องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! - บทที่ 930 นี่คือความเคียดแค้นของพวกเขา
ไม่มีใครคิดจะหยุดยั้งความเคียดแค้นนั้น รวมถึงเฮ่อเหลียนเวยเวยด้วยเช่นกัน
เธออยากให้พวกเขาเอาความยุติธรรมกลับคืนมาด้วยมือของตัวเอง
ในไม่ช้าหารีติก็ถูกลากลงสู่ห้วงนรกอันไร้ที่สิ้นสุด และต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนอย่างพวกเขา
เด็กๆ มีความคิดอันเรียบง่ายมาก แต่ก็มีใครหลายคนพยายามหลอกใช้ความคิดอันเรียบง่ายนั้นเป็นเครื่องมือเพื่อทำร้ายพวกเขานับครั้งไม่ถ้วน
ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเป็นใครก็ตาม เธอจะต้องค้นหาพวกมันให้เจอ!
แต่ทันใดนั้นกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านนอก
ชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอส กดปุ่มหูฟังบลูทูธที่หูตัวเองและมองไปทางเฮ่อเหลียนเวยเวย ”ลูกพี่ พวกระดับสูงมากันแล้ว น่าจะพกอาวุธมาด้วย”
ทันทีที่เอสพูดจบ พวกเธอก็ได้ยินเสียงที่ถูกขยายจากเครื่องขยายเสียงดังขึ้นว่า ”คนที่อยู่ข้างในจงฟัง! พวกคุณลูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว…”
“ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกาหรือที่จีนก็ดูเหมือนคำพูดนี้จะไม่เปลี่ยนไปเลยนะครับ” เอสยิ้มด้วยความมั่นใจเพราะนี่เป็นเหตุการณ์ที่เขาเคยเจอมาก่อน ”เอาอย่างไรดีล่ะครับลูกพี่ จะถอนตัวตอนนี้หรือจะรอให้พวกเขาเข้ามา”
เฮ่อเหลียนเวยเวยยิ้มอย่างมีเลศนัย ”ไม่ทั้งสองอย่าง แยกชิ้นส่วนปืนออกก่อนก็แล้วกัน ถ้าเป็นไปตามที่พวกเขาทำประจำ ป่านนี้หน่วย SDU[1] ก็น่าจะอยู่ในตู้โดยสารตู้อื่นแล้ว เสียงเมื่อครู่นี้เป็นการทำเพื่อเบี่ยงเบียนความสนใจของพวกเราเท่านั้น นั่นจึงหมายความว่าพวกเขาวางแผนการนี้มาล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นคราวนี้พวกเราจะไม่ทำอะไร แต่จะพาเด็กทุกคนออกมาจากตู้นอน ให้พวกเขาได้เห็นกับตาว่าคนบนรถไฟขบวนนี้ทำธุรกิจอะไรกัน”
“ไม่ถอนตัวหรือครับ” ชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอสถาม เขามองไปทางไป๋หลี่เจียเจวี๋ยแล้วจึงพูดต่อด้วยเสียงอันเบาว่า ”แล้วจะทำอย่างไรกับเครื่องบินที่จอดอยู่บนรถไฟดีครับ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยเหลือบมองเขา ”ลูกชายหายตัวไป พ่อของเขาก็เลยออกตามหา มันก็สมเหตุสมผลอยู่แล้วนี่”
ลูกชาย? พ่อ?
ชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอส ชะงักไปในทันใด เขามองไปทางไป๋หลี่ซ่างเสีย จากนั้นก็ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย แล้วทันใดนั้นเขาก็นึกถึงภาพที่เห็นตอนเข้ามาเมื่อครู่ขึ้นมาได้ สุดท้ายสายตาของเขาจึงเคลื่อนไปหยุดอยู่ที่ลูกพี่ของตัวเอง ”มันคงไม่ใช่อย่างที่ผมกำลังคิดใช่ไหมครับ” ลูกพี่ของเขาไม่เคยยอมให้ผู้ชายคนไหนจูบเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น
หากว่ากันด้วยตรรกะแล้ว ไม่ว่าชายคนนั้นจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ลูกพี่เวยก็น่าจะสามารถหลบหนีจากเขาได้ แต่เธอกลับยอมยืนอยู่ให้เขาจูบ
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว ชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอสจึงเพิ่งตระหนักได้ว่าสองคนนี้จะต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่ๆ!
“เป็นอย่างที่นายคิดนั่นแหละ” ใบหน้าของเฮ่อเหลียนเวยเวยยังคงดูสุขุมเยือกเย็น
แต่สีหน้าของชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอสกลับเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ไม่แปลกใจเลยที่เขามักรู้สึกอยู่บ่อยๆ ว่าเด็กที่นายน้อยพากลับมาด้วยหน้าตาคล้ายลูกพี่ทีเดียว
ปรากฏว่าเขาคิดไม่ผิด
ทุกอย่างล้วนแต่เป็นเรื่องจริง!
หมายความว่าผู้ชายที่เคยถูกลูกพี่ไล่ตามจีบก็อยู่ที่นี่ด้วย!
“ขอพูดอีกรอบ คนที่อยู่ข้างใน พวกคุณถูกล้อม…”
เสียงที่ดังอยู่นอกตู้โดยสารยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
แต่ชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอส กลับยังตกอยู่ในความตกใจอย่างสุดแสน
ไม่สิ!
เขาจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกพวกวานรก่อน!
ระหว่างที่ชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอสกำลังเดินไปที่ตู้นอน เขาก็กดปุ่มโทรออกที่อยู่บนหูฟังไปด้วย ”คนที่เคยถูกลูกพี่ตามจีบปรากฏตัวขึ้นแล้ว”
วานรกำลังสอนเด็กสามคนที่พวกเขาพามาเล่นวีดีโอเกมอยู่ตอนที่ได้ยินประโยคนั้น เขากระโดดลุกขึ้นทันทีด้วยความตกใจ ”อะไรนะ ที่ไหน พวกนายอยู่บนรถไฟไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ พวกเราอยู่บนรถไฟ นายคงรู้แล้วใช่ไหมว่ามีคนเอาเครื่องบินลงจอดบนรถไฟ คนที่เอาเครื่องบินลำนั้นมาคือคนที่ลูกพี่เคยนอนด้วยมาก่อน” ชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอสเอ่ยอย่างมั่นใจ
นอกจากเหล่าเอจะหุ่นเหมือนหมี ความคิดของเขาก็ยังใกล้เคียงกับมันอีกด้วย ”ผู้ชายคนนี้คงแค้นใจอย่างมาก ถึงได้ขับเครื่องบินไล่ตามลูกพี่มาอย่างนี้”
เฮ่อเหลียนเวยเวย : …
“อันที่จริง ชายคนนี้หาลูกพี่เจอก็เพราะนายน้อย” ยิ่งชายสวมชุดสูทที่ชื่อเอสพูด เขาก็ยิ่งหลุดยิ้มออกมา ”ฉันคิดว่าลูกพี่ก็คงนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าพ่อของเด็กคนนั้นจะเป็นคนที่เธอเคยนอนด้วย จริงสิ พวกนายจำเด็กผู้ชายที่ถูกลักพาตัวมาพร้อมกับนายน้อยได้หรือเปล่า เด็กคนนั้นล่ะ! อย่างกับโชคชะตาพลิกผันไม่มีผิด ก่อนหน้านี้ลูกพี่ถึงกับเรียกหมอนั่นว่าคนสารเลวเลยไม่ใช่เหรอ ตอนนี้พวกเรามีโอกาสได้พบเขาแล้ว ฮ่าๆ”
“เอส” เฮ่อเหลียนเวยเวยยื่นมือออกไปกดหูฟัง ”ถ้านายยังพูดต่อ ฉันจะหักเงินเดือนนายให้เหลือครึ่งเดียว”
ทันทีที่ได้ยินดังนั้น วานรก็พูดด้วยความพอใจว่า ”คุณน่าจะหักเงินเดือนเอสให้เหลือครึ่งเดียวตั้งนานแล้วครับ! แต่จะว่าไป ลูกพี่เคยนอนกับพ่อของเด็กคนที่คุณบอกให้ผมตรวจสอบข้อมูลให้จริงๆ หรือครับ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำถามนั้น ”ผลของการเข้าร่วมบทสนทนาที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจเท่ากับการตัดเงินเดือน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของวานรแข็งค้างไปโดยพลัน มุมปากของเขากระตุกติดกันสองครั้ง ”ตัวการโดนหักเงินเดือนแค่ครึ่งเดียว แต่ผู้สมรู้ร่วมคิดโดนหักเงินทั้งเดือนเลยเหรอครับ”
“กับคนอย่างนาย มีแต่ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น” สมกับเป็นราชินี สิ่งเดียวที่เฮ่อเหลียนเวยเวยให้ความสนใจคือความสุขของตัวเอง
เหล่าลิ่วที่ได้เห็นพลังทำลายล้างอันร้ายกาจของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยรีบคว้าประตูแล้วล็อกขังตัวเองไว้ในตู้โดยสารอีกตู้อย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ และเอาแต่จ้องมองไปที่ตู้เสบียงนั้นอย่างเป็นกังวล เขาลากตัวเองไปข้างหน้าทีละก้าวด้วยขาเพียงข้างเดียว แล้วมองหน่วยรบพิเศษหน่วยนั้นพร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือสุดเสียง!
เหล่าลิ่วยอมถูกจับดีกว่าอยู่กับปีศาจพวกนี้
ใช่แล้ว เพราะในใจของเหล่าลิ่ว ไม่ว่าจะเป็นเฮ่อเหลียนเวยเวยหรือไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ทั้งสองคนล้วนแต่เป็นปีศาจทั้งสิ้น
เขาไม่เคยเห็นคนที่มีปีศาจตามหลังเป็นโขยงแบบนั้นมาก่อน
ถ้าเหล่าลิ่วไม่ได้มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนและไม่ใช่คนชั่ว ป่านนี้เขาคงได้ตายเพราะความหวาดกลัวไปแล้ว
ดังนั้น เมื่อหน่วยรบพร้อมปืนยาวเข้ามา เขาจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีด้วยการยกมือขึ้นและก้าวออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แม้จะยืนซ่อนอยู่หลังหน่วยรบติดอาวุธ แต่ดวงตาที่เขามองไปที่ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาคว้าเสื้อของหัวหน้าหน่วยเอาไว้พร้อมกับพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า ”ช่วยด้วย ปีศาจพวกนั้นจะฆ่าผม! พวกมันจะฆ่าผม!”
คนของหน่วยรบติดอาวุธไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขารีบก้าวออกมาแล้วสาดกระสุนไปทั่วทุกทิศทางเพื่อคุ้มกันเหล่าลิ่วทันที!
เหล่าลิ่วบรรลุจุดประสงค์ของตัวเองแล้ว เพราะไม่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เขาก็จะได้รับการคุ้มกันจากคนที่ผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นส่งมาเสมอ
ยิ่งกว่านั้น ต่อให้เขาถูกจับได้ ก็จะมีคนคอยให้การคุ้มครองเขาอย่างลับๆ เช่นกัน
ต่อให้คนพวกนี้คิดจะทำการสืบสวน แต่พวกมันก็จะต้องคว้าน้ำเหลว!
เช่นเดียวกันกับปีศาจตัวนั้น เขาไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าปีศาจนั่นจะกล้าใช้อาคมต่อหน้าหน่วยรบติดอาวุธ
ดังนั้นจึงเหมือนกับว่าหน่วยรบติดอาวุธหน่วยนี้มาที่นี่เพื่อคุ้มกันเขา ไม่ใช่เพื่อจับกุมเขา
สำหรับเหล่าลิ่วแล้ว คู่ต่อสู้ของเขาก็ยังเป็นแค่มือใหม่และไม่รู้ว่าระบบภายในเป็นอย่างไร คนพวกนั้นคิดได้อย่างไรว่าเขาจะถูกจับกุมได้ง่ายๆ
เขาทำธุรกิจนี้มาหลายปี ถ้ามันจะมีอะไรผิดพลาด มันก็คงจะเกิดขึ้นไปนานแล้ว
พวกเขาอยู่รอดปลอดภัยมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมีใครบางคนแอบให้การสนับสนุนพวกเขาอยู่ ในประเทศจีนแห่งนี้ เส้นสายทางสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างสามารถเป็นจริงได้ด้วยสิ่งนั้น!
[1] SDU เป็นชื่อหน่วยรบพิเศษของจีน ทำหน้าที่รับมือกับการก่อการร้าย การชิงตัวประกัน การค้นหาและกู้ภัยทางน้ำ รวมถึงคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน หน่วยรบนี้มีชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งว่า ”เสือบิน”