อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 205 หน้าตาเหมือนมาก
จอร์แดนเดินมาในเวลานี้ ครูสเห็นจอร์แดนก็แปลกใจมาก:“แดน ไม่เจอกันนานเลย”
“ฉันได้ยินผู้จัดงานบอกว่าวันนี้นายก็จะมาร่วมงานเลี้ยงนี้ ยังคิดว่าไม่น่าเชื่ออยู่เลย”ชัดเจนมากว่าครูสดุสนิทกับจอร์แดนมาก พูดจบก็ถามจอร์แดนอีก“วันนี้ลมที่ไหนพัดนายมาเนี่ย?”
ครูสกับจอร์แดนอายุเท่ากันและยังเป็นชื่อใหญ่ในวงการเขียนบท ในช่วงแรกๆทั้งสองยังเคยร่วมงานกันด้วย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ธรรมดาเลย
แค่หลายปีมานี้จอร์แดนยกเลิกการเข้าสังคมมากมายเพราะว่าสุขภาพของลูน่า นอกจากว่าจะมีโอกาสที่สำคัญเป็นพิเศษ ไม่งั้นจอร์แดนก็ไม่มาร่วมงานหรอก และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมครูสเห็นจอร์แดนแล้วถึงแปลกใจแบบนี้
จอร์แดนพูดด้วยรอยยิ้มกับครูส:“ช่วงนี้หนังสือใหม่ฉันตีพิมพ์นี่ ลิขสิทธิ์ก็ขายให้ฟอเรนาเอนเตอร์เทนเมนต์แล้วด้วย วันนี้มาเพื่อร่วมมือกันประชาสัมพันธ์”
ครูสรู้เรื่องหนังสือใหม่ของจอร์แดนตีพิมพ์อยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าลิขสิทธิ์จะขายได้เร็วขนาดนี้
แต่ว่าเขาก็ดีใจแทนจอร์แดน:“ฟอเรนาเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นตัวเลือกที่ไม่แย่ เทาเท่——”
ครูสพูดถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหลินจือที่อยู่ข้างๆ ครูสก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าหลินจือที่เรียนกับตัวเองมาสี่ปี เคยเป็นภรรยาเก่าของเทาเท่
ดังนั้นตอนนี้ครูสพูดถึงเทาเท่ เลยใส่ใจความรู้สึกของหลินจือเล็กน้อย
ครูสรักหลินจือมาก ดังนั้นเลยเปลี่ยนเรื่อง จากนั้นจึงถามจอร์แดนอีกว่า:“ใช่สิ หาคนเขียนบทที่เหมาะสมได้ยัง?”
ครูสยังอยากพูด ถ้ายังหาไม่ได้ เขาแนะนำคนหนึ่งได้ และคนที่เขาจะแนะนำนี้ ก็คือหลินจือที่อยู่ข้างๆ
ใครจะไปรู้ว่ากลับจอร์แดนได้ยินพูดว่า:“ได้นักเขียนบทมาแล้ว ก็คนตรงหน้าแกไง ได้ยินว่าเธอเป็นนักเรียนแกด้วย”
ตอนกลางวันที่หลินจือพาจอร์แดนตระเวนทั่วเมืองเจสเวิร์ดก็คุยหลายเรื่องเกี่ยวกับเธอเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ในฐานะนักเขียนบทที่ประสบมา แน่นอนว่าต้องพูดเรื่องที่ตัวเองเป็นลูกศิษย์ของครูสด้วยอยู่แล้ว
จอร์แดนทั้งประหลาดใจและดีใจ และยังภูมิใจในตัวเธอ
เพราะว่าจอร์แดนรู้จักนิสัยของครูส ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหลังจากผ่านการทดสอบแล้วคิดว่าหลินจือเพอร์เฟคเป็นพิเศษ ครูสก็คงไม่สนหลินจือ
ครูสได้ยินจอร์แดนพูดเสร็จก็ตกใจอย่างมาก มองหลินจือ แล้วก็มองจอร์แดนอีก:“แบบนี้คือพวกนายรู้จักกันแล้ว?”
จอร์แดนพูด:“ไม่ใช่แค่รู้จัก ฉันยังให้เธอมาเป็นลูกบุญธรรมด้วย”
“จริงเหรอ?”ครูสตกใจมาก
หลินจือพูดอยู่ข้างๆ:“ฉันมาหาคุณ เพราะอยากคุยกับคุณเรื่องนี้พอดีค่ะ”
“ดีจัง”ครูสรู้สึกดีใจแทนหลินจือ และก็ดีใจแทนจอร์แดนด้วย
เรื่องที่จอร์แดนไม่มีลูกคนแทบจะรู้กันทั้งกิลี และหลินจือก็ยังเป็นเด็กดีอีก จอร์แดนรับหลินจือมาเป็นลูกบุญธรรม ถือเป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบเรื่องหนึ่งมากๆ
ครูสสำรวจจอร์แดนกับหลินจือแล้ว จู่ๆก็พูดกับจอร์แดน:“แดน นายถอดแว่นให้ฉันดูหน่อยสิ”
จอร์แดนยิ้มเล็กน้อย ยกมือขึ้นมาถอดแว่นของตัวเองออก
ความรักในช่วงนั้นที่จอร์แดนยังหนุ่ม คนที่รู้มีไม่กี่คน
ครูสนั้นรู้จักกันหลังจากเขากับลูน่าแต่งงานและเป็นนักเขียนบท เลยไม่รู้เรื่องราวในอดีตเหล่านั้น
จอร์แดนยังไม่อยากเอาความลับนี้มาพูด เมื่อถึงเวลา เขาก็จะประกาศ จะประกาศกับคนทั้งโลกเอง
จอร์แดนสายตาสั้น สวมกรอบแว่นตาตลอด เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัวของเขา
ยกเว้นครอบครัวแล้ว ก็ยังไม่มีใครเห็นสภาพจอร์แดนที่ถอดแว่นออก เพราะยังไงก็ไม่มีใครให้เขาถอดแว่นมามองสำรวจเขานี่
ครูสตกใจ:“ฉันว่าพวกนายสองคนหน้าตาคล้ายกันมากนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตา ดูเหมือนว่าพวกนายจะมีวาสนาความเป็นพ่อลูกกันจริงๆ”
จากการพูดเตือนของครูส หลินจือก็เงยหน้ามองไปที่จอร์แดน
ดูไม่สำคัญอะไร แต่เธอเองก็ยังตกใจ
จอร์แดนที่ถอดแว่นตาออกมา มีดวงที่สวยงามคู่นั้น หางตายกขึ้น สายตาอบอุ่น สวยงามเป็นประกายมีเสน่ห์
และดวงตาคู่นี้แบบนี้ เธอก็มีเช่นกัน
แค่เพราะว่าความต่างของชายหญิง เพราะความต่างของอายุ ดังนั้นดวงตาของเธอกับดวงตาของจอร์แดนเลยแสดงความรู้สึกออกมาไม่เหมือนกัน
แต่รูปทรงและเสน่ห์ของดวงตานั้น คล้ายกันสุดๆ
จากนั้นจอร์แดนก็สวมแว่นของตัวเองอย่างเร็ว พูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่น:“เหมือนมากเหมือนสุดๆจริงๆ”
หลินจือก็ตอบด้วยรอยยิ้ม:“ใช่ค่ะ เหมือนมาก”
หลินจือไม่ได้คิดอะไรมาก เธอแค่รู้สึกว่าอาจจะเป็นอย่างที่ครูสพูด เธอกับจอร์แดนมีวาสนาต่อกันมาก
ครูสก็พยักหน้าอย่างจริงจัง:“เหมือนกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เลย”
ครูสพูดอีกว่า:“ต่อไปถ้าพูดว่าพวกคุณเป็นพ่อลูกกันแท้ๆ ก็ต้องมีคนเชื่อ”
“หลินจือเป็นเด็กดีจริงๆ ฉันสอนเธอมาสี่ปี รู้จักพรสวรรค์และตัวตนของเธอดีที่สุด”ประโยคนี้ครูสพูดกับจอร์แดน จากนั้นเขาก็มองไปที่หลินจือแล้วพูดว่า“ความสามารถของเธออาจารย์รู้ดี ฉันเชื่อว่าหนังสือใหม่ของแดนเธอจะเขียนได้อย่างประสบความสำเร็จแน่”
อาจารย์ตัวเองชมตัวเองแบบนี้ หลินจือจะพูดอะไรได้อีกล่ะ ก็แต่ยิ้มแล้วพูดขอบคุณอย่างนอบน้อมถ่อมตน
ที่จริงหลินจือคิดว่าคืนนี้ตัวเองไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเทาเท่แล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าพักหลังของงานเลี้ยงเธออยู่กับเทาเท่ตลอด แน่นอนว่า ข้างๆเธอยังมีจอร์แดน
เธอในฐานะนักเขียนบทที่แก้บทเป็นละครโทรทัศน์หนังสือใหม่ของจอร์แดน เลยถูกเทาเท่กับจอร์แดนพาไปแนะนำให้กับทุกคน
ตอนที่แนะนำก็พูดแค่ว่าเธอคือนักเขียนบท ไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์กับจอร์แดน
จอร์แดนกับเทาเท่เข้าใจกันโดยปริยาย พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่า เวลานี้ไม่ควรประกาศความสัมพันธ์ของจอร์แดนกับหลินจือ ไม่ต้องคิดให้เยอะก็รู้ว่า ถ้าประกาศไปคนพวกนั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
ถึงอย่างนั้น สายตาที่ทุกคนมองหลินจือก็ดูต่างออกไป
ตอนนี้ผู้หญิงอายุไม่มากและยังหน้าตาสวย มารับหน้าที่สำคัญในการแก้บทหนังสือเล่มใหม่ของจอร์แดนแบบนี้ ก็ต้องมีคนเข้าใจผิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่
แต่หลินจือไม่กลัว เธอทักทายสายตาที่อยากสอบถามหรืออยากรู้อยากเห็นของคนเหล่านั้นอย่างนิ่งๆ
ต่อไปละครออกมา ก็จะมีบทสรุปของมันเอง
หลินจือเปล่งประกายที่นี่ แต่ซูซีกลับร้องไห้เสียใจในโรงพยาบาล
ร่างกายของซูซีไม่มีปัญหามากนัก อย่างมากก็แค่ตอนที่แก้วไวน์ที่เรียงกันนั้นหล่นลงมาเศษแก้วจึงบาดไปที่ตัวเธอ แขนและขาของเธอจึงมีแผลเล็กๆน้อยๆไม่กี่ที่
แต่บาดแผลในใจเธอเกือบทำให้เธอแตกสลาย
หลังจากเธอฟื้นมาก็เอาแต่ด่า ลีวายที่อยู่ด้วยข้างๆในใจนั้นทนไม่ไหวสุดๆ
ถ้าไม่ใช่ซูซีที่ก่อเรื่องแบบนี้ ตอนนี้เธอก็น่าจะยังอยู่ในห้องจัดงานเลี้ยง เพราะยังไงเธอก็ทำงานที่เบลดิ้งมาตั้งหลายปี ก็ถือว่าพอมีชื่อเสียงเล็กน้อย เธอมีโอกาสทำความรู้จักดารานักลงทุนและผู้กำกับจำนวนมาก
ต่อหน้าซูซีเธอไม่สามารถพูดถึงเรื่องที่ร่วมงานกับคนอื่นได้ แต่เธอสามารถมีช่องทางติดต่อไว้ก่อน แล้วค่อยติดต่อกันภายหลังได้
เธอคงไม่อยู่กับซูซีต่อไป ถ้าไม่ใช่เพราะซูซีมีหลินจือเป็นศัตรูคนเดียวกับเธอ เธอก็คงไม่มาหาซูซีหรอก
ที่จริงแล้ว เธอยังคิดถึงเบลดิ้งมาก เธอเคยอยู่ที่เบลดิ้งอย่างมีความสุข แต่เพราะว่าการมาของหลินจือ โอกาสหลายๆอย่างก็ไม่ได้มา เธอรอต่อไปไม่ไหวแล้ว