของเธอราวกับถูกบีบแน่นและพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
“ข้าเกลียดเวลาที่ถูกรบกวนมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่ข้าเพิ่งหานางเจอ” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยถอดถุงมือสีดำออก ริมฝีปากของเขากระตุกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจึงหรี่ตาที่กลายเป็นสีทองลง!
กร๊อบ!
มันคือเสียงของกระดูกที่ถูกหักเป็นชิ้นๆ!
หารีติจ้องมองไป๋หลี่เจียเจวี๋ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว จากนั้นพระสารีริกธาตุของเธอ… ก็ถูกอีกฝ่ายใช้กำลังช่วงชิงไป!
เมื่อไม่มีพระสารีริกธาตุ พระโคตมพุทธเจ้าย่อมไม่สามารถปกป้องคุ้มครองหารีติได้อีกต่อไป
พวกเด็กๆ ที่เธอเคยกินในอดีตปล่อยมือออกจากเศรษฐีเหล่านั้นก่อนจะพุ่งเข้าใส่เธอจากทั่วทุกมุมอันมืดมิด และลากหารีติลงสู่เปลวเพลิงแห่งนรก…
ครั้งนี้ เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่ได้คิดที่จะชำระล้างวิญญาณเหล่านั้น
เพราะต่อให้ชำระล้างไป วิญญาณที่ถูกจองจำไว้กับเจ้าสิ่งนี้ก็ไม่สามารถกลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์ได้
นับว่าเป็นโชคร้ายอย่างแท้จริงที่เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาและไม่เคยทำผิดอะไรต้องมาประสบกับชะตากรรมเช่นนี้
บางคนอาจไม่ได้พบพ่อแม่ของตัวเองอีกเป็นปี สองปี หรืออาจจะเป็นสิบปี
พวกเขารู้สึกตัว แต่น่าเสียดายที่ต้องถูกกักขังเอาไว้ในหุ่นเชิด
นี่คือความเคียดแค้นของพวกเขา
ไม่มีใครคิดจะหยุดยั้งความเคียดแค้นนั้น รวมถึงเฮ่อเหลียนเวยเวยด้วยเช่นกัน
เธออยากให้พวกเขาเอาความยุติธรรมกลับคืนมาด้วยมือของตัวเอง
ในไม่ช้าหารีติก็ถูกลากลงสู่ห้วงนรกอันไร้ที่สิ้นสุด และต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนอย่างพวกเขา
เด็กๆ มีความคิดอันเรียบง่ายมาก แต่ก็มีใครหลายคนพยายามหลอกใช้ความคิดอันเรียบง่ายนั้นเป็นเครื่องมือเพื่อทำร้ายพวกเขานับครั้งไม่ถ้วน
ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเป็นใครก็ตาม เธอจะต้องค้นหาพวกมันให้เจอ!