อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 141 แค่ตั้งใจทำก็จะประสบความสำเร็จ
ห้องทำงานของจอร์แดนกว้างขวางมาก มีชั้นหนังสืออยู่เต็มผนัง และกลิ่นของหนังสืออบอวลไปทั่ว
นั่งตรงหน้าโต๊ะ เงยไปสามารถมองเห็นดอกไม้และพืชพันธุ์เขียวขจีในลานด้านนอกได้ ในใจก็สุขสบายใจอย่างมาก
จอร์แดนเปิดคอม จากนั้นเอาให้หลินจือแล้วพูด:“คุณใช้มันได้เลย เขียนอย่างสบายใจ ผมกับประธานเทาเท่จะออกไปดื่มชา ไม่รบกวนคุณ”
“อือ”หลินจือพยักหน้า ในใจเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจอย่างมาก
ครั้งนี้เธอจะทำให้ดีที่สุด ใช้ความแข็งแกร่งมาพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นฝั่งที่ถูกลอก
จากนั้นจอร์แดนก็หยิบหนังสือเล่มที่ตัวเองเพิ่งออกไปออกมาจากชั้นหนังสือ เปิดไปบทหนึ่งแล้วพูด:“แก้ส่วนนี้ละกัน”
สั่งเสร็จจอร์แดนก็เรียกเทาเท่ออกไป ตอนที่เทาเท่เดินไปหน้าห้องทำงาน จู่ๆก็หันไปมองหลินจือ
หลินจือมองกำลังใจในสายตาเขาออก หลินจือตกใจมาก
ในความประทับใจของหลินจือ เทาเท่เป็นผู้ชายที่มีนิสัยเย่อหยิ่งและทำตัวห่ามๆ เอาอกเอาใจคนไม่เป็น และใส่ใจคนอื่นไม่เป็น และก็ยิ่งปลอบใจคนไม่เป็นด้วย เขาไม่พูดจาร้ายกาจเพื่อกดคนอื่นก็บุญแล้ว
แต่ตอนนี้เขาดันใช้สายตาให้กำลังใจเธอ หลินจือตกใจจึงรีบละสายตาออก
เทาเท่กับจอร์แดนออกไปแล้วก็นั่งอยู่ในห้องรับแขก จอร์แดนชงชาผูเอ่อร์อย่างดี ทั้งสองดื่มชาไปพูดไป
จอร์แดนพูดก่อน:“ประธานเทาเท่ อย่าถือสาผมนะ ขอโทษนะคุณกับนักเขียนบทฟิลคูลเป็นอะไรกัน?”
เทาเท่รู้สึกยากที่จะพูดออกมาเล็กน้อย แต่ก็บอกไปตามจริงว่า:“เธอคือภรรยาเก่าผม”
ได้ยินคำตอบแบบนี้ ทำเอาจอร์แดนที่อายุปูนนี้แล้วน่าจะสงบนิ่ง ก็สำลักน้ำชาจนไอออกมา
“ทำไมหย่าล่ะ?”
“ทำไมหย่ากันแล้วแล้วตอนนี้มาคบกันอีก?”
จอร์แดนถามสองคำถามออกมาติดๆ ถึงเทาเท่จะแสดงออกอย่างไม่ปั่นป่วนอะไร แต่ในใจกลับต้านทานสุดๆ
จอร์แดนยุ่งเรื่องคนอื่นแบบนี้ สมควรเหรอ?
จอร์แดนเหมือนจะมองการปฏิเสธของเขาออก จึงพูดด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน:“ถ้าคุณไม่อยากตอบไม่เป็นไร ผมถามกะทันหันไป”
จอร์แดนรู้ว่าตัวเองถามแบบนี้มันไม่มีปี่มีขลุ่ยจริงๆ วันนี้เขากับเทาเท่ก็เจอกันเป็นครั้งที่สองอย่างเป็นทางการ และเจอกับหลินจือเป็นครั้งแรก เขาถามเรื่องเขาสองคนแต่งงานและหย่ากันแบบนี้ ไม่ค่อยเหมาะจริงๆ
เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อกี๊ตัวเองเป็นอะไรไป แต่พอได้ยินว่าหลินจือเป็นภรรยาเก่าของเทาเท่ ก็อยากรู้มากขึ้น
เทาเท่ยกชาขึ้นมาจิบ พูดเสียงเบาไปเล็กน้อย:“เธอเป็นคนขอหย่า บอกว่าผมไม่รักเธอ เธอเหนื่อยแล้ว”
“ส่วนทำไมหย่าแล้วมาอยู่ด้วยกันอีกนั้น เพราะว่าตอนแรกผมไม่รู้ว่าเธอคือนักเขียนบท ผมไปร่วมลงทุนละครเรื่องหนึ่งของบริษัทเธอ”
จอร์แดนฟังจบก็รู้สึกโกรธแปลกๆ:แต่งงานกับเธอมาสามปี คุณยังไม่รู้ว่าเธอเป็นนักเขียนบท”
เทาเท่:“……”
ที่จริงเรื่องนี้ไม่ว่าอยู่ต่อหน้าใครเขาก็รู้สึกอับอาย รวมทั้งเรื่องที่เธอไม่กินเนื้อวัวเนื้อแกะเขาก็ยังไม่รู้ และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นหลักฐานว่าเขาไม่รักเธอจริงๆ และกลายเป็นเขาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์
ภายใต้ความทำอะไรไม่ได้ เขาก็สารภาพไปตรงๆ:“เมื่อก่อนผมไม่รักอะไรเธอเลย”
จอร์แดนส่งเสียงฮึดฮัด ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าไม่ถูกชะตากับเทาเท่
หญิงสาวคนนั้น แค่มองก็รู้ว่าเป็นคนจิตใจดีอ่อนโยน ใครได้แต่งกับเธอชาติที่แล้วคงทำบุญมาเยอะจริงๆ
จอร์แดนดื่มชาไปคำหนึ่ง ก็พูดกับเทาเท่อย่างเซ็งๆ:“ผมว่าตอนนี้คุณกลับชอบเธอมากเลยนะ”
เรื่องระหว่างชายหนุ่มหญิงสาว ที่จริงแล้วคนที่มีไหวพริบสามารถมองออกได้ในชั่วพริบตา
การอยู่ด้วยกันของเทาเท่กับหลินจือในเมื่อก่อนนั้นจอร์แดนไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ยังไงซะตอนนี้ดูเหมือนว่าเทาเท่จะดูต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด อยากเอาใจสาวน้อยไปหมด แต่สาวน้อยคนนั้นไม่อยากสนเขาอย่างชัดเจน
ถูกจอร์แดนเปิดโปงความคิดจิตใจของตัวเองอย่างไว้ถนอมใจ เทาเท่ก็ไม่ปฏิเสธ:“คุณพูดถูก ตอนนี้ผมชอบเธอมาก”
จอร์แดนส่งเสียงฮึดฮัด:“พูดอย่างเดียวจะมีประโยชน์อะไร?ชอบก็ไปตามจีบสิ ไม่งั้นต่อไปพลาดขึ้นมา แบบนั้นสิจะน่าเสียดายจริงๆ”
ตอนพูดคำสุดท้าย แววตาจอร์แดนก็ดูเหมือนจะมีร่องรอยของความเสียใจ การแสดงออกบนใบหน้าก็ว่างเปล่าทันที
เทาเท่ดื่มชาแล้วพูดอีกว่า:“เธอมีแฟนแล้วครับ”
เขาก็อยากจีบ แต่ตอนนี้หลินจือคบกับเจเทาวน์แล้ว ทำให้เขาที่อยากจีบก็ทำได้ไม่เต็มที่
จอร์แดนตกใจมาก แต่จากนั้นก็พูดกับเทาเท่ว่า:“สมน้ำหน้า!”
เทาเท่เสียใจมาก ถามไปตรงๆว่า:“คุณจอร์แดน ทำไมคุณถึงเป็นศัตรูกับผมมากขนาดนี้?”
“เหรอ?”จอร์แดนผายมือออก“ผมแค่ทวงความยุติธรรมแทนสาวน้อยคนนั้นเอง”
เทาเท่:“……”
เขายอมแพ้
การหลีกเลี่ยงความขัดแย้งบนตัวหลินจือ และยังมีใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและอ่อนโยน สามารถดึงคะแนนความเห็นอกเห็นใจให้กับเธอได้มากมาย
จบเรื่องนี้ลง เทาเท่กับจอร์แดนก็พูดเรื่องอื่น
เช่นที่เรียกว่าจุดนิ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ในตอนนี้ เช่นแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคตเป็นต้น จอร์แดนเริ่มจากนิยายเล็กๆของตัวเองมาเป็นบทละครแล้วตัวเองก็เริ่มเป็นนักเขียนบท และก็ถือว่าเป็นบุคคลในภาพยนตร์และโทรทัศน์โดยสมบูรณ์
ดังนั้นจอร์แดนจึงมีความเห็นของตัวเองต่อหัวข้อพวกนี้ เทาเท่คุยกับเขาอย่างสนุกสนาน
แต่นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่จอร์แดนไม่ชอบใจเทาเท่นั้น แต่ด้านอื่นๆจอร์แดนก็ยังชื่นชมเทาเท่มาก
ทั้งสองพูดคุยจนลืมเวลา และตอนนี้หลินจือที่อยู่ในห้องทำงานก็ตั้งใจเขียนสคริปต์ตรงหน้าคอม
สองชั่วโมงถัดมา หลินจือพิมพ์สิ่งที่ตัวเองเขียนเสร็จออกมาแล้วถือเดินออกมา
จอร์แดนอ่านเสร็จก็ชื่นชม:“แบบนี้แหละ จัดระเบียบประโยคแบบนี้ ช่างเป็นแม่สาวน้อยที่ยอดเยี่ยมเสียจริง!”
ที่จริงจอร์แดนยังบอกอีกว่า ถึงแม้หลินจือแม่สาวน้อยคนนี้จะดูนิ่งๆ แต่ที่จริงแล้วคำที่เธอเขียนนั้นเฉียบคมมาก บรรยายภาพที่ทรงพลานุภาพออกมาได้อย่างใจเย็น ซึ่งมีสไตล์การเขียนเมื่อเขายังหนุ่มอยู่ในนั้น
และนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำไมเขาชื่นชมหลินจือขนาดนี้
ได้รับคำชมของจอร์แดนแบบนี้ หลินจือก็โล่งอก
เทาเท่ยืนขึ้นจากโซฟา:“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็ไม่รบกวนแล้ว จากนี้ไปก็ยึดตามแผนการของพวกเราดำเนินการ”
“ท่านรีบไปเยี่ยมคุณวิเวียนที่โรงพยาบาลเถอะ”เทาเท่กับหลินจือต่างไม่ลืมว่า ตอนนี้คุณหญิงของจอร์แดนยังอยู่ในโรงพยาบาล
จอร์แดนก็ไม่รั้งอะไรต่อ:“โอเค เดี๋ยวเรื่องลิขสิทธิ์คุณติดต่อผู้ช่วยผมเพื่อเซ็นสัญญาได้เลย”
จอร์แดนคิดเล็กน้อยแล้วพูดอีกครั้ง:“ส่วนสองคนนั้น ผมจะรายงานการกระทำทั้งหมดของพวกเขา ให้คนในวงการระแวดระวังพวกเขา จะได้ไม่หลงกลพวกเขาอีก”
จอร์แดนเป็นหนึ่งในนักเขียนบทที่มีชื่อเสียงที่สุดของกิลีในตอนนี้ คอนเนคชั่นเขามีครอบคลุมไปทั่วทุกมุมในอุตสาหกรรมนี้ ถ้าถูกจอร์แดนประกาศออกไป ซูซีกับเนมาอยากอยู่ในวงการบันเทิงต่อไป ก็คงยากแล้ว
แต่ซูซีและเบลซมีเงิน ว่ากันว่าเงินทำได้ทุกอย่าง งั้นต่อไปก็อาจจะยังสามารถคืนกลับมาได้